Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: sengausa ที่ กันยายน 05, 2016, 09:50:49
-
1. ได้ เพราะขนาดไม่มีส่วนลด ยอดขายของ Isuzu ไม่ได้ห่างกับ Toyota เท่าไหร่
2. ไม่ได้ เพราะ ถ้า Isuzu ลดราคามาสู้ Toyota ก็มีแผนอื่นมาเพื่อการเป็นอันดับ 1 อยู่ดี
3. อื่นๆ ครับ
-
ตอนพ่อผมซื้ออีซุซุ สีฮิต สี เขียว เมื่อประมาณ 9 ปีที่แล้วมั้ง เงินสด ตอนนั้นมีของแถมเป็นสร้อยทอง 1 บาท แต่พ่อผมไม่เอา เค้าเลยลดเงินสดให้ 2 หมื่น นอกนั้นไม่มีส่วนลดอะไรเลยครับ แต่คนใช้เยอะอยุ่ สีเขียว
-
มีโอกาสครับ ถ้าปรับปรุงตัวรถในบางเรื่องเพิ่มติมครับ
เช่น การออกแบบ ความแข็งแเกร่ง ความทนทานในบางส่วนนะ ผมว่ายังเป็นรองโตโยต้าครับ
-
ชม. นี้คงยากเพราะ OPTION สู้เพื่อนบ้านต่างประเทศ ที่มีหน้าตาโดนกว่า ส่วนอีกเพื่อนบ้านถิ่นเดียวกัน ศูนยบริการมาก ฐานลูกค้า กว้างตั้งแต่โฉมที่แล้ว ถึงโฉมนี้หน้าจะแหลมไปหน่อย ลูกค้าก็ยังอุดหนุนอยู่เช่นเคย
อีกประเดนคนเบื่อที่คุน ออกMY2014 MY2015 NANO MINOR มันทุกปี ถี่เกิน จากลูกค้าเก่าเช่นผม รถเราเก่าอีกแล้ว ตกรุ่นซะแล้ว
กลับเป็นว่า จึงทำให้ไม่อยากซื้อใช้อีก
-
มีแต่ต้องปรับปีุงอีก เช่น
1.อ๊อปชั่นความปลอดภัย ที่ค่อนข้างจะเสียเปรียบโต ส่วนด้านความบันเทิงดีแล้ว
2.การตกแต่งภายในตอนนี้ผมมองว่าโตดีกว่าเยอะ
3.การเก็บเสียงจากภายนอก ซึ่งโตทำได้ดีกว่า
4.เครื่องยนต์ การตอบสนองของเกียร์ คันเร่ง ที่คนส่วนใหญ่ของประเทศมองว่ายังสู้โตไม่ได้ในเรื่องความกระฉับกระเฉง และตีนต้นที่ไม่ปรู๊ดปร๊าดเท่า คงเพราะเน้นความประหยัด
5.ช่วงล่างที่น่าจะทำให้เฟิร์มกว่านี้อีกหน่อย และพวงมาลัยมันไม่ค่อยมั่นใจเมื่อขับเกิน 110 ไปแล้ว
คิดออกแค่นี้เท่าที่ใช้ดีแม็กอยู่เมื่อเทียบกับโตต้า
-
เป็นได้ครับ ในฐานะแชมป์เก่านานเถึงเกือบ 20 ปี มีแฟนประจำมากมาย แค่เปลี่ยนเทคโนโลยีใช้เครื่องเล็ก 1.9 ทีเดียวรีโว่ถึงกับเสียศูนย์กว่าจะตั้งหลักได้ก็เกือบปีด้วยส่วนลดและงบโฆษณามหาศาล ลองคิดดูว่าเกิดอีซูสุปรับปรุงตัวถังให้ดูใหญ่บึกบึนเหมือนฟอร์ดเรนเจอร์ขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น
