Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: bellabarbie ที่ ธันวาคม 09, 2022, 12:21:10
-
ขอถามแบบไม่รู้เลยนะคะ คือ บ้านอยู่ตจว. ตอนนี้อยู่คอนโดเป็นหลัก คอนโดไม่มี charger และไม่ให้ติดตั้งด้วย ถ้ากรณีซื้อ Tesla และเหมือนมีการติดตั้ง wall box charger คอนโดก็คงไม่อนุญาตและไม่มีอีก คิดว่าทำไงดีคะ และถ้าไป charge ตาม station หัว charge มันรองรับ Tesla ใช่ไหมคะ (ขออภัยล่วงหน้านะคะ ถามแบบคนไม่รู้จริงๆ)
-
คงต้องไปหาที่ชาทตามปั๊มครับ ของPEAมีเยอะเหมือนกัน
เหมือนว่าสมัยนี้เสียเงินแล้วนะครับ ใช้ระบบสแกนจ่าย
แต่จะเต็มตลอดไหม ? อันนี้ต้องดูอีกทีครับ แต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน
-
ชาร์จ1ครั้งวิ่งได้ 400 กว่ากิโลฯ ตามจริง ถ้าอยู่คอนโด น่าจะในตัวเมือง วันนึงวิ่งราวๆ 30-40 กม. วิ่งได้ 1 อาทิตย์ วันหยุดก็หาเวลาพักผ่อน ไปชาร์จตามสถานีที่สะดวก น่าจะพอไหวนะครับ
-
คนอยู่บ้าน ยังไปชาจที่ปั้มเลย ราคาช่วง off peak พอๆกัน แต่ปั้มชาจเร็วกว่า วิ่งแค่ในเมือง ชาจสัปดาห์ละครั้ง 8)
-
หาสถานี dc charger ใกล้ๆเลยครับ ครั้งละ 1 ชม. ก็น่าจะได้เยอะอยู่ ถือว่าแวะกินข้าวก่อนกลับบ้านครับ ถ้าใช้ในเมือง ไม่ได้แวะชาร์จทุกวันอยู่แล้ว
-
เดี๋ยวนี้ตามพวกสถานที่ช๊อปปิ้งมีที่ชาร์จแทบจะหมดทุกที่แล้วครับ แล้วเทสล่าชาร์จไว้ด้วย ลงไปเดินเล่นซื้อของ 2 ชม เต็มแล้วล้ะครับ แล้งวิ่งในเมืองด้วยไฟฟ้าแทบจะไม่ลดเลย ใช้ได้เป็นอาทิตย์ๆเลยครับ
-
ในต่างประเทศมีสถานีชาร์จของ Tesla ในไทยยังไงก็ต้องมีครับ แต่ต้องรอคิวกันยาวหน่อยในช่วงแรกๆ แต่หลังจากนี้ก็จะขยายเพิ่มมากขึ้น
ถ้าใจร้อนก็ไปตามปั้มต่าง ๆ ก็มีสถานีชาร์จเช่นกัน ก็ไปแย่งกับรถ EV ค่ายนอื่นๆเอาเอง
(https://digitalagemag.com/wp-content/uploads/2017/11/tesla-supercharger.jpg)
-
คล้ายๆผมเลยครับ กำลังออกแบบกิจวัตรประจำวันผมปกติทุกวันนี้เทียบกับการไม่ติด wall box
