ผู้เขียน หัวข้อ: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ  (อ่าน 2538 ครั้ง)

ออฟไลน์ 7777777

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 600
    • อีเมล์
กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« เมื่อ: พฤษภาคม 07, 2024, 21:17:10 »
Volvo V60 Recharge น่าใช้/เสี่ยงไหมครับ ตัวMY24 ultimate bright แถมwall box ได้ใบเสนอราคามาสองล้านกลางๆ

ส่วนตัวเคยไปลองตอนที่มีแรงม้า 407 ตัวปัจจุบัน 462แรงม้ายังไม่ได้ลอง กับตัวเก่าก็ชอบทุกอย่างครับ

ไม่ชอบเพียงแค่ ช่วงล่างกับเบรคประหลาดๆที่เหมือนเบรคจะไม่ค่อยอยู่ กับเก็บเสียงลมไม่ดีเท่าไหร่ด้านหน้า (ตอนนั้นใช้ F30 320d M-sportเป็นหลัก)

ตอนนั้นไม่ได้ซื้อเพราะคนรอบข้างบอกว่าอย่าไปเล่นvolvoเด็ดขาด ตอนจะขายเผลอๆยังไม่มีใครรับซื้อ...


ใจอยากลองEverest ก็เห็นปัญหาเยอะเหลือเกิน กับ serie3 g20 ก็อยากเปลี่ยนบ้าง... 520d g30 ก็เกิน3ล้านถ้วนครับ

เล็ง crownไว้ ก็โดนพูดประมาณว่าจะซื้อToyota 3ล้านเหรอ...


รบกวนขอความเห็นด้วยครับ (มีงบ3ล้านถ้วน เงินสด ห้ามเกิน)   :-\

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,996
    • อีเมล์
Re: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 07, 2024, 22:07:24 »
ถ้าผมมีงบนี้ ผมเอานะ V60 เนี่ย .. ตัวรถไม่มีอะไรต้องกังวลเลย ถ้าออกศูนย์ที่ดี ก็ยิ่งไม่ต้องกังวลเลย

วอลโว่ปัจจุบันผมว่าเล่นได้นะ ส่วนตลาดมือ 2 ที่ราคามันต่ำ ไม่ใช่รถไม่ดี แต่เพราะเวลาเต้นท์รับซื้อไปขายต่อมันขายยากครับ ความนิยมสู้เบนซ์ BMW ไม่ได้แค่นั้นเอง

ถ้าใช้ยาว 5-7ปี ผมว่าคุ้มนะ คุณภาพ/ราคาที่ซื้อมาใช้

ออฟไลน์ Odrecranon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 401
    • อีเมล์
Re: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 07, 2024, 22:34:02 »
ผมคิดว่าตัวรถไม่มีปัญหาครับ
แต่ในหลายประเทศ เขา discontinue S60 V60 S90 ไปแล้ว
เหลือแต่ XC อย่างเดียว คิดว่าน่าจะขายได้น้อย ตามแนวโน้มตลาด ผมไม่แน่ใจว่าในเอเชียจะทำแบบเดียวกันไหม

ผมเองใช้ XC60 ซึ่งเห็นด้วยว่าที่น่ากังวลสำหรับคนชอบขับรถคือช่วงล่างที่โคลงมาก และไม่มั่นใจเลยครับ ส่วนเบรคถ้าใช้ B-mode ด้วย คิดว่าไม่มีปัญหา เทียบกับ Q5 ผมว่าต่างกันมา ขนาดแม่ผมอะไรก็ได้ยังบอกว่า Q5 ดีกว่ามาก แต่ถ้าขับตรง ๆ เรื่อย ๆ ผมไม่มีปัญหาอะไร ผมจะรู้สึกชอบมัน เวลาเหนื่อยกับงานมาก ๆ นั่งชิว ๆ ฟังเพลง แต่กลับกันถ้าจะเอาสนุก มันไม่ได่เลยครับ

ส่วนตัวถ้าหามาใช้เสริม ผมเห็นด้วยนะครับ
เห็นใน page มี 2.29M แต่ถ้าเป็นผมงบเท่านี้ จะดู XC60 แทนครับ ตัวบนเห็น 3.09 ล้าน ได้ SUV จะได้รถหลายๆ แบบ

