สวัสดีครับสมาชิก HLM ทุกท่าน วันนี้ได้มีโอกาสลองขับรถอีกคันที่อยู่ในตัวเลือก เป็นคันสุดท้ายพอดี 1 ใน 3 ตัวเลือก นั่นก็คือ... Subaru WRX 2015 นั่นเองครับผม
ขอเล่าอะไรคร่าวๆนิดนึง Subaru WRX ปีนี้ เป็นตัวแรกครับ ที่แยกสายออกมาจาก Impreza ชัดเจนไปเลย เพราะก่อนหน้านี้จะมี Impreza รุ่นธรรมดาๆ รถบ้านจ่ายกับข้าว เครื่อง 1,500cc หรือ 2,000cc หายใจปกติ และรุ่นแรงขึ้นมาอีกนิด ต่อรหัส WRX เครื่อง 2,500cc ลงโบ และ STi เครื่อง 2,500cc ลงโบ (แต่เครื่องคนละรหัสกับ WRX นะ โบคนละลูก แรงคนละเรื่องเลย) แต่มาปีนี้ครับ Impreza โดนแยกสายออกไปทำตลาดรถบ้านล้วนๆแทนไปเลย โดยใช้ขุมพลัง FB20 เช่นเดียวกับตัว XV ครับ (จริงๆมันก็คือ XV โหลดเตี้ยนั่นแหละ และจริงๆแล้วก็พูดแบบนั้นไม่ได้เต็มปากซะทีเดียว เพราะ XV มันคือ Impreza ยกสูง ถึงตรงนี้งงไหม 5555+) ส่วน WRX แยกสายออกมาทำตลาดปณิธานต่อ เป็นรถ Indy ตัวแรง ซึ่ง Subaru เองตั้งใจจะปั้นตัวนี้แหละ ให้เป็น Sport sedan ที่ดีที่สุดในโลกเลย บร๊ะะะะะะ....
รายละเอียดเบื้องต้น เอาหลักๆก่อนนะครับ
- เครื่องยนต์ Boxer สูบนอนรหัสFA20 DIT (Direct injection + Turbo) ความจุ 2,000 ซีซี Equal-Length header พร้อม เทอร์โบแบบ Twin Scroll Boost ที่ 1.3 บาร์ (Overboost ที่ 1.53 บาร์) 268 แรงม้า แรงบิด 350nm
- เกียร์มีให้เลือกทั้ง Lineartronic CVT พร้อมล๊อคอัตราทดในระบบ 8 Speed (ในโหมด S#) และเกียร์ธรรมดา 6 Speed พร้อม Carbon Synchronizer ในเกียร์ที่ 1 และ 2
- ส่งกำลังแบบ Full time AWD
ส่วนรายละเอียดอย่างอื่นไปอ่านกันในนี้ครับ :
www.subaru-global.com/2015wrx_spec.html ก่อนจะเข้าเรื่อง เนื่องด้วยว่า ไอ้การลองขับรอบนี้ มันลองแบบงงๆมึนๆอึนๆ มาแบบไม่ได้ตั้งตัว ไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย รูปจริงๆเลยไม่มี ต้องขอยืมจากในเนทมาลงก่อนนะครับ หุหุ คราวนี้มาพูดกันทีละประเด็นไปเลยนะครับ
Exterior Credit :
http://www.autoguide.com Subaru WRX 2015 รุ่นใหม่นี้ การออกแบบในส่วนตัวผมคิดว่า เค้าน่าจะแก้จากรุ่นหน้าแมวตัวที่แล้ว เพราะคนบ่นกันเยอะว่าหน้ามันหวานไปหน่อย... ชาวดาวลูกไก่ไม่ค่อยปลื้มกันนัก ตัวนี้มาเลยออกมาแก้เกมส์จากที่ลูกค้าบ่น ส่วนตัวผม ดูแล้วชอบนะครับ มันดุ แต่ดุแบบผู้ใหญ่ ไม่ได้เถื่อน มี Design Language ของ Subaru เองคือ กระจังหน้า 6 เหลี่ยมหน้าตาแบบนั้น รถหลายๆรุ่นของ Subaru ก็กระจังหน้าประมาณนี้ล่ะครับ เพียงแต่ขนาดจะแตกต่างกันไป ไฟหน้าเป็น Xenon ทั้ง 2 รุ่น แต่ไฟหรีเกียร์ CVT จะเป็นไฟ LED สีขาว เกียร์ธรรมดาเป็นสีเหลือง ไอ้ตัว CVT ดูลงตัวกว่าเยอะ T.T (แอบน้อยใจเกียร์ธรรมดา โดน Option ต่ำสุดตลอด ทุกงานเลย) ไฟตัดหมอกมาพร้อมทั้งสองรุ่น และมีที่ฉีดน้ำไฟหน้า ซึ่งจะโผล่มาเองโดยอัตโนมัติ!!!! อันนี้เพิ่งรู้จริงๆ ว่ามันมี 5555+
Credit :
www.autoblog.comด้านหลังมี Spoiler ทรงหางเป็ดครับ อันนี้แล้วแต่คนชอบเลยนะ ส่วนตัวผมเอง ผมชอบแบบ Spoiler ทรงสูงของ STi มากกว่า มันสร้าง Downforce ได้จริง และมีประโยชน์จริง ส่วนใครชอบรถแนว Sleeper Car ก็ตามนี้เลยครับ ไม่ต้องยุ่งอะไรเลย หุหุ
รวมๆแล้ว ภายนอกผมว่ามันก็สวยในแบบของมันครับ มันไม่ได้สวยแบบที่ใครๆมองแล้วก็สวย ต้องมองนานๆ ถึงจะรู้สึกว่า เออ...มันสวยแฮะ งานนี้ ขึ้นกับรสนิยมเลยครับ คนที่ชอบคือ มองปุ๊บ เฮ้ย สวยยยยยยยยย แต่ถ้าไม่ชอบเลยเนี่ยคือ มองปุ๊บ แหวะ... ไม่ผ่าน ประมาณนั้นกันเลยครับ
Interior Credit :
www.autoguide.comด้านในสำหรับโฉมนี้มีการเปลี่ยนแปลงเยอะพอสมควรครับ จากด้านหน้าเลย พวงมาลัยเป็นแบบ D-Shape คือ ตำแหน่ง 6 นาฬิกาของพวงมาลัยมันจะไม่กลมครับ มันจะป้านๆ ให้อารมณ์ Racing ประมาณนั้น หุ้มหนังมาอย่างดี แน่น และกระชับสุดๆ บนพวงมาลัยมีระบบ Multifunction และมีทั้งระบบ Cruise control ด้วยครับ แต่ส่วนที่ประทับใจมากของพวงมาลัยผมคือ สวิทช์ไฟเลี้ยวอยู่ข้างขวาครับ เพราะถ้าไปอยู่ซ้ายเหมือนรุ่นอื่นๆเวลาจะเข้าเกียร์นี่คงลำบากครับ ทั้งตีไฟเลี้ยว ทั้งเข้าเกียร์ คงไม่สะดวกเป็นแน่แท้
Credit : m.subaru.ca
Console ตรงกลาง จากบนลงล่างนะครับ มีจอบอก Information ทั้งหลาย ตั้งค่าหน้าจอการแสดงผลได้ เป็นจอสำหรับการมองถอยหลัง เป็นเกจวัด Boost ได้ด้วย !! และอีกอย่างคือ ความละเอียดของจอ ดีกว่าจอตรงกลางของ A-Class หลายขุมอีกด้วย!!!!!!!!!!!!!!! (กะอีแค่จอนี่ก็ทำผม Surprise ไปหลายอย่างแล้วครับ จริงๆนะ) ลงมาก็ช่องแอร์ วิทยุพร้อม Bluetooth ต่อมาก็ระบบแอร์ซึ่งน่าจะไปยกสวิทช์ทั้งหมดมาจาก Toyota Altis มาลงเลย... ไม่ได้พิมพ์ผิดครับ ตามนั้นจริงๆ มันละม้ายคล้ายคลึงกันอย่างน่าตกใจจริงๆนะ 5555+ สุดท้ายอีกก็คันเกียร์ครับ...