เช้าแวะกินข้าวที่ปตท. แถวบ้าน ซึ่งมีร้านข้าวแกงเจ้าอร่อย และดันมีสถานีชาร์จด้วย น่าจะเติมไฟได้ 20-30นาที/วัน อาจจะวิ่งๆอยู่ 60-70%
ที่ออฟฟิศ มีที่ชาร์จของตึก แต่วางในตำแหน่งที่ไม่ค่อยดีไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ คือกลางแจ้งตรงทางออกติดป้อมยามเลย ถ้าฉุกเฉินอาจจะชาร์จไว้ช่วงบ่ายๆ แล้ว5โมงเลิกงานก็ขับออกไปจากตึกเลย ก็น่าจะได้ไฟเต็มๆ 100%
เสาร์-อาทิตย์ ด้วยความที่ต้องไปห้างเกือบตลอด แล้วห้างประจำก็มีแท่นชาร์จEA ซึ่งไม่เคยเห็นคนใช้งานเลยเพราะอยู่กลางแจ้งตรงทางออก ก็น่าจะได้ไฟเต็มๆ 100%
-
สุดท้ายแล้วคนกลุ่มนี้จะขาย Tesla ตัวเองออกมาหลังใช้ได้ไม่ได้นาน
เหมือนเห็นใน report ฝั่งเมกาอยู่ ว่าคนใช้ Tesla ประมาณ 15% จะขายหลังซื้อไปใช้ได้ไม่นาน เนื่องด้วยสาเหตุ ลูกค้าเหล่าไม่มีที่ชาร์จในที่พัก เพราะการไปชาร์จตามสถานี fast charge แม้มันจะไม่นานมาก แต่มันก็จะมีค่าใช้จ่ายแอบแฝงเช่น ค่ากาแฟ ค่าขนม ตลอดช่วงเวลาที่รอชาร์จ
-
ขอถามแบบไม่รู้เลยนะคะ คือ บ้านอยู่ตจว. ตอนนี้อยู่คอนโดเป็นหลัก คอนโดไม่มี charger และไม่ให้ติดตั้งด้วย ถ้ากรณีซื้อ Tesla และเหมือนมีการติดตั้ง wall box charger คอนโดก็คงไม่อนุญาตและไม่มีอีก คิดว่าทำไงดีคะ และถ้าไป charge ตาม station หัว charge มันรองรับ Tesla ใช่ไหมคะ (ขออภัยล่วงหน้านะคะ ถามแบบคนไม่รู้จริงๆ)
เวลาเจออะไรที่ใหม่ๆควรรอทิศทางลมสักพัก คนที่นำหน้าไปก่อนอาจจะเจ็บตัวก่อน
-
ผมใช้รถวันละ 80 km ถ้าผมซื้อคงหวังพึ่ง wall box เป็นหลักครับ ชาร์ตามสถานีถ้าว่างก็เข้า
ถ้าไม่มีที่ชาร์จของตัวเอง แต่ใช้รถน้อยวัน 10-20 ก็อาจไหวครับ หาชาร์จ 1-2 สัปดา ครั้งอาจพอได้อยู่
อนาคตที่ชาร์จมีเยอะขึ้นแน่ๆครับ แต่รถที่ออกมาวิ่งก็เยอะตามด้วย ผมเองก็เดาไม่ออกว่า จะดีขึ้นหรือแย่ลงครับ
ส่วนตัวผมถ้าอยู๋คอนโด คงยอมหา hybrid/phev แทนครับ
-
อยู่คอนโดเหมือนกันครับ เป็นกรรมการคอนโดด้วย เคยเอาเรื่องติดตั้งที่ชาร์จรถ เข้าที่ประชุมลูกบ้าน
