Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: punyavee ที่ กันยายน 30, 2016, 11:57:55
-
ขอสอบถามพี่ๆ หน่อยครับ ตอนนี้ผมกำลังวางแผนจะซื้อรถใหม่และสนใจ bmw 320d iconic อย่างมาก แต่ไม่เคยขับรถยุโรปมาก่อนเลย ปกติแค่ขับรถไปทำงานรถติดๆ ในกทม. วันละไม่เกิน 30 km ขับรถไม่เร็วไม่เคยเกิน 130 km/hr ครับ
1. อยากจะสอบถามว่าค่าบำรุงรักษาในระยะยาว เช่น 10 ปี แพงมากไหมครับ ประมาณกี่บาทต่อปี อะไหล่ที่เปลี่ยนแล้วใช้ทนไหมครับ
2. เทียบกับ camry แล้วระยะยาวค่าซ่อมบำรุงต่างกันมากไหมครับ
3. ประกันชั้นหนึ่งสำหรับ bmw ทุนประมาณ 2 ล้านบาท นี่ประมาณกี่บาทต่อปีครับ
ขอบคุณพี่ๆ ล่วงหน้าเลยครับ
-
:-[ :P
เข้ามาตอบอีกครั้งครับ
จะบอกว่า ต่างกับ Camry ชัดเจนนะครับ จะเอาไป compare กันไม่ได้เลยล่ะ
รถยุโรปทั้ง 2 ค่ายใหญ่ Rely On ระบบไฟฟ้าอย่างมากๆ
ไม่นับไปถึง ระบบเชื้อเพลิง,แบตเตอรี่ ที่"ต้องเสีย" "ต้องเปลี่ยน" ตามระยะ
แค่เกียร์ของ F30 คนขับ BMW รุ่นก่อนๆมายังมีสะดุ้งเลย เพราะมันเป็นเกียร์ไฟฟ้า
ลองหาข้อมูลดูก่อนน่าจะดีครับ ยกเว้นว่าหมด BSI แล้วขายนะ อันนั้น OK
-
ขอสอบถามพี่ๆ หน่อยครับ ตอนนี้ผมกำลังวางแผนจะซื้อรถใหม่และสนใจ bmw 320d iconic อย่างมาก แต่ไม่เคยขับรถยุโรปมาก่อนเลย ปกติแค่ขับรถไปทำงานรถติดๆ ในกทม. วันละไม่เกิน 30 km ขับรถไม่เร็วไม่เคยเกิน 130 km/hr ครับ
1. อยากจะสอบถามว่าค่าบำรุงรักษาในระยะยาว เช่น 10 ปี แพงมากไหมครับ ประมาณกี่บาทต่อปี อะไหล่ที่เปลี่ยนแล้วใช้ทนไหมครับ
2. เทียบกับ camry แล้วระยะยาวค่าซ่อมบำรุงต่างกันมากไหมครับ
3. ประกันชั้นหนึ่งสำหรับ bmw ทุนประมาณ 2 ล้านบาท นี่ประมาณกี่บาทต่อปีครับ
ขอบคุณพี่ๆ ล่วงหน้าเลยครับ
1. ถ้ายังไม่หมด bsi คงไม่มากเท่าไร ยกเว้นเปลี่ยน้ำมันเกียร์ แพงหน่อย 2 หมื่นบาท เพราะต้องเปลี่ยนทั้งอ่าง ถ้าหลังหมด มี ปีนึง 2-9 หมื่นเป็นอย่างต่ำ อะไหล่ทนดี แต่แพงพอควร ถ้าเคยใช้เบนซ์มาก่อน จะแพงกว่าเบนซ์ราว 10-20 % เข้า 0 ช้อคอัพข้างนึง ก็ หมื่นนิดๆ แล้วนะ
2. คนละเรื่องเลย camry ค่าซ่อมแซมประหยัดกว่าเยอะมาก ทนกว่าด้วย แต่ไม่หนึบหนับเท่า bmw นะ
