ผู้เขียน หัวข้อ: รถไฟฟ้าของNissanยุคหน้าจะเจอปัญหาเกียร์JATCOแบบที่ด่าๆมั้ยครับ  (อ่าน 2960 ครั้ง)

ออฟไลน์ Pattana.JWatts

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 38
เก๋งEVล้วนในยุคหน้าของนิสสันโดยเฉพาะmarchใหม่ที่เพิ่งมีข่าววันนี้ ระบบเกียร์จะออกมาเป็นลักษณะยังไงบ้างและโอกาสเจอเคสหนักๆแบบJATCOจะมีแนวโน้มหายไปหรืออย่างน้อยไม่โดนด่าเช่นไรบ้างครับ

ออฟไลน์ zionzz

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 197
EV เขาไม่มาห่วงเรื่องเกียร์แล้วปะครับ? ส่วนใหญ่มันเกียร์เดียว หรืออย่างมากก็ Taycan 2เกียร์ที่ล้อหลัง

แต่ไม่มีใครคิดจะใช้ CVT กับ EV หรอกมั้ง ฉะนั้นมันไม่พังง่ายๆหรอกครับ ไปห่วงอย่างอื่นดีกว่า

ออฟไลน์ LapisLazuli

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 285
    • อีเมล์
EV ไม่จำเป็นต้องปรับอัตราทดครับ

มอเตอร์ไฟฟ้า ไม่เหมือนเครื่องยนต์
- torque มาสูงสุดเลยตั้งเเต่ 0 rpm เเล้วค่อนข้างคงที่ ทุก rpm
- ไม่มีรอบเดินเบา
- สามารถหมุนได้ หลาย rpm จนกว่าจะสุด voltage range (top speed ของ EV ส่วนใหญ่อยู่ที่ 160 km/h โดยที่ไม่ต้องปรับอัตราทด ใช้เเค่เกียร์เฟืองเดียว single speed, e-Power ก็เช่นกัน)
- แปลว่า มีเเค่เกียร์เดียว single speed ก็สามารถวิ่งได้ตั้งเเต่ 0-160 km/h โดยให้ torque ค่อนข้างคงที่, ไม่เหมือนเครื่องยนต์ ICE ที่ torque มาเเค่บางช่วง rpm แล้วเกียร์เดียววิ่งได้เเค่ประมาณ 60 km/h
- ถ้าอย่างเช่น Porshe Taycan มี 2 speed เพื่อให้ทำ top speed ได้สูงๆๆๆๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 29, 2022, 09:14:42 โดย LapisLazuli »

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
EV ไม่จำเป็นต้องปรับอัตราทดครับ

มอเตอร์ไฟฟ้า ไม่เหมือนเครื่องยนต์
- torque มาสูงสุดเลยตั้งเเต่ 0 rpm เเล้วค่อนข้างคงที่ ทุก rpm
- ไม่มีรอบเดินเบา
- สามารถหมุนได้ หลาย rpm จนกว่าจะสุด voltage range (top speed ของ EV ส่วนใหญ่อยู่ที่ 160 km/h โดยที่ไม่ต้องปรับอัตราทด ใช้เเค่เกียร์เฟืองเดียว single speed, e-Power ก็เช่นกัน)
- แปลว่า มีเเค่เกียร์เดียว single speed ก็สามารถวิ่งได้ตั้งเเต่ 0-160 km/h โดยให้ torque ค่อนข้างคงที่, ไม่เหมือนเครื่องยนต์ ICE ที่ torque มาเเค่บางช่วง rpm แล้วเกียร์เดียววิ่งได้เเค่ประมาณ 60 km/h
- ถ้าอย่างเช่น Porshe Taycan มี 2 speed เพื่อให้ทำ top speed ได้สูงๆๆๆๆๆ
ผมว่ามันคือจุดอ่อนนะครับ. อัดไฟอัดรอบเยอะแต่ตีนปลายได้น้อยกว่าเครื่องสันดาปในแรงม้าแรงบิดเท่ากัน แถมอุณภูมิแกนมอเตอร์ยังร้อนมากด้วยเพราะรอบสูงไป