สรุปไม่ผ่านครับ 555 เพราะจำนวนคนที่จะใช้มีไม่ถึง10% เลยไม่คุ้มกับค่าติดตั้ง
เลยคิดว่า BEV หรือ PHEV อาจจะยังไม่สะดวกสำหรับคนที่อยู่คอนโดนะตอนนี้นะครับ
ส่วนตัวคิดว่าอีกซัก 2 ปี จุดชาร์จคงครอบคลุมมากขึ้นครับ ตามเซเว่นน่าจะมีแน่ๆ
ถึงตอนนั้น ค่อยซื้อก็ยังไม่สายครับ เพราะผมก็เล็ง Model 3 ไว้เหมือนกัน
-
อยู่คอนโดนอกจากจะชาร์จที่ปั๊มแล้วผมก็มองไม่เห็นทางอื่นแล้วล่ะครับ
ถ้าอยากใช้จริงๆก็ต้องยอมสละเวลาซักนิดไปชาร์จที่ปั๊มครับ ไม่ต้องไปช่วง off peak ก็ได้ สัปดาห์ละครั้งก็น่าจะเพียงพอแล้วถ้าใช้ในเมือง
-
ถ้าไม่มีจุดชาร์จใกล้คอนโดน ผมคงผ่านไปก่อน ตื่นมาแบตไม่เต็ม 100% รู้สึกตื่นเต้นไปหน่อย เกิดมีเรื่องฉุกเฉินมันจะฉุกละหุกไปครับ
-
สุดท้ายแล้วคนกลุ่มนี้จะขาย Tesla ตัวเองออกมาหลังใช้ได้ไม่ได้นาน
เหมือนเห็นใน report ฝั่งเมกาอยู่ ว่าคนใช้ Tesla ประมาณ 15% จะขายหลังซื้อไปใช้ได้นาน เนื่องด้วยสาเหตุ ลูกค้าเหล่าไม่มีที่ชาร์จในที่พัก เพราะการไปชาร์จตามสถานี fast charge แม้มันจะไม่นานมาก แต่มันก็จะมีค่าใช้จ่ายแอบแฝงเช่น ค่ากาแฟ ค่าขนม ตลอดช่วงเวลาที่รอชาร์จ
งั้นผมรอช้อนมือสองดีกว่า
ที่ไทยน่าจะเกิน 15%
-
ไม่แนะนำครับ เคยลองเช่ารถไฟฟ้ามาใช้บอกเลยว่าลำบาก ไปห้างถ้าที่ชาร์จเต็มต้องไล่หาห้างอื่น ถ้าไม่มีก็ต้องไปชาร์จปั๊ม นั่งรอไป30-40นาที
ต่อให้ชาร์จอาทิตย์ละครั้้ง ครั้งละ1-2ชม.ก็เหอะ แต่เวลาคุณจะไปไหนคุณต้องหาที่ๆมีที่ชาร์จ ถ้าเต็มก็ต้องเลือกว่าจะเสี่ยงขับไปอีกห้างหรือรอไป1-2ชม. เป็นภาระเปล่าๆแทนที่จะเอาเวลาไปทำอย่างอื่น
ยกเว้นว่าคุณจะทำงานที่สามารถนั่งทำที่ไหนก็ได้ มีเวลาเหลือๆในแต่ละวันอันนั้นก็โอเค
-
เหมือนกับต้องย้อนกลับไปถามตัวเองก่อนว่าจะซื้อรถ BEV ไปทำไม
ต้องการอะไรจาก BEV ?
ต้องการประหยัดค่า น้ำมัน? > มาก/น้อย คุ้มมั้ย
ต้องการประสบการณ์ใหม่ > คิดว่า passion นี้จะอยู่นานแค่ไหน?
