Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: รักเธอเสมอ ที่ พฤษภาคม 05, 2021, 23:22:24
-
แฟนสนใจ 2 รุ่นนี้ แต่เอียงๆไปทาง FORESTER แต่ผมว่าผู้หญิงใช้ CRV จะดีกว่าไหม ? 2 ตัวนี้ข้อดี-เสีย เป็นอย่างไรบ้างครับ ?
-
ถ้าแฟนขับรถไม่เร็วมาก แนะนำไป CRV ครับ
CRV รุ่นนี้พัฒนาไปมากแล้ว และยังคงเป็นรถที่พิมพ์นิยมครับ ใช้ง่าย ดูแลง่าย ราคายังแข็ง ปัญหาน้อยเหมาะกับผู้หญิงใช้ที่สุด
แต่ถ้าขับเร็ว เสพติดการควบคุมรถ ซูขับดีกว่าทุกแง่มุม แค่จุดอ่อนของซูทั้งหมด สามารถกลบได้ด้วยจุดแข็งของ CRV ครับ
-
ไป Subaru forester ดีกว่าครับ นั่งสบาย ช่วงล่างนุ่มแต่หนึบ คนโดยสารนั่งสบาย นอนหลับได้โดยไม่ปวดตัวแต่ขับทางไกลความเร็วต่ำและสูงก็ใช้ได้ดีครับ ไว้ใจได้มากกว่า crv. แถมได้ระบบของขับ 4 awd อีกอย่างไม่ต้องกลัวปัญหาสนิมแบบ style honda ครับ
ถ้าแฟนขับรถไม่เร็วมาก แนะนำไป CRV ครับ
CRV รุ่นนี้พัฒนาไปมากแล้ว และยังคงเป็นรถที่พิมพ์นิยมครับ ใช้ง่าย ดูแลง่าย ราคายังแข็ง ปัญหาน้อยเหมาะกับผู้หญิงใช้ที่สุด
แต่ถ้าขับเร็ว เสพติดการควบคุมรถ ซูขับดีกว่าทุกแง่มุม แค่จุดอ่อนของซูทั้งหมด สามารถกลบได้ด้วยจุดแข็งของ CRV ครับ
แต่สนิม สามารถกลบจุดแข็งของ crv ได้แบบเอาดินกลบฝังครับ
-
ทำไมถึงคิดผู้หญิงใช้ CRV ถึงเหมาะกว่า
ถ้ากังวลเรื่องความยาก-ง่ายในการขับหรือถอยจอด ผมว่าตรงนี้ Forester ทำมาได้ดีกว่าอีกนะ
หน้าต่างบางใหญ่ทัศนะวิสัยการมองเห็นดีกว่าเยอะเลย ถอยจอดง่ายกว่าเก๋ง C-segment บางรุ่นอีก เพราะเลี้ยวมันแคบ
แต่ข้อเสียก็อัตราเร่งอืดไปหน่อย+กินน้ำมัน
แล้วเข้าศูนย์เช็คระยะค่าใช้จ่ายจะแพงกว่ารถญี่ปุ่นด้วยกัน (ครั้งนึงอย่างต่ำมี 4,xxx) ศูนย์ตามต่างจังหวัดก็มีน้อยกว่า
แต่นอกนั้นผมให้ดีกว่า CRV หมด รวมถึงความทนทาน
ศูนย์ใกล้บ้านที่ผมไปก็บริการดีกว่าศูนย์ Honda อีก2แห่งที่เคยเจออีก
-
เทียบอัตราเร่ง อัตราสิ้นเปลืองจากHLMครับ
https://www.headlightmag.com/hlmwp/wp-content/uploads/2014/06/07_Csuv.png
ค่าใช้จ่ายการเช็คระยะ ราคาอะไหล่ CRV ต่ำกว่า FOR
https://www.honda.co.th/service/periodical-maintenance
ส่วนตัวผม อยากใช้FORครับ ราคาจ่ายเทียบOption คุ้มค่ากว่า
