ผู้เขียน หัวข้อ: ECO Sport  (อ่าน 13885 ครั้ง)

ออฟไลน์ OHMMY

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 494
    • อีเมล์
Re: ECO Sport
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2013, 00:14:44 »
เหมือนจะได้ยินข่าวมาว่า เครื่องอีโค 1.0 ยังไม่มาในเฟียสต้าไมเนอร์เชนจ์นะครับ

JONNY

  • บุคคลทั่วไป
Re: ECO Sport
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2013, 10:30:53 »
เหมือนจะได้ยินข่าวมาว่า เครื่องอีโค 1.0 ยังไม่มาในเฟียสต้าไมเนอร์เชนจ์นะครับ

ข่าวแบบนี้ไม่น่าเชื่อถือครับ

น่าปล่อยข่าวเพื่อหวังผล ให้รุ่นปัจจุบันขายได้มากกว่า


ออฟไลน์ sith(สิทธิ์)

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,415
  • นับ1ใหม่
    • อีเมล์
Re: ECO Sport
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2013, 10:36:45 »
รถกะบะคนไทยยังใช้แต่เจ้าตลาดนี่ครับ
ดูเจ้าตลาดสองยี่ห้อ รุ่นที่จะมี abs airbag นี่ รุ่น top ทั้งนั้น รุ่นกลางๆ ไม่ค่อยจะมี  คนไทยยังซื้อกันถล่มทลาย

ยี่ห้อรองอัด option กระจาย  ขายได้ไม่เท่าไหร่เอง   ราคาก็แรงกว่าเจ้าตลาดไม่ได้ เพราะยิ่งไม่มีคนซื้อ
เค้าเลยไปขายส่งนอกหมด ตามกลไกตลาดแหละครับ

ผมว่ายี่ห้อรอง อัด option เฉพาะแต่รุ่นท๊อปนะครับ
รุ่นกลางๆ ระบบความปลอดภัยน้อยกว่าเจ้าตลาดอีก

ผมเป็นหนึ่งคนที่รอ ให้ BT50Pro หรือ Ranger มี ESP, TRC
ในรุ่นยกสูง 2.2L หรือ 3.2L ขับ2 (ตอนนี้มีใส่ให้แต่รุ่น 3.2 ขับ 4 เท่าันั้น)
มีมาเมื่อไหร่ ก็ซื้อเมื่อนั้น ไม่รู้เมื่อไหร่จะใส่มาซักที



ผมว่ายากนะครับที่ จะให้มาสด้าใส่มาให้ ฟร์อดก็ยากเช่นกัน สองเจ้านี้อย่าหวังเลยครับ
มาสด้าตัวรถกระบะนี่ ระบบพวกนี้ผมก็ด่าเค้าได้ทุกปีจริงๆ แต่ก็เสียงไม่ถึงเค้าสักที
มาสด้าผมขอให้ใส่ ABS กับถุงลม ทุกรุ่นยังไม่ได้เลย  >:(
จริงๆหวังให้ตัวท็อป 2.2 ใส่มาครบ ESP-TRC เหมือนกัน

ออฟไลน์ OHMMY

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 494
    • อีเมล์
Re: ECO Sport
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2013, 11:32:23 »
เหมือนจะได้ยินข่าวมาว่า เครื่องอีโค 1.0 ยังไม่มาในเฟียสต้าไมเนอร์เชนจ์นะครับ

ข่าวแบบนี้ไม่น่าเชื่อถือครับ

น่าปล่อยข่าวเพื่อหวังผล ให้รุ่นปัจจุบันขายได้มากกว่า



ผมก็หวังให้เป็นเช่นนั้นเพราะ ผมใจจริงผมเฝ้ารอ อีโคบูส 1.0 อย่างใจจดใจจ่อ
เลยให้ความสนใจเป็นพิเศษ เท่าที่ทราบประมาณว่า กำลังการผลิตตัวเครื่องยนต์ 1.0 ไม่พอ
เกิดการแย่งกัน ระหว่างที่ไทยกับ อินเดีย บอกได้แค่นี้อะครับ

ออฟไลน์ Sappe!