เมื่อเทียบกับวิถี ของชีวิตประจำวันที่ต้องเปลี่ยนไป
เช่น ต้องย้ายไปหาที่พักใหม่ที่ชาร์จไฟได้สะดวก
หรืออยู่ที่เดิมแต่ต้องเปลี่ยนรูทการเดินทางใหม่
ต้องปรับเปลี่ยนตารางเวลาในชีวิตประจำวัน
ทั้งแบบรายวัน รายสัปดาห์ และอื่นๆ
ถ้าพร้อมจะปรับตัวก็ลุยได้เลยครับ
ถ้าชอบก็จัด ประหยัดทำไม
-
ไปชาร์จ DC ตาม Charging Station ได้ครับ ในกรุงเทพฯ ไม่ต้องห่วง มีเยอะแยะมาก
ชาร์จเต็ม วิ่งใช้งานทั้งอาทิตย์ ก็ค่อยไปชาร์จ เสาร์-อาทิตย์ เอาได้ ไปซื้อของ จอดชาร์จไปด้วย ตามห้าง ก็มีที่ชาร์จเยอะแยะมากแล้วด้วย
-
ชาร์จตามสถานีครับ ในกทมมีเยอะมากมตามห้างต่างๆก็มี ใช้เวลาไม่นานครับ ยิ่งไปเดินห้างทานข้าวด้วยแล้วถือว่าโอเคเลยครับ ระยะวิ่งได้ของเค้าถือว่าโอเคเลยครับ
-
ผมใช้ xc40 ev มาปีกว่า ชาร์จบ้านไปแค่ 2ครั้งเองอะครับ คอนโดมีที่ชาร์จแต่แพงหน่วยละ 14บาทแหนะ
แต่เอาจิงตอนกลับบ้านผมก็ไม่ได้เสียบอ่ะ มันช้า ขับออกไปปั้ม ชม. เดียวเต็ม
-
หลายๆ คอนโด ก็เริ่มมีที่ชาร์จรถไฟฟ้าแล้วนะครับ เริ่มมีมาติดตั้งกันแล้ว
-
DC ชาร์จข้างนอกเยอะแยะครับ
ชาร์จทีนึงวิ่งได้ 400 กว่าโล ใกล้หมดแบตก็วิ่งไปชาร์จสักชั่วโมงก็ได้เกือบเต็มแล้ว
-
ส่วนตัวเลย อย่าหาทำครับ
คิดง่ายๆ ว่าแวะซาร์จที่นั่นนี่โน่น แต่ถ้าจำเป็น ถ้าเงื่อนไขจำกัด เช่น ฝนตก มีธุระ ชาร์จไม่ได้ก็ลำบากนะครับ
ชาร์จทีใช้เวลาพอควรเลยนะครับ
แต่ถ้าอยากได้จัด ก็คงต้องหาที่ชาร์จใกล้ๆ ที่คาดหวังว่ามันจะว่างให้เราขาร์จในเวลาที่ต้องการครับ
-
รถไฟฟ้าไม่ได้เหมาะกับทุกคน ถึงคอนโดมีที่ชาร์ตจริงก็คงแย่งกันวุ่นวาย ไปแย่งชิงเอาตามปั๊มชีวิตคงไม่สุขแน่ๆ ก่อนจะซื้ออะไรซักอย่างต้องถามตัวเองหลายๆครั้งครับว่า จำเป็นไหม หลายๆคนทนกระแส hype ไม่ไหวสุดท้ายเอามาเป็นภาระ ชีวิตจะทุกข์เอาครับ
-
คอนโดผมที่จอด 50% ของ Unit จอดปกติยังแย่งกันเป็นลิงชิงบอล ถ้ามีตู้ชาร์จมาตั้งนี่บันเทิงแน่ครับ
ถึงได้บอกว่าผมชอบรถ BEV มาก แต่ lifestyle ผมมันไม่เหมาะจริงๆ
-
ก่อนมีและหลังมีแรก ช่วงฮันนีมูน ก็จะคิดว่าไม่ลำบาก แวะชาร์ตแป๊บๆ ขำๆ
ซักพัก หลังหายเห่อ ความลำบากมันจะทวี
-
อยากบอกน้อง bella ว่าไม่เหมาะคะ
รถไฟฟ้า ถ้าจะซื้อคือความสะดวกในการเติมพลังงานนะคะ