-
1. ครับได้แน่นอนปรับ product อีกหน่อยได้อยู่แล้วมีคนเชื่ออยู่เยอะครับ แต่ไม่รู้จะทำๆไม เอาไปแต่สถิติมั้งครับ
-
เป็นไปได้ครับ ถ้าปรับปรุงภายในอีกหน่อย ขนาดการมาของ 1.9 ทำเอารีโว่
ระส่ำระสายเลย จนต้องมีโปรมหาโหดตั้งแต่เปิดตัวไม่นาน
-
ต้องปรับปรุงตัวรถทั้งด้านการออกแบบภายใน การเก็บเสียง การขับขี่ ให้สูสีกับrevo เพราะd-max ปัจจุบันผมว่าสูสีแค่ vigo เท่านั้นที่สำคัญเกีย เกีย 6AT ใน1.9 รู้สึกมันไม่ฉลาดเท่า revo 2.4 แถมบางจังหวะเปลี่ยนเกียไม่นิ่มเหมือน revo ด้วยทั้งๆที่ลูกเดียวกัน ส่วนสำคัญอีกส่วนนึงคือคุมดีลเลอร์หน่อย บางแห่งบังคับชื้อแพกเกจบ้าบอคอแตกราคา 2-3 หมื่น(ไม่มีประกันชั้นในแพกเกจนี้)ที่ไม่จำเป็นเลยสักนิดกับค่าประกันคนส่ง5-8พันในd-max และ10000ใน mu-x ไม่งั้นก็ไม่ขายรถให้ ถ้าทำได้ก็ขายดีชนิด revo โดยไม่ต้องอัดโปรแล้ว
-
ถ้าอัดส่วนลดสู้ได้ยอดขายก็จริง แต่กำไรอาจจะลดลงมั้งครับ เขาเลยไม่ทำ
-
เคยเป็นที่หนึ่งมาก่อนแล้วนะครับ ยอดตอนนี้ก็ไม่ได้ห่างมาก ถ้าปรับอุปกรณ์ให้ดูคุ้มค่า ออปชั่นครบๆก็ไม่แน่นะครับ อัดโปรโมชั่นเข้าไปอีกหน่อย ;D
-
จะเปลืองตัวทำไมครับ แค่ดูส่วนลดในปัจจุบัน เทียบกับยอดขายก็รู้แล้วว่า รีโว่ ไม่ใช่คู่แข่งเลย แทบไม่มีส่วนลดยังขายได้ขนาดนี้ กำไรบาน ขายได้น้อยกว่าพันคัน แต่กำไรต่อคันมากกว่าแน่นอน
-
ได้สบายครับ ตราบเท่าที่เรโว้ยังเป็นปลาดุก
-
เป็นที่1 ไปแล้ว 1.9 Ddi Blue Power มา Revo มีเซๆ เดินไปไม่ถูกเลยที่เดี่ยว จน Revo อยู่เฉยๆไม่ได้ ต้องอัดโปรกระหน่ำ
ปรับปรุง อุปกรณ์ภายใน เพิ่มถุงลม การเก็บเสียง และออฟชั่น
สำหรับยอดขายไปเรื่อยๆ ไม่จำเป็นต้องแข่งกับ revo ครับ
-
ที่ 1 คงไม่ต้องการ ยอดขายต่างกันไม่กี่ร้อยคันในบางเดือน แค่อันดับที่ 2 ก็กินยาวๆ ทิ้งห่างอันดับ 3 เยอะ ไม่ต้องไปลดแลก แจกแถมอะไร เพื่อให้เป็นที่ 1
-
ไม่ได้ครับเพราะกำลังการผลิตเต็มที่แล้วและนโยบายไม่ได้ต้องการยอดขายที่ 1 ซึ่งถ้ากำลังการผลิตได้จะเอายอดที่ 1 เมื่อไหร่ก็ได้ง่ายๆแค่อัดโปรแต่ก็ไม่ทำอยู่ดีแหละ