ส่วนเรื่องขายต่อ ต้องทำใจครับ อย่าไปคิด
ผมกะใช้ยาว ๆ จนเปลี่ยนแบตไปเลย
ขายออกยากแน่นอนครับ นอกจากขายถูกมาก ๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 07, 2024, 22:36:20 โดย Odrecranon »

ออฟไลน์ เหวินซิ่ว

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 141
Re: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 07, 2024, 22:45:51 »
ผมเชียร์โตโยต้า คราวน์ แต่ราคาก็เกินสามล้านนะครับ

ออฟไลน์ OXYGEN2

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,490
    • เครื่องปั่น
    • อีเมล์
Re: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2024, 01:19:53 »
ตัวเริ่มต้นถูกกว่า 450,000 ไม่รู้ว่าราคาหลังส่วนลดจริงๆ จะต่างกันแค่ไหน

ถ้าเป็นผม ผมซื้อตัวเริ่มต้นพอ พวกระบบความปลอดภัย Volvo ให้มาเท่าๆ กันครับ

ตอนขายต่อจะได้ไม่เสียดายมาก

ส่วน Toyota Crown ผมว่า ถ้าใครถามว่านี่ Toyota 3 ล้านเหรอ ผมคงตอบว่า คันนี้ คือ Crown เห็น Grey ขายตัว Cross 2.4 Turbo อยู่ 2.99 ล้าน ส่วน Crown Sport ยังขาย 3 ล้านกลางๆ อยู่เลย

จริงๆ ซื้อรถคันละ 3 ล้าน มันจะเกินงบไปนิดนึง ก็น่าจะพอได้นะครับ ถ้าเป็นผม คงไปจบที่ Series 5 G60, E-Class W214 ซื้อตอนเพิ่งออก ขับหล่อๆ ไปอีก 5-6 ปีครับ
2021 - BMW 530e
2023 - Tesla Model Y Performance
2023 - Tesla Model Y RWD

My website~ :) ;) :D 8)