Credit :
www.cars101.com คันเกียร์ขอแยกใสตรงนี้เลยนะครับ เพราะเรื่องมันยาว... ก่อนหน้านี้ ผมเคยลองจับคันเกียร์ของ Subaru BRZ และ Subaru Impreza WRX STi รุ่นโฉมหน้าแมว ใจผมให้คันเกียร์ของ BRZ เป๊ะสด ระยะ Shift เกียร์สวยมาก สั้นและกระชับสุดๆ ส่วนหน้าแมวก็ยาวขึ้นมาอีกหน่อยครับ ตัว WRX เอง ผมว่าระยะ Shift ใกล้เคียงกับหน้าแมวตัวก่อนนะ แต่ที่ดีกว่าคือ มันกระชับกว่า ชัดเจน และลื่น คันเกียร์ตำแหน่งเกียร์ว่าง จะไม่ได้ตั้งตรงเป็นเสาธงขึ้นมานะครับ มันจะ "เอนซ้าย" ไปหน่อย เหตุผลคือวิศวะออกแบบตาม Anatomy ของมือเราครับ เวลามือเราเอื้อมไปจับอะไรซักอย่าง รูปมือเราจะไม่ได้ไปตรงๆครับ มันจะเอียงนิดนึง ตรงนี้สุดท้ายสุดเซลล์เป็นคนบอก ผมไม่ได้สังเกตุนะ 5555+
Credit :
www.motortrend.com ต่อไปเรื่องเบาะนั่งนะครับ เบาะนั่งท่านจะได้เบาะผ้านะครับ (ในรูปเป็นของเมืองนอก เบาะหนังครับ) ทั้งเกียร์ Manual และ CVT ตัวเบาะเองปรับมือล้วนๆ...อีกแล้ว....(ดีนะ ที่กระจกไม่หมุนมือด้วย 55555+ นั่นก็ว่ากันไป) เบาะนั่งคนขับ กระชับมากครับ ก่อนหน้านี้ผมเคยไปขับ A-Class แล้วโคตรไม่ประทับใจเลย มันเล็ก (ผมขนาดตัวประมาณ น้องๆพี่แพน COMMANDER CHENG ครับ... แต่ไม่รู้ว่าพี่มีปัญหาเหมือนผมไหม อิอิ) เล็กมากๆ จนนั่งแล้วอึดอัด ขับแล้วเมื่อยแน่ๆ ส่วน VW Golf GTi นั้น ก็ ok ครับ สูสีกับ WRX เลย เพียงแต่ Golf GTi ได้เบาะหนัง (ซึ่งผมไม่ชอบบบบบจริงๆ) ตัวเบาะเองนั่งสบาย ไม่เมื่อยแน่นอนครับ ตำแหน่งเบาะเหมาะสมมาก ตรงพวงมาลัยเด๊ะ
ส่วนเบาะหลัง กว้างงงงงครับ ผมกะด้วยความรู้สึก ช่วงเข่าของคนนั่งหลัง จนถึงเบาะหน้า น่าจะแคบกว่า Sylphy หน่อยนึงครับไม่เยอะมาก แต่ยืนยันว่าดีกว่า A-Class และ CLA อย่างแน่นอน เนื่องด้วยรุ่นนี้ เค้าเพิ่ม Wheel base ออกไปอีก 1 นิ้ว เลยได้ Leg Room ด้านหลังมาเพิ่มอีก 2 นิ้ว (ผมก็งงๆอยู่ว่า ขยายไป 1 นิ้ว แต่ได้ Leg room มา 2 นิ้วนี่มันทำยังไง??? 5555+)
TEST DRIVE วันที่ผมไปขับนั้น มีข้อจำกัดตรงที่ว่า รถค่อนข้างเยอะ ออกจากศูนย์เสรีไทย ขึ้นวงแหวนตะวันออก ลอง 0-100 ไม่ได้ และลอง 80-120 ไม่ได้เช่นกัน ได้แต่ลองกดในระยะสั้นๆ และการเข้าโค้ง นะครับ อันนี้จะพิมพ์ไปเรื่อยๆตามที่คิดได้
