Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: a601970 ที่ สิงหาคม 30, 2017, 20:48:51
-
รบกวนเพื่อนสมาชิกช่วยชี้แนะด้วยครับ
ขอบพระคุณครับ _/\_
:D :D :D :D :D
-
ตอนแรกผมจะจัด Fortuner TRD ตัว 2WD แล้วครับ ศึกษาในบอร์ดไปดูตามศูนย์อยู่ 2 เดือน
แต่พอได้ไปลอง CR-V ก็เลยมองข้าม Fortuner ไปเลย
ข้อดีของ Fortuner ที่ผมเห็นคือ
1. คันใหญ่ บรรทุกคนและของได้สะดวกกว่า
2. งานประกอบดีกว่า Honda
3. เอาไปต่อยอดแต่ง โม ได้มาก
4. เครื่อง ดีเซล
แต่ผมไปดู CR-V 2.4 EL (ครั้งเดียว )ซึ่งราคาถูกกว่า[รวมส่วนลดแล้ว] ก็เกือบแสนคือ
1. คันเล็กแต่นั่งสบายกว่า ทั้งคนขับคนนั่งหน้าและหลัง ไม่ต้องโหนเป็นลิง
เด็กและผู้สูงอายุขึ้นลงสะดวกกว่า
2. การขับขี่ช่วงล่างที่ดีกว่า
3. option ที่ควรมีในปี 2017 และจำเป็นก็มีมาให้
4. วัสดุดีกว่าเล็กน้อย ( subjective จับแล้วรู้สึกดีกว่า )
5. ราคาเหมาะสม
ประกอบกับ Lifestyle ผมอยู่กรุงเทพ/ตจว. 50/50 ไปทั้งบ้านและคอนโด
แวะซื้อของกินข้างท้างบ่อยๆ ไม่ได้ขับรถเร็วมาก ไม่ได้เข้าลุยในป่า
ก็เลยลงเอยที่ CR-V ใช้เวลาตัดสินใจไม่ถึง 1 สัปดาห์ครับ
ปล. ถ้าผมตังเหลือเยอะๆ+นั่งคนเดียวผมไม่ซื้อทั้งคู่ครับผมไปซื้อ CX-5 , Forrester ดีกว่า :)
-
ถ้ามองว่าสวยกว่า ชอบกว่ามันจะจบตรงนั้นเลยครับ
เอาการใช้งานคือใหญ่ ทน ลุย แรง
อยากให้ลองขับครับ ว่าใช่รึเปล่า
ขับแล้วชอบก็ซื้อ
-
ลุยป่าแบบโหดๆได้
-
- อยู่ ตจว กทม ขับลำบาก บางที่แคบ
- ไว้ลุยน้ำ ลุยโคลน ลุยป่า
ถ้าขับแล้วชอบก็จัดเลยครับ ส่วนตัวผมว่ามันโคลงมาก คนนั่งก็เวียนหัวครับ ขับปกติ ไม่ได้ซิ่งแต่อย่างใด (ขับตัว Top ก่อนมี TRD) CRV ผมไม่เคยขับครับ
-
ข้อดีของ Fortuner สำหรับผมมีข้อเดียว ราคาขายต่อแข็งมาก ดูตัวเก่า ราคายังแพงอยู่ ทั้งที่ขับไม่ได้เรื่องเลย โดดไปโดดมา
-
- ราคาขายต่อดี
- แถวสามนั่งได้... อย่างน้อยก็ดีกว่าแหละ ถึงจะเด้งๆ ไปหน่อย
- ลุยได้จริง
- ทนทานกว่าตามสไตล์พื้นฐานกระบะ
ที่เหลือ ถ้าต้องการความสบาย ขึ้นลงง่าย อารมณ์รถเก๋งยกสูง ไป CR-V ครับ
-
-ราคาขายต่อ