3. ราวๆ 4-5 หมื่นบาท
-
ที่รู้จักเพื่อนขับ BM และที่บ้านใช้ MB อยู่ รถยุโรปไม่ได้เลวร้ายครับเรื่องค่าบำรุงรักษา แต่ต้องรับมันไม่ได้ เท่าที่ความจริงที่มันเป็น อยากให้ถูกเท่ารถญี่ปุ่นคงยาก
แต่ก็มีหลายคนที่รู้ทางหนีทีไล่ คือ ถ้าหมดประกันแล้ว ก็ดูแลรักษานอกศูนย์เอา ใช้ อะไหร่ใหม่เทียบ หรือ อะใหร่มือสอง หรือถ้ารู้จักศูนย์ที่รู้เรื่องรุ่นนั้นดี ตีซี้หน่อย ยิ่งเป็นผลดีกับตัวคุณเอง
ถ้าใช้ 4-5 ปี เปลี่ยน ขาย ก็คงไม่ต้องห่วงอะไรมาก แต่ถ้าใช้ยาวๆ 10 ปีขึ้น พยายามหารุ่นที่ออฟชั่นไม่ต้องเยอะ ระบบไฟฟ้าไม่ต้องฟรุ๊งฟริ๊งมาก ก็พอไปได้อยู่ สังเกตุได้จากรถมือสอง พวกตัว top ตอนป้ายแดง บางทีมือสอง ราคาลงกว่าหรือพอๆ กับ ตัว กลางๆ หรือตัว base เลย
ปล. ตอนนี้ที่บ้านขาย MB มาใช้รถญี่ปุ่นแล้วครัช
-
ถ้าออกศูนย์ป้ายแดง BSI 5 ปี 100,000กม Warranty 5ปี ไม่จำกัดระยะทาง
ซื้อ BSI เพิ่มได้อีกปี ก่อน หมด 6 เดือน ระหว่าง 5 ปีที่มี BSI
ค่าบำรุงรักษาทั่วไปตามระยะ ฟรี ครับ แทบทุกอย่าง ฟรีแม้กระทั่งที่ปัดน้ำฝน และแบต
ยางล้อไม่ฟรีครับ (แต่ไม่รู้เปลี่ยนหรือยัง ต้องสอบถามเงื่อนไขใหม่ๆ)
ค่าประกันภัยชั้นหนึ่ง น่าจะเกินสี่หมื่นนะครับ แต่ปีแรก มักได้แถมจากโชว์รูม ปีต่อมาน่าจะ
ลดลงเยอะ เพราะทุนประกันจะลดลงหลายแสนบาท
สรุปว่าถ้ากังวลใจเรื่องเซอร์วิส ใช้รถแค่ 4.5 หรือ 5.5 ปี (กรณีซื้อ BSI เพิ่ม) แล้วขาย
ไปให้ผู้ใช้รายต่อไป อย่างน้อยมี BSI กับ Warranty ไปอีก 6 เดือน ให้อุ่นใจหน่อย
อีกอย่างถ้ามี BSI เหลือๆ มักขายได้ราคาดีกว่าไม่มีเหลือครับ
แล้วคุณจะรู้ว่า รถที่ขับดีที่สุดในโลกในบรรดารถบ้านๆ ทั้งหลาย คือ BMW
แล้ว ซี่รี่ส์ 3 มันขับดีสุดด้วยในบรรดา BMW ด้วยกัน Ultimate Driving Machine จริงๆ
แล้วรุ่นใหม่ๆ ผมว่าบีเอ็มมันมีปัญหาน้อยกว่าเบนซ์เยอะมากๆ การประกอบอะไรๆ
ก็ดีกว่า เพราะประกอบด้วยโรงงานของบีเอ็มเองที่ระยอง (ถึงจะยังเป็นระบบที่ยัง
ล้าหลังเมื่อเทียบกับโรงงานที่ทันสมัยที่สุดของบีเอ็ม แต่ยังทันสมัยกว่าโรงงานที่