แรงดึง ดึงดีกว่า Golf GTi ครับ แต่ดีกว่าไม่มาก Golf มันเป็นเกียร์ DSG ฉะนั้นการดึงจะค่อนข้างสุภาพกว่า แต่หลังติดเบาะนะครับ แต่ WRX เอง มันดึงแบบกระชาก จะค่อนข้าง "ดิบ" และ "เถื่อน" กว่าพอสมควรครับ ตัวเลขจากโรงงาน เคลม 0-100 ไว้ที่ 5.6 วินาที ประมาณนี้ครับ เมืองนอกเทสเองก็ประมาณนี้ แต่บ้านเราอากาศนี่ยังกะทะเลทราย เชื่อผมเหอะ จับเวลากันจริงๆ ก็น่าจะ 6 วินาทีหน่อยๆครับ Turbo lag เองน้อยมากครับ มันมาเร็วจนผมเองก็ตกใจ รอบกวาดขึ้นไปเร็วมาก คันเร่งไฟฟ้า ตอบสนองได้ตามสั่ง และตามตีนมาก ความเร็วสูงสุดที่ผมไปถึง ณ สภาพจราจรที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวยนักคือ 180 Km/H ครับ แต่คือมันไปได้มากกว่านี้ ได้มากกว่าเยอะเลย เพราะขนาด 180 แล้ว กดอีกก็มาอีกนะ แต่อย่างที่บอก สภาพจราจรวันนั้นมันไม่ได้จริงๆ เลยต้องถอนไป เรื่องแรงของเครื่องกับเกียร์ผมไม่มีข้อกังขาใดๆทั้งสิ้นครับ มันแรงเหลือเฟือจริงๆ เพียงพอกับทุกสถานการณ์ที่ต้องการ พวงมาลัยตอบสนองดีมากครับ คม ถึงแม้จะเป็นพวงมาลัยไฟฟ้าล้วนๆก็ตาม ในย่านความเร็วต่ำ น้ำหนักเบาดีครับ กำลังดี เลี้ยว หรือกลับรถ ทำได้อย่างง่ายได้ ในย่านความเร็วสูง จะนิ่ง และคมมากเวลาเปลี่ยนเลน หรือเลี้ยวครับ
เรื่องช่วงล่าง ด้านหน้าเป็น MacPherson Strut ส่วนด้านหลังเป็น Double Wish Bone มาพร้อมล้อ 17 นิ้ว ยาว Dunlop SP MAXX RT วิ่งทางด่วนไม่ถือว่ากระด้างนะครับ ด้วยวันที่เทส นั่งกันไปทั้งหมด 5 คน คนด้านหลังบ่นว่าค่อนข้าง Bump พอสมควร แต่ตัวผมขับเอง ผมรับได้นะ
การทรงตัวถือว่า "โคตร" ดีเยี่ยมครับ ผมมีโอกาสได้สาดโค้งนี้ครับ :
https://www.google.co.th/maps/@13.790673,100.683863,3a,75y,160.37h,85.23t/data=!3m4!1e1!3m2!1siMRY6P9Y_nCTueUAKVzhfw!2e0คลิ๊กเข้าไปใน Link ทางเข้าไปใต้สะพานด้านหน้านั่นคือโค้งที่ผมเข้าไปครับ เข้าด้วยความเร็ว 90 Km/h แล้วยังนิ่ง นิ่งได้อย่างไม่น่าเชื่อ จะเติมคันเร่งก็ได้นะครับจริงๆแล้ว ยางยังไม่ร้อง ทุกอย่างยังคงเสถียรมาก แต่ด้วยผมห่วงความปลอดภัย เลยเอาไว้แค่นั้นก่อนครับ แต่ยืนยันว่าสามารถเข้าเร็วกว่านี้ได้ เรื่องช่วงล่างนี่ผมยอมจริงๆ