-ลุยได้มากกว่า
-เเต่งต่อได้เยอะ เครื่องดีเซลนะ
-ทนกว่า เนื่องจากพื้นฐานมาจากระกระบะ
-
ทน ถึก ตามพื้นฐานที่มาจากกระบะ
รับได้กับความเด้ง ตึงตัง นั่งนานๆแล้วเวียนหัว
รับได้กับความใหญ่โต เทอะทะของตัวถัง
-
ห้องโดยสารเก็บเสียงได้เงียบกว่า crv ครับ
-
ผมขอไปปาเจโร่ได้มะคุ้มกว่า
-
เรื่องอะไหล่ต่างๆครับ ในระยะยาว สามารถหาได้ง่ายรวดเร็วกว่า cr-v
อะไหล่หลายๆอย่างสามารถใช้ร่วมกับ revo
-
- ศูนย์บริการ เท่าๆที่ผมสัมผัสมาศูนย์โตเหนือกว่าพอสมควร
- ถึกทน
- เบาะแถวสามดีกว่าหน่อยนึง
- เกียร์ออโตแบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ crv 2.4 ได้แค่ cvt
-
ลุย น้ำรอระบาย ในกทม เก่งกว่า CRV หลายขุมครับ ;D ;D ;D ;D
-
อารมณ์รถกระบะ... กับอารมณ์รถเก๋ง...
-
ถ้าเหตุผลน่าซื้อคงเป็นเรื่องการซ่อมบำรุง
"คิดว่าถ้าเกิน 10 ปีคันไหนซ่อมมากกว่ากันละครับ ;)"
-
ถ้าตอนนี้มองเห็นจากที่ใช้รุ่นเดิมคืออะไหล่อย่างเดียวเลยครับ
ผลิตมากถูกมาก คนใช้เยอะ "แพ"ก็ไม่ถูกผลิต
อย่าไปมองแค่ยอดขาย for เท่านั้น
หลายชิ้นส่วนใช้ร่วมกับ revo และบางอย่างก็สหกรณ์
กำลังผลิตนี่คือมหาศาลมาก ทั้งตลาดรถกระบะอันดับ 1-2
รถส่งออกตะวันออกกลาง คนทำของเล่นก็ทำแพงไม่ได้
เพราะมีหลายเจ้าเล็งแย่งเค้กกันอยู่
เมื่อมันอมตะ ราคาขายต่อคือผลพลอยได้ ;D
-
ล่าสุดผมไปเข้าศูนย์เช็คระยะ Fortuner 2.8 4X4 ในราคา 11xx ครับผม ผมว่าถูกมากๆครับ(ฟรีค่าแรง 5 ครั้งนะครับ)
-
นอกจากเรื่องลุย ทน อะไหล่สหกรณ์ และบริการหลังการขายแล้ว
ในสังคมก็มีส่วน ขับแล้วคนอื่นเกรงใจมากกว่า CR-V โดยเฉพาะพวกรถเล็ก รถแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์ รถพวกนี้ไม่ค่อยอยากยุ่งกับเท่าไร (คงกลัวโดนจุดสองห้อย)
ยิ่งรถสีดำ ติดฟิล์มดำมืด ล้อโหดๆขอบ 20 ไปต่างจังหวัด คนคิดว่าเป็นมาเฟียซะอีก ;D ;D
-
ไม่ชอบการขับขี่ที่เน้นนุ่มนวลสบายๆ แต่ชอบแนวกระเด้งกระดอน เลือก fortuner ได้เลย
-
ควรมีข้อมูลด้านวัตถุประสงค์และขอบเขตการใช้ให้ชัดเจนมากกว่านี้ แล้วจะรู้เองว่าควรใช้อะไร เช่น
