ผู้เขียน หัวข้อ: คิดว่า Camry 2.0 ควรจะปรับการทำตลาดและปรับ option อย่างไรให้เหมาะสมกับปัจจุบัน  (อ่าน 10051 ครั้ง)

ออฟไลน์ OXYGEN2

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,490
    • เครื่องปั่น
    • อีเมล์
แค่เพิ่มส่วนลดอีกนิดหน่อยก็พอ ปกติก็ลด 50,000 บาทตั้งแต่ก่อน Accord เปิดตัวแล้ว

ตลาดรถ Fleet ส่วนใหญ่ยังเป็นของ Toyota ครับ แทบไม่ต้องทำอะไรเลย
2021 - BMW 530e
2023 - Tesla Model Y Performance
2023 - Tesla Model Y RWD

My website~ :) ;) :D 8)

ออฟไลน์ Terng

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,758
รุ่น 2.0G ปรับอุปกรณ์นิดหน่อย เพิ่มเบาะไฟฟ้า ม่านกันแดดหลัง วิทยุให้เป็น DVD เสียบ AUX MP3 ได้ หรือ ขายราคาเดิมไปทั้งอย่างนั้นแหละครับ เพราะอันที่จริง ผู้บริโภคจะเป็นคนตัดสินเองครับว่าคุ้ม หรือไม่คุ้ม เราเป็นพวกบ้ารถกัน มาดูออพชั่นแบบนี้ร้องหยีหมด แต่ผมเชื่อว่าที่โตโยต้ากล้าตั้งแบบนี้ค้องมีเหตุผลครับ ให้เดาก็คือ คงกะให้ไปออกพรีอุสแทน เพื่อดันยอดบ้าง และแคมรีไปเน้นขายตัวแพงๆแทน ตัวถูกกว่าที่กำไรน้อยกว่าก็ไม่เน้นอะไรมากนัก ไม่ต้องขายเยอะ แต่ขอเพิ่ม margin แทน เท่ากับงานนี้ win ทั้งขึ้นทั้งล่องครับ

แต่ถ้าเป็นผมมีเงิน 1.3 ล้าน ผมก็เลือก Prius / Accord 2.0G ครับ
=====================
รถที่ใช้เป็นประจำ
2013 Toyota Camry Extremo 2.0
2015 Ford Ranger T6 XLT Open Cab 2.2 MT
2018 Toyota CHR HV Mid
=====================

ออฟไลน์ Iwata Kana Σ4

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,481
  • Archievement in Control
    • อีเมล์
รุ่น 2.0G ปรับอุปกรณ์นิดหน่อย เพิ่มเบาะไฟฟ้า ม่านกันแดดหลัง วิทยุให้เป็น DVD เสียบ AUX MP3 ได้ หรือ ขายราคาเดิมไปทั้งอย่างนั้นแหละครับ เพราะอันที่จริง ผู้บริโภคจะเป็นคนตัดสินเองครับว่าคุ้ม หรือไม่คุ้ม เราเป็นพวกบ้ารถกัน มาดูออพชั่นแบบนี้ร้องหยีหมด แต่ผมเชื่อว่าที่โตโยต้ากล้าตั้งแบบนี้ค้องมีเหตุผลครับ ให้เดาก็คือ คงกะให้ไปออกพรีอุสแทน เพื่อดันยอดบ้าง และแคมรีไปเน้นขายตัวแพงๆแทน ตัวถูกกว่าที่กำไรน้อยกว่าก็ไม่เน้นอะไรมากนัก ไม่ต้องขายเยอะ แต่ขอเพิ่ม margin แทน เท่ากับงานนี้ win ทั้งขึ้นทั้งล่องครับ