ออฟไลน์ nobody123

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 141
Re: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2024, 01:35:59 »
ผมมี BM MB VV สามคัน 2.5 ล้านหมดทุกคัน ทั้งสามคันขับด้วยระบบที่แตกต่างกัน
ถ้าอยู่กทม. เสี่ยงตรงไหนครับ? เพราะสำหรับผม VV PHEV คือขับทุกวันดีที่สุด
เอาเหตุผลไปเลย 20 ข้อ (ผมนั่งเขียนรอเวลานอน)
1. ช่วงล่าง ใส่ค้ำโช้คสเปคตัวท็อปจากศูนย์หรือของเทียบไม่ถึงหมื่น เกาะมาก
2. เมื่อใส่ค้ำโช้คช่วงล่าง ขับสนุก ไม่ว่าโหมดขับหลัง หรือ โหมดขับสี่ (ขับหน้า ขับสบาย)
3. ระบบ Hybrid เสถียรมาก แทบหาคนเคลมไม่ได้แม้ PHEV ออกมา มาเกือบสิบปี
4. ADAS เสถียรมาก ตัวที่คุณบอกคงตัวท็อป แสดงผลตรวจจับเลนบนหน้าจอ
Euro NCAP หาที่ติแทบไม่ได้
ลืมขับเองไปเลยบนหลายเส้นทาง อย่างสบาย
ทั้งนี้ ผมใช้ตัวก่อน Google พอ Google ไม่เสถียร ต้องอัพบ้าง หรือ ไม่อัพบางเวอร์ชัน เหมือนเจ้าอื่นครับ
5. ค่าบริการ ถูกกว่า ICE เกือบครึ่ง
6. ค่าแบต ถูกกว่า BEV เท่าตัว
เปลี่ยนแบตปุ๊บ ค่าใช้จ่ายสะสม BEV แพงกว่าทันที
7. ค่าไฟรวมค่าน้ำมัน อย่างประหยัด
ถ้าคนที่ไม่ได้เปลี่ยนแบตในประกันบางคน ก็เหมือนได้ส่วนต่างค่าน้ำมันไปเปลี่ยนแบตฟรี
หลายคนได้เปลี่ยนแบตฟรีเรียบร้อย
8. ถ้ารักษ์โลก อย่าลืมนะครับระบบไฟฟ้าไทย ปล่อย CO2 เยอะกว่าสวีเดน 10 เท่า
PHEV รวมกระบวนการผลิตแบต แล้วขับในเมืองใช้ไฟ (ขับไกลใช้น้ำมันด้วย) ปล่อย CO2 น้อยกว่า BEV ไปอีกนานครับ
9. CO2 ขับที่ไหน ก็เท่าหรือดีกว่ารถไฟฟ้าที่ 0-100 เท่ากัน
10. อ้อ ช่วงล่าง สบายสุด
คนในคลับ VV  มาโพสต์ถึงทริปตัวเอง ช็อตเดียวเกือบ 2,000 กม.ต่อทริปหลายคนแล้ว
(มีรถกี่คันขับต่อเนื่อง 2,000 กม.ได้ถูกใจหลายคน . . .)
11. ถ้าจขกท.ขับไม่ถึงปีละ 30,000 กม. แต่เทียบ BEV อยู่ผมไม่เห็นเหตุผลในการเลือก BEV เหนือว่า PHEV เลย ด้วยเทคโนโลยีแบตปัจจุบัน
12. 0-100 ได้ต่ำกว่าห้าวิจริง
13. อยู่ในตระกูลที่ปลอดภัยที่สุดตาม IIHS
คือ VV ได้ Safety Pick + มากโมเดลสุดในโลกนะครับ
14. เกือบทั้งคันผลิตยุโรป
15. เหล็กสวีเดน ส่วนผสมอย่างทนสนิม
ส่วนตัวผมอบรมให้สหวิริยาสตีล บริษัทเหล็ก #1 ของไทย
16. จำนวนรถต่อศูนย์ ไม่มากครับ เข้าศูนย์นัดได้ไม่นาน
17. จำนวนรถต่อศูนย์ตัวถัง พอกับเจ้าตลาด คือ ยอดขายต่างกันหกเท่า ศูนย์ตัวถังในกทม.ก็อัตราส่วนเท่านั้น
ผมไม่เคยรอเลย
แต่สมาชิกบางคนรออะไหล่ ผมก็เห็นว่าเหมือนเจ้าตลาด คือ พอ VV ย้ายศูนย์พักอะไหล่มา ASEAN แล้ว เจ้าของรถส่วนใหญ่ไม่ได้รอนาน ส่วนน้อยที่รอนาน เกือบเหมือนกันทุกเจ้ารถหรู ครับ
18. ค่าประกัน น้อยกว่าหรือเท่ากับ BEV คลาสเดียวกัน
19. ระยะยาว ใช้คุ้ม
20. ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ แสดงว่าสนใจจริง ควรซื้อแหละครับ
คือ ซื้อ VV PHEV จบไปอีก 10-20 ปี นะ