กลับบ้านไม่ต้องแคร์ใคร เสียบปลั๊ก แล้วพรุ่งนี้ไปต่อ อะคะ
-
ผมว่าไม่น่าเหมาะคับ ช่วงแรกๆอาจทำได้เพราะเห่อ
แต่ทำเรื่อยๆมันจะน่าเบื่อและเป็นภาระคับ
สำหรับผมแค่คิดว่ากลับบ้านมาทุกวัน แทนที่จะเดินเข้าบ้านเลย ไหนจะมีของต้องเอาลงบ้าง ถือเอกสารบ้าง ต้องมาคอยเสียบชาร์จ ก่อนออกจากบ้านก้อต้องมาดึงสายออก ตอนแรกๆคงทำได้ แต่นานๆคงเบื่อเหมือนกัน
ยิ่งกรณีไม่มีที่ชาร์จที่บ้าน ต้องไปชาร์จข้างนอก ไปรอเพื่อจะให้เต็มเป็น ชม. ผมว่าเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่าคับ เป็นภาระเกินไป
แต่ผมก้อสนใจนะ เพราะมีรถหลายคัน ถ้าวันไหนลืมชาร์จ ก้อขับคันอื่นไปแทนได้สบาย
-
เราอาจจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ ดังเช่นโทรศัพท์มือถือ
-
ส่วนตัว ถ้าจากการพักอาศัย ต้องตัดใจไปก่อนครับ
การที่จะไปหวัง DC Fast Charge กันทุกวัน ทุกอาทิตย์มันก็ไม่ไหว
เหมือนเราใช้มือถือที่รองรับ Fast Charge แล้วเราใช้ Fast Charge กันทุกวัน ยังไงแบตก็เสื่อมเร็วกว่าสลับการชาร์จกับหัวชาร์จปกติครับ
-
ตารางชีวิตแน่นไหมครับ พอจะสละเวลา 1 ชม./สัปดาห์ มาชาร์จรถตามปั๊มไหวไหม ลองนึก lifestyle ใหม่ดู ว่าระยะยาวเราโอเคไหม
แนะนำว่าถ้าอยู่คอนโด ไว้ถ้ามั่นใจว่าแถวบ้านมีที่ชาร์จหลายจุดต่อที่ ชาร์จได้ 150-250 kW และว่างค่อนข้างแน่ ค่อยซื้อครับ
ในช่วงแรกสถานีชาร์จยังไม่เยอะ (1-2 หัว ต่อที่) ผมว่ามันมีความไม่แน่นอนสูง อาจต้องต่อคิวรอชาร์จ ที่กะว่าจะจอดแล้วไปกินข้าวก็ต้องเผื่อเวลารอคนอื่นชาร์จ แล้วรถไฟฟ้าที่เอาเข้ามาในช่วงก่อนหน้านี้ ชาร์จได้ต่ำกว่า 100 kW หลายรุ่น ชาร์จกัน 40-50 นาที กว่าจะได้ 80% ก็รอกันไปครับ
ในห้างตอนนี้ที่ชาร์จส่วนใหญ่มีแต่ AC ถึงจะเอา Tesla ไปชาร์จ ก็หลายชั่วโมงมากๆกว่าจะเต็มครับ ถ้ามี DC ในห้างเยอะๆ คงจะดีครับ
-
ดูแล้วใช้รถน้ำมันดีกว่า สะดวกกว่าเยอะ
-
ลองคุยนิติคอนโดดูครับ ติดตั้งชาร์จ แล้วล๊อกที่จอด จ่ายค่าส่วนกลางพิเศษ กี่หมื่นบาทต่อปีก็ว่ากันไป
แต่น่าจะไม่ได้ :'(
-
ลองคุยนิติคอนโดดูครับ ติดตั้งชาร์จ แล้วล๊อกที่จอด จ่ายค่าส่วนกลางพิเศษ กี่หมื่นบาทต่อปีก็ว่ากันไป
แต่น่าจะไม่ได้ :'(
เหมือนซื้อที่จอดส่วนตัวไปเลย 1 ช่อง แล้วติดแท่นชาร์จส่วนตัวไปเลยใช่มั้ยครับ
