Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: snomter ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 11:03:51
-
ตัว KTB Oil Fund Card เป็น บริการแบบ ใหนครับ เอาแบบภาษา ชาวบ้านๆ นะครับ แล้วบริการนี้ดียังไงครับ
มีข้อเสียอะไรบ้างครับ ถ้าเทียบกับการเติมน้ำมัน แบบใช้เงินสดนะครับ และคุ้มหรือเปล่าครับกับการใช้บริการแบบนี้
มีข้อคิดเห็นเป็นยังไงครับกับบริการนี้
รบกวนด้วยครับ อยากรู้จริงๆ อ่านจากเวปแล้วยัง งงๆ อยู่เลยครับ
-
ผมว่าลบลิ๊งค์ดีกว่านะครับ เดี๋ยวเข้าข่ายโฆษณา
-
ลบลิงค์ แล้ว ครับ ขอบคุณครับ แต่อยากรู้จริงๆ ครับ
-
มันแค่ให้เราใช้น้ำมันในราคาเดียวไปตลอดไม่ว่าน้ำมันขึ้นหรือลงรึป่าว
-
มันคือการลงทุนในกองทุนน้ำมันครับ แล้วบัตรนั้นก็เหมือนกับเงินลงทุนของเรา สามารถรูดใช้ได้ แต่เห็นว่าไม่เกิน 80% ของยอดเงิน (เพราะจะเผื่อในวันที่น้ำมันลงมากๆ)
จริงๆ ก็คือ เหมือนเอาเงินไปซื้อน้ำมัน ถ้าน้ำมันขึ้น เราได้กำไร เงินในบัตรเราก็จะมากขึ้น แต่ก็เติมน้ำมันแพงขึ้น
พอน้ำมันลง เราขาดทุน เงินในบัตรลดลง แต่น้ำมันก็จะถูกลง
แต่อัตราการเพิ่มขึ้นหรือลดลง มันก็มีความแปรผันมากกว่าแค่ราคาที่กองทุนเอาไปลงทุนอีกครับ ทั้งนโยบายภาษีของรัฐบาล หรือการอั้นราคาของผู้ค้าในประเทศ จึงพูดไม่ได้ซะทีเดียวว่าเติมน้ำมันได้ที่ราคาเดิมตลอด
จริงๆ แล้วลองดูกองทุนน้ำมันอื่นๆ ก็ได้ ถ้าสนใจลงทุน แต่อันนี้ดีที่เสียค่าบัตรปีละ 200 จะซื้อเข้าขายออกกี่ครั้งก็ได้ ไม่เหมือนกองทุนทั่วไปที่เสียค่า commission ตามครั้งและจำนวนเงินที่ซื้อ/ขาย
-
มันก็เหมือนกับการซื้อกองทุนรวมน่ะครับ เหมือนบังคับซื้อเลย
มันเป็นการเลือกลงทุนอย่างนึง
มันผูกกับกองทุน KT-OIIL ของธนาคารกรุงไทย
ลองดูหนังซื้อชีชวน https://www.ktamsmarttrade.com/Service/KT-OIIL.pdf (https://www.ktamsmarttrade.com/Service/KT-OIIL.pdf)
(ขอให้ลิ้งค์นะครับ เพราะนักลงทุนต้องศึกษาความเป็นไปได้ของกองทุนให้เข้าใจก่อนการลงทุน)
มันก็ดีตอนน้ำมันขึ้นน่ะครับ ถ้าจะใช้จริงๆ ก็
ถ้าวันไหนน้ำมันขึ้นค่อยใช้ วันไหนน้ำมันลดก็จ่ายเงินสด
และไปซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มครับ
ถ้าถามผม ผมไม่สนใจนะ
และสุดท้ายก็อย่าลืมนะครับการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ
-
มันเป็นช่องทางให้ลูกค้าขายหน่วยลงทุนง่ายขึ้นครับ
แต่ที่ไม่แน่ใจคือ ถ้าเอาไปใช้จ่ายเงินค่าน้ำมันแล้วมันไม่มีค่าธรรมเนียมเหรอครับ