ระยะทางใช้ต่อปี พื้นที่ภูมิประเทศที่ใช้งานประจำ ลักษณะการใช้งานประจำ จำนวนผู้โดยสารที่ใช้ประจำ ระดับอายุผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่ใช้ประจำ ขนาดจำนวนปริมาณสัมภาระ ลักษณะการปรับพื้นที่ใช้สอยภายใน ลักษณะการขึ้นลงของผู้โดยสาร กำหนดจะใช้กี่ปีแล้วเปลี่ยนคันใหม่ ความสบายในการโดยสาร สิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องการ ความปลอดภัยที่ต้องการ ศูนย์บริการที่สะดวก ศึกษาข้อมูลด้านปัญหาจากผู้ใช้งาน และสุดท้ายถ้ามีโอกาสทดสอบการขับขี่บนถนนที่จะใช้จริงในหลายๆรูปแบบ
อย่างผมอยู่ ตจว. ชอบขับรถเดินทางท่องเที่ยว และขับรถเดินทางไกลบ่อย จึงมีโอกาสได้ทดสอบหลายรูปแบบ เช่น ทางเรียบ ถนนที่มีผิวซ่อม ลูกระนาด ขับขึ้นลงเขาคดเคี้ยว ถนนลูกรัง โดยไม่ใช้เส้นทางที่เซลกำหนดครับ
แล้วจะรู้เอง ว่าคันไหนที่เหมาะสม ทั้ง 2 รุ่น มีข้อดีข้อด้อยคนละด้านครับ
ความเห็น
ถ้าชอบท่องเที่ยวตามที่นิยมกัน CRV ก็เพียงพอ แถมยังนั่งทางไกลนุ่มสบายกว่า เมื่อยล้าน้อยกว่า ควบคุมการขับขี่ง่ายกว่า
แต่ถ้าชอบแบบต้องลุยน้ำข้ามห้วยแบบ Off-road ก็ต้องไป Fortuner เพราะมีอุปกรณ์เสริมจาก third-party มาให้ Upgrades ได้มากกว่า
ทั้ง 2 แบบ ก็มีคนเอาขับขี่แบบคาราวานทัวร์ไปถึงประเทศจีน หรือ Base camp เชิงภูเขาหิมาลัยมาแล้วครับ
-
CRV ไม่ทนเท่า ฟอจูนหรอกครับ เหตุผลเดียวน่าจะพอ
ไม่ใช่ CRV ไม่ดีนะ มันจะออกแนว สวย นุ่ม เงียบ ออกแนว Luxury มากกว่า
แมนๆ ห้าวๆ ทึก ทน ไฟแยงตาชาบบ้าน น่าจะไป ฟอจูน มากกว่าครับ
-
คนบนท้องถนนเกรงใจฟอร์มากกว่า ยิ่งติดตราตรงกระจังหน้า ไม่ค่อยมีใครกล้ายุ่งเลย 555+
ส่วนข้ออื่น ตามพี่ๆด้านบนเลยครับ
-
ANFTNMY2017 ซื้อมาก็จัดการเปลี่ยนช่วงล่าง(โช๊คอัพ+สปริง) อยู่แล้วครับ
ขับแล้วนุ่มและแน่นขึ้นครับ แต่ไม่ถึงกับนุ่มแบบรถ SUV ที่มาจากพื้นฐานเก๋งอยู่แล้วครับ
ส่วนตัวชื่นชอบใช้รถ PPV เพราะถนนหนทางบ้านเรานั้นเอาแน่เอานอนไม่ได้ครับ
-
ไม่ชอบการขับขี่ที่เน้นนุ่มนวลสบายๆ แต่ชอบแนวกระเด้งกระดอน เลือก fortuner ได้เลย
คำตอบโหดร้ายมาก แต่ครอบครัวผมเจออยู่กับ Fortuner