ประกอบเบนซ์ที่รับจ้างผลิตอยู่ทุกวันนี้ โบราณสุดๆ แบบห่างกันหลายชาติเลยครับ
โรงงานทันสมัยที่สุดของเบนซ์ที่เยอรมันก็ยังห่างจากโรงงานที่ดีที่สุดของบีเอ็มหลาย
ชาติเหมือนกัน ไม่เชื่อลองหาข้อมูลใน Google และ Youtube ดูครับ)
-
ใช้มาเข้าปีที่ 3 แล้วครับ ยังไม่เจอเรื่องจ่ายตังค์ซักบาท ใบปัดน้ำฝนเปลี่ยนให้จริงๆครับ เจ้าหน้าที่บอกเปลี่ยนให้ปีละ 1 ครั้ง ( ถ้าไม่แจ้งก็ไม่เปลี่ยนให้ )
แต่ที่รู้ๆมา คือ ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์+อ่าง 20,000 กว่าๆ เปลี่ยนตอนระยะ 5-8 หมื่นโล เพราะไม่อยู่ใน BSI ส่วนตัวคิดว่าจะใช้ยาว หาอู่นอกดีๆ ที่รู้จักมาก็ 2-3 เจ้าแล้วครับ
-
ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ครับ ตอนนี้ 320d Iconic ได้ส่วนลดประมาณเท่าไรอะครับ ของแถมมีไรบ้างครับ ผมถามมาได้ลดแสนเดียว :-\
-
ถ้าออกศูนย์ป้ายแดง BSI 5 ปี 100,000กม Warranty 5ปี ไม่จำกัดระยะทาง
ซื้อ BSI เพิ่มได้อีกปี ก่อน หมด 6 เดือน ระหว่าง 5 ปีที่มี BSI
ค่าบำรุงรักษาทั่วไปตามระยะ ฟรี ครับ แทบทุกอย่าง ฟรีแม้กระทั่งที่ปัดน้ำฝน และแบต
ยางล้อไม่ฟรีครับ (แต่ไม่รู้เปลี่ยนหรือยัง ต้องสอบถามเงื่อนไขใหม่ๆ)
ค่าประกันภัยชั้นหนึ่ง น่าจะเกินสี่หมื่นนะครับ แต่ปีแรก มักได้แถมจากโชว์รูม ปีต่อมาน่าจะ
ลดลงเยอะ เพราะทุนประกันจะลดลงหลายแสนบาท
สรุปว่าถ้ากังวลใจเรื่องเซอร์วิส ใช้รถแค่ 4.5 หรือ 5.5 ปี (กรณีซื้อ BSI เพิ่ม) แล้วขาย
ไปให้ผู้ใช้รายต่อไป อย่างน้อยมี BSI กับ Warranty ไปอีก 6 เดือน ให้อุ่นใจหน่อย
อีกอย่างถ้ามี BSI เหลือๆ มักขายได้ราคาดีกว่าไม่มีเหลือครับ
แล้วคุณจะรู้ว่า รถที่ขับดีที่สุดในโลกในบรรดารถบ้านๆ ทั้งหลาย คือ BMW
แล้ว ซี่รี่ส์ 3 มันขับดีสุดด้วยในบรรดา BMW ด้วยกัน Ultimate Driving Machine จริงๆ
แล้วรุ่นใหม่ๆ ผมว่าบีเอ็มมันมีปัญหาน้อยกว่าเบนซ์เยอะมากๆ การประกอบอะไรๆ
ก็ดีกว่า เพราะประกอบด้วยโรงงานของบีเอ็มเองที่ระยอง (ถึงจะยังเป็นระบบที่ยัง
ล้าหลังเมื่อเทียบกับโรงงานที่ทันสมัยที่สุดของบีเอ็ม แต่ยังทันสมัยกว่าโรงงานที่