แต่ถ้าเป็นผมมีเงิน 1.3 ล้าน ผมก็เลือก Prius / Accord 2.0G ครับ
ของเดิมเสียบ  เสียบ AUX MP3 ได้แล้วครับ
ความมีระดับ มาพร้อมศักดิ์ศรีที่เหนือใคร
มีเป้าหมาย ที่อะไรก็ไม่อาจขวาง
มีอำนาจ ที่เลือกใช้ได้ตามใจ
มีชีวิต อย่างที่ใคร ก็ไม่อาจปฎิเสธ

ออฟไลน์ chean

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 293
    • อีเมล์
TOYOTA  <----- แค่นี้คนก็ซื้อล่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 15, 2013, 10:19:14 โดย chean »

ออฟไลน์ Amj

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 480
สิ่งที่ new camry 2.0 มีอยู่  

1. เครื่องยนต์ 2.0 lite กับ เกียร์ 4 speed ect  เครื่องยนต์ตัวนี้ กับ เกียร์ลูกนี้ ถือ ว่าเป็นคู่ทุก คู่ยากกันมานาน  รู้ใจกันดี

หาก สังเกต ดีๆ ตรง แรงบิดสูงสุด อยู่ที่ประมาณ 4,000 rpm  กับ การใช้งานรถคันนี้ วิ่งทางไกล   130-140-150 km/hr รอบเครื่องยนต์ป้วนเปี้ยนอยู่ที่ 3,500 rpm-4,000 rpm  นี่มันย่าน แรงบิดดีสุดของเครื่องยนต์  ลากตัวรถคันนี้ วิ่งปลิว สบายๆ กับการเดินทางไกลกันได้เลย  

หากใช้งานในเมือง  ก็ออกตัวไม่อืด ไม่อื้อ อะไร   ดังนั้นเครื่องกับเกียร์ ตัวนี้  มันก็มีดี อยู่เหมือนกัน
2.  แอร์  auto   ฉ่ำจริง เย็น จริง  นั่งนิ่งๆในรถ เครื่องยนต์ทำงานรอบเดินเบา   นิ่งสนิท  ไม่สั่น   ไม่ไหว  กวนใจ  มันช่างผ่อนคลาย

3.  ขับรถเที่ยวทางไกล   แวะ 7-11 ก่อนเลย  ซื้อ cd เพลงโปรด สักแผ่น    ฟังได้ตลอดทาง   เพราะรถมันเงียบ จริงๆ

4. ช่วงล่าง เซ็ตมาใหม่  ในเมืองพวงมาลัยเบามือ   วิ่งทางไกล  ยิ่งเร็ว ยิ่งหนักแน่น  วิ่ง 150-160 km/hr นิ่งสนิท

5. ไฟหน้า HID  วิ่งทางไกล กลางคืน ช่วยได้มาก  ไฟสว่างดี  ชัดเจน ทำความเร็วต่อเนื่องได้ดี

ขอแชร์จากคนใช้ camry อยู่ครับ

ออฟชั่น  อาจขาดไปบ้าง    แต่ ซื้อมาแล้ว  ก็พอใจ ระดับหนึ่ง     กับราคาที่จ่ายไป


เห็นด้วยครับ.....
-  ผมก็เป็นเจ้าของรถ Camry 2.0 g  2012 ถือเป็น D-segment คันแรกของที่บ้าน
-  ผมเชื่อว่ากว่าครึ่งของคนที่วิจารณ์  ไม่เคยขับ Camry 2.0  รุ่นนี้....ด้วยความเคารพนะครับ
-  ยอมรับว่า spec ในกระดาษ โดยเฉพาะoption คงเทียบ Accord ไม่ได้

  แต่ในความ โบราณของมัน 1AZ-FE + 4 AT
-  ผมเชื่อว่า มันสามารถรับใช้ผมได้อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 400,000 km ภายใต้การใช้งานและการดูแลรักษาแบบปรกติ
-  มันมีการทรงตัวที่นุ่ม ในความเร็วต่ำ. แต่สามารถทะยานฝ่าสายลมในความเร็วสูง 160-180 km/hr ได้อย่างหนักแน่น
-  วงเลี้ยวที่แคบพอๆ กับc-segment  ทำให้รถคันใหญ่ ขนาดนี้สามารถ กลับรถ ในที่แคบ และซอกแซกไปตามถนนที่มีการจราจรติดขัดในวันทำงานได้
    อย่างคล่องแคล่ว
-  แรงบิดในรอบต่ำที่มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้รถมีความกระฉับกระเฉงในการเปลี่ยนเลน จนคุณอาจสงสัยว่านี่รถเครื่อง 2.0จริงๆรึเปล่า