จะเอาไปทำช่วงล่างก็เปลืองตัง อ่านดูว่าใครทำอะไรมาก็ดีไปหมด
งงสิครับ กลับมาตั้งหลักใหม่ว่าจะเลือกยี่ห้อไหน ตั้งใจไปศูนย์ใส่ช่วงล่าง TRD ถามจนเสร็จได้ราคาพร้อมคำคอบว่า ประกัน 3ปีแสนโลหลุด
น้ำตาจะเล็ด
-
จริงๆ มีแค่ประเด็นท์เดียวคือ ขายต่อราคาดีกว่า
เรื่องทน กับลุย มันก็ได้พอๆ กัน สำหรับถนนส่วนใหญ่เมืองไทย ถ้าเกล้าพอ
ยกเว้นเอาไปขับเล่นแถวเขากระโจม ทุกเดือน อันนี้แนะนำไป FTN
-
ซื้อForเพราะ
1.ใหญ่กว่าทั้งนอกและใน สง่าใหญ่โต ขนของและคนได้เยอะกว่า
2.ยี่ห้อT ซ่อมง่ายกว่า
3.ขายต่อ ราคาตกน้อยกว่า
4.วัสดุ งานประกอบ ความทนทาน ดีกว่า
5.สวยมีแวว มองแล้วนึกถึงLexusได้บ้าง
6.ลุยได้เยอะกว่ากับถนนเมืองไทย
7.เป็นรถแมสที่มีความคุ้มในตัวอยู่แล้ว เนื่องจากแชร์ชิ้นส่วนกับกระบะ
ไม่ซื้อForเพราะ
1.ช่วงล่างแข็งกระแทก ไม่นุ่มเท่าsuvMonocoque ซ้ำยังมึนหัว และหักหลบกระทันหันพร้อมที่จะเทกระจาด
2.ไมล์อ่อน สมรรถนะ เครื่องเกียร์ ไม่ได้ดีกว่าชาวบ้าน
-
ควรเลือกรถให้เหมาะ กับรูปแบบการใช้ชีวิต มากทีสุด
เพราะรถแต่ละรุ่น แต่ละเซกเมนต์มีลักษณะเฉพาะต่างกัน
อย่าเอารุ่นรถเป็นที่ตั้ง
คุณต้องเอาเหตุผล และรูปแบบการใช้งานเป็นที่ตั้ง แล้วค่อยไปเลือกรถ
ถ้าทำได้เช่นนี้แล้ว คุณจะไม่รู้สึก ในภายหลังว่าเลือกรถผิด
จากที่อ่าน คุณน่าจะมีความสุขกับการเลือก CR-V
แล้วทำไม จึงเขว มาถามข้อมูล Fortuner
มีคนรอบข้าง ตั้งคำถามกะคุณใช่ไหม ว่า ทำไม ไม่เลือก Fortuner 5555
-
costing ล้วนๆเลยครับ ไม่ว่าจะเรื่องราคาซื้อขาย ราคาค่าบำรุงรักษาตามระยะ รวมถึงอะไหล่ต่างๆที่แชร์ร่วมกับกระบะทำให้หลายๆชิ้นถูกกว่ารถเก๋ง ทั้งที่จริงๆแล้วมันไม่ควรจะถูกกว่าแบบนั้น
และน้ำมันดีเซล ที่ไม่ต้องเรื่องมากไปเติม premium euro 5 เรียกว่ายัดดีเซลบ้านๆถูกๆ แบบรถกระบะไปเลย ยังไงรัฐก็สนับสนุนราคาดีเซลกลุ่มนี้ทั้งปีทั้งชาติ
ราคาน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ที่ถ่ายครั้งนึงยังถูกกว่าเก๋งเล็กๆ ราคาถ่ายน้ำมันเกียร์ transfer 4x4 อยู่ที่หลักร้อยต่อ 40000 กม.
