ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องรถยนต์ราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป  (อ่าน 8841 ครั้ง)

ออฟไลน์ Bangkok Infinity X12

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 231
เรื่องรถยนต์ราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป
« เมื่อ: มกราคม 17, 2012, 12:49:14 »
ในปัจจุบันรถยนต์ในสมัยนี้เริ่มราคาแพงมากขึ้นเป็นเพราะ Option ของรถหรือไม่ก็เครื่องยนต์ต่างๆ แล้วแต่ใน Segment

ลองสังเกตดูว่า ถ้าเป็นรถยนต์เฉพาะประเภท supermini,sub-compact,compact car,pickup,ไม่นับ SUV(PPV ในบ้านเรา),รถนำเข้า ที่เป็นรุ่น Top ราคาเกิน 1 ล้าน
ไม่นับ BMW,Mercedes-Benz,Volvo,Lexus และรถนำเข้า โดยไม่สนที่นโยบายรถคันแรก
อยากทราบว่าคนไทยจะซื้อรถราคา 1 ล้านหรือไม่ เพราะเหตุใด
คนเราซื้อรถได้ ควรดูที่ความเร็ว การควบคุม คุณภาพ รอบด้านครับ

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,364
Re: เรื่องรถยนต์ราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 17, 2012, 13:43:26 »
ถ้าคุณมีเงินเก็บ(รายได้หักค่าใช้จ่าย) ต่อปีเกิน 1 ล้านบาท การจะซื้อรถราคา 1 ล้านก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว
สำหรับผม เงินส่วนนั้น ยังมีไม่ถึงและไม่รู้ว่าจะถึงได้หรือเปล่าในชีวิตนี้ ดังนั้น ตัวผมจึงยังไม่มองรถที่ราคาเกินตัวครับ
ผมมองรถระดับราคาไม่เกิน 7 แสนบาทครับ
เพราะผมมองแล้วรถพวกนี้ใช้ไปสัก 5 ปีขึ้นไป เงินก็จะหายไปราวๆ 2-3 แสน แต่ถ้ารถยิ่งราคาแพงมากๆก็จะ
แต่ถ้าวันหนึ่ง ผมมีรายได้มากพอ ผมก็ไม่ลังเลใจที่จะซื้อครับ เพราะว่ามันคือรางวัลชีวิตครับ

ถ้าเป็นสมัยก่อน ตอนที่ผมยังไม่ได้แต่งงาน ผมคงจะไม่คิดอะไรเยอะ อยากได้อะไรก็เก็บเงินแล้วก็ซื้อเลย แต่พอมีครอบครัวแล้ว มุมมองมันก็จะเปลี่ยนไปเป็นอีกอย่างหนึ่งครับ

ออฟไลน์ Tyde

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 501
Re: เรื่องรถยนต์ราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 17, 2012, 16:23:20 »
บางครั้งคนที่ซื้อรถพวกนี้ก็ต้องออกหน้าออกตากับสังคมก็จำเป็นต้องใช้ครับ   และอาจหมายถึงความมั่นคงทางธุรกิจของผู้ขับรถ  เพื่อแสดงภูมิฐานด้วย

ส่วนตัวก็อยากได้ครับ   ;D  รถแพงๆ แรงๆ หรูๆ  แต่ตอนนี้ยังไม่มีปัญญา  :D

ออฟไลน์ eaowpj

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 610
Re: เรื่องรถยนต์ราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มกราคม 17, 2012, 17:44:25 »
ผมว่าที่เขาซื้อรถญี่ปุ่นหรือฟอร์ดหรือเชฟ ราคา ล้านขึ้น เขาอาจจะพึงพอใจรถคันนั้นที่รุ่นราคาเป็นล้าน รุ่นล่างกว่านั้นมันอาจไม่ครบ เพราะเมืองไทยไม่มีอ็อฟชั่นจริง มีแต่สิ่งที่บริษัทรถจัดให้ โดยรุ่นสูง ๆ จะมีสิ่งที่บริษัทรถจับยัดมากที่สุด สำหรับผมมันเป็นอย่างที่ผมพิมพ์ ผมซื้อ lancer ex 2.0 GT ราคาล้านกว่าบาท เพราะอยากได้เครื่อง 2.0 แต่ดันมีรุ่นเดียว อัดมาเป็นออฟชั่นทั้งที่ผมไม่ได้ต้องการทั้งหมด เช่นผมไม่อยากได้ cruise control, navigator, แม็ค 18, เครื่องเสียง, paddle shift แต่มันบังคับให้มี ถามว่าถ้ามีแล้วอึดอัดไหม ขอตอบว่าไม่ ผิดหวังไหม ก็ตอบว่าไม่ เพราะลองรถมาแล้ว ทั้งนี้ต้องอยู่ในเงื่อนไขทีคุณต้องไม่เดือดร้อนทีจะซื้อรถด้วยครับ คำถามที่มักจะถามต่อมาคือทำไมไม่ซื้อ พวก D segment ที่มันราคาล้านกว่าบาท (ล้านแสน) คำตอบคือพอใจขนาดรถแค่นี้ มีความจำเป็นที่ใช้รถขนาดแค่นี้ และถ้าซื้อ D segment มันมีอ็อฟชั่นที่ไม่ต้องการมากเกินไป  :)