เหมือนๆ ว่าจะมีคอนโดบางที่ ที่มาพร้อมที่จอดรถส่วนตัวไม่ปะปนกับคนอื่น
พี่ จขกท คงต้องย้ายไปหาคอนโดแบบนั้นล่ะครับ
-
ลองคุยนิติคอนโดดูครับ ติดตั้งชาร์จ แล้วล๊อกที่จอด จ่ายค่าส่วนกลางพิเศษ กี่หมื่นบาทต่อปีก็ว่ากันไป
แต่น่าจะไม่ได้ :'(
ผมคนนึงละครับ ที่จะไม่ยอม และถ้านิติไหนยอม ผมว่าเรื่องใหญ่แน่ โดนลูกบ้านท่านอื่นโวยกันเละเทะแน่นอน 555
-
ลองคุยนิติคอนโดดูครับ ติดตั้งชาร์จ แล้วล๊อกที่จอด จ่ายค่าส่วนกลางพิเศษ กี่หมื่นบาทต่อปีก็ว่ากันไป
แต่น่าจะไม่ได้ :'(
ผมคนนึงละครับ ที่จะไม่ยอม และถ้านิติไหนยอม ผมว่าเรื่องใหญ่แน่ โดนลูกบ้านท่านอื่นโวยกันเละเทะแน่นอน 555
ใช่ครับถ้าทำแบบนั้นลูกบ้านโวยกันเละเทะแน่นอน ไม่มีทางทำได้ เหมือนจ่ายเงินซื้ออภิสิทธิ์ ต้องเป็นคอนโดราคาแพงที่ล็อคที่จอดสำหรับเจ้าของห้องนั้นไว้แล้วแบบนี้ทำได้ขอเค้าต่อที่ชาร์จไฟแล้วติดตั้งมิเตอร์ไปเลย
ถ้าตอบ จขกท นี้ คือถ้าอยู่คอนโดที่ใช้ที่จอดรวมกัน และคอนโดไม่มีที่เสียบชาร์จไฟไว้รองรับรถไฟฟ้า อย่าหาภาระซื้อรถไฟฟ้าเลย ไม่สะดวกแน่นอน
-
ตามท่านบนๆ ว่า รถไฟฟ้าไม่เหมาะกับทุกคนครับ
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าหาที่ชาร์จไม่ได้ เพราะมีการขยายจุดชาร์จมากขึ้น
แต่ปัญหาคือ การรอชาร์จหรือรอคิวชาร์จ ลองคิดดู เมื่อมีคนใช้รถมากขึ้น ต่อให้มีจุดชาร์จมาก
ผมคิดว่าก็ไม่เพียงพอและทันเวลาที่เราต้องใช้บริการหรอกครับ คนจะไปกระจุกรอคิวชาร์จ ถ้าเราขี้เกียจรอเราก็ต้องไปหาจุดอื่น
ไปจุดอื่นก็เจอเหมือนกันจะทำไง
เอาง่ายๆ เวลาเราไปห้าง หาที่จอดไม่ได้ เราหงุดหงิดมั้ย วนหาไปเถอะที่จอด
-
เคยถามคนใช้ MG ที่อยู่คอนโดเดียวกัน
เขาบอกว่า เอาไปชาร์จที่โชว์รูมได้เลย
แล้วโชว์รูม MG ก็อยู่ใกล้ๆ คอนโด ด้วย
-
คนเคยใช้รถเติมเชื้อเพลิงง่ายๆ ไม่ต้องแข่งกับเวลา จะปรับมาใช้ไฟฟ้า คงมีปัญหาแน่นอนแต่มากน้อยขึ้นอยู่กับความอดทนและนิสัยด้วย
ผมเองห่วงสุดคือคนที่ต้องใช้แท่นชาร์ทร่วมกัน แต่ไม่เคารพกันนี่แหละครับจะเป็นเรื่องปัญหาใหญ่ในช่วงแรกๆ
-
ชีวิตเกิดมาต้องการความสบาย ถ้ามันลำบากก็เปลี่ยนความคิดไปใช้ HEV แทนดีว่าครับ จะได้นอนตื่นสาย หลับสบาย ไม่ต้องวางแผนให้มันวุ่นวาย
-
ชาร์จ DC บ่อยๆ แบ๊ตมันจะพังไวไม่ใข่เหรอครับ?