ออฟไลน์ wibul10

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 190
    • อีเมล์
Re: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2024, 07:22:29 »
เห็นด้วยอย่างแรง อย่างแรกต้องถามพฤติกรรมการขับของตัวเองก่อนครับว่าชอบแบบไหน
ผมมี BM MB VV สามคัน 2.5 ล้านหมดทุกคัน ทั้งสามคันขับด้วยระบบที่แตกต่างกัน
ถ้าอยู่กทม. เสี่ยงตรงไหนครับ? เพราะสำหรับผม VV PHEV คือขับทุกวันดีที่สุด
เอาเหตุผลไปเลย 20 ข้อ (ผมนั่งเขียนรอเวลานอน)
1. ช่วงล่าง ใส่ค้ำโช้คสเปคตัวท็อปจากศูนย์หรือของเทียบไม่ถึงหมื่น เกาะมาก
2. เมื่อใส่ค้ำโช้คช่วงล่าง ขับสนุก ไม่ว่าโหมดขับหลัง หรือ โหมดขับสี่ (ขับหน้า ขับสบาย)
3. ระบบ Hybrid เสถียรมาก แทบหาคนเคลมไม่ได้แม้ PHEV ออกมา มาเกือบสิบปี
4. ADAS เสถียรมาก ตัวที่คุณบอกคงตัวท็อป แสดงผลตรวจจับเลนบนหน้าจอ
Euro NCAP หาที่ติแทบไม่ได้
ลืมขับเองไปเลยบนหลายเส้นทาง อย่างสบาย
ทั้งนี้ ผมใช้ตัวก่อน Google พอ Google ไม่เสถียร ต้องอัพบ้าง หรือ ไม่อัพบางเวอร์ชัน เหมือนเจ้าอื่นครับ
5. ค่าบริการ ถูกกว่า ICE เกือบครึ่ง
6. ค่าแบต ถูกกว่า BEV เท่าตัว
เปลี่ยนแบตปุ๊บ ค่าใช้จ่ายสะสม BEV แพงกว่าทันที
7. ค่าไฟรวมค่าน้ำมัน อย่างประหยัด
ถ้าคนที่ไม่ได้เปลี่ยนแบตในประกันบางคน ก็เหมือนได้ส่วนต่างค่าน้ำมันไปเปลี่ยนแบตฟรี
หลายคนได้เปลี่ยนแบตฟรีเรียบร้อย
8. ถ้ารักษ์โลก อย่าลืมนะครับระบบไฟฟ้าไทย ปล่อย CO2 เยอะกว่าสวีเดน 10 เท่า
PHEV รวมกระบวนการผลิตแบต แล้วขับในเมืองใช้ไฟ (ขับไกลใช้น้ำมันด้วย) ปล่อย CO2 น้อยกว่า BEV ไปอีกนานครับ
9. CO2 ขับที่ไหน ก็เท่าหรือดีกว่ารถไฟฟ้าที่ 0-100 เท่ากัน
10. อ้อ ช่วงล่าง สบายสุด
คนในคลับ VV  มาโพสต์ถึงทริปตัวเอง ช็อตเดียวเกือบ 2,000 กม.ต่อทริปหลายคนแล้ว
(มีรถกี่คันขับต่อเนื่อง 2,000 กม.ได้ถูกใจหลายคน . . .)
11. ถ้าจขกท.ขับไม่ถึงปีละ 30,000 กม. แต่เทียบ BEV อยู่ผมไม่เห็นเหตุผลในการเลือก BEV เหนือว่า PHEV เลย ด้วยเทคโนโลยีแบตปัจจุบัน
12. 0-100 ได้ต่ำกว่าห้าวิจริง
13. อยู่ในตระกูลที่ปลอดภัยที่สุดตาม IIHS
คือ VV ได้ Safety Pick + มากโมเดลสุดในโลกนะครับ
14. เกือบทั้งคันผลิตยุโรป
15. เหล็กสวีเดน ส่วนผสมอย่างทนสนิม
ส่วนตัวผมอบรมให้สหวิริยาสตีล บริษัทเหล็ก #1 ของไทย
16. จำนวนรถต่อศูนย์ ไม่มากครับ เข้าศูนย์นัดได้ไม่นาน
17. จำนวนรถต่อศูนย์ตัวถัง พอกับเจ้าตลาด คือ ยอดขายต่างกันหกเท่า ศูนย์ตัวถังในกทม.ก็อัตราส่วนเท่านั้น
ผมไม่เคยรอเลย
แต่สมาชิกบางคนรออะไหล่ ผมก็เห็นว่าเหมือนเจ้าตลาด คือ พอ VV ย้ายศูนย์พักอะไหล่มา ASEAN แล้ว เจ้าของรถส่วนใหญ่ไม่ได้รอนาน ส่วนน้อยที่รอนาน เกือบเหมือนกันทุกเจ้ารถหรู ครับ
18. ค่าประกัน น้อยกว่าหรือเท่ากับ BEV คลาสเดียวกัน
19. ระยะยาว ใช้คุ้ม
20. ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ แสดงว่าสนใจจริง ควรซื้อแหละครับ
คือ ซื้อ VV PHEV จบไปอีก 10-20 ปี นะ

ออฟไลน์ tom46

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,742
Re: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2024, 08:08:35 »
รายละเอียดอื่นไม่ทราบเลยนะครับ แต่ผมชอบทรงรถเขามาก สวยลงตัวดีครับ
M52TUB30 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,822
Re: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2024, 09:03:12 »
รถมันออกมานานมากแล้ว ถ้าคุณไม่ได้ชอบจริงๆผมคิดว่าไป320Dใหม่ดีกว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะไปซื้อรถGenเก่า ยิ่งพูดถึงมือสองราคาตกนี่ชัดเจน ถ้าจะซื้อรุ่นนี้ไปหามือสองราคาล้านต้นๆสวยๆเยอะแยะปีใหม่ๆได้สบายดีกว่า
BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ United