ระบบขับสี่แท้จริงตลอดเวลา
-
ผมกลับมองว่าถ้าชอบขับรถจริงๆจังๆ ซูบารุไม่ใช่คำตอบครับ
รถมันค่อนข้างอืดนะครับ
แถมช่วงล่างที่ใครๆว่าดีนั้น ผมก็มองว่าจังหวะยุบตัวสเตปแรกมันยุบง่ายไป ขับแล้วหยึยๆรู้สึกรำคาญ
ส่วน crv สนิมไม่ค่อยเจอกันนะครับ
สนิมยี่ห้อนี้ที่ได้ยินบ่อยๆมาจากรถรุ่นเล็กที่ประกอบอีกโรงงานนึงมากกว่า
แต่มาติดตรงเครื่อง 2.4 ที่โบราณแถมพ่วง cvt
ส่วนดีเซลค่าตัวแรงไป และได้ยินปัญหาอยู่พอสมควร
-
G5 มันพัฒนาดีขึ้นจาก G4 เยอะพอสมควร ช่วงล่างนี่ดีขึ้นมาก แถมได้นุ่มอีก
เครื่องโบราณ เกียร์ CVT แต่ประหยัดไม่อายพวกตัวใหม่ๆ เครื่องใช้มานานมา แลกกับช่างหลับตาซ่อมได้ ไม่จุกจิก เกียร์เอง ก็แทบไม่ได้ยินใครบ่นว่า พัง
สนิม ไม่ได้ยินใครบ่นว่า เจอใน CR-V นะครับ
อีกอย่าง ถ้าเจ้าของรถเป็นคนนำรถเข้า service เอง จำนวนสาขาของศูนย์ HONDA จะเยอะกว่า ผ่านตรงไหน แวะตรงนั้น เกิดอุบัติเหตุมา รออะไหล่ไม่นาน
..................
รถน้องสาวผม CR-V G3 ถ้าเค้าจะเปลี่ยนรถ ผมก็ไล่ไป G5 นี่แหละ แต่กลับกัน ถ้า G3 ของผม แล้วจะเปลี่ยน ผมจะมองไปที่ subaru ครับ
-
ผมมองว่าเน้นที่คนใช้งานเป็นหลักครับ โดยส่วนตัวผมชอบช่วงล่าง,การขับขี่ ความโปร่ง ของ Forester มากกว่าครับ
แต่ในเคสของผม ซื้อ CR-V มาแบบที่ไม่ได้คิดมาก เพราะเป็นรถสำรองใช้ ภามรวมมันกลางๆไปหมดทุกด้านทั้งตัวรถและศูนย์
ถ้าแฟนขับรถไม่เร็วมาก แนะนำไป CRV ครับ
CRV รุ่นนี้พัฒนาไปมากแล้ว และยังคงเป็นรถที่พิมพ์นิยมครับ ใช้ง่าย ดูแลง่าย ราคายังแข็ง ปัญหาน้อยเหมาะกับผู้หญิงใช้ที่สุด
แต่ถ้าขับเร็ว เสพติดการควบคุมรถ ซูขับดีกว่าทุกแง่มุม แค่จุดอ่อนของซูทั้งหมด สามารถกลบได้ด้วยจุดแข็งของ CRV ครับ
แต่สนิม สามารถกลบจุดแข็งของ crv ได้แบบเอาดินกลบฝังครับ
เท่าที่ทราบ Accord กับ CR-V ไม่มีสนิมครับ (ส่วนรุ่นอื่นที่มี น่าตำหนิอย่างมาก ไม่รู้จะแก้ไขกันได้หรือยัง)
และถ้าว่ากันตามตรง ต่อให้ CR-V มีสนิมขึ้นมาจริงๆ ผมก็มองว่ายอดมันคงไม่ตกไปกว่านี้เท่าไหร่กับชื่อ CR-V ที่มันขายตัวเองได้
-
ถ้าคนขับอยากจะออกเจ้าป่า ก็ตามใจเขาเถอะครับ
แต่อยากจะให้มองเรื่องการซ่อมบำรุงมาประกอบการตัดสินใจด้วยครับ
