เห็นมีอีกกระทู้ที่คุณ Furher ตั้งประเด็นไว้น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องไมล์เพี้ยน และบางท่านที่สงสัยว่าทำไมมันเร็วกว่า Revo 2.8
ในกระทู้นี้
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=53438.0ผมตอบไว้ประมาณนี้นะครับ
1. เรื่องความต่างระหว่างเวลาของเมืองนอกกับของเรา- ผมไม่รู้ว่าการทดสอบของเมืองนอกมีลักษณะเหมือนของเราหรือเปล่า น้ำหนักบรรทุกกี่กิโลกรัม เท่าเราหรือเปล่า
- ของเขาทดสอบกลางวันอุณหภูมิไม่ทราบ (อาจจะมีบอกในคลิปหรือเปล่าแต่ผมกดข้ามไปดูแค่ช่วง 0-100) ของเราทดสอบกลางคืน อุณหภูมิจะพยายามให้อยู่ระหว่าง 25-32 เราคุมธรรมชาติได้แค่นี้ครับ เอาให้หมดทุกคืนคงไม่ได้
- ที่สำคัญคือเราไม่รู้เลยครับว่าสภาพรถของเขากับรถของเรา คันไหนดีกว่ากัน ผมไม่ต้องพูดถึงเรื่องการเซ็ตเครื่องนะครับ เอาแค่เรื่องสภาพรถ เราก็ไม่รู้ ถ้าเป็นรถเทสต์ ฝรั่งทดสอบกับคนไทยทดสอบ เวลาโหดก็โหดเหมือนกันและเสื่อมได้เร็วเหมือนกันนะครับ
- ข้อสังเกตที่หมูอาจจะพยายามบอกให้คุณดูใน Pajero Sport คือ ทำไมคนขับต้อง Spool รอบเรียกบูสท์ไว้ 2,000 รอบก่อนที่จะออกตัว..ถ้าไม่ทำล่ะ จะได้ตัวเลขช้าลง อาจจะเข้าไปแตะ 12 วิเพราะรอบูสท์นานหน่อย (แต่ไม่นานน่าเบื่อเพราะเกียร์สั้นๆมาช่วย) แล้วพอช้ากว่าตัวเลขจากเว็บผม แปลว่า Pajero Sport ก็ไมล์เพี้ยนหรือเปล่า?
- เรื่องไมล์ใครเพี้ยนกว่าใคร หมูเอาตัวเลขมาบอกให้เรียบร้อย คุณจะเห็นว่า GPS วิ่ง 100 นิ่งๆ Fortuner มากกว่า Pajero Sport แค่ 2 กิโลเมตร/ชั่วโมงบนมาตรวัด
ส่วนเรื่องความเพี้ยนของไมล์จะส่งผลแค่ไหน ไม่ยากครับ คุณลองเองก็ได้ หยิบนาฬิกาจับเวลาของคุณขึ้นมา
คุณลองจับเวลารถคันนี้ เอา 0-100 ก่อนสักสองสามรอบ แล้วอีกรอบค่อยจับ 0-98 แต่อย่าเอาเวลาที่ได้ไปเทียบกับในรีวิวนะ เพราะในคลิปนั่นนั่งหก แต่ให้คุณลองดูความต่างของเวลาระหว่าง 0-100 กับ 0-98 ว่ามันถึงวินึงมั้ย คุณลองเอาเวลาตรงนี้ไปหักลบกับ 11.54 วิของ Pajero Sport 4WD ดูก็ได้ครับ คุณก็จะรู้ว่าต่อให้เอาความเพี้ยน 2 กม./ชม.มาพูดกันก็ไม่ได้ทำให้ Pajero Sport ฉีก Fortuner ขาดกระจายได้หรอกครับ Pajero Sport ไมล์เพี้ยน 5 Fortuner เพี้ยน 7 สมมติว่าผมจับเวลา Fortuner โดยใช้ 0-102 แทน 0-100 ก็จะดูยุติธรรมขึ้น แต่ก็จะมีปัญหาอีกเหมือนกัน คนก็จะถามว่าแน่ใจหรือว่า 102 บนหน้าปัดจริง ไม่ใช่ 104 ตอนจับเวลาตอนขับแน่ใจนะว่าตาคนขับเล็งถูก
แต่ถามว่าการที่ Toyota ไมล์เพี้ยนมันไม่มีปัญหาใช่มั้ย..มันมีปัญหาที่ผมหาทางหาคำตอบได้ แต่ผมไม่ชอบ เพราะมันทำให้ผมต้องมาอธิบายยืดยาวทุกครั้งที่มีการเทียบอัตราเร่งโดยมีโจทก์เป็นรถ 2 คันที่ไมล์เพี้ยนไม่เท่ากัน ทั้งๆที่ถ้าใครช่างสังเกตหน่อย หยิบนาฬิกาขึ้นมาจับ 0-100, 0-98, 0-102 เทียบกันก็บอกได้แล้วว่า "สูสี" หรือ "ชนะขาด" ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับการเซ็ตไมล์ให้เพี้ยนเยอะๆ แต่ถ้าประมาณ 4-5 ผมพอรับได้