ชิ้นละ 10 บาทกำไรชิ้นละ 3 บาท ขายได้ 100 ชิ้น กำไร 300 บาท
กับชิ้นละ 9 บาทเหลือกำไรชิ้นละ 2 บาทขายได้เป็น 130 ชิ้น กำไรรวม 260 บาท
-
ไม่ได้ครับเพราะกำลังการผลิตเต็มที่แล้วและนโยบายไม่ได้ต้องการยอดขายที่ 1 ซึ่งถ้ากำลังการผลิตได้จะเอายอดที่ 1 เมื่อไหร่ก็ได้ง่ายๆแค่อัดโปรแต่ก็ไม่ทำอยู่ดีแหละ
ชิ้นละ 10 บาทกำไรชิ้นละ 3 บาท ขายได้ 100 ชิ้น กำไร 300 บาท
กับชิ้นละ 9 บาทเหลือกำไรชิ้นละ 2 บาทขายได้เป็น 130 ชิ้น กำไรรวม 260 บาท
จริงครับ
บางที isuzu ฟันกำไรมากกว่า toyota อีกนะ
การตลาดโตโยต้าใช้เยอะกว่า เน้นขายจำนวน เพื่อดันยอด
กลับกัน อิชุชุ ไม่ได้อะไรมากมายกับการตลาด กำไรอาจจะเยอะกว่า โตต้าก็เป็นได้
-
มันก็จริงครับที่อีซูซุได้กำไรมากกว่า เท่าที่ดูมา เห็นแต่ปรับรุ่นอัญมณีเยอะแยะเต็มไปหมด (แต่โฉมปัจจุบันยังไม่มี เปลี่ยนเครื่องยนต์ (พึ่งเปลี่ยนตามกลไกตลาด) นอกนั้น ลดต้นทุนภายใน ไม่มีส่วนลด อุปกรณ์ต่างๆ น้อยกว่าเพื่อน ช่วงล่างไม่เคยเปลี่ยน ขณะที่คู่แข่งเขาเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพื่อให้รถดีขึ้นทุกๆ ด้าน
-
ทำธุรกิจ เอากำไรครับ ไม่ได้เอาโล่
ตอนนี้ ISUZU ทำได้ตามเป้าหมาย กำไรก็ตามเป้าหมาย ไม่ต้อง ดิ้นรนอะไรแล้ว
ตอบ คำถาม ผมว่าทำไม่ได้ เพราะเค้ามองกำไร ไม่ได้มองยอดขาย
-
ปรับออปชั่นให้ทัดเทียมกับคู่แข่ง
หาส่วนลดมาเวลาซื้อรถ
จบ ชนะแน่นอน
-
ทำไมจะเป็นอันดับ1ไม่ได้ละครับ แค่ อัดส่วนลด50k-80kแบบรีโว่สิครับ รับรอง ยอดรีโว่ที่เป็นที่1ตอนนี้ หายไปเพียบ
ขนาดแทบไม่มีส่วนลด ยอดขายยังได้ขนาดนี้ ก็ลองคิดดูละกันครับ ว่าบริษัทได้กำไรแค่ไหน ยิ้มทั้งบริษัทแม่ ยิ้มทั้งโชว์รูมจำหน่าย
-
ผมว่าพูดปลอบใจตัวเองมากกว่า เน้นขายเรื่อยๆไม่ต้องแข่งกับใครก็กำไรเยอะแล้ว
ต้องดูต้นทุนต่อคันทำมาเท่าไหร่ ขายเท่าไหร่ ดูรีโว่ตั้งราคาสิ พอลดราคาลงมาก็ไม่ต่างจากดีแม็กมากนัก เพราะฉะนั้นยอดขายมีผลต่อกำไรแน่นอน จะบอกว่าดีแม็กไม่แถม อันนี้ก็ปลอบใจตัวเองอีก
-
ยาก แล้วครับ ตอนนี้มีตัวเลือกมากมาย ไม่เหมือนเมือก่อน เทคนิคการตลาด ต่างไม่ยอมกันอยู่แล้ว