ถ้าศูนย์ซูบารุอยู่ไม่ไกลบ้านมาก ก็จัดไปครับ ค่าเซอร์วิสอาจจะแพงกว่าฮอนด้าคงต้องทำใจ
ส่วนตัวผมมองว่า CRV เป็นรถกลางๆนะ มันไม่ดีที่สุดในคลาส แต่คุณสามารถสบายใจได้กับตัวรถที่ไม่ค่อยจะมีปัญหา ศูนย์บริการเยอะ ค่าอะไหล่ไม่แพงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
-
ตามใจคนใช้ครับ
ข้อดี ข้อเสีย รู้กันทั้งนั้นแหละ ใจคนใช้ไปทางไหน รับได้แค่ไหน ไปเลยครับ จะได้ไม่เสียใจ
-
ที่บ้านมีทั้ง 2 คันครับ
และแน่นอนแฟนคุณไม่ใช่คนแรกที่ชอบ Forester มากกว่า แฟนผมขับไม่เร็ว จับความรู้สึกไม่เก่ง ยังไม่ชอบล่วงล่าง พวงมาลัย และการเก็บเสียงของ CRV G5 เลยครับ ส่วนเรื่องอืดมันอืดครับ ต้องใจเย็นๆค่อยๆลากไปครับ ถ้าใจร้อนเหยียบๆมันก็ไปนะครับ และไม่ได้ช้ากว่า 2.4 ของ CRV มากขนาดนั้น แต่จะกินน้ำมันดุเลยครับ
ส่วนเรื่องตัวรถนั้น ผมอาจจะโชคดี ทั้งตัวเก่าและตัวใหม่ Forester ไม่เจอปัญหาอะไรเลยครับ และแน่นอนครับ ค่าบำรุงรักษาเข้าศูนย์แพงกว่า CRV แน่ๆ แต่การขับขี่ดีกว่าคนล่ะเรื่องก็คุ้มครับ
-
ถ้าไปลองทั้ง 2 คันแล้ว แล้วชอบ subaru ก็ไปจบที่ subaru ดีกว่าครับ
ส่วนตัวเคยขับ CRV รุ่นปัจจุบันอยู่ครับ ผมไม่ชอบเลย ทั้งการบังคับ การเก็บเสียงอะไรต่างๆ แต่ไม่เคยลองขับ forester นะครับ
-
จากที่เคยใช้ตัวก่อนของทั้งสองรุ่น ขอเชียร์ฟอเรสเตอร์ครับ ใช้แล้วมีความสุขกว่าเยอะ ข้อด้อยมีอย่างที่รู้แล้ว ตีนต้นอืดหน่อย, ขับสี่ซดน้ำมัน, ค่าดูแลแพงกว่าบ้าง แต่ตัวรถไม่มีปัญหาให้ปวดหัวเลย เช็คตามระยะเท่านั้น ปัญหาเรื่องศูนย์จึงแทบไม่ต้องกังวล แต่จุดเด่นของมันทำให้เป็นการใช้รถที่มีความสุขในทุกๆวันของชีวิตครับ ลองพิจารณาดูครับ
-
G5 มันพัฒนาดีขึ้นจาก G4 เยอะพอสมควร ช่วงล่างนี่ดีขึ้นมาก แถมได้นุ่มอีก
เครื่องโบราณ เกียร์ CVT แต่ประหยัดไม่อายพวกตัวใหม่ๆ เครื่องใช้มานานมา แลกกับช่างหลับตาซ่อมได้ ไม่จุกจิก เกียร์เอง ก็แทบไม่ได้ยินใครบ่นว่า พัง
สนิม ไม่ได้ยินใครบ่นว่า เจอใน CR-V นะครับ
อีกอย่าง ถ้าเจ้าของรถเป็นคนนำรถเข้า service เอง จำนวนสาขาของศูนย์ HONDA จะเยอะกว่า ผ่านตรงไหน แวะตรงนั้น เกิดอุบัติเหตุมา รออะไหล่ไม่นาน
..................