   สุดท้าย อยากบอกเพื่อนๆว่า รถมันขับดีจริงๆครับ โดยเฉพาะเครื่องยนต์ เกียร์และระบบช่วงล่าง ที่เซ็ทมาลงตัว เพียงแต่มันออกมาในช่วงที่คู่แข่ง (Teana J32, accord G8) กำลังจะเปลี่ยนโฉม  จึงแทบไม่ใส่option หรือลูกเล่นต่างๆมาให้เลย   ที่มีอยู่ก็แค่เพียงพอต่อการใช้งานเท่านั้น
  

ความเห็น 2 ท่านนี้แหละครับ ที่เป็นอีกมุมมองหนึ่ง
และก็เป็นคำตอบด้วยครับ ว่าทำไมพี่โตถึงไม่กระทบและขายได้เหมือนเดิมต่อไป

บางที option ที่เพิ่มเข้ามามากๆ ก็ไม่ได้เป็นตัวเปรียบเทียบในการตัดสินใจซื้อเสมอไปครับ
สุดท้ายยังอยู่ที่ความชอบ ความไว้วางใจเป็นหลัก ตารางยอดขายไม่เคยโกหกใครครับ

เลือกใช้ในสิ่งที่ตัวเองชอบ และคุ้มค่าที่สุดในมุมมองของตัวเราเอง และมีความสุขกับสิ่งที่เราตัดสินใจครับ

ปล. คุณ jbrc แวะเข้ามาเล่นเว็บนี้แล้วเหรอครับ ^^  นานๆจะเจอคนจากวงการแก๊สรถยนต์เข้ามาสักคน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 15, 2013, 10:45:08 โดย Amj »

ออฟไลน์ phatsawi

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 47
    • อีเมล์
มีคนอีกมากที่ต้องการรถยนต์ที่ขับได้อย่างสบายใจ  ไม่จุกจิก ไม่มีปัญหาตามมา  ถึงเวลาเข้าศูนย์เช็คตามเลขไมล์ ค่าบริการ ค่าอะไหล่ ค่าบำรุงรักษา ไม่สูงมากนัก บริการดี  ศูนย์เยอะ  ถึงเวลาขายโทรบอกเพื่อนฝูงแป๊บเดียวขายได้   คือมันจบ

ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น  และเป็นเจ้าของทั้ง Accord g8  และ Camry 2.0 g 2012  ครับ ผมยอมรับว่า G9 ตัว 2 พัน น่าซื้อครับ แต่จะให้ขาย Camry 2.0 ตัวนี้ไปออก g9 ก็ไม่ขายแล้วครับ  ขอข้ามไปเลย ไม่ใช่ว่า มันไม่ดี  แต่ Camry มันก็ไม่แย่  และที่สำคัญมันขับสนุก ขับง่าย ใช้ง่าย ไม่ยุ่งยาก  ขายอีกทีก็ไปออก c segment แล้วครับ เลิกบ้า D segment แล้ว

ออฟไลน์ lif_oil

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 126


สำหรับผม ผมอยากให้ ลดขนาดเครื่องยนต์ลงไปเปน 1.8 CVT จูนม้าลดลง แรงบิดมากขึ้น แต่ใช้ E85 ได้

ของเล่นที่ไม่จำเป็นก็เอาออก เช่น แอร์ดิจิมอน เบาะไฟฟ้า เบาะหนัง

ไฟลูกบอลและ HID แต่ราคาเหลือสัก 1-1.1 ล้าน(ซึ่งเขาก็คงไม่ทำอีกแหละครับ)