ประกอบเบนซ์ที่รับจ้างผลิตอยู่ทุกวันนี้ โบราณสุดๆ แบบห่างกันหลายชาติเลยครับ
โรงงานทันสมัยที่สุดของเบนซ์ที่เยอรมันก็ยังห่างจากโรงงานที่ดีที่สุดของบีเอ็มหลาย
ชาติเหมือนกัน ไม่เชื่อลองหาข้อมูลใน Google และ Youtube ดูครับ)
พอจะนิยามคำว่า "ขับดีที่สุด" ได้ไหมครับ มันเป็นยังไง
-
หลังหมดBSI ก็ตัวใครตัวมัน
อยากขับรถสมถรรณสูง ก็ต้องค่าบำรุงก็สูงกว่ารถทั่วไป
ถ้าไม่สู้ ก็เล่นรถหยุ่นกันต่อไปครับ 8)
-
1-2. หลังห้าปีไปแล้วเฉลี่ยปีละแสนนึงถ้าเข้าศูนย์ ถ้าอู่นอกก็ประหยัดไปเกือบครึ่งครับ ส่วนมากเห็นทยอยมาตอนหมด bsi นี่หละ ปีที่7 เห็นเจอมากสุด เท่าที่อยู่ในคลับอย่าง e46 e90 มา case by case รวมๆใบเสร็จกันมาโชวร์ก็ราวๆที่ว่ามาครับ อะไหล่ใช้ทนไหม ทนยังไงก็เทียบญี่ปุ่นเจ้าตลาดไม่ได้แน่นอน แต่เปลี่ยนทีนึงก็ใช้จนลืมถ้าใช้อะไหล่แท้ อะไหล่เทียบไม่ทนเลยครับยิ่งพวกพลาสติก ยางต่างๆ เช่นบูทปีกนก อะไหล่ช่วงล่าง ยางแท่นเครื่อง ถ้ารถโหลด 2-3หมื่นโลก็ไปแล้ว อะไหล่แท้ยาวกว่าเป็นเท่า
วิ่งไม่เยอะไม่ต้องกลัวหรอกครับ ยกเว้นเสียแต่เมนทีแนนซ์ตามกาลเวลาก็อาจมีเพิ่มจากแบนด์ญี่ปุ่นบ้างเช่น กระจกตกราง ภายในลอก พลาสติกกรอบแตก ผ้าหลังคาตก ขอบลำโพงเปื่อย อาการสามัญประจำ พวกนี้ซ่อมแค่หลักพัน อยู่กรุงเทพสบายใจได้ครับ อู่รองรับเพียบ
3. ประกันชั้นหนึ่งผมจ่ายเองครับ ตอนนั้นเพิ่งเปิดตัว เลยไม่ได้แถมให้จ่ายไปห้าหมื่นเศษ ปีที่สองก็สามหมื่นปลายถึงสี่หมื่นต้นแล้วแต่เจ้าครับ
มีปัญหาอะไรเข้าคลับหรือในโซไซตี้ช่วยได้ครับ
ถ้าเทียบกะแคมรี่ที่บ้านเห็นใบเสร็จตอนเข้าอู่แล้วอิจฉามาก หลักพันตลอด
-
ผ่อนไหวก็ซ่อมไหวครับ ถ้าผ่อน 5 ปี ตก เดือนละ 3 หมื่น ผ่อนหมด ไปดาวน์คันใหม่ ผ่อนเท่าเดิม เหลือเงินดาวน์ด้วยครับ ::)
รถพวกนี้ถ้าไม่มีอู่ที่ซ่อมจบ ปวดหัว ไม่ใช่ อัลติส แคมรี่ ผ่อนหมด ใช้ได้ยาวๆเป็นสิบปีอ่ะ
-
ซ่อมปีละแสนสำหรับผมถือว่าค่อนข้างโหดเลยครับ
ปกติผมใช้ประมาณ 3 ปีกว่าๆ ก็ครบแสนโลแล้ว จากที่เล็งๆ x1 ไว้วันนี้มาเห็นกระทู้นี้มีลังเลเลยครับ
ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ครับ ตอนนี้ 320d Iconic ได้ส่วนลดประมาณเท่าไรอะครับ ของแถมมีไรบ้างครับ ผมถามมาได้ลดแสนเดียว :-\