รถน้องสาวผม CR-V G3 ถ้าเค้าจะเปลี่ยนรถ ผมก็ไล่ไป G5 นี่แหละ แต่กลับกัน ถ้า G3 ของผม แล้วจะเปลี่ยน ผมจะมองไปที่ subaru ครับ
อันนี้ผมเจอกับตัวครับ ขับไปเที่ยวต่างจังหวัด (นอกเมืองต่างจังหวัดหน่อยๆด้วย) จู่ๆไฟเบรคโขว์งานเข้าเลย แต่ลองเปิด google map ดู ศูนย์ .... ใกล้ฉัน ขึ้นมา 3 สาขาแถมไม่ไกลด้วยขับไปแป๊ปเดียวแก้จบ 10 นาที อันนี้เลยรู้สึกว่ารถตลาดที่ศูนย์ครอบคลุมมันดีอย่างงี้เอง
-
ไม่เคยใช้ทั้ง 2 รุ่นนะครับ
มาถามที่นี่ ก็ไปในทาง Forester แหละครับ
คนแถวนี้ ชอบขับรถ และ ชอบรถครับ
ซื้อรถคันนึง นอกจาก เอาที่เราชอบแล้ว
เอาที่เมียชอบ ก็เป็นเรื่องดีครับ
ศูนย์ อยู่ใกล้ที่ไหน มากกว่ากันครับ
ศูนย์ Su ยังน้อยกว่า เมื่อเทียบกะ Honda
ตรงนี้ก็น่าเอามาคิดด้วย
ใหม่ๆ ก็โอแหละครับ ไปได้ แต่ พอเก่าแล้ว ไกลๆนี่ ก็เบื่อนะครับ
ผมชอบ Forester ถ้าเครื่องมันดีกว่านี้ แรงกว่านี้
แต่ อยากให้ CRV ช่วงล่าง แน่นกว่านี้อีกหน่อย
รวมๆแล้ว มีดี มีเสีย คนละแบบครับ
-
ใช้ G5 อยู่ครับ ผมว่ามันขับง่ายมากเลยนะครับ ผมให้แฟนขับหลังจากผมขับออกมาจากศูนย์ นางบอกว่าเค้าใจแล้วว่าทำไมผู้หญิงถึงชอบเยอะ ขับง่ายเหมือนเก๋ง ข้อเสียสำหรับผมหลักๆเลยเป็นตัวที่แก้ไม่ได้ด้วย ผมว่าความยาวของรถมันสั้นไปครับ อีกทางเลือก ลอง CX 8มั้ยครับ ดูใหญ๋ยาวดี
-
Subaru Forester ดีกว่าครับ ขับ 4 เครื่องยนต์สูบนอน Boxer ขับมันส์กว่า CR-V แน่นอน
แม้จำนวนศูนย์บริการของ Subaru น้อยกว่าจำนวนศูนย์บริการของ Honda
แต่ถ้าเลือก Honda CR-V ละ รุ่นนี้ประหยัดน้ำมันกว่า Subaru Forester แต่ข้อเสียของ Honda CR-V รุ่นนี้คือ......เกียร์ CVT ที่พังง่ายกว่า
ถ้าเป็นไปได้ Subaru Forester ตอบโจทย์ได้ดีกว่าเพราะใช้งานทนทานแบบ Toyota และใช้แพลตฟอร์มเหมือน Toyota
Toyota = Toyota New Global Architecture (TNGA)
Subaru = Subaru Global Platform (SGP)
-
2 รุ่นนี้ผมว่าดีพอๆกันนะ ถ้าให้คะแนนรวมก็สูสีกัน
ช่วงล่างดีไล่เลี่ยกันถ้าเทียบรุ่นที่เป็น AWD เหมือนกัน ของ CRV จะออกแนวอุ้ยอ้ายเวลาเลี้ยวหักหลบไปมาแล้วตัวถังโยนหน่อย ส่วน Forester โยนน้อยกว่าขับแล้วใกล้เคียงรถซีดานมากกว่า