2. ส่วนเรื่องการจับโดย V-box ผมก็เคยคิดครับ ราคาก็อยู่ในระดับที่พอซื้อได้ GPS ในพวก V-box นั่นมันคนละเกรดกับ App GPS Speed ในสมาร์ทโฟนนะครับ มีความแม่นยำกว่า แต่ถ้าซื้อมาใช้ ผมก็เก็บมาไว้เล่นคนเดียว ทดสอบเทียบกับเวลาของจิมมี่สักปีนึง ลงเป็น Data ประกอบไปกับการจับเวลาผ่านนาฬิกาแบบ Jimmy mode ทำไมต้องลงคู่ เพราะคนอ่านส่วนมากที่ไม่ได้เล่นรถจริงจังเขาไปลองแล้วก็ไม่เหมือนกับข้อมูลจาก V-box ก็จะมีคนถามว่าแล้วคนทั่วไปที่ไม่มี V-box เขาจะเห็นสิ่งต่างๆเหมือนกันหรือเปล่า ก็แล้วแต่ ของบางอย่างต่อให้ทำให้ถูก แต่ไม่ถูกใจ คนรับงานเข้าคือผมอีกเหมือนกัน
แต่ส่วนเสริมที่ผมชอบใน V-box คือเรื่องเบรก 100-0 เพราะอยากทำ อยากให้มี ผมจะลองนำเสนอจิมมี่ดูว่าเราสามารถหาถนนที่พื้นเรียบ เป็นสถานที่เดิมที่เดียวตลอดและปลอดฝุ่น และยังต้องใกล้พอให้สามารถนำรถไปทดสอบในช่วงที่ฝนไม่ตกได้ (เรียกได้ว่าต้องมีช่วงเวลาที่แห้งเป็นเวลาเดียวกันของวัน ตลอดทั้งปี เพราะถ้าคันนึงวัดกลางวัน คันนึงกลางคืน..ยางก็ร้อนไม่เท่ากันถูกมั้ย) ยกเว้นว่าเราไม่ซีเรียสกับผลทดสอบที่ condition ต่างกันนิดๆหน่อยๆ..แต่ผมเดาว่าคนที่ลงทุนใช้ของระดับ V-box พยายามจะเอาการทดสอบอย่างซีเรียสนะ ผมถึงต้องคิดว่า เราไม่ได้ต้องห่วงแค่เครื่องมือ แต่ต้องห่วงเรื่อง Condition ในการทดสอบด้วยเพราะต้องเป็นถนนที่มีช่วงเวลาแห้งๆทดสอบได้ทั้งปี
ขนาดเราทดสอบอัตราเร่ง หน้าร้อนหน้าหนาวยังมีประเด็น แล้วถ้าผมทดสอบเบรกหน้าร้อนหน้าหนาว ผมว่าคนที่เชียร์รถคันที่แพ้ก็มีประเด็น ผมถึงบอกว่าถ้าผมซื้อมาใช้จริง ผมก็เก็บไว้เล่นของผมคนเดียว อย่างมากก็โพสท์แชร์ให้เฉพาะคนที่รู้คุณค่าของ V-box และสามารถสื่อสาร Condition ต่างๆแล้วคิดแทนกันเองได้กับผมไว้คุยกัน ชวนพวกเราวิเคราะห์เทียบกัน แต่คงไม่เอาไปสู่ระดับสาธารณชนคนทั่วไป
3. เรื่องอัตราเร่งว่าทำไม Fortuner เร็วกว่า Revo ที่เครื่อง 2.8 เหมือนกันผมเรียนตามตรงว่า ผมก็ตาโตครับ เห้ย มันเป็นไปได้ไงวะ เรื่องไมล์เพี้ยน มันก็เพี้ยนพอกันด้วยนาเอ้า
ไอ้หมูก็งงเหมือนกัน เรื่องพวกนี้ ไม่ใช่ว่าเราไม่คิดนะครับ ตั้งแต่จิมมี่บอกตัวเลขอัตราเร่งมา เรารู้ตั้งแต่ก่อนโพสท์แล้วครับว่าต้องมีคำถาม
บางทีก็คิดเหมือนกันว่าทำไมผมไม่จัดการแปลงตัวเลขให้มันเท่าๆกับ Revo ไปวะ งานน่าจะน้อย คำถามน่าจะน้อย ปัญหาเข้าตัวก็น้อยกว่า แต่มาคิดอีกที ผมว่าก็บอกไปตามตรง นาฬิกามันบอกยังไง เราก็บอกไปอย่างนั้นดีกว่า ส่วนถ้ามันมีอะไที่ผิดปกติ เราก็ค่อยมาหาทางคิดว่าทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้น
หมูหาข้อมูลมาให้ว่าน้ำหนักตัวของ Revo 2.8 กับ Fortuner นั้นไม่ได้ต่างกันมากอย่างที่เราคิด อย่างค่ายอื่น กระบะกับ PPV น้ำหนักจะต่างกัน 100-170 โลได้ แต่ Fortuner หนักกว่า Revo แค่ 55 กิโลกรัม!!