Conclusion ด้วยก่อนหน้าที่ผมจะไปทดลองขับคันนี้ ผมพยายามค้นหาข้อมูลใน Internet แทบจะทั้งหมดแล้วครับที่มีอยู่ คลิปใน Youtube รีวิวรถในเวปดังๆทั้งหลายมา ทำให้เกิดความคาดหวังของผมสูงมาก สูงมากว่ามันต้องทำได้ดีกว่า Golf GTi (ซึ่งมันทำคะแนนได้ดีที่สุด ใน 2 คันที่ผมลองมา) และสุดท้ายที่สุด มันได้ทำให้ผมประทับใจ "เกินคาด ไป มากกกกกกก" Golf GTi ที่ว่าดี ที่ว่าผมหลงรักมันแล้ว WRX ทำได้ดีกว่าในหลายๆด้าน แต่ในขณะเดียวกัน อีกหลายๆด้านก็ยังแพ้ Golf GTi อยู่ครับ เช่น ภายในที่ดูแล้วธรรมดา ไม่ทันสมัยเหมือน Golf เทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งตรงนั้นเป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ แต่ถ้าการขับขี่แล้ว ผมให้คะแนน WRX ดีกว่าครับ (แต่ไม่ได้ดีกว่าแบบกระโดดนะ 555+) ข้อดีผมพูดมาน่าจะหมดแล้ว ขอพูดข้อเสีย เป็นข้อๆบ้างนะครับ
1. Option ที่ให้มา (สำหรับคนที่ซีเรียสเรื่อง Option นะครับ) ถือว่าค่อนข้างน้อยสำหรับรถราคาขนาดนี้ แต่ถ้าเมื่อเทียบกับ WRX โฉมที่แล้ว ถือว่าพี่แกใจดีขึ้นเยอะครับ ให้มาเยอะกว่าเดิมเยอะเลย
2. ซดน้ำมันโฮกๆ ข้อมูลตรงนี้ผมไม่ได้จับมา แต่จากข้อมูลทั้งหมดที่มี เมืองนอกเทสกันอะไรกัน ตัวเลขดีที่สุดที่เห็น ก็ประมาณ 13 KM/l ครับ แต่เค้าขับ 120 ตลอด ถ้ามาตรฐาน HLM นั่งสองคนเปิดแอร์ขับ 110 Km/h เปิด Cruise control ก็ลุ้นว่าจะได้เห็นเลข 14 Km/l ครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมว่ายากกกกกส์ เพราะ 268 ม้าอยู่ที่ตีนของท่าน จะขับโหมดสันติภาพคงจะยากนะครับ
3. เสียงลมเข้าห้องโดยสาร ความเร็วประมาณ 110 Km/h ค่อนข้างดัง แต่เซลล์แจ้งว่า รถเทสเป็นรถ Pre-production ประมาณว่า จะไม่ครบเหมือนตัวขายว่างั้นครับ อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกัน พูดไปตามที่เห็นครับ
4. ราคาถือว่าแพงกว่าคู่แข่งไปเยอะพอสมควร ผมเข้าใจว่าน่าจะโดนภาษีหนักเรื่องแรงม้าครับ
5. หน้าตาที่ดูธรรมดาไปนิดนึง สำหรับคนทั่วไป ยิ่งบอกราคา + กับหน้าตาเข้าให้แล้ว คนทั่วไปแทบจะกรี๊ดแทนเจ้าของรถล่ะครับผมว่า
หมดละครับ เท่าที่คิดได้ สุดท้ายก็ฝากไว้เท่านี้ครับ
ขอบคุณครับ
ปล. หากข้อมูลตรงไหนผมผิดพลาดไป ต้องขออภัยและแจ้งด้วยนะครับ ผมจะได้ทำการแก้ ขอบคุณครับ
ปล2. สุดท้ายสุดจริงๆ ผมขอชื่นชมเซลล์ Subaru จริงๆครับ ถ้าบอกชื่อออกตรงนี้ได้ผมคงบอกไปแล้ว หาเซลล์ที่มีความรู้แบบนี้ยากครับ ปกติผมถามข้อมูลรถกับเซลล์ยี่ห้ออื่นจะตอบไม่ค่อยตรงครับ คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง พี่คนนี้แกเจ๋งจริง ผมยอมจริงๆ บริการดีมาก ผมอยู่ต่างจังหวัด แต่โทรคุยกับพี่แกตลอด พี่แกบริการดีจริงครับ ต้องขอบคุณอีกทีจริงๆ