แต่วิ่งทางตรงก็นิ่งพอๆกัน ความนุ่มเนียนใกล้เคียงกัน
ถ้าคนซื้อใจเอนเอียงไปทาง Forester แล้ว ผมว่าก็คงเตรียมตัวเตรียมใจหาข้อมูลมาระดับหนึ่งแล้วล่ะ ที่ผมดูจากสมาชิกใน FB คลับที่เป็นผู้หญิงขับเองส่วนใหญ่ก็มีความรู้ในตัวรถค่อนข้างดีเลยล่ะ
-
ผญ ขับไปทำงาน ไปซื้อกับข้าว ไปส่งลูก
ผมยังหาเหตุผลให้เลือก Forester ไม่ได้เลยอะ
จุดเด่นของ Forester มันไม่ได้ match กับ requirement การใช้งานเลย
-
ถ้าใช้ในกทม ผมว่าเลือกได้ทั้ง 2 ตัวครับ
ที่ผมไม่สนใจเจ้าป่าเพราะอัตราเร่งอย่างเดียว เพราะตอนนี้ใช้ g4 2.0 ผมว่าอืดไป เลยอยากไดเครื่องที่ใหญ่กว่า 2000
-
Forester ครับ น้องสาวผมเพิ่งได้รถมาไม่นาน ตัวที่มี eyesight (เคยใช้ CRV มาก่อน) บอกเลยชอบมาก การขับขี่ดีกว่า CRV พอสมควรเลย นิ่ง หนึบ พวงมาลัยไม่เบาโหวงตอนขับเร็วๆ ระบบความปลอดภัยจัดเต็มในราคารถเท่านี้(มากกว่านี้ก็คง volvo ละ) ACC ใช้ได้จริง ใช้ง่าย มีสัญลักษณ์ให้เห็นชัดเจน(ลองใช้ขับทางไกลไปกลับเกือบพันกิโล) เบาะหลัง leg room กว้างมาก head room เหลือๆ โปร่งสบาย กินน้ำมันก็ไม่ได้ต่างจนรู้สึกนะ เรื่องอืดก็ไม่เท่าไหร่นะ ถ้าจะอืดก็น่าจะแค่ตอนออกตัว ตอนเร่งแซงก็ไม่ได้อืดนะ(แต่น้องกับผมก็ไม่ได้พวกตีนหนักอยู่แล้ว) โดยรวมคือชอบมาก
ข้อเสียที่เจอในตอนนี้คือ ลายล้อแม็คไม่สวยเท่าไหร่ผมไม่ชอบ(แต่เจ้าของรถคือน้องสาวผมมันชอบ) การเก็บเสียงพื้นถนนน่าจะดีกว่านี้(แต่ผมว่าก็เงียบกว่า CRV) คือเทียบกับ teana L33 รถอายุ 7 ปี รู้สึกว่าเงียบกว่า ลองวัดเดซิเบลด้วย apple watch ตอนขับถนนเดียวกันเวลาเดียวกัน L33 เงียบกว่านิดนึงจริงๆ)
สรุป ไป forester เถอะ ระบบขับ 4 ตลอดกับระบบความปลอดภัย eyesight ก็คุ้มแล้ว
-
ต้องลองครับ
ผมชอบ Forester มากกว่าเรื่องการขับขี่
ถ้าไม่ห่วงเรื่องราคาขายต่อ เรื่องออกตัวคงแล้วแต่คนด้วยความที่เป็น CVT มันดูอมๆ ออกเหนื่อยๆ หน่อย