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,976
Re: ECO Sport
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2013, 22:34:38 »
ยังไงก็รอ Eco Sport  :)
'02 Ford Ranger 2.5 Turbo XLT
'06 Ford Ranger 3.0 TDCi XLT
'10 Ford Focus 2.0 TDCi Ghia
'11 Ford Fiesta 1.6 Sport
'14 Ford EcoSport 1.5 Titanium

ออฟไลน์ ghia

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 346
  • the power of bear
    • อีเมล์
Re: ECO Sport
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 11:51:49 »
เท่าที่ได้ยินมา eco sport พึ่งเริ่มทดลองสายการผลิตที่โรงงานฟอร์ดระยองเมื่อ เดือนที่แล้วนี้เองครับ

ส่วนหนึ่งช้ากว่ากำหนดเพราะผู้ผลิตชิ้นส่วนจาก"อินเดีย"ส่งชิ้นส่วนไม่ได้ตามแผน

ชิ้นส่วนที่ส่งมาก็มีปัญหาบ้างเหมือนกัน เลยทำให้แผนช้ากว่ากำหนดไปอีก

หลายคนอาจจะกังวลว่ารถที่ผลิตมาพวกนี้จะไปไหน ขอบอกให้หายกังวลว่ารถที่ทดลองประกอบนี้

เมื่อประกอบเสร็จแล้วจะถูกส่งไป"ทำลาย"ครับ ดังนั้นไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะเอาไปขายให้คนทั่วไป


คาดว่าน่าจะขึ้นไลน์การผลิตเพื่อส่งขายได้ประมาณเดือนกันยายน แล้วเริ่มแนะนำผลิตภัณท์ได้ตุลาคม-พฤศจิกายน ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดอีก


ส่วนเรื่องเฟียสต้านั้น ตอนนี้ถ้าตัวเลขไม่ผิดพลาด ทั้งประเทศมียอดรถที่จอดใสต็อครอขายอยู่ประมาณ 8,000 - 12,000 คัน

อยู่ที่ดีลเลอร์ประมาณครึ่งหนึ่ง อยู่ที่ฟอร์ดอีกครึ่งหนึ่ง ซึ่งตัวเลขนี้ลดลงจากช่วงต้นไตรมาสสองลงมาแล้วจากเกือบ 20,000 คัน

ส่วนหนึ่งมีการย้ายไปส่งออก ทำให้สต็อคที่ฟอร์ดพอหายใจคล่องบ้าง


โดยปรกติโรงงานจะมีการคาดการณ์ยอดขายล่วงหน้า3-6เดือนเพื่อเตรียมสั่งชิ้นส่วนสำหรับการผลิต

โดยให้ดีลเลอร์ช่วยคาดการณ์ส่วนหนึ่งและรับคำสั่งซ์้อจากต่างประเทศอีกส่วนหนึ่ง

หลังจากนั้นเค้าจะมีค่าประมาณการณ์ที่บวกเพิ่มเข้าไปอีกตามสถานการณ์


การที่เฟียสต้าค้างสต็อคเยอะเนื่องจากเกิด "ดีมานด์เทียม" ขึ้นมา ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ยอดขายผิดไปเยอะจากความเป็นจริง

ดังนั้นพอสต็อคเดิมยังปล่อยออกไม่ได้ แต่ยังไงโรงงานก็ต้องผลิตอกมาทุกวันเพื่อไม่ให้ efficiency ของตัวเองต่ำกว่าเป้าที่กำหนด

เพียงแต่อาจจะลดความเร็วในการผลิตลงมา

เช่น จากเดิมเคยผลิตได้ เดือนละ 3000 คัน ก็จะลงมาเหลือยอดต่ำสุดที่สามารถสร้างรายได้เลี้ยงให้โรงงานพออยู่ได้ อาจจะที่ีประมาณ 1500 คัน

ดังนั้นทุกเดือนก็จะมีรถออกมาเพิ่มในสต็อคเรื่อยๆ


รถทุกคันที่ผลิตมาจะต้องถูกบันทึกค่าใช้จ่ายที่เป็น "ดอกเบี้ย" ที่เกิดจากการลงทุน

โดยปรกติรถคันละ 1ล้านบาท ก็จะต้องเสียดอกเบี้ยประมาณวันละ 200 บาท

แล้วถ้ารถจอดอยู่ซัก 1เดือน ดอกเบี้ยก็กินกำไรไปแล้ว 6000 บาท โดยที่ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย

แล้วถ้ามีรถจอดอยู่ซัก 5000 คัน จอดอยู่1เดือน แค่ค่าดอกเบี้ยก็ซัดไป 30,000,000 บาทแล้ว


โอ๊ว......... แม่เจ้าาาาาา
???????????? ??????????? ????????????????? ????????????????????? ??????????????????? ???????????????? ?????????????????????? ???????????????????? ???????????????? ???????????????? ????????????????? ??????????????????