ของbosch. มีcvt. สำหรับ evนะครับ


ออฟไลน์ Pattana.JWatts

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 38
EV ไม่จำเป็นต้องปรับอัตราทดครับ

มอเตอร์ไฟฟ้า ไม่เหมือนเครื่องยนต์
- torque มาสูงสุดเลยตั้งเเต่ 0 rpm เเล้วค่อนข้างคงที่ ทุก rpm
- ไม่มีรอบเดินเบา
- สามารถหมุนได้ หลาย rpm จนกว่าจะสุด voltage range (top speed ของ EV ส่วนใหญ่อยู่ที่ 160 km/h โดยที่ไม่ต้องปรับอัตราทด ใช้เเค่เกียร์เฟืองเดียว single speed, e-Power ก็เช่นกัน)
- แปลว่า มีเเค่เกียร์เดียว single speed ก็สามารถวิ่งได้ตั้งเเต่ 0-160 km/h โดยให้ torque ค่อนข้างคงที่, ไม่เหมือนเครื่องยนต์ ICE ที่ torque มาเเค่บางช่วง rpm แล้วเกียร์เดียววิ่งได้เเค่ประมาณ 60 km/h
- ถ้าอย่างเช่น Porshe Taycan มี 2 speed เพื่อให้ทำ top speed ได้สูงๆๆๆๆๆ
ผมว่ามันคือจุดอ่อนนะครับ. อัดไฟอัดรอบเยอะแต่ตีนปลายได้น้อยกว่าเครื่องสันดาปในแรงม้าแรงบิดเท่ากัน แถมอุณภูมิแกนมอเตอร์ยังร้อนมากด้วยเพราะรอบสูงไป

ของbosch. มีcvt. สำหรับ evนะครับ



ดูทรงแล้ว CVTรภEVของboschน่าจะใช้กับพวกVW Audi Peugeotก่อนเจ้าอื่นครับ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,418
    • อีเมล์
EV ไม่จำเป็นต้องปรับอัตราทดครับ

มอเตอร์ไฟฟ้า ไม่เหมือนเครื่องยนต์
- torque มาสูงสุดเลยตั้งเเต่ 0 rpm เเล้วค่อนข้างคงที่ ทุก rpm
- ไม่มีรอบเดินเบา
- สามารถหมุนได้ หลาย rpm จนกว่าจะสุด voltage range (top speed ของ EV ส่วนใหญ่อยู่ที่ 160 km/h โดยที่ไม่ต้องปรับอัตราทด ใช้เเค่เกียร์เฟืองเดียว single speed, e-Power ก็เช่นกัน)
- แปลว่า มีเเค่เกียร์เดียว single speed ก็สามารถวิ่งได้ตั้งเเต่ 0-160 km/h โดยให้ torque ค่อนข้างคงที่, ไม่เหมือนเครื่องยนต์ ICE ที่ torque มาเเค่บางช่วง rpm แล้วเกียร์เดียววิ่งได้เเค่ประมาณ 60 km/h
- ถ้าอย่างเช่น Porshe Taycan มี 2 speed เพื่อให้ทำ top speed ได้สูงๆๆๆๆๆ
ผมว่ามันคือจุดอ่อนนะครับ. อัดไฟอัดรอบเยอะแต่ตีนปลายได้น้อยกว่าเครื่องสันดาปในแรงม้าแรงบิดเท่ากัน แถมอุณภูมิแกนมอเตอร์ยังร้อนมากด้วยเพราะรอบสูงไป

ของbosch. มีcvt. สำหรับ evนะครับ



ก็ต้องพัฒนากันต่อไป ครับ
แต่ทุกวันนี้ มันก็ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้หมดละ
แถมเรื่องตีนปลายนี่ ถ้าเอากฏหมายมาจับ มันก็แทบไมไ่ด้ใช้หรอก