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 94
Re: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2024, 09:19:20 »
ผมตอบในฐานะขับอยู่และคนเป็นชอบรถทรง Station Wagon ซื้อเถอะครับ มองยังไงก็สวย หาแทบไม่มีแล้วคับ นอกจากจะไป A4 Avant ซึ่งผมก็ว่ายังไม่สวยเท่า
ข้อดีข้างบนพูดไปหมดแล้ว ก็ตรงตามนั้นครับ สำหรับผมข้อเสียเดียวเลยคือ ยางมันแก้มบางไปนิด 235/40/19 อาจจะต้องหยอดๆหลุมหน่อยครับ ยางแตกแมกซ์ดุ้งกันไปเยอะมากครับ (แต่ผมยังไม่เคยนะ) reliable ผมว่าพอๆกับ Camry hybrid ครับ

อีกเรื่องถ้ากังวลน่าจะเป็นแผนการ การทำตลาดรถไฟฟ้าล้วนของ Volvo มากกว่าครับ เพราะจะไป EV ล้วนเร็วๆนี้ ก็มองได้สองมุม เก็บตัว PHEV เป็นของ rare กับถ้าใช้รถนานจะหาอะไหล่ลำบากไหมต่อไป แค่นั้นครับ

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,764
Re: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2024, 09:38:12 »
ถ้าชอบ Wagon ผมก็เชียร์ครับ เห็นว่าเคยคิดจะซื้ออยู่แล้วด้วย
Volvo ยุคนี้ไม่ได้น่ากลัวเท่ายุคก่อนครับ ตัว Recharge ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แบตPHEV ก็ได้ลูกใหญ่ แถมไม่มี supercharge มากวนใจ
ข้อเสียก็คือราคามันตกเยอะตามสไตล์ของ volvo ครับ ถึงราคาจะไม่ได้ลงแรงเหมือนยุคก่อนหน้า แต่ถ้าเทียบกับ Mercedes / BMW ก็แรงกว่าอยู่ดี


สำหรับผม ถ้าชอบ Wagon คือจบที่ v60 ครับ ไม่งั้นต้องไป A4 Avant / RS4 ซึ่งเพิ่มอีกเยอะเลย
แต่ถ้าไม่ซีเรียสว่าเป็น Sedan ผมแฟนvolvo ชอบ 320d 330e มากกว่าครับ

ออฟไลน์ EVA01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 532
Re: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2024, 10:20:14 »
งบ 3 ล้าน เงินสด ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องมือ 2 ลองหาสภาพดีๆ ไมล์น้อยๆ มีรถดีๆ ในราคาถูกลงเป็นล้านหลายรุ่นเลยครับ ลองดูเป็นทางเลือกครับ

ออฟไลน์ Sit: )

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,476
    • อีเมล์
Re: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2024, 11:14:19 »
v60 มีข้อดีมากมาย
ขออนุญาติ share ข้อที่"ผม"ไม่ชอบ
มีแค่ 2 ข้อที่คิดออก
1. เนื่องจากเป็นรถ floor ค่อนข้างต่ำ ทำให้การเข้าออกอาจจะไม่สะดวกสบายนัก ต้องลองไปเข้า-ออกดูครับ ว่าจะชอบไหม 
2. เดี๋ยวนี้ vv ขายไม่น้อยเมื่อเทียบกับจำนวนศูนย์  แถวบ้านผมจะเข้าไปดูรถยังหาที่จอดยาก รถมา service จอดล้นออกมา

ที่เหลือ v60 คือรถในฝันจองผมคันนึงเลยครับ

ออฟไลน์ Bond007

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 791
Re: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2024, 12:18:03 »
ลองหา 520d G30 ไหมครับ น่าจะพอมีรถ (ต้องหา) ราคา 2ปลาย ใช้ยาวๆ

ปล. ผมใช้ XC60 T8 นะ รถโอเคดีครับ ไม่มีอะไรจุกจิก

ออฟไลน์ CMaN20

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 680
Re: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2024, 13:02:51 »
ลองหา 520d G30 ไหมครับ น่าจะพอมีรถ (ต้องหา) ราคา 2ปลาย ใช้ยาวๆ

ปล. ผมใช้ XC60 T8 นะ รถโอเคดีครับ ไม่มีอะไรจุกจิก

จริงครับ ลองหาG30รถค้างstockดูก่อน. 520d ตัวนี้ทนทานครับ ไม่จุกจิกเลย
# BMW    520d E60   
# BENZ   E250CDI W212
# BMW    520d G30
# VOLVO  XC90 D5 Y2020