ตอนนี้ได้ประมาณ 1.3 แสนครับ จากที่ถามมาพบว่าศูนย์ที่บอกว่าเค้าเป็นดีลเลอร์ใหญ่สุด เงื่อนไขดีสุด กลับลดให้น้อยที่สุดเลย :o
-
บีเอ็มดีเซล 4 สูบไม่ค่อยมีอะไรให้เสียครับ สื่อยานยนตร์ในยุโรปให้ชื่อบีเอ็มเครื่องดีเซลยุคนี้ว่า one of the most reliable, low maintenance BMW
ถ้าเข้าไปในบอร์ดบีเอ็มก็จะเห็นว่าเค้าใช้กันระดับ 150,000 กม.กันสบายๆ
ส่วนระบบไฟฟ้าอื่นๆหลังหมด BSI แล้วก็ให้เข้าอู่ข้างนอก ซึ่งแพงกว่ารถญี่ปุ่นแน่ แต่ไม่ได้โหดเหมือนบีเอ็มยุคเก่าๆ
ส่วนตัวมองว่ายุคนี้ใครอยากใช้บีเอ็มก็ให้ใช้ในยุคยังมีดีเซลขายนี่แหละ ถ้าเริ่มเป็นเหมือน C-class ที่เป็นเสียบไฟทุกรุ่นนี่ตัวใครตัวมันนะ 5555
-
1. อะไหล่แท้เบิกศูนย์เทียบกับรถญี่ปุ่นแพงกว่าเยอะครับ แต่ก็ทนมากเช่นกัน
2. เทียบกับ camry ไม่ได้เลยครับ ต่างกันเยอะ
3. สี่หมื่นกว่าครับ
-
ซ่อมปีละแสนสำหรับผมถือว่าค่อนข้างโหดเลยครับ
ปกติผมใช้ประมาณ 3 ปีกว่าๆ ก็ครบแสนโลแล้ว จากที่เล็งๆ x1 ไว้วันนี้มาเห็นกระทู้นี้มีลังเลเลยครับ
ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ครับ ตอนนี้ 320d Iconic ได้ส่วนลดประมาณเท่าไรอะครับ ของแถมมีไรบ้างครับ ผมถามมาได้ลดแสนเดียว :-\
ตอนนี้ได้ประมาณ 1.3 แสนครับ จากที่ถามมาพบว่าศูนย์ที่บอกว่าเค้าเป็นดีลเลอร์ใหญ่สุด เงื่อนไขดีสุด กลับลดให้น้อยที่สุดเลย :o
โอ้ว ขอบคุณมากครับคุณโต มีไรดีๆมาแนะนำอีกแล้ว :)
-
ส่วนลดได้อยู่ 150,000 นะคับ ;D
-
ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านเลยนะครับสำหรับข้อมูลครับ :) :)
-
ถ้าออกศูนย์ป้ายแดง BSI 5 ปี 100,000กม Warranty 5ปี ไม่จำกัดระยะทาง
ซื้อ BSI เพิ่มได้อีกปี ก่อน หมด 6 เดือน ระหว่าง 5 ปีที่มี BSI
ค่าบำรุงรักษาทั่วไปตามระยะ ฟรี ครับ แทบทุกอย่าง ฟรีแม้กระทั่งที่ปัดน้ำฝน และแบต
ยางล้อไม่ฟรีครับ (แต่ไม่รู้เปลี่ยนหรือยัง ต้องสอบถามเงื่อนไขใหม่ๆ)
ค่าประกันภัยชั้นหนึ่ง น่าจะเกินสี่หมื่นนะครับ แต่ปีแรก มักได้แถมจากโชว์รูม ปีต่อมาน่าจะ