ส่วนที่ว่าตีนปลายนี่ เอาตรงๆ ถ้าลากรอบรอสันดาปไปจุดนั้น มันก็คือขับรถผิดกฏหมายหันหมด

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
EV ไม่จำเป็นต้องปรับอัตราทดครับ

มอเตอร์ไฟฟ้า ไม่เหมือนเครื่องยนต์
- torque มาสูงสุดเลยตั้งเเต่ 0 rpm เเล้วค่อนข้างคงที่ ทุก rpm
- ไม่มีรอบเดินเบา
- สามารถหมุนได้ หลาย rpm จนกว่าจะสุด voltage range (top speed ของ EV ส่วนใหญ่อยู่ที่ 160 km/h โดยที่ไม่ต้องปรับอัตราทด ใช้เเค่เกียร์เฟืองเดียว single speed, e-Power ก็เช่นกัน)
- แปลว่า มีเเค่เกียร์เดียว single speed ก็สามารถวิ่งได้ตั้งเเต่ 0-160 km/h โดยให้ torque ค่อนข้างคงที่, ไม่เหมือนเครื่องยนต์ ICE ที่ torque มาเเค่บางช่วง rpm แล้วเกียร์เดียววิ่งได้เเค่ประมาณ 60 km/h
- ถ้าอย่างเช่น Porshe Taycan มี 2 speed เพื่อให้ทำ top speed ได้สูงๆๆๆๆๆ
ผมว่ามันคือจุดอ่อนนะครับ. อัดไฟอัดรอบเยอะแต่ตีนปลายได้น้อยกว่าเครื่องสันดาปในแรงม้าแรงบิดเท่ากัน แถมอุณภูมิแกนมอเตอร์ยังร้อนมากด้วยเพราะรอบสูงไป

ของbosch. มีcvt. สำหรับ evนะครับ



ก็ต้องพัฒนากันต่อไป ครับ
แต่ทุกวันนี้ มันก็ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้หมดละ
แถมเรื่องตีนปลายนี่ ถ้าเอากฏหมายมาจับ มันก็แทบไมไ่ด้ใช้หรอก

ส่วนที่ว่าตีนปลายนี่ เอาตรงๆ ถ้าลากรอบรอสันดาปไปจุดนั้น มันก็คือขับรถผิดกฏหมายหันหมด
ผมว่า  ลดรอบมอเตอร์ในการวิ่งทางไกลได้ย่าจะดีนะครับ  เห็นว่ารถถ่านจะเปลืองตอนวิ่งทางไกลนี่แหละ  กับอีกอย่าเกียร์เดียวในรถไฟฟ้าเล็กๆเช่นแมวดี  ทำใหไต่เขาได้ไม่โอเค  ทั้งที่แรงม้าแรงบิดเยอะกว่าอีโคคาร์  กับอีกอย่างรถเกียร์เดียวมันดูจืดชืดในการขับรถไปครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 29, 2022, 15:49:46 โดย deertesla »

ออฟไลน์ shorttoeh

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 37
ไม่ต้องแค่นิสสันอ่ะนะ คือทั้งโลกอ่ะ รุ่นแรกๆ น่าจะทำแบบไม่มีเกียร์มาก่อน เพราะคิดว่าส่วนใหญ่คนที่ซื้อคงเอาไว้ใช้ในเมือง ทางแบบไม่โหด

รถเครื่องเบนซินพวกที่เครื่องเล็กๆ ไม่ถึง 1.5 ลิตร มันขึ้นลงเขาชันๆได้ก็เพราะเกียร์และเฟืองขับช่วยทดแรง เพราะเครื่องเบนซิน ทอร์คต่ำกว่าดีเซลเยอะ

จะไปพึ่งแต่มอเตอร์ให้ขับทอร์คออกมาหนักๆ กินไฟเพิ่ม ผมว่าคงไม่ใช่ และต่อไปอาจจะเป็นการลดต้นทุนที่ไม่ต้องใช้มอเตอร์ที่มีกำลังมากมาย แต่ใช้เกียร์ช่วยแทน