แต่ความรู้สึกผมขับ FD มาเครื่อง 1.8 ผมว่ามันคล้ายๆ กันถ้าไม่กระทืบคันเร่งแรงๆ ส่วนเรื่องกินน้ำมันคิดไปคิดมา ~14 km/l เท่ากันครับ
-
คอมเมนท์เพียบเลย ได้ข้อมูลเยอะเลยครับ ขอบคุณทุกๆท่านนะครับ
-
ชอบ เจ้าป่า แต่ให้ซื้อ ไป CRV เพราะปัจจัยการดูแลรักษา ศูนย์ อะไหล่แพร่หลาย กว่า แถมส่วนตัวใช้มา 2 เจนแล้วชินกับสไตล์รถไปแล้ว
-
ผู้หญิงให้เค้าใช้ที่เค้าชอบไปเถอะครับ ดีไม่ดียังไง เค้าก็จะได้รู้เอง
ถ้าซื้อขัดใจ ต่อให้รถดีเค้าก็บ่นอยู่ดีครับ
-
ก็คงต้องถามว่าเคยใช้รถอะไรมา แล้วแฟนชอบขับรถแค่ไหน เล่นโค้ง ลุยทางกันดาน หรือมีไว้แค่ไปจ่ายตลาด ??? และถ้าเคยใช้แต่เจ้าตลาดมาก่อน ขอให้ไปเจ้าตลาดต่อไปเถอะครับ เพราะซ่อมรถแต่ละที่เสียทั้งเงินมันไม่เท่าไหรครับ แต่เสียเวลา และยิ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญแล้วรถมีปัญหาพังกลางทางหรือซ่อมไม่จบก็คงไม่ดีเป็นแน่ แต่ถ้าทั้งเงินและเวลาไม่ใช่ปัญหาของคุณก็เลือกที่ใจอยากได้
-
มันก็เป็นคู่แข่งที่สูสีกัน ดังนั้นจะใช้ CR-V, FORESTER ก็ได้แล้วแต่คุณแฟนครับ
ในภาพรวมประมาณ 5-7 ปี ราคาก็สูสีกัน เพราะ Forester ES Full Option ราคา 1.4-1.5 ล้านบาท มีส่วนลดประมาณ 1 แสน -1.5 แสนบาท เทียบกับ CR-V ตัว Top ที่ราคา 1.7x ล้านบาท จะมีส่วนต่างระหว่างตัว Top ประมาณ 3 แสนบาท
CR-V ตัวไม่ Top ที่ไม่มีระบบ Active Safety ราคา 1.3-1.4 ล้านบาท หากเทียบกับ Forester รุ่น ไม่มี Eyesight ..... Forester ก็ถูกกว่า 1-2 แสนบาทอยู่ดี
ส่วนต่างราคา 2-3 แสนบาท คือค่า Maintenance ที่ FORESTER แพงกว่า CR-V ประมาณ 1-5 พันบาท ทุกๆ 10000 กิโลเมตรที่5-7ปี (รวมๆก็ประมาณ 5หมื่น - 1 แสนบาท) ส่วนต่างอีก 1-2 แสนบาทคือราคาขายต่อที่ CR-V ขายได้แพงกว่า FORESTER
ส่วนอรรถประโยชน์ของ 7 ที่นั่งของ CR-V ก็ทดแทนด้วยความนั่งสบายกว่าของ FORESTER และกระจกหน้าที่ใหญ่ / เสา A ที่เล็ก / ด้านหลังเก็บของได้เยอะเพราะไม่มีเบาะแถวสามมาให้เกะกะ
ส่วนหน้าตาโบราณของ FORESTER สวยไม่เท่ากับ CR-V แต่ทดแทนให้ได้มากกว่าคือความเกะถนน / การเข้าโค้ง และ ระบบ Fulltime AWDแบบกระบะ ที่ CR-V ไม่มีให้