-
ยอดขายไว่าคุยข่ม สำหรับสาวกแหละ
ในมุมมองนักลุงทุนเขามองrevenues มากกว่าครับ
-
แต่ก็ไม่มีเจ้าไหน เอา revenue, ROA , ROE ของตัวเองมาโชว์นิคับ ดังนั้น กำไรๆ ที่เราคุย ๆ กันอยุ่เนี่ย มันก็มาจากการคาดเดาทั้งนั้น
-
ผมว่า อย่างหลายปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ดูจากยอดขาย แต่ละเดือนๆๆ ::) ::) ::)
-
แต่ก็ไม่มีเจ้าไหน เอา revenue, ROA , ROE ของตัวเองมาโชว์นิคับ ดังนั้น กำไรๆ ที่เราคุย ๆ กันอยุ่เนี่ย มันก็มาจากการคาดเดาทั้งนั้น
ครับ เขาไม่ได้มาโชว์คุณแน่ๆ
สำหรับคุณที่อาจจะสนใจ ยอดขายลุกชิ้นปิ้ง100ไม้ต่อวัน มากที่สุดย่านปากซอย ก็น่าตื่นเต้น
ผมอาจจจะสนใจแค่ว่า ผมจะหาเงิน100บาท ด้วยทุนน้อยที่สุดอย่างไร ก็เลือกที่จะสนใจได้นะ
-
แค่แจกส่วนลด 50000 ก็เป็นที่หนึ่งได้แล้วล่ะครับ
แต่อีซูซุคงไม่อยากทำหรอก ตอนนี้ก็ตามที่หนึ่งอยู่ติดๆแล้ว ถ้าให้ส่วนลดกำไรก็ลดลง อีกอย่าง อีซูซุราคาขายต่อแข็งเพราะว่าไม่มีส่วนลดไงล่ะครับ
-
แต่ก็ไม่มีเจ้าไหน เอา revenue, ROA , ROE ของตัวเองมาโชว์นิคับ ดังนั้น กำไรๆ ที่เราคุย ๆ กันอยุ่เนี่ย มันก็มาจากการคาดเดาทั้งนั้น
หากกำไรน้อย หรือไม่ได้เป้า เค้าคงออกมาเต้น ลดแลก แจกแถมแล้วละครับ เหมือน ค่ยๆ อื่นๆ ที่ต้อง ปั๊มยอดกัน
เราๆ ก็ คาดเดา ไปตาม มุมมอง ไม่มีใครฟันธง
เพราะเห้น ISUZU เค้านิ่งๆ ไม่กระตุ้นอะไร ก็คิดเอาเอง ว่าเค้า สบายดีครับ
-
อย่าลืมว่ากำไรต่อคันของรีโว่อาจจะน้อยกว่า แต่จำนวนรถที่ขายเยอะทำให้ขายอะไหล่และมีรถเข้าศูนย์บริการเยอะ กำไรระยะยาวเขาอาจอยู่ตรงนี้ก็ได้ รถหนึ่งคันมีอายุใช้งานเป็นสิบปี และเวลามีรถรุ่นนั้นอยู่บนถนนเยอะๆจะทำให้คนอื่นตัดสินใจซื้อรถรุ่นนั้นตามได้ง่ายกว่าด้วย
-
ผมเชื่อว่าไม่มีโอกาส อย่างมากอาจจะเเซงได้เป็นบางช่วง หรือ บางเดือน แต่รวมๆ พี่โตคงไม่ยอมแน่ๆครับ
-
ผมว่า Isuzuมันก็okนะครับเห็นคนออกมาเยอะอยู่เหมีอนกันถึงไม่มีส่วนลดก็ขายได้อยู่ดี
-