จะกำไร ขาดทุนขึ้นอยู่กับผู้จัดการกองทุนว่า สามารถบริหารเงินของเราได้ดีแค่ไหนครับ
กรณีนี้เค้าเอาไปลงทุนในสัญญาซื้อ-ขายน้ำมันดิบล่วงหน้าที่ WTI
ถ้าเค้าคาดการณ์ถูก(เดา) เราก็ได้กำไร NAV ของกองทุนนั้นๆก็จะขึ้น เราก็ได้กำไร
แต่ถ้าผิดเราก็ขาดทุน แต่ส่วนมากพวกนี้เค้าก็ตามแนวโน้มน้ำมันครับ
น้ำมันขึ้นก็กำไร น้ำมันลงก็ขาดทุน
ถ้าถามว่า วัตถุประสงค์เพื่อเอาช่วยลดภาระค่าน้ำมัน
ผมมองว่า ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะกลายเป็นคุณต้องมารับภาระเพิ่มในการบริหารเงินลงทุนอีก
แล้วขอบอกว่า ไม่ง่ายครับในภาะวตลาดอย่างนี้ครับ ปัจจัยเยอะเหลือเกิน
สู้หาโปรบัตรเครดิต ที่ลดค่าน้ำมันได้ยังดีกว่าครับ
-
มันเป็นช่องทางให้ลูกค้าขายหน่วยลงทุนง่ายขึ้นครับ
แต่ที่ไม่แน่ใจคือ ถ้าเอาไปใช้จ่ายเงินค่าน้ำมันแล้วมันไม่มีค่าธรรมเนียมเหรอครับ
ค่าธรรมเนียมเรียกเก็บ แค่ 200 ต่อปีครับ ไม่มีเรียกเก็บรายครั้ง
แต่ก็มีค่าบริหารจัดการ ที่รวมตอนคำนวน NAV อยู่ แต่ผมจำไม่ได้ว่ากี่ %
ผมคิดว่าถ้าไม่เชี่ยวชาญการลงทุน ก็ไม่ควรใช้ครับบัตรนี้ ความเสี่ยงเยอะเหมือนกันนะ
-
ผมมองว่า มันเป็น "ออพชั่น" ใหม่ สำหรับกองทุนรวม ที่ลงทุนในน้ำมันครับ (ไม่แน่ใจว่า กองทุนนี้ลงทุนในน้ำมันดิบ หรือ ว่า น้ำมันสำเร็จรูปนะครับ)
ก็คงเหมือนๆ กับการลงทุน ในกองทุนรวมทั่วไป เหมาะสำหรับคนที่อยากลงทุนในน้ำมัน แต่ไม่มีเวลาเฝ้าตามข่าว
เฝ้ากระดานซื้อขาย หรือว่า ไม่มีเงินเยอะพอที่จะไปลงทุนคนเดียวครับ
(กองทุนรวม ก็คือ รวมๆ เงินกันไปลงทุน โดยมีคนจัดการดูแลให้)
แต่สำหรับผู้ที่สนใจจะลงทุน ในกองทุนรวม ที่ลงทุนในน้ำมัน อยู่แล้ว
"ออพชั่น" นี้ ก็น่าสนใจครับ
ส่วนเหตุผล ก็ตามที่ท่าน GeneralAK บอกเลยครับ
มันทำให้มีช่องทางในการขายหน่วยลงทุนมากขึ้น โดยไม่ต้องรอ T+3
แต่เอาบัตรไปรูดปรู๊ดได้เลย
(รึเปล่าหว่า ผมเองก็ไม่ได้สนใจ เลยไม่ได้หาข้อมูลครับ)
ส่วนตัวแล้ว ผมว่า ไม่น่ามาโฆษณาแบบนี้เลย ทำให้คนเข้าใจผิดกันเยอะหนะครับ
ส่วนตัวผม (อีกที) ผมเอาเงินไปซื้อหุ้น PTT หรือ PTTEP ดีกว่าครับ ;D
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดเตรียมเงินไว้เยอะๆ ครับ
;D :D
-
ขอบคุณทุกกระทู้ครับ ที่ช่วยตอบให้ ได้ความรู้ขึ้นมากเลยครับ
-
ตอนแรกก็เหมือนจะสนใจ
แต่ทำงัยได้รถผมเติมน้ำมันเดือนละ ไม่เกิน 500 เลยไม่ได้ศึกษา
เข้ามาเก็บความรู้ก่อน