ลดลงเยอะ เพราะทุนประกันจะลดลงหลายแสนบาท
สรุปว่าถ้ากังวลใจเรื่องเซอร์วิส ใช้รถแค่ 4.5 หรือ 5.5 ปี (กรณีซื้อ BSI เพิ่ม) แล้วขาย
ไปให้ผู้ใช้รายต่อไป อย่างน้อยมี BSI กับ Warranty ไปอีก 6 เดือน ให้อุ่นใจหน่อย
อีกอย่างถ้ามี BSI เหลือๆ มักขายได้ราคาดีกว่าไม่มีเหลือครับ
แล้วคุณจะรู้ว่า รถที่ขับดีที่สุดในโลกในบรรดารถบ้านๆ ทั้งหลาย คือ BMW
แล้ว ซี่รี่ส์ 3 มันขับดีสุดด้วยในบรรดา BMW ด้วยกัน Ultimate Driving Machine จริงๆ
แล้วรุ่นใหม่ๆ ผมว่าบีเอ็มมันมีปัญหาน้อยกว่าเบนซ์เยอะมากๆ การประกอบอะไรๆ
ก็ดีกว่า เพราะประกอบด้วยโรงงานของบีเอ็มเองที่ระยอง (ถึงจะยังเป็นระบบที่ยัง
ล้าหลังเมื่อเทียบกับโรงงานที่ทันสมัยที่สุดของบีเอ็ม แต่ยังทันสมัยกว่าโรงงานที่
ประกอบเบนซ์ที่รับจ้างผลิตอยู่ทุกวันนี้ โบราณสุดๆ แบบห่างกันหลายชาติเลยครับ
โรงงานทันสมัยที่สุดของเบนซ์ที่เยอรมันก็ยังห่างจากโรงงานที่ดีที่สุดของบีเอ็มหลาย
ชาติเหมือนกัน ไม่เชื่อลองหาข้อมูลใน Google และ Youtube ดูครับ)
พอจะนิยามคำว่า "ขับดีที่สุด" ได้ไหมครับ มันเป็นยังไง
น่าสนใจนะ. ขับดีที่สุดเป็นแบบไหน. จะได้เป็นทางเลือกตัดสินใจ
-
ผมไปคุยมาประมาณ 2-3 ที่ ให้ส่วนลด 100,000 v kool ประกันชั้น1ทุน 100%
ใครมีศูนย์ที่ให้มากกว่านี้ รบกวนหลังไมค์ทีครับ อิอิ
-
series 3 เค้าถือว่าเป็นรถ compact sedan ที่ขับดีมากคันนึงครับมาตั้งแต่อดีตและขายดีที่สุดด้วยในทุกๆ series ของ bmw เอง
-
อย่าคิดมากครับ
ดีเซล ทนทานมาก
5 ปี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ นอกจากเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ กรองเกียร์ ตอน 8 หมื่นโล
หลังจาก 100,000 กม. อะไหล่ต่างๆ ก็ตามระยะครับ
อู่นอกก็มีเยอะแยะ
ใช้รถ 10 ปี ไม่ต้องห่วงครับ คุ้มค่าแน่นอน
-
ผมเป็นคนขับรถไม่ได้เร็วนะครับ ทางตรงอย่างมาก 130-140 สูงสุด เพราะว่าอันตรายมาก
(หมา แมว วัว ควาย ซาเล็ง มอไซค์ จักรยาน เจซีบี สิบล้อ ต่างจังหวัดมีทุกอย่าง ยิ่งกว่าเกมส์)
หากเกินนี้ ยิ่งถนนเมืองไทย โอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงมากๆ แต่ขับในเมืองนี่ผมค่อนข้างซิ่งมากๆ