ถ้าเกิดแบบนั้นจริงๆผมว่าตีโป่งรถc-segmentให้ใหญ่ขึ้นง่ายกว่ามั้ย :)
d-segmentต้องเหนือกว่าc-segmentหลายๆด้านไม่ใช่แค่ขนาดกับภาพลักษณ์ครับ...สำหรับมุมมองผมน่ะ

อนาคตเครื่องยนต์เล็กลงอยู่แล้วครับ แต่จะผูกโบหรือกินซุปด้วยแต่แรงม้แรงบิดไม่ตกลงเลย.... ตามฐานภาษีที่จะปรับขึ้นในอนาคต
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 15, 2013, 12:00:08 โดย lif_oil »

ออฟไลน์ jbrc

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 317

ความเห็น 2 ท่านนี้แหละครับ ที่เป็นอีกมุมมองหนึ่ง
และก็เป็นคำตอบด้วยครับ ว่าทำไมพี่โตถึงไม่กระทบและขายได้เหมือนเดิมต่อไป

บางที option ที่เพิ่มเข้ามามากๆ ก็ไม่ได้เป็นตัวเปรียบเทียบในการตัดสินใจซื้อเสมอไปครับ
สุดท้ายยังอยู่ที่ความชอบ ความไว้วางใจเป็นหลัก ตารางยอดขายไม่เคยโกหกใครครับ

เลือกใช้ในสิ่งที่ตัวเองชอบ และคุ้มค่าที่สุดในมุมมองของตัวเราเอง และมีความสุขกับสิ่งที่เราตัดสินใจครับ

ปล. คุณ jbrc แวะเข้ามาเล่นเว็บนี้แล้วเหรอครับ ^^  นานๆจะเจอคนจากวงการแก๊สรถยนต์เข้ามาสักคน
[/quote]
สวัสดีครับ คุณ amj ผมเข้ามาตามอ่านอยู่ได้ระยะหนึ่งแล้วครับ

จริงๆ ส่วนตัวใช้ตัว 2.5 อยู่ เพราะเป็นคนค่อนข้างขับรถเร็ว  และหลักๆ ต่างจังหวัด รถ กระบะสมัยนี้ค่อนข้างวิ่งเร็ว บางคันวิ่งกันระดับ 180-200 km/hr ได้เจ้า 2.5 มาค่อยอุ่นใจหน่อย เวลาขับทางไกล จะได้ไม่ต้องคอยมองกระจกหลัง 

หลักๆ ซื้อรถมีหลายปัจจัย ในการตัดสินใจ 

แต่ สิ่งที่ช่วยได้มาก คือ การทดลองขับ  ให้ได้ระยะทางที่ไกล พอสมควร สำหรับรถใหม่เพิ่งเปิดตัว  อาจ หารถลองได้ยาก 

หลักๆ เทสรถใหม่ ถ้าให้ดี  ควรเทส  บนทางด่วน  วิ่งให้ความเร็วใช้งาน  140-150 km/hr   ส่วนการเทสขับในเมือง ความเร็วต่ำ  สรุป ตัวรถอะไรไม่ได้

ที่ความเร็ว ระดับนั้น   ตัวรถแต่ละคัน  จะแสดง บุคลิก  ฟิลลิ่ง  การเก็บเสียง  อัตราเร่ง ทุกอย่างออกมาครบหมด 

แล้ว ค่อยตัดสินใจ ในตอนสุดท้าย  จะเป็นการเลือก ที่ ตรงกับรถที่เราต้องการ มากที่สุดครับ

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,088
ถ้าออพชั่นเป็นประเด็นสำคัญในการเลือกรถจริง

ผมว่าอัลติสไม่ต้องขายแล้วล่ะครับ 

ดู C-Segment ก็เห็นชัดๆแล้ว >_<

โฟกัส มาสด้า3 EX เซลล์เข็นกันเหนื่อย