ออฟไลน์ HLRx

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,282
    • อีเมล์
Re: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2024, 13:13:07 »
V 60 เป็นรถที่สวยที่สุดในสายตาผม ยิ่ง สีขาว นี่โดดเด่นมากๆ สวยทั้งรูปร่างและไฟท้าย
แต่จำต้อง move on เพราะ เบาะนั่ง เตี้ยไป ไม่เหมาะกะวัย 50 plus  สุดท้ายไปจบที่รุ่นพี่ S90 แทน
เรื่องการขับขี่ เรื่องเบรค ให้ไปลองของจริงดีกว่าครับ อย่าไปเชื่อคำบอกเล่า จากประสบการณ์เกือบวางเงินจอง 330e อยู่แล่ว Test drive เที่ยวกลับขอไปลองนั่งเบาะหลัง ไอ้หยา ใครเป็นริดสีดวงมีหวังแตกคารถ
เลยไปจบที่ S90  จองกลางปี 23 ได้ราคา 3.04 m.  แพงกว่า 530e m sport 50,000 บาท

ออฟไลน์ Odrecranon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 401
    • อีเมล์
Re: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2024, 13:50:35 »
V 60 เป็นรถที่สวยที่สุดในสายตาผม ยิ่ง สีขาว นี่โดดเด่น...เป็นริดสีดวงมีหวังแตกคารถ
เลยไปจบที่ S90

นอกเรื่องได้ไหมครับ
กำลังมอง ๆ S90 หรือ XC90 ไว้ด้วย
S90 ช่วงล่างถุงลม มัน ok ไหมครับ

ออฟไลน์ pakkapolb

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
Re: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2024, 15:55:06 »
ไม่เสี่ยงหรอกครับ ผมขอแชร์ประสบการณ์ ผมใช้ Mercedes C220d AMG (W205), BMW 520d (G30) และ Volvo S60 (MY2023) อยู่

S60 เป็นรถที่ผมพอใจจะเลือกขับออกไปใช้มากที่สุด (ยกเว้นเดินทางไกลเกินระยะไฟฟ้าล้วนไปมากๆ จะใช้ 520d ด้วยเหตุผลด้านความประหยัดน้ำมัน)

เปรียบเทียบกันแล้ว เวลาขับ S60 รู้สึกเหมือนขับรถยุคใหม่ ส่วน BMW,MB ที่เหมือนขับรถตกยุคอยู่
- ระบบส่งกำลัง ทั้ง battery และ เครื่องยนต์ ทำงานร่วมกันได้ smooth เรียบเนียนดีมาก ไร้รอยต่อ ทั้งย่านความเร็วต่ำและสูง ขับแล้วผ่อนคลาย เทียบกับดีเซลเยอรมัน ขับความเร็วต่ำในเมืองมีหัวผงกเป็นระยะ
- ระบบช่วยขับและความปลอดภัยมาครบแบบเต็มสุดๆ ปล่อยพวงมาลัย ปล่อยคันเร่งขับได้ มีมือว่างพอหยิบจับเครื่องดื่มของกินเข้าปากได้แบบปลอดภัย, ระบบ Pre-safe ก็ effective ดีมาก แจ้งเตือนภัยอันตรายที่จะเข้ามาได้อย่างถูกที่ถูกเวลาตลอด ทั้งเวลาถอยจอด เปลี่ยนเลนส์ ลงคอสะพาแรงๆ เบรคกระชั้นชิด (ไม่ไวเกินจนน่ารำคาญแบบรถค่ายจีน), ส่วนค่ายเยอรมันนั้น อย่าให้พูดเลยดีกว่าครับ G30 คันละสามล้าน(รุ่นก่อน LCI) Blind spot ยังไม่มีมาให้ (ถึงแม้รุ่นหลัง LCI เริ่มมีมาให้บ้างแล้ว แต่ก็ยังห่างช้้นกับ Volvo อยู่มาก)
- Software รุ่น MY2023 เป็นต้นไป เป็น google based ใช้งานง่าย มี update over the air แก้นู้นเพิ่มนี้ทำให้รถเราเป็นรถที่ดีขึ้นอยู่ตลอดโดยไม่ต้องเอาไปเข้าศูนย์
- เบาะนิ่ม นั่งสบาย
- เครื่องเสียงดี (ส่วนตัวผมว่า สูสีกับ Burmester ใน MB)