ดังนั้นหากคุณสนใจหน้าตา ราคามือสอง คงไป CR-V หากคุณสนใจ Performance / Active Safety และความสบายของคนขับขี่ คงไป FORESTER เพราะมันสูสีกันในภาพรวม
ตอบจากคนที่ใช้ FORESTER ES GT Edition ได้มา 8 เดือน
-
เป็นเจ้าของ forester แต่ก็เคยขับไกลๆ เกิน 100 กม ทั้งสองคัน
ถ้าใช้ในเมืองคันไหนก็ได้ขับไปเหอะ แต่ถ้าขึ้นเขาลงห้วย forester ดีกว่าแน่นอน
ความกว้าง ตำแหน่งคนขับผมว่าไม่ต่างกัน ส่วนข้างหลังลองนั่งแล้ว forester กว้างกว่านิดหน่อย
ค่าดูแล CRV ผมไม่รู้ แต่ forester เข้าศูนย์แต่ละทีเตรียมไว้เลย 4000 รอบ 40000 80000 ก็หลักหมื่น
ข้อเสียของ forester คือ อืด แต่ผมไม่ซีเรียสถ้ารีบผมก็เอา wrx ออกบ้าน
ขับเกิน 140 แช่ยาวๆ ไม่ได้ ความร้อนเกียร์ขึ้น วิธีแก้ก็ติดออยคลูเกียร์หรือยกเท้าหน่อยนึง มันแช่ยาวๆ ไม่ได้
ยางเบอร์ตรงของ forester แอบหายาก + ราคาแรงหน่อย
-
คนชอบขับรถ ขับทางไกล เครื่องยนต์ อัตราเร่ง ก็มีผลต่อความสนุกในการขับ
Forester ช่วงล่างดีกว่าก็จริง แต่ CRV รุ่นนี้ทำช่วงล่างได้ไม่เลวเลย
CRV เดิมๆก็ขับได้สบายๆแล้ว ถ้าอยากอัพเกรด หา Bilstien ใส่เพิ่ม จบเลย
ถ้า Forester อยากแรงเท่า CRV 2.4 มันทำเพิ่มยากกว่า
-
คนชอบขับรถ ขับทางไกล เครื่องยนต์ อัตราเร่ง ก็มีผลต่อความสนุกในการขับ
Forester ช่วงล่างดีกว่าก็จริง แต่ CRV รุ่นนี้ทำช่วงล่างได้ไม่เลวเลย
CRV เดิมๆก็ขับได้สบายๆแล้ว ถ้าอยากอัพเกรด หา Bilstien ใส่เพิ่ม จบเลย
ถ้า Forester อยากแรงเท่า CRV 2.4 มันทำเพิ่มยากกว่า
ช่วงล่างพูดเลยครับ รถทำมาจากโรงงานห่วยยังไง มักจะทำไม่ขึ้น ถึงแม้ขับดีขึ้นแต่นั่งได้ไม่ทีความสุขสบายแน่นอน ส่วนความแรงผมมองว่าแรงม้าอัตราเร่งต่างมันพอใช้งานได้เหลือ สำหรับคนขับรถทั่วไปที่ไม่ซิ่งตีนหนัก และยิ่งรุ่นเล็กๆพกพาสนิมกันถ้วนหน้ายิ่งทำให้ความเชื่อมั่นยิ่งต่ำ แถม cvt honda ทำไปทำมาเปราะกว่าฝั่งสวยไม่ขายเสียอีก
-
เพิ่งออก CRV G5 MC ให้แฟนนะครับ ใช้มาได้ประมาณ 6 เดือนแล้ว
ผมว่ารถมันค่อนข้างถูกจริตกับผู้หญิงนะครับ เจ้าตัวเค้าชอบมาก ที่บอกมาก็มี...