เพราะความเร็วไม่เกิน 80-90 ผมว่าพอเอาอยู่ เวลาเบรคความเร็วน่าจะลดระดับทัน ถึงชนก็
ไม่เป็นอะไรมากเท่าไร (เวลาเทสชน เห็นเขาเทสกันที่ 55 กม/ชม)
ตอนไปออก ซี่รี่ส์ 5 ที่ศูนย์ดันไม่มีให้ลอง พอดีรถเอาไปทำสีใหม่ (มีใครลองแล้วพลาดมั้ง)
เลยได้ลองแต่ 320D GT Sport กับ 320i ตัว GT มันไม่ใช่ซี่รี่ส์ 3 จริงๆ เพราะฐานล้อ
ก็ยาวกว่าเยอะ แต่หน้าตาการตกแต่งเป็นซี่รี่ส์ 3
เชื่อไหมว่า ผมแทบไม่ต้องปรับตัวอะไรทั้งนั้น มาถึงผมซัดเลย (เซลส์สองคนนั่งหลัง ตกใจหมด)
เพราะมันเหมือน คนกับรถ คือสิ่งเดียวกัน การทำงานของพวงมาลัย เครื่องยนต์ เกียร์ เบรค
ช่วงล่าง เป็นหนึ่งเดียว ผมสามารถสั่งรถได้อย่างที่ต้องการ โดยที่ไม่เคยขับรถรุ่นนี้มาก่อน
Man Machine Interaction หาอะไรที่เคยขับมาในชีวิตไม่ได้แล้ว (แต่ชอบ 320D มากกว่า
เพราะเครื่องยนต์มันตอบสนองดีกว่า 320i เยอะ และแรงพอๆ ดีกับน้ำหนักรถ ไม่แรงเกินไป
แบบ 528i ซึ่งอาจเป็นเพราะผมไม่เก่งพอที่จะควบคุมความแรงก็ได้)
ปกติ การขับรถที่ไม่เคยขับ จะใช้เวลาสักพัก บางคันเป็นวัน บางคันเป็นอาทิตย์ บางคันเป็นเดือน
อย่างซี่รี่ส์ 5 (528i) ผมขับอยู่เป็นเดือนถึงเริ่มเข้ามือ และสั่งได้ตามใจคิด แต่ก็ยังไม่มีทางได้
อย่างที่ 320D GT
Teana (2013 เพื่อนให้ยืมขับอยู่ครึ่งเดือน แต่ผมว่าพวงมาลัย ระบบขับเคลื่อน ช่วงล่างต่างๆ
ยังต่างชั้นกับบีเอ็ม เยอะมากๆควบคุมไม่เคยได้ดังใจ ถึงจะขับมาเป็นอาทิตย์แล้วก็ไม่สามารถตอบ
สนองได้ตามที่เราสั่งอยู่ดี) แต่ 320GT กับ 320i นี่ไม่ต้องเลยครับ มาถึงซัดเลยเต็มๆ บังคับได้
ทุกอย่างตามใจคิด
Volvo S80 D5 2010 กับ Benz C220 W202 ขับไม่เคยได้ดังใจนึก คือมันเหมือน
พวกมาลัย เครื่องยนต์ เกียร์ ทำงานไม่ประสานกันเท่าไร (อาจจะดีกว่าถ้าเป็น Manual ไม่ใช่ Auto)
Camry 2000 ก็คล้ายๆ กันครับ ไม่เคยได้ดังใจคิด Benz รุ่นอื่นๆ ยังไม่เคยได้ขับแบบเป็นอาทิตย์
เป็นเดือน แต่ส่วนมากที่ได้ขับก็ยังเฉยๆ ครับ)
-
ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากๆ เลยครับ :)