ส่วนข้อเสียก็ตามนี้ครับ
- ถ้าเป็นคนขับรถเร็ว 160++ สายมุด คงไม่ถูกใจ เพราะรถ set มาเน้นนั่งสบาย ออกจะยวบยาบไปนิด ความเร็วสูงแล้วไม่มั่นใจ
- พื้นที่โดยสารตอนหลังค่อนข้างแขบ โดยเฉพาะเพลากลางสูงมาก (ใช้เป็นที่วางแบตเตอรี) ทำให้นั่งโดยสารตรงกลางแทบไม่ได้เลย
- ภายในความหรูหราสู้ไม่ได้ ไม่มี ambient light
- ชาร์จช้า

ใช้งานมา 1 ปีเต็ม เจอปัญหา sensor detect น้ำฝนไม่ทำงาน แจ้งเคลมรออะไหล่เปลี่ยนเสร็จใน 2 วัน
นอกจากนั้นยังไม่เจอปัญหาอะไรอีก

เรื่อง ศูนย์ผมยังไม่เจอปัญหา รถเข้า service ต่อวันเยอะจิง จอดล้นศูนย์ แต่คิวนัดไม่ยากและไม่นาน
ส่วนราคาขายต่อนั้น ... ยากจะคาดเดาครับ นาทีนี ICE ก็ย่ำแย่ BEV ก็ยังไม่มีใครรู้

ถ้ารับข้อเสียได้ ผมเชียร์ให้จัดเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 08, 2024, 16:00:34 โดย pakkapolb »

ออฟไลน์ 7777777

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 600
    • อีเมล์
Re: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2024, 23:05:10 »
ขอบคุณทุกความเห็นครับ

520d g30 ซื้อสด ยังไงก็จบเกิน3ล้านครับ และให้BSI/warranty แค่3ปี

ยังไงจะไปลองV60อีกรอบครับ เคยไปลองA4 avantแล้วไม่ค่อยชอบครับ

ออฟไลน์ spn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,733
Re: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2024, 09:30:47 »
งบ 3 ล้าน เงินสด ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องมือ 2 ลองหาสภาพดีๆ ไมล์น้อยๆ มีรถดีๆ ในราคาถูกลงเป็นล้านหลายรุ่นเลยครับ ลองดูเป็นทางเลือกครับ
แอบไปส่องราคา รถปี 2020 ขึ้นไป ไมล์ไม่เกิน 50,000 ราคาไม่เกิน 1.5 ล้าน น่าสนใจมากๆ :)
E220d W213
Camry 2.5 HV Premium
BT50 Free Style Cab Hi racer
Revo 2.8J B cab 4x4
March 1.2 CVT
KIA Jumbo 1JZ-GE AT

ออฟไลน์ HLRx

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,282
    • อีเมล์
Re: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2024, 17:15:05 »
เมื่อกลางปี 2023 530e M sport จบทุกอย่างที่ 2.99 m. ครับ

ออฟไลน์ Teera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,381
    • อีเมล์
Re: กับงบ3ล้าน Volvo V60 Recharge ควรเสี่ยงไหมครับ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2024, 14:13:43 »
ถ้าไม่กังวล เรื่องราคาขายต่อ ก็จัดได้เลยครับ

จากประสพการณ์ คนใช้ V40 2013
ผมซื้อ ป้ายแดง 1,9xx,xxx

ตอนนั้น เพื่อนผม ซื้อ W212 รถ 3 ปี ราคา ใกล้ๆกันเลย ประมาณล้านเก้า
หลังจากใช้มา 7 ปี เข้าปีที่ 8 วิ่งไป 2 แสนกลางๆ ตอนนั้น ขายไป 4 แสนกลางๆ
เพื่อนผม ขายไปหลังจากผม ปีกว่าๆ ขายไป เจ็ดแสน

ผมได้ข้อสรุปว่า
1 ผมซื้อรถ ราคาล้านเก้า ในราคาล้านเก้า ใช้ไป 7 ปี ขายได้ 4 กลางๆ
2 เพื่อนผม ซื้อรถราคา 4 ล้านกว่า ในราคาล้านเก้า ใช้ไป 8 ปี ขายได้ 6 แสนกลางๆ 
3 Volvo ใช้ดีมากๆ ไม่เคยจุกจิก ซ่อมจบ
4 รถทุกคัน ราคาตก Volvo จะตกกว่าเพื่อน ใน Class เดียวกัน