ค่าประกันชั้น 1 รายปีที่ถูกกว่าเก๋ง 1.8
นั่นคือข้อดีของมันสำหรับผม
ในเมื่อฐานการผลิตรถกลุ่มนี้อยู่ตรงนี้แล้วผมจะไปฝืนทำไม ผมคิดแบบนี้ครับ
แต่ตอนนี้อยากได้รถเก๋งดีๆสักคันแฮะ
-
ฟอร์จูนเนอร์ดู บึกบึนกว่ามาก คันใหญ่กว่า ผมคาดการว่า น่าจะทนกว่าพอสมควร
แต่จริงๆ แล้ว รถเก๋งถ้าเราใช้งานปกติธรรมดา 5 ปีก็ยังไม่มีอะไรให้ต้องซ่อมนะครับ
ที่นั่งขับสูงกว่า ทัศนวิสัยดีกว่า ถ้าเครื่อง 2.4 เท่ากัน ผมว่า 2.4 ดีเซลน่าจะได้เปรียบเรื่องอัตราสิ้นเปลือง
แต่ว่า 2.4 ของ CRV ก็บริโภค E85 ได้ ซึ่งราคาถูกที่สุด (ยกเว้นแก๊ส)
ฟอร์จูนเนอร์มีตัวเลือก 2.4 4WD ซึ่งก็มีขอดี ขณะที่ CRV 4WD ซึ่งก็มีข้อดีเช่นกัน
สรุปถ้าจะเลือก ฟอร์จูนเนอร์ สุมมติว่าตัวเลือกคือ 2.4 4WD 2017 กับ CRV 2.4EL 4WD ซึ่งราคาต่างกันประมาณ 1 แสน
ฟอร์จูนเนอร์ถูกกว่าด้วย
คันใหญ่กว่าจะได้เปรียบเมื่ออยู่บนท้องถนนครับ คนอื่นมองเห็นชัดเจน
แต่สำหรับผม เริ่มจะประทับใจกับรถเก๋ง หรือรถพื้นฐานรถเก๋งครับ ขับแล้วสบายกว่าเยอะพอสมควรครับ ติดที่ว่า CR-V เครื่องเบนซินก็กินดุนิดหนึ่ง
แต่เครื่องดีเซล ดันแพงเกินไปนิดหนึ่ง ครับ
:)
-
บ้านอยู่ในป่า ทำงานแถวๆโรงงาน ลุยน้ำโคลนและดินแดง ใช้เส้นทางกันดารบ่อยๆ จัดกับพี่โต 8)
-
ถ้าเคยขับจะรู้ว่าเพื่อนร่วมทางมอง น้องจูนในแง่ร้าย
รถผู้ร้ายทำอะไรก็ผิด
อย่างว่าครับ คนขับรถห่วยๆจำนวนมากชอบซื้อมาใช้ ทำวีรกรรมแสบๆไว้มาก คนขับดีๆซวยไปด้วย
-
ดูราคาครับ 1.7 ล้าน แต่ฟอร์จูนเนอร์ดันขายดีกว่า
-
ฟอร์จูนเนอร์ ไฟหน้าดีเยี่ยมกว่ามากๆครับ :D :D :D
-
เพราะคนส่วนใหญ่ซื้อรถได้เพียงคันเดียว เลยต้องรวมความต้องการทั้งหมดไว้ในรถ 1 คัน ถึงแม้ข้อแย่มันจะแย่มากเกินทน
ประโยชน์มันเยอะ ใหญ่ อึด ถึก ทน ค่าใช้จ่ายหลังซื้อต่ำ ขายต่อก็ได้ราคา แถมด๔มีบารมีใครๆ ก็กลัว
ยอมแลกกับสรรถนะแย่ๆ ของมัน ไม่เกาะ โยนไปมา พาเวียนหัว
-
ลองขับมายังครับ ถ้ายังก็ไปลองขับก่อนครับเพราะน่าจะให้คำตอบกับตัวเองได้มากพอสมควรครับ
ข้อดีคือลุยแบบโหดๆได้สบายบรื๋อ
-