ชาร์จ AC ตามปั้ม คงต้องพกเต้นท์ไปด้วยล่ะ
-
ที่ออฟฟิส มีจุดชาร์จ ac มั้ยครับ ถ้ามี ผมว่า ใช้ได้นะครับ
ผมจอง Tesla ไปแล้ว อยู่คอนโดเหมือนกัน ไม่มีจุดชาร์จ กลับไปชาร์จที่บ้านไม่ได้ เพราะไม่ได้ค้างคืน แต่พอดีที่ออฟฟิส มีจุดชาร์จ AC 22kw 2 หัว ที่ไม่เคยมีคนมาใช้เลย กะว่า จะไปชาร์จสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง น่าจะพอ ส่วนวันหยุด มีไปห้างตอนเช้าถึงเที่ยงๆ น่าจะแวะชาร์จได้ 2-3 ชม ก็น่าจะเกินพอครับ
-
เสริมอีกนิดเรื่องชาร์ตไฟ ช่วง on peak ค่าไฟต่อหน่วยก็ไม่ได้ถูกนะครับ ที่โชว์กัน 50ตัง/กิโล นี่ชาร์ตที่บ้านหม้อ TOU ช่วง off peak ทั้งนั้น อย่างมาสด้าสองดีเซลวิ่งยาวๆ ได้ 1.2บาท/กิโล รถไฟฟ้าวิ่งได้ 1บาท/กิโล แทบไม่ต่าง อีกอย่างนึงชาร์ตตามปั้มต้องจองตู้ชาร์ต,รอชาร์ตเกือบชั่วโมง รถน้ำมันนี่คงวิ่งถึงเชียงใหม่ละ ฮาๆ ผมว่ารถไฟฟ้าเหมาะสำหรับชาร์ตที่บ้านขับไปทำงานในเมืองมันตอบโจทย์มากกว่า วิ่ง ตจว ก็เอารถน้ำมันไป เอาเวลาหาตู้ชาร์ตไปหาที่กินที่เที่ยวดีกว่า
-
นอกเรื่อง อาจจะไม่เกี่ยวกับคำถาม
ฝากไว้ให้คิดนิดนึง
เราซื้อรถ ซื้อคอนโด เพื่อความสะดวก
แต่ถ้าซื้ออะไรพวกนี้ แล้วชีวิตลำบากขึ้น มันก็ไม่ดีนะ
-
นึกถึงตอนน้ำมันจะหมด ใน Range บอกวิ่งได้ 9โล(ซึ่งระยะทางจริงมันไม่ถึง)
แล้วค่อยๆ ขับคลานหาปั๊ม ถ้าโจทย์ที่ว่านี้ เป็นทุกข์มากครับ
คำตอบคือ อาจจะยังไม่เหมาะกับรถไฟฟ้าล้วน
-
ลองเซอร์เวย์จุดชาร์จไฟระแวกคอนโด หรือที่ทำงานดูครับ
ถ้าคุณยังเห็นว่า มันยังว่างไม่มีรถชาร์จตลอดเวลา ผมว่าซื้อได้ แล้วก็จัดสรรเรื่องการจองเวลาชาร์จเอา
** แต่คุณต้องยอมรับได้นะ ว่ามันจะมีบางวันที่คุณอาจจะต้องรอ 30 นาทีขึ้นไป เพื่อชาร์จไฟ
เคสแบบ จขกท ผมมองว่า ถ้าอาทิตย์นึงชาร์จไฟสักครั้งนึง ผมว่ามันก็พอยอมรับได้ แต่ถ้าใช้รถเยอะต้องชาร์จวันเว้นวันคงไม่เหมาะ