เรียน ท่านผู้การ ครับผม
ก่อนอื่นขอขอบพระคุณท่านมากๆครับ สุดยันเรดไลน์ จนกล่องสั่งตัดครับผม สนุกมากๆครับ
ทีนี้อยากจะรบกวนให้ท่านเผาหัวแล้วช่วยเล่าเรื่องตอน VW กุ๊กกิ๊กกับ Suzuki
ให้ฟังหน่อยครับ ท่าทางจะแซ่บอยู่มิน้อยครับผม
ขอบคุณมากครับ
อันนี้เล่าไม่ยาว เพราะไม่ค่อยมีตำนานอะไรระหว่างสองค่ายนี้ให้เม้าท์ครับ
อย่างที่เรารู้กันว่า Volkswagen นั้นพยายามขยายอาณาจักรของตัวเองด้วยการ "มีรถที่ตอบโจทย์ทุกตลาด"
แต่นอกจากการมีรถที่ขายคนได้เยอะแล้ว การขวนขวายหามือปืนเก่งๆบางทีก็เป็นทางเลือกที่ดี
เพราะหนึ่ง ไม่เหนื่อย สอง บรรลุเป้า ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม
ตั้งแต่ก่อนวิกฤติเศรษฐกิจนั้น VW Group แอบชำเลืองมองมาทาง Suzuki มานานแล้ว
จกข้าวเหนียวกินอยู่ก็แอบมอง นั่งเรียนอยู่คนละฝั่งห้องก็แอบมอง ขนาด Suzuki กำลังยืนหาวไม่ปิดปาก
VW Group ยังแอบปลื้ม
ทำไมมาปลื้มกับค่ายรถอาทิตย์อุทัยเล็กๆที่ไม่เคยทำรถระดับพรีเมียม ไม่ต้องพูดถึงรถ D-Segment
ที่ขนาดทำ Kisashi ออกมาก็มีบุคลิกแบบรถเล็กมากกว่ารถใหญ๋? คุณทวด Osamu Suzuki นี่ก็แก่แล้ว
หรือ Piech จะมีรถนิยมปิ๊งคนวัยเดียวกัน? เปล่าหรอก Suzuki น่ะ มีสิ่งที่ VW Group สนใจอยากได้อยู่
1. อยากได้วิชาเทพในการสร้างรถเล็ก ซึ่ง Suzuki เก่งเพราะทำมาช้านาน
2. อยากได้บุคลากรที่ชำนาญด้านการพัฒนาอุปกรณ์ VW ลดต้นทุนเก่ง Suzuki ก็ลดต้นทุนเก่ง
แต่ทำไมวัสดุและอุปกรณ์ลดต้นทุนของ Suzuki ถึงใช้ทน ใช้นาน และไม่จุกจิก?
3. อยากอาศัยบารมีซุ้มมือปืน ที่ Suzuki วางเอาไว้ในตลาดอินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ซึ่งในบางส่วน VW เข้าไม่ถึง เครือข่ายการขายสามารถพ่วงเข้าด้วยกัน ฝากผีฝากไข้กันได้
หากพันธมิตร VW/Suzuki เกิดขึ้นจริง
วันหนึ่ง VW Group ก็ใจกล้าหน้าเจ้าชู้ มีแฟนชาวยุโรปอยู่แล้วมากมายทั้งสาวเยอรมัน สาวเช็ค
สาวอิตาเลียน สาวสเปน ยัง มันยังไม่พอ วันนี้มันอยากมีแฟนเป็นสาวญี่ปุ่น เลยใจกล้า
ขอ add facebook ไปช่วงปี 09 เนี่ยมั้ง แล้วปรากฏว่าโชคเข้าข้าง สาวญี่ปุ่นอย่าง Suzuki
กด Accept Friend Request ทีนี่อีหนุ่มใหญ่ไส้กรอกเยอรมันเลยดีใจแทบติดปีกบิน มันก็เปิด
เข้าไปดูทุกอย่างเลย ทั้ง Photo album ทั้ง mobile upload เสร็จแล้วยิ่งดูยิ่งชอบ เลยขอนัดเจอ
