ก่อนจะคิดทำโชว์รูม
ผมแนะนำ ลองทำ Business Plan ก่อนครับ
1. คนรู้จักผม (ตอนนี้เปิดโชว์รูมTaTaอยู่) เขาใช้ Business Plan ยื่นเรื่องที่TaTa แข่งกับเจ้าใหญ่อีก 3 รายเพื่อที่จะเปิดโชว์รูม
ดังนั้น คุณต้องทำ BP ไว้ก่อน เพื่อนำเสนอ แผนของตัวเอง วิธีการเอาธุรกิจให้รอด ถ้ามีอุปสรรคที่จะเกิดขึ้น และอื่นๆอีกมากมาย
2. BP ใช้ยื่นกู้แบงค์ เวลาฉุกเฉินได้ด้วย เวลาเกิดปัญหาขึ้น โดยเฉพาะ TMT ที่เป็น Red Ocean
3. (ข้อนี้ผมเป็นมาก่อน ผมเลยบอกไว้เพื่อเตือนสติ) คนที่กำลังคิดทำธุรกิจส่วนใหญ่ มองแต่ข้อดี มองไม่ค่อยเห็นปัญหา Business Plan ช่วยท่านได้ และคุณต้องนำ ข้อกังขาหลายๆข้อที่ เพื่อนๆญาติๆของคุณบอกมา มาลงในBusiness Plan เพื่อเขียนแนวทางแก้ไขปัญหา ถ้าคุณไม่ทำ หรือคิดว่ามันไม่ได้เป็นปัญหา นั่นหมายถึงคุณละเลยวิธีการแก้ไข และนั่นจะเป็นปัญหาในอนาคตที่แก้ยากมาก (ผมเจอมาแล้ว) -- อาบน้ำร้อนมาก่อน, ขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด, ผู้ใหญ่ทัก (เป็นเรื่องจริงครับ)
ก่อนที่จะทำธุรกิจใดๆ คุณ"ต้อง"ทำแผนธุรกิจ"ขึ้นมาก่อน จากนั้น นำไปให้พวกBank (แผนก Medium SMEs ขึ้นไป) อ่านดู ให้เขาช่วยวิเคราะห์ดูว่า กู้ได้เท่าไหร่ และจะผ่านหรือไม่ ถ้าผ่าน และกู้ได้มาก แสดงว่าแผนธุรกิจ คุณเจ๋งพอควร ถ้าแบงค์แนะนำให้ปรับปรุง เชื่อเขาเถอะครับ
80ล้าน ไม่รวมที่ดิน สำหรับศูนย์บริการ -- เอาไม่อยู่นะครับ ถ้าเป็น Brand ดัง
แค่ปั๊มน้ำมันมาตรฐาน-ปั๊มเล็กไม่รวมที่ดิน ค่าลงทุนก็ 10 ล้านเข้าไปแล้ว ยังไม่รวมสต็อคน้ำมัน
ทำแผนธุรกิจก่อนครับ แล้วจะไม่ลำบากเหมือนผมภายหลัง
อันนี้แหละครับ แ่ก่นหลักเลยหล่ะครับ
เพราะอะไร เพราะคนรุ่นบุกเบิก เค้าต้องเริ่มทุกอย่างจาก 0 ครับ บางเรื่องอยากทำแต่ไม่มีเงิน ต้องคิด คิด และก็คิด หลายชั้น กลับไปกลับมา ความรอบคอบและมองเห็นปัญหาจากทุกด้านก็มีมากกว่า
ต่างจากคนรุ่นใหม่ ที่มีทุนมารอ เพรียบพร้อมแล้ว จึงมองแต่ทางที่จะนำเงินนั้น ไปต่อเงิน สร้างกำไร แต่เพียงด้านเดียว
เพราะไม่ต้องคำนึงมากนักว่า ถ้าพลาดจะต้องเจอกับอะไรบ้างถ้าพลาด
ที่คนรุ่นเก่าๆ พูดกันแหละครับว่า เล็งผลเลิศ คือมองแต่ว่า 100 ล้านที่มี จะทำเงินให้ได้กี่เปอร์เซนต์ แล้วก็โยนลงไป
ผมไม่ได้ว่าหรือถือวิสาสะอะไรนะครับ ผมก็ไม่มีเงินอะไรขนาดนั้น
แต่ผมได้ทำงาน คลุกคลี กับคนทั้งสองลักษณะรุ่นนี้มาเป็นสิบปี มันเห็นตำตาครับ
คิดซะว่าเป็นมุมมองที่ต่างไปอีกด้านนะครับ