มีคนใช้รถอีกมากครับ ที่เข้าใจผิดว่าสัญลักษณ์แบตฯ สีแดงบนหน้าปัด คือแจ้งเตือนแบตฯ หมด
แท้จริงแล้ว ถ้าขึ้นเตือน แสดงว่า ระบบชาร์จไฟไม่ทำงานครับ
ฟังจากที่เล่ามา ลองพิจารณาแบบนี้ครับ
1 คันอื่นมาช่วยติดแล้ว ไดร์ชาร์จ ทั้งชาร์จเข้าแบตฯ ทั้งจ่ายให้กับอุปกรณ์ในรถ โดยเฉพาะแอร์ จึงไม่ได้ชาร์จเข้าแบตฯ ได้เพียงพอ เพราะแค่วิ่งใช้งานใกล้ๆ ยิ่งใช้บ่อยยิ่งเป็นหนัก
2 หากใช้รถยาวๆ ทุกวันอยู่แล้ว ก็เป็นได้ 2 ทาง แบตฯ ไม่เสื่อม เจ้าไดร์ชาร์จก็อาจจะเริ่มใกล้ลาโลก มันยังใช้ได้ แต่จาก 100 อาจเหลือแค่ 60 ไฟเตือนระบบการชาร์จจึงไม่ขึ้นให้เห็น
3 จาก 1 หากอยากพิสูจน์ว่าแบตฯ เสื่อมหรือไม่เสื่อม ก็หาโอกาสวิ่งยาวๆ เป็นชั่วโมง สองชั่วโมง ติดต่อกันดู (บางคนเลือกถอดให้ร้านชาร์จ) การวิ่งยาวพิสูจน์ได้ 2 เรื่อง คือ ประสิทธิภาพของการชาร์จและแบตฯ หลังจากวิ่งหรือชาร์จถ้าวันต่อๆ มายังใช้ได้ แสดงว่า แบตฯและไดร์ชาร์จ ยังใช้ได้ แต่เหตุเป็นเพราะใช้รถบ่อย แต่แค่วิ่งใกล้ๆ เปิดแอร์เย็นฉ่ำ พัดลมเบอร์ 2 เบอร์ 3 อาการที่เล่าก็จะกลับมาตามเดิม แสดงว่าปัญหาเกิดจาก พฤติกรรมการใช้รถในชีวิตประจำวันมันไม่เอื้อต่อการชาร์จไฟเข้าระบบให้เพียงพอ ต่อให้เปลี่ยนแบตฯ ใหม่ สักพักอาการก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
4. ไฟอาจรั่วลงกราวน์ เกิดขึ้นไม่บ่อย แต่ก็เป็นไปได้ในกรณีที่รถเริ่มเก่า หรือไปทำอะไรเกี่ยวกับสายไฟมา
เรื่องไฟจะมีแค่นี้ครับ