ข้อดี
- โปร่ง ขับง่าย ใช้เวลาไม่นานก็ชินรถ ความรู้สึกเวลาขับคล้ายเก๋งซีดาน
- มี panoramic roof ก็ทำให้ภายในดูโปร่ง มักจะเปิดม่านไว้ตลอดเพราะส่วนใหญ่ใช้รถไปทำงานเช้า กลับเย็น ไม่ค่อยเจอแดด
- ช่วงล่างรู้สึกแน่นๆไม่ย้วย
- เป็นคนขับเร็วพอสมควร แต่อัตราเร่งของเครื่อง 2.4 + CVT ก็เหลือๆสำหรับเค้า
- กินน้ำมัน 10km/l แต่ไม่ใช่ปัญหาเพราะน้ำมันฟรี
ข้อเสีย
- เวลาเปลี่ยนเกียร์จาก P ไป D ไม่รู้จะแข็งไปไหน
ส่วนในฐานะผู้โดยสาร ผมไม่เอารถตัวเองออกเพราะขี้เกียจขับ ก็ติดรถเค้าไปทำงานทุกวัน ขึ้นรถได้ก็เอนเบาะนอน กับแวะลงไปซื้อข้าวเช้าที่ 7-11
ข้อเสียที่ผมไม่ชอบคือ
- การเก็บเสียงแย่มาก คนยืนคุยกันหลังรถยังได้ยินชัด
- งกกล้อง 360 มีแต่กล้องหลัง รถราคานี้สมัยนี้ควรมีได้แล้ว
- จอกลางค้างเป็นบางครั้ง เสียบ iphone ไม่ขึ้นบ้างบางครั้ง
- wireless charging ไร้ประโยชน์มาก
- ไม่ถูกจริตกับเบาะเลย นั่งนานๆแล้วเมื่อยหลังมาก
- เกลียดลายไม้แก่ๆมาก
-
เพิ่งออก CRV G5 MC ให้แฟนนะครับ ใช้มาได้ประมาณ 6 เดือนแล้ว
ผมว่ารถมันค่อนข้างถูกจริตกับผู้หญิงนะครับ เจ้าตัวเค้าชอบมาก ที่บอกมาก็มี...
ข้อดี
- โปร่ง ขับง่าย ใช้เวลาไม่นานก็ชินรถ ความรู้สึกเวลาขับคล้ายเก๋งซีดาน
- มี panoramic roof ก็ทำให้ภายในดูโปร่ง มักจะเปิดม่านไว้ตลอดเพราะส่วนใหญ่ใช้รถไปทำงานเช้า กลับเย็น ไม่ค่อยเจอแดด
- ช่วงล่างรู้สึกแน่นๆไม่ย้วย
- เป็นคนขับเร็วพอสมควร แต่อัตราเร่งของเครื่อง 2.4 + CVT ก็เหลือๆสำหรับเค้า
- กินน้ำมัน 10km/l แต่ไม่ใช่ปัญหาเพราะน้ำมันฟรี
ข้อเสีย
- เวลาเปลี่ยนเกียร์จาก P ไป D ไม่รู้จะแข็งไปไหน
ส่วนในฐานะผู้โดยสาร ผมไม่เอารถตัวเองออกเพราะขี้เกียจขับ ก็ติดรถเค้าไปทำงานทุกวัน ขึ้นรถได้ก็เอนเบาะนอน กับแวะลงไปซื้อข้าวเช้าที่ 7-11
ข้อเสียที่ผมไม่ชอบคือ
- การเก็บเสียงแย่มาก คนยืนคุยกันหลังรถยังได้ยินชัด
- งกกล้อง 360 มีแต่กล้องหลัง รถราคานี้สมัยนี้ควรมีได้แล้ว
- จอกลางค้างเป็นบางครั้ง เสียบ iphone ไม่ขึ้นบ้างบางครั้ง
- wireless charging ไร้ประโยชน์มาก
- ไม่ถูกจริตกับเบาะเลย นั่งนานๆแล้วเมื่อยหลังมาก
- เกลียดลายไม้แก่ๆมาก
จากคนใช้รุ่นนี้เหมือนกัน เห็นด้วยทุกประการครับ