ซึ่งพอเจอกัน Suzuki ก็พูดแบบเปิดใจว่า อ่ะ ลองคบกันดูก็ได้วะ ที่จริง VW Group ก็มีอะไร
ที่ Suzuki อยากได้เช่นกัน เช่น Know-how ในการสร้างรถขนาด C-Segment ขึ้นไปจนถึง
รถขนาดใหญ่ ซึ่งตรงนี้คลังความรู้ในห้องสมุดที่บ้านของ VW Group นั้นมากมายมหาศาล
VW Group ซื้อหุ้น 19.9% ใน Suzuki ในขณะเดียวกัน หุ้นจำนวนหนึ่งของ VW Group
ก็ขายให้ Suzuki ผมจำไม่ได้ว่ามัน 1.5 หรือ 5% แต่น้อยมาก
หลังจากคบกันมาได้สักพัก VW เริ่มมีท่าทีคุกคาม คุยอะไรกัน ผลประโยชน์ก็เหมือนกับ
จะออกไปทางฝ่ายชายเป็นส่วนมาก ถ้าแต่งงานกันฝ่ายชายดูจะบังคับเลยว่าต้องแต่งเข้าบ้านชาย
แล้วอาจจะต้องย้ายไปอยู่เยอรมัน
Osamu ก็เป็นเฒ่าทรนงในสไตล์ของเขา อ่านเกม VW Group ออกว่าสักวันอนาคตของค่าย
ต้องไปจบในสไตล์ Seat/Skoda คือมีรถเล็ก มีรถใหญ่ แต่ทำอะไรก็ตามก็จะมีพ่อตาจอมโหด
อย่างตา Piech คอยจ้องตาเขม็ง และคุณสมบัติของตา Piech ก็อย่างที่เคยบอกว่าใครอย่าได้คิด
นอกลู่นอกทาง ไม่งั้นเล่นจนหมดทางหนีทีไล่หมด
แต่บางคนก็บอกว่า VW Group ไม่ได้คิดจะงาบงั่ม Suzuki ถึงขนาดนั้น เป็นเพราะตา Osamu
และบอร์ดบริหารกลัว Suzuki สูญเสียอิสระในความคิด อยากทำอะไรก็ไม่ได้ทำ
ต้องขอพ่อตาก่อน จะขี้จะเยี่ยวจะเที่ยวห้างต้องขอหมด Suzuki ไม่ชอบสภาพแบบนั้น
วันนี้อยากไปดูหนังก็ไป พรุ่งนี้อยากเที่ยวทะเลก็จะไป ไม่ชอบให้ใครมากำกับ
ก็เลยเริ่มตีจากหนุ่มเยอรมันออกไป เพราะหนุ่มเยอรมันดันไปกดLike ไปเม้นมันทุกโพสท์
จนสาวเจ้ารำคาญจิต พูดเรื่องอนาคตมากไปโดยลืมว่า Suzuki คิดและทำเหมือนสาวอายุ 20 ต้น
ที่ไม่ชอบการผูกมัด ..สรุปเลยมาได้แค่เป็นแฟนอยู่สองปี แต่ไม่แต่งงานกัน
VW Group เสียใจ ปากก็ยังบอก เขียนสเตตัสตัดพ้อสาวไปวันๆ อยากให้กลับมาคืนดีกัน
อยากให้กลับมารักกัน ในขณะที่ Suzuki บอกว่าเราพอกันเหอะ เราเอาของที่เธอทิ้งไว้บ้านเรา (หุ้น)
มาคืนแล้ว ทีนี้เอาของของชั้นมาบ้าง (หุ้นเหมือนกัน) แล้วต่างคนต่างไป
แต่จริงๆแล้วเข้าใจว่าทาง Piech ยังไม่ละความพยายาม ในเจนเนอเรชั่นหลังๆเมื่อบอร์ด
เปลี่ยนขั้วอำนาจเขาอาจจะส่งคนมาจีบ Suzuki อีก เพราะ Piech รู้ว่า Suzuki มีดีตรงไหน
เขายังเคยพูดออกสื่อด้วยซ้ำ ตอนที่โดนนักข่าวยอว่า แหม VW Group เนี่ยเทพเรื่องลดต้นทุนจริงๆนะคะ
ลดต้นทุนชิบหายวายป่วงแต่รถยังออกมาแล้วดูดี Piech ตอบว่ายังมีอีกคนที่เทพกว่าลุงอีกนะจ๊ะ
เขาคนนั้นคือ Osamu Suzuki