เพราะรถมือ2 ราคาห่างกันไม่มาก ยิ่ง E46 ระหว่าง 323 และ 330 ราคาใกล้กันมาก คนเลยเชียร์ให้เอา 330 แต่จริงๆแล้วคนส่วนใหญ่หารู้ใหม่ว่าถ้าอยากใช้รถยุโรปอย่างสบายใจ ต้องจับเปลี่ยนเครื่องข้ามสายพันธุ์ หาอู่เก่งๆวางเครื่อง toyota ยอดนิยม จบแน่ๆครับ
หลากหลายทางเลือก
1 เน้นใช้งาน ซ่อมน้อย ไม่จุกจิก ราคาเครื่องไม่แพง = 1jz vvti/2jz vvti
2 เน้นแรงมากๆ ซ่อมง่าย = 1jzgte/2jzgte ถอดโบคู่ออก เปลี่ยนใส่โบเดี่ยวมือ1ซะ เพราะโบเดิมติดเครื่องมันอายุมากแล้ว ใช้แป๊บๆก็พัง
3 เน้นแรง+ประหยัด = 1jzgte vvti ถ้าอยากใช้ยาวๆก็เปลี่ยนเป็นเทอร์โบมือ1 จบ
ข้อ 2 และ 3 มีข้อแม้ว่า ต้องเดิมๆห้ามปรับบูสเพิ่ม แล้วจะใช้ยาวๆได้อย่างสบายใจ
ปล. E46 และ E39 มีคนวาง Jbo เยอะแล้ว ทำแล้วจบไม่มีปัญหา ตอนนี้รอดูต่อไปว่า E60 จะมีอู่ไหนบุกเบิกเริ่มวาง Jbo บ้าง
ผมกลับมองอีกมุมนะฮะ เดิมbmw ยุคที่ว่า ดีอยุ่แล้ว ไม่ได้ซ่อมจนหมดตัวขนาดนั้น
e60 ตอนนี้ประมาน800000บาท
-ซื้อมาซ่อมแบบเดิมๆเก็บงานสัก 100000บาท ใช้ 3 ปี ตอนขาย อาจขายได้ออกไปสัก 500000 เบ็ดเสร็จขาดทุน 400000
-ซือมาวาง 2j gte ค่าวางค่าเครื่อง มี150000 เก็บงานรอบคัน อีกสัก 50000 รวม 200000 ทำเสร็จขายมันวันนี้เลย ไม่รู้จะมีใครกล้าซือป่าว E60 เครื่อง2j bo ต่อให้ขายที่ราคา 500000
-E60 ปี 2004-2010 ราคาอยู่ระหว่าง 5 แสน - 1 ล้านครับ
-เดิมๆจุกจิกมากๆถ้าเทียบกับรถญี่ปุ่น
-ผมอยู่ใน club E60 สมาชิกเจอปัญหาแทบทุกวันครับ
-ถ้าซื้อรถมากะขาย การซ่อมให้ระบบเดิมใช้งานได้สมบูรณ์แบบครบๆเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยาก เพราะอะไหล่รถชิ้นส่วนมันเยอะ คนส่วนใหญ่ไม่นิยมเปลี่ยนก่อนเสีย แต่เสียแล้วค่อยเปลี่ยน
-ด้วยราคาตัวรถ ทั้ง E46 E39 E60 ถ้าจะซื้อมาใช้ยาว เป็นรถหลักของบ้าน วางเครื่องข้ามสายพันธุ์จบง่ายกว่า บำรุงรักษาน้อยกว่าครับ ซึ่งแต่ละคนมีทางเลือกแตกต่างกันออกไป แต่ผมเองเลือกทางนี้ครับ รถแรงมาก ค่าซ่อมถูก อะไหล่มือ1เพียบ ซ่อมได้ทุกจังหวัด
ที่ผมมองว่าจะทำเก็บไว้ใช้ที่บ้าน โดยวางเครื่อง J ทั้งหมด
E46 วางได้แล้วจบ ไม่จุกจิก
E39 วางได้แล้วจบ ไม่จุกจิก
E60 ยังไม่มีใครเริ่มทำ รอดูอยู่ ถ้าวางได้คงสนุกแน่