ผลพลอยได้ก็ไม่ต้องใช้กระแสไฟให้สิ้นเปลือง ลดการใช้แบตฯ ระยะทางก็เพิ่มขึ้น

ทีนี้ ใครซื้อแบบไม่มีเกียร์ ก็ต้องมาซื้อใหม่ จะทำมาขายรอบเดียวทำไม

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
ไม่ต้องแค่นิสสันอ่ะนะ คือทั้งโลกอ่ะ รุ่นแรกๆ น่าจะทำแบบไม่มีเกียร์มาก่อน เพราะคิดว่าส่วนใหญ่คนที่ซื้อคงเอาไว้ใช้ในเมือง ทางแบบไม่โหด

รถเครื่องเบนซินพวกที่เครื่องเล็กๆ ไม่ถึง 1.5 ลิตร มันขึ้นลงเขาชันๆได้ก็เพราะเกียร์และเฟืองขับช่วยทดแรง เพราะเครื่องเบนซิน ทอร์คต่ำกว่าดีเซลเยอะ

จะไปพึ่งแต่มอเตอร์ให้ขับทอร์คออกมาหนักๆ กินไฟเพิ่ม ผมว่าคงไม่ใช่ และต่อไปอาจจะเป็นการลดต้นทุนที่ไม่ต้องใช้มอเตอร์ที่มีกำลังมากมาย แต่ใช้เกียร์ช่วยแทน

ผลพลอยได้ก็ไม่ต้องใช้กระแสไฟให้สิ้นเปลือง ลดการใช้แบตฯ ระยะทางก็เพิ่มขึ้น

ทีนี้ ใครซื้อแบบไม่มีเกียร์ ก็ต้องมาซื้อใหม่ จะทำมาขายรอบเดียวทำไม
เห็นด้วยครับ   ผมว่าเกียร์เดียวมันเหมาะแค่ในเมือง

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,418
    • อีเมล์
ไม่ต้องแค่นิสสันอ่ะนะ คือทั้งโลกอ่ะ รุ่นแรกๆ น่าจะทำแบบไม่มีเกียร์มาก่อน เพราะคิดว่าส่วนใหญ่คนที่ซื้อคงเอาไว้ใช้ในเมือง ทางแบบไม่โหด

รถเครื่องเบนซินพวกที่เครื่องเล็กๆ ไม่ถึง 1.5 ลิตร มันขึ้นลงเขาชันๆได้ก็เพราะเกียร์และเฟืองขับช่วยทดแรง เพราะเครื่องเบนซิน ทอร์คต่ำกว่าดีเซลเยอะ

จะไปพึ่งแต่มอเตอร์ให้ขับทอร์คออกมาหนักๆ กินไฟเพิ่ม ผมว่าคงไม่ใช่ และต่อไปอาจจะเป็นการลดต้นทุนที่ไม่ต้องใช้มอเตอร์ที่มีกำลังมากมาย แต่ใช้เกียร์ช่วยแทน

ผลพลอยได้ก็ไม่ต้องใช้กระแสไฟให้สิ้นเปลือง ลดการใช้แบตฯ ระยะทางก็เพิ่มขึ้น

ทีนี้ ใครซื้อแบบไม่มีเกียร์ ก็ต้องมาซื้อใหม่ จะทำมาขายรอบเดียวทำไม
เห็นด้วยครับ   ผมว่าเกียร์เดียวมันเหมาะแค่ในเมือง

เอาง่ายเกียรเดียวก็คือ สภาวะเดียว ครับ เหมือน ค่ายรถต้องเลือกมาเลย ว่าจะเอา อัตราทดแรก มาไว้ที่เกียรไหน
เช่น  1 2 3  4 5
เพียงแค่รถไฟฟ้า ไม่ว่าเกีนรไหน มัรก็ได้แรงบิดมาเลย แต่ๆๆๆ
อย่าลืม แรงบิดคงที่ นั่นละตัวสิ้นเปลือง
การขับรถไฟลๆ ทางไกลๆ เราไม่ได้ต้อวการแรงบิด แต่รถไฟฟ้า มันก็จ่ามาเต็ท อารมณ์ เทอรโบบูสค้าง ตลอดเวลา
 

