Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: blitzpao ที่ มกราคม 01, 2020, 23:38:58
-
กลายเป็นประเด็นอีกแล้วเมื่อทีมวิศวกร Mazda ให้สัมภาษณ์บอก MX-30 รถพลังงานไฟฟ้าที่จะขายปีนี้ในยุโรป บอกว่าที่ใส่แบตแค่ 35.5KWH เพราะถ้าใส่ใหญ่กว่านี้ (Tesla เริ่มที่ 65+ ) จะทำให้รถปล่อยมลพิษมากกว่าเครืองดีเซลเพราะกระบวนการผลิตแบตสร้างมลพิษมาก แต่ก็มีคนออกมาแย้งว่ากระบวนการขุดเหมืองลิเธียมมันไม่ได้แย่ขนาดนั้นก็เถียงกันต่อไป แต่ที่แน่ๆ ถ้าจะให้คลีนจริงๆต้องกระแสไฟที่ชาร์ทเข้าต้องมาจากพลังงานสะอาดด้วยซึ่ง Tesla ทำคือหลังคาเป็น Solar Cell แล้วชาร์ทเข้ารถอันนี้คลีนแน่
https://www.caranddriver.com/news/a30368903/mazda-mx-30-ev-vs-diesel-emissions/
https://www.blognone.com/node/113891
แถมคลิป Engineer Explain อธิบายจุดคุ้มทุนในมุมมองมลพิษ
https://www.youtube.com/watch?v=6RhtiPefVzM
-
ฟังหูไว้หู
-
แบตให่มันแพง แค่นั้น หรือ เทคโนโลยีตัวเองไม่ถึงเอง
-
แบตน้อยไป วิ่งได้ไม่ไกล เกรงว่าจะไม่ถูกใจผู้บริโภคนะสิครับ ไม่งั้นต้องพยายามชูความเป็น city car มากๆ แบบขับในเมือง กลับบ้านมาชาตทุกวัน อะไรแบบนี้
-
ลดต้นทุนแต่พูดให้ดูสวยๆไว้แค่นั้นแหละ
-
ก็คงไม่ต่างไปจากที่ตัวเองต้องทำ CX-30 ขายแทน CX-3 หรอก
ไม่คิดบ้างล่ะว่า CX-30 ใหญ่กว่า ต้องลงทุนมากกว่า กินน้ำมันมากกว่า ก็เปลืองมลพิษมากกว่า
วาทกรรมสนับสนุนเหตุผลการขายของตัวเองจะพูดแบบไหนก็ได้ อิอิ
-
พูดแบบนี้ คนด่าเยอะ เดี๊ยวก็ได้เจ๊งจริงๆ กันพอดี ลดต้นทุนกับตามเทคโนโลยีและคู่แข่งไม่ทันก็บอกมาเหอะ อาจได้ไปพร้อมกับ Nissan แหง
-
ค่ายนี้อินดี้ครับ
ตั้งแต่เครื่อง Rotary ตามมาด้วย Skyactive ปิดท้ายด้วย ดีเซลน้ำดัน
-
ดีเซลน้ำดัน , ปั้มติ๊กพัง นี่ก็รักษ์โลกใช่มั้ยครับ จะได้ไม่ต้องใช้รถเยอะ :-* :-* :-*