คนรอบตัวผม เศรษฐกิจ ดีขึ้นนะ .....
และในภาพรวม ผมก็รู้สึกว่า มันดีขึ้น และค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆครับ
คนรวยขึ้นก็มีคนจนลงก็มี อยู่ที่ตัวเราครับ ไม่งั้น 718 ไม่วิ่งกันเกลื่อนเมืองหรอก ....
คนรอบตัวทำงานอะไรกันบ้างน่ะครับ
จะได้เป็นความรู้นิดนึง เพราะนอกจากธุรกิจอะไรที่เฉพาะจริงๆ แล้ว
ผมเห็นโดยทั่วไปแย่กันทั่วหน้า
ธุรกิจตัวไหนกำลังจะเริ่มดี ก็อาจจะทำให้ predict ภาพรวมเศรษฐกิจในอนาคตได้ด้วยครับ
แต่พูดถึงว่า อย่าพูดถึง 718 เลยครับ
คือเศรษฐกิจตอนนี้ผมกระทบคนที่อยู่ข้างล่างขึ้นมาข้างบน
ดังนั้นคนข้างบนจะไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อยครับ ยอดขาย premium brand จึงโตเอาโตเอา
ดังนั้นการที่รถแพงยอดขายสูง ไม่ได้เป็นตัวบอกภาวะเศรษฐกิจในช่วงนี้เลย เพราะมันมีเส้นแบ่งระหว่าง
ฐานะทางเศรษฐกิจเป็น gap ขนาดใหญ่
ช่วงที่เราบอกได้ว่าประเทศกำลังแย่จากคนรวยที่ล้มละลายมากมายมันเป็นสมัยต้มยำกุ้ง
ซึ่งเศรษฐกิจล้มลงมาจากข้างบนลงข้างล่างครับ
ดังนั้นช่วงนี้ เศรษฐกิจจะดีขึ้นเมื่อไหร่ (หมายถึงคนชั้นล่างฟื้น) ผมรอดูยอดขาย
B car กับ Eco car ก่อนเลย ซึ่งปัจจุบันยอดยังต่ำกว่าสมัยเศรษฐกิจยังปกติ
อยู่ 1 เท่าตัว แล้วต้องรอดูอีกว่า ถ้าหมดเขตเรื่องรถคันแรก คนจะขายรถทิ้งแล้วออกใหม่
หรือยังเก็บไว้ใช้ต่อ ซึ่งสภาพเศรษฐกิจตอนนี้ผมพูดอยู่คนเดียวว่ามันคล้ายๆ ประเทศญี่ปุ่น
คือคนส่วนมากไม่ยอมใช้เงิน ประหยัดกันมากขึ้น แต่ข้อแตกต่างก็คือ คนญี่ปุ่นมัธยัส และวางแผนการเงินดี (อาจจะดีมากไป)
ส่วนของไทยที่ประหยัดมาจากการช็อต หนี้สินเพิ่ม ราคาสินค้าเพิ่ม สิ่งที่น่ากลัวคือ อาการเศรษฐกิจ
แบบนี้มันจะซึมลึก มันแก้ไม่ได้ง่ายๆ แบบเวลาคนรวยล้ม ภายใน 2-3 ปี คือเศรษฐกิจเด้งกลับมาสู่ภาวะเศรษฐกิจ
ปกติได้สบายๆ เพราะกำลังเงินของคนส่วนใหญ่ในประเทศที่หมุนเวียนสามารถช่วยเศรษฐกิจได้
แต่ถ้าหาก เงินของคนส่วนใหญ่ (คนที่ไม่รวย) เกิดหยุด stop ขึ้นมาอะไรจะเกิดขึ้น ทางแก้จึงยากมาก
ต้องหวังดวงล้วนๆ เช่น มีคนมาลงทุนมหาศาล มียอดสั่งซื้อจากต่างประเทศเยอะ มีคนมาเที่ยวมากขึ้นอีกๆ
ตัวเราแก้เองไม่ได้ง่ายๆ
ตอนนี้อัตราเงินเฟ้อล่าสุดของประเทศ ของเราเงินเฟ้อไม่ได้เยอะ แต่ราคาอสังหากลับสูงมาก
ผมวิเคราะห์ว่าเศรษฐกิจประหลาดๆ แบบนี้มาจากการอัด QE ในหลายๆ ปีที่ผ่านมา
ปริมาณเงินที่ถูกอัดฉีดเข้ามาเยอะทำให้ค่าของเงินลดลง ราคาสินค้าแพงขึ้นโดยอัตโนมัติ
ทั้งๆ ที่เงินเฟ้อที่เกิดขึ้นจริงๆ โดยธรรมชาติจากคนยังไม่เกิด
ผลก็คือ เงินของคนที่ได้รายได้จริงตามไม่ทันราคาสิ่งของที่เพิ่มสูงขึ้น
เพราะ QE เป็นการแก้ปัญหาของประเทศมหาอำนาจที่ผิดธรรมชาติ อยู่ดีๆ ปั๊มเงินเพิ่มได้
เรื่อยๆ ทำให้ปัญหาเศรษฐกิจประเทศตัวเองเบาบางลง แต่ประเทศอื่นๆ ได้รับผลกระทบเต็มๆ
อย่างที่ผมบอกครับ
ลองสังเกตุสภาพแวดล้อมรอบๆ ดู นอกจากดูคนรอบตัวอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะคนรอบตัวเรา
ก็คือคน level เดียวกับเรา ไม่ได้เป็นภาพรวมของคนทั้งประเทศ ให้มองดูให้หมดตั้งแต่ชั้นล่างขึ้นมา
น่าจะเป็นภาพชัดขึ้นครับ