ออฟไลน์ LapisLazuli

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 285
    • อีเมล์
ไม่ต้องแค่นิสสันอ่ะนะ คือทั้งโลกอ่ะ รุ่นแรกๆ น่าจะทำแบบไม่มีเกียร์มาก่อน เพราะคิดว่าส่วนใหญ่คนที่ซื้อคงเอาไว้ใช้ในเมือง ทางแบบไม่โหด

รถเครื่องเบนซินพวกที่เครื่องเล็กๆ ไม่ถึง 1.5 ลิตร มันขึ้นลงเขาชันๆได้ก็เพราะเกียร์และเฟืองขับช่วยทดแรง เพราะเครื่องเบนซิน ทอร์คต่ำกว่าดีเซลเยอะ

จะไปพึ่งแต่มอเตอร์ให้ขับทอร์คออกมาหนักๆ กินไฟเพิ่ม ผมว่าคงไม่ใช่ และต่อไปอาจจะเป็นการลดต้นทุนที่ไม่ต้องใช้มอเตอร์ที่มีกำลังมากมาย แต่ใช้เกียร์ช่วยแทน

ผลพลอยได้ก็ไม่ต้องใช้กระแสไฟให้สิ้นเปลือง ลดการใช้แบตฯ ระยะทางก็เพิ่มขึ้น

ทีนี้ ใครซื้อแบบไม่มีเกียร์ ก็ต้องมาซื้อใหม่ จะทำมาขายรอบเดียวทำไม
เห็นด้วยครับ   ผมว่าเกียร์เดียวมันเหมาะแค่ในเมือง

ใช่ครับ มีก็ดีกว่าไม่มี มาช่วยลดภาระ
แต่ที่จะสื่อ คือ EV มีเเค่เกียร์เดียวก็ครอบคลุมการใช้งานของคนทั่วไปได้เยอะเเล้ว (ตอนนี้มีเเต่ในรถราคาเเพงๆ performance โหดๆ)

ลองนึกถาพ รถ ICE มีเกียร์เดียวสิ ใช้งานไม่ได้เลยด้วยซ้ำ 55 (ถ้าเมื่อ 100 ปีที่เเล้ว อาจจะโอเค ใช้งานได้บน traffic ช้าๆโล่งๆในเมือง)

เเต่อนาคตจะเป็นยังไง ต้องรถเูค่ายรถอีกที ว่าจะใส่เกียร์มาให้มั้ย ปัจจัยคงอยุ่ที่ต้นทุน การกำลังซื้อของลูกค้า เป็นหลัก เเละรวมถึงกฎหมาย มาตรฐานต่างๆ ที่กำหนดให้ใช้ Wh/km ต่ำลงเรื่อยๆๆๆ

Motor Torque โหดขนาดนี้ คงยังไม่เห็น CVT ที่ทนได้ โดยที่ขนาดเล็ก เเละต้นทุนคุ้มตังค์ ที่จะใส่มาให้ เร็วๆนี้เเน่นอน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 29, 2022, 18:08:38 โดย LapisLazuli »

ออฟไลน์ คุณ นมๆ

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 716
ถ้ายังทำแค่ชุดเฟืองสามสี่ตัวที่ไม่ต้องเคลื่อนตำแหน่งหมุนยังเดียวให้มันพังได้อีก ทุบโรงงานทิ้งไปเลยเลิกขาย

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,333
เกียร์ไม่มี มันก็ไม่มีให้เสีย แต่แนวโน้มนโยบายบริษัทเหมือนเดิม ก็มีแนวโน้มที่จะทำส่วนอื่นให้มีปัญหาได้เช่นกัน

น่าเสียดายรถหลายรุ่นสวยๆของค่ายนี้