แต่นั้นก็ยังไม่ได้อธิบายว่าทำไมถึงเร็วกว่า แค่บอกว่า "ทำไมมันถึงไม่ช้ากว่า Revo อย่างที่เราคิด"
เรื่องแอโร่ไดนามิกส์....บางคนบอกว่าหน้า Fortuner แหลมลู่ลมกว่า...ผมไม่แน่ใจ เพราะไม่มีอุโมงค์ลมหลังบ้านแต่ส่วนตัวคิดว่าแอโร่น่าจะมีผลช่วงหลัง 80 ไปมากกว่า ช่วง 0-40 แรกไม่น่าจะมีผล (ตรงนี้แหละที่ทำให้ผมเริ่มอยากได้เครื่องมือ Datalogger มาช่วย)
อย่างไรก็ตาม ผมสงสัยในเรื่องของ
1. สภาพเครื่องยนต์ กับเกียร์ อาจต่างกัน ไม่ใช่แค่เรื่องของความโทรม แต่เป็นเรื่องของการปรับเซ็ตต่างๆที่อาจมีการอัพเดทบางส่วน แต่ไม่ได้บอกไว้ในโบรชัวร์ เอกสารแจกสื่อมวลชน และไม่ได้ส่งผลความต่างแรงม้า/แรงบิดสูงสุด
2. อากาศ อาจจะมีส่วนน้อย แต่ถ้าส่วนน้อยนี้ไปรวมกับส่วนน้อยอันอื่น ก็อาจจะมีผล
3. การเซ็ตการตอบสนองของคันเร่ง
ซึ่งข้อ 1 กับ 3 หมูเสนอว่าจะลองส่งอีเมลไปถาม Toyota ว่าจะมีการเซ็ตคันเร่ง หรือปรับโปรมแกรมการจ่ายน้ำมันที่แตกต่างกันระหว่าง Revo กับ Fortuner หรือไม่ เมื่อทราบแล้วจะนำไปใส่ในรีวิว หรือถ้าได้ข้อมูลกลับมาทันวันอาทิตย์นี้ ก็จะพูดลงในคลิป และใส่ในรีวิวด้วย
- - - - -
ขออภัยที่ผมตอบยาวและห้วน แต่พยายามไม่ดูถูกใคร แค่นำเสนอว่า ผมมีความคิด และสมมติฐานแบบนี้และบอกข้อจำกัด กับสิ่งที่เราอยากทำมาให้ลองฟังกันดูครับ ผมว่าเจ้าของกระทู้ก็มีเจตนาที่ดี และสื่อสารด้วยภาษาที่น่าฟัง ผมขอรับไว้เป็นการบ้านในส่วนที่ยังไม่สามารถตอบโจทย์คุณได้ แน่นอน ผมเคยใช้ชีวิตกับควอเตอร์ไมล์ทุกอาทิตย์ ผมเข้าใจความรู้สึกของความแม่นยำของเวลา 0.1-0.2 วิครับ แต่ในโลกแห่งความจริง การยืนดูสลิปแล้วคุยกับพวกเรากันเองที่คุยภาษาเดียวกัน กับการทำการสื่อสารกับคนแสนคนหมื่นคนนี่..เหนื่อยคนละเรื่องจนบางทีคิดว่าอยู่เฉยๆบ้างจะดีกว่า