สภาพถนนแบบนี้ใน ตจว. ก็คงต้องฟอร์จูนเนอร์ล่ะครับ
https://youtu.be/enmfH9k1L_w
-
ไปลองมาทั้ง 2 คัน แล้ว
ถ้าเป็นผู้หญิงเลือก รับรองไป CRV
ส่วน ผู้ชาย ก้ำกึ่ง ลองเสร็จ รักพี่เสียดายน้อง
CRV นิ่มดี เก็บรอยต่อถนนได้ดี รูดได้แล้ว (ดีกว่า Accord g9)
ความสูงกำลังดี สไลด์ตัวขึ้นลงง่าย ไม่ต้องโหน แต่เบนซิน ท่าจะกินดุ
Fortuner มีดีที่ ทน....ทน....ทน... ราคาขายต่อมันถึงดี ข้อดีอันนี้ หลายคน อาจตัดใจมองข้าม ข้อเสียของ Fortuner ได้
-
อยากลุยป่าเที่ยวลงโคลนลงน้ำก็ไม่ต้องห่วงอะไรมาก
กรุงเทพฝนตกหนักทั้งคืนกรูไม่กลัวสตาร์ทรถออกไปทันทีตอนเช้าไม่ต้องฟังว่าเส้นไหนท่วม
ออกไปเที่ยวเจอถนนเลวร้ายหน่อย ไม่เป็นไรเลนซ้ายเรารูดได้ ไม่กลัว
-
fortuner ตัวปัจจุบันก็ใช่ว่าจะรูดไปเลยได้ขนาดนั้นนะครับ เห็นโชครั่วกันหลายคันเหมือนกัน และรถผมเองใช้มาแค่ 2 ปี ช่วงล่างคู่หน้าเริ่มก๊อกๆแก๊กๆแล้ว ช่างหาไม่เจอด้วยสิ
-
ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะทำให้ผมซื้อฟอร์จูนเนอร์มากกว่าซีอาร์วีครับ
-
คันใหญ่กว่า
ทนถึกบึกบึนกว่า
ลุยได้ดีกว่า
อนาคตมีอะไหล่เยอะกว่า ใช้ระยะยาวกว่าเหมาะมาก
ซ่อมง่ายกว่า
ซ่อมถูกกว่า
เข้าศูนย์ TOYOTA ถูกกว่าศูนย์ Honda แน่นอนฟันธง
ซ่อมทำสีในศูนย์ TOYOTA ดีกว่างานเนี๊ยบกว่า ศูนย์ Honda
การบริการตอนนี้ก็ยังถือว่าดีกว่านะ
ตอนไปซื้อ เซลไม่ได้หยิ่งจนไม่มีรถให้ลองขับเหมือนเซล Honda
ขายต่อได้รวดเร็วกว่า ได้ราคาีดีกว่า ซีอาร์วี
เพื่อนฝูงบนถนนมีมากกว่า ซีอาร์วี
-
วิ่งทางที่ไม่ใช่ถนนดำบ่อยๆ ครับ
เพราะช่วงล่างแบบฟอร์จูนเนอร์ มัน ทนทานกว่า
แค่นั้น
ถ้าชีวิตผม ใช้รถบนถนนดำเป็นปกติ อาจจะมีนานๆ วิ่งถนนดินบ้าง ผมจะไม่ซื้่อรถพวก PPV เลย
-
ดูแมนกว่า CRV มันรถในฝันของแม่บ้าน
-
คหสต.ผมถ้าจะเอาลุยพอสมควร+สมบุกสมบัน ถูลู่ถูกังไปผมเอา Fortuner
ถ้าใช้ในเมืองมากกว่า ผมว่า CRV สะดวกสบายกว่าทุกอย่างครับ
-
สำหรับผม..จูนอะไหล่ถูกมากกก ผมหาแอร์แบคได้ในราคา1500บาท
ในขณะ ที่แอร์แบคCRV น่าจะ10,000 อัพ...