อย่าลืมว่ากำไรต่อคันของรีโว่อาจจะน้อยกว่า แต่จำนวนรถที่ขายเยอะทำให้ขายอะไหล่และมีรถเข้าศูนย์บริการเยอะ กำไรระยะยาวเขาอาจอยู่ตรงนี้ก็ได้ รถหนึ่งคันมีอายุใช้งานเป็นสิบปี และเวลามีรถรุ่นนั้นอยู่บนถนนเยอะๆจะทำให้คนอื่นตัดสินใจซื้อรถรุ่นนั้นตามได้ง่ายกว่าด้วย
เผอิญผมเคยเห็นการเปรียบเทียบต้นทุนการบริหาร dealer ของ I กับ T แล้วภาพบางอย่างมันก็ชัดนะครับ
- ลองนึกภาพโรงงานที่ถูกดีไซน์ให้ผลิตรถอยู่แค่ไม่กี่โมเดล เทียบกับ โรงงานที่ต้องวางไลน์การผลิตยาวตั่งแต่ eco car ยัน D-seg economy of scale ของโรงงานไหนจะประหยัดกว่ากัน
- dealer กับช่างที่ถูกฝึกมากับรถไม่กี่แบบ การบริหารสต็อกของสินค้าแล้วก็อะไหล่ที่มีแค่กระบะกับ PPV เทียบความชำนาญแล้วแบบไหนจะแน่นอนกว่ากัน
ทุกอย่างมีที่มาและที่ไปครับ แต่อย่าลืมว่า ไทย เป็นไม่กี่ประเทศในโลกที่ Isuzu ยังทำได้ดีอยู่เพราะฉะนั้นเค้าเลยเน้นเป็นพิเศษ ขณะที่พี่โตเค้าไปเล่น scale เดียวกับ VW Ford ไทยเลยอาจจะไม่ได้เป็น priority อันดับแรก
-
Isuzu เค้ามีนโยบายที่ไม่หวังเป็นเจ้าตลาดหรอกครับ เป้าหมายเค้าคือให้ลูกค้ามีความพึงพอใจสูงสุดเท่านั้น
-
ยอดขาย แม้จะเป็นที่สอง ขนาดนี้ ยังมี Back Order อยู่นะครับ...
-
อย่าลืมว่ากำไรต่อคันของรีโว่อาจจะน้อยกว่า แต่จำนวนรถที่ขายเยอะทำให้ขายอะไหล่และมีรถเข้าศูนย์บริการเยอะ กำไรระยะยาวเขาอาจอยู่ตรงนี้ก็ได้ รถหนึ่งคันมีอายุใช้งานเป็นสิบปี และเวลามีรถรุ่นนั้นอยู่บนถนนเยอะๆจะทำให้คนอื่นตัดสินใจซื้อรถรุ่นนั้นตามได้ง่ายกว่าด้วย
ผมไม่ได้้สนใจว่า กำไร ใครมากกว่านะ
เอาแค่บ้านเรา Revo ขายได้มากกว่า ISUZU กี่คัน
สมมุติ ขายรถได้ทั้งหมด 10,000 คันต่อเดือน
ต้องลด เป็นเงิน 50,000 บาท ต่อคัน = 500,000,000 ล้าน นั่นคือเงินที่หายไปกับ ส่วนลดต่อเดือน
แต่ ขายได้มากกว่า คู่แข่ง 500 คัน
-
ผมว่าทำได้แน่นอน แต่ก็คิดว่าเค้าคงไม่ทำ
-
ถ้า D max โฉมถัดไป บึกบันได้อย่าง Ranger......อันดับ 1 ยาวๆ แบบไม่ต้องแคร์ใคร ส่วน Hilux โฉมถัดไปถ้ายังง่วนอยู่กับการออกแบบแสนประหลาดเหมือน Revo เตรียมส่วนลด แสนนึงไว้ก่อนเลย ( ตั้งชื่อให้เลยว่า Hilux Ga-Ho !!! (กะโห้))