ปล.โตต้าอะไหล่หลุดเพียบราคาน่าตกใจ.....55555
-
เที่ยวพวกแนวออฟโรดบ่อย
วิสัยทัศดีกว่า
ลุยน้ำได้มากกว่า
ราคาขายต่อตกน้อยกว่า
ตกรุ่นช้ากว่า
ทนแบบกระบะเจ้าตลาดไม่จุกจิก
แต่งไปต่อได้ง่ายและไกลกว่า
-
ตอนที่บ้านซื้อเลือก Fortuner เพราะว่า CRV ยังไม่ออกคร๊าบบบ ฮ่าๆ ล้อเล่นครับ
ผมมองว่ามันเอนกประสงค์กว่าครับ + นั้งได้ 7 กว่าจริงๆ และก็ส่วนตัวผมอยากได้ดีเซลบ้างครับ ที่บ้านมีแต่เบนซิน
-
ข้อดีมากมาย แต่ถามผม ผมเอา CR-V ::) ::) ::)
-
ทน ใหญ่
-
ถ้านิสัย ขับรถไม่หลบหลุม ชอบรูด หรือ วิ่งทางแย่ๆบ่อยๆหน่อย ไป Fortuner เลยครับ ช่วงล่างทนทาน ซ่อมง่าย ราคาถูกกว่า CRV แยะ
-
- For ภาพลักษณ์ดีกว่า ดูรวยกว่า แนวลูกผู้ชายแมนๆลุยๆ แบดบอย ผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น นักการเมือง คนเกรงใจมากกว่า
- คันใหญ่ยกสูงใช้งานได้จริง ภาพ For ตัวเก่าวิ่งลุยน้ำท่วมครึ่งคันแบบชิวๆมันยังติดตาผมอยู่เลย เก๋งถอยกลับรถกันหมด
- ราคาขายต่อแข็งโคตรๆ ต่างกับมือ 1 นิดดดเดียว (แม่งขายได้ไงวะ)
-
โจทย์คล้ายผมเลย For2.8v , EVE2.2+, CR-V 2.4-1.6 ลองขับหมดแล้วยกเว้น CR-V 2.4
ตัดEVEออกไปก่อนเพราะที่บ้านไม่เอา และตัวผมเองถ้าจะเอาอยากได้3.2มากกว่า(แต่ภายในห้องโดยสารรู้สึกชอบมากสุด)
เหลือโจทย์2ข้อ
ไปลองForมาแล้ว เหมือนยังติดความเป็นกระบะอยู่เยอะมากไปหน่อย เด้งๆดีดๆ เจอถนนคอนกรีตเก็บอาการไม่ดีเลย(แต่ที่บ้านอยากได้)
ไปลองCR-V มีแต่ตัวdieselให้ลอง พอลองแล้วเปรียบเทียบกับ Gen2 ที่มีอยู่ โอ้วดีขึ้นมากจริงๆ ช่วงล่างผมว่าโอเคมาก นุ่มเฟิร์มกำลังดี แต่พอขึ้น90km/h เสียงดัง
สรุป มานั่งคิดจะเอารถคันใหญ่ๆไปทำไมปกตินั่ง2+2 เท่านั้นเอง เกิน4คนแค่ปีละครั้ง2ครั้ง เอาความสบายของผู้โดยสาร4คนดีกว่า
มาจบที่ CR-V 1.6 AWD เพราะไหนๆออกก็อยากได้ขับ4แล้วก็paddle shift ด้วย เพราะชอบไปเที่ยวทางเหนือครับ
-
- เหมือน For รถจะทนกว่า Crv (เดานะครับ)
- เกียร์ Aisin ของ For ซ่อมถูกกว่า zf ใน crv
- ศูนย์ Toyota ดีกว่า Honda เยอะ เท่าที่ผมมีประสบการมา
- For ลุยได้ดีกว่า crv
-
ใช้เกิน 10 ปีใด้ทั้งสองคัน
หาศูนย์ที่ขับสัก 5-10 กม. ใด้ คำตอบจะมาเอง
อ้อ พาคนอนุมัติไปลองด้วยครับ
นิดนึง ฟอร์ ตัวนี้ยังดีดนะ แต่ดีขึ้น ผม tesdrive เสร็จมาขับ G4 กลับบ้าน
แบบว่า ยังต่างกันมาก ถ้าเป็น G5 ยิ่งทิ้งห่างมากๆ