ออฟไลน์ MC Stradale

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,519
Re: เรื่องรถยนต์ราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มกราคม 17, 2012, 18:30:41 »
เพราะมีเงินพอครับ มีเหลือเฟือ :D

ทางบ้านผมก้ซื้อได้ครับ อย่าง Mini อย่างเนี้ย รถเล็กๆ ราคาตั้งสองล้านกว่าบาท แต่ก้ไม่ซื้อเพราะถือว่าเรื่องรถเนี่ย พอเราซื้อมาก้มีแต่เสียเงินกับเสียเงิน ถ้าเอาเงินไปซื้อรถญี่ปุ่นรุ่น D-segment อย่าง Teana Accord ยังแค่ล้านกว่าบาท ค่าซ่อบำรุงก้ถูกกว่า คันก้ใหญ่กว่า มีเงินเก็บเพิ่มขึ้นไว้ลงทุนทำโน่นนี่ แล้วทำเงินได้ ดีกว่าเสียไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็นครับผม

ออฟไลน์ ArmMoTo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 396
Re: เรื่องรถยนต์ราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มกราคม 17, 2012, 18:47:31 »
ซื้อแน่นอนครับ ถ้าการเงินพร้อมโดยที่ไม่เดือดร้อน  ;)

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,013
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
Re: เรื่องรถยนต์ราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มกราคม 17, 2012, 19:00:14 »
มันขึ้นกับว่า เมื่อหักค่าใช้จ่าย และเงินออมแล้ว คุณมีเงินเหลือแค่ไหนมากกว่าครับ

สมมุติว่ารายได้คุณ 1 แสน ค่าใช้จ่ายต่อเดือนคุณแค่ 25000 ออมอีก 20000 เหลือเงินเดือนละ 55000 เนี่ย ผมว่า ผ่อนรถราคา 2 ล้าน สบายๆ เลยนะ

แต่ตรงกันข้าม ถ้าคุณรายได้ต่อเดือน 3 แสน แต่ค่าใช้จ่ายในครอบครัว 2 แสนห้าไปแล้ว ไหนจะต้องเลี้ยงลูก ลูกกำลังโต etc. ถ้าแบบนี้ ผมว่าคงได้แค่ B Segment คันละ 5 แสนครับ

ดังนั้น ไม่มีใครตอบได้ครับ มันขึ้นกับ รายได้+ภาระ+เงินออมครับ

อ้ออีกอย่างคือ รถยิ่ง segment สูงขึ้น ค่าบำรุงรักษาค่าอะไหล่ ยิ่งแพงขึ้น ดังนั้นถ้าซื้อรถเพียงเพราะดาวน์ไหว ผ่อนไหว ก็อาจจะตายได้ เพราะไม่มีเงินซ่อม หรือเปลี่ยนน้ำมันเครื่องครับ

ตัวผมเนี่ย ให้ไปใช้แม็กใหญ่เกินขอบ 15 เนี่ย ไม่ไหวละครับ สู้ค่ายางไม่ไหว ยังไงๆ ผมก็ยังยากได้ของ 14 มากกว่า
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ MystogaN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,472
Re: เรื่องรถยนต์ราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มกราคม 17, 2012, 20:02:51 »
คนที่ต้องการรถที่นั่งค่อนข้างสบายมากขึ้น และดูดีในระดับหนึ่งมั้งครับ

ออฟไลน์ T1k

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 711
    • T1K
    • อีเมล์
Re: เรื่องรถยนต์ราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มกราคม 17, 2012, 22:28:26 »
ผมก็เคยว่าชีวิตนี้จะไม่บ้าซื้อรถเกินล้าน
คันแรก YarisG 699,000 ตอนซื้อก็มีเงินเย็นสำรองพอควร
 แต่เมื่อเวลาเหมาะสม ไปเห็น Prius ที่ Japan พอดี กลับมาในไทย พอข้อมูลเพียงพอเลยซัดเลย
รถคือความพอใจครับ

ออฟไลน์ Zardus

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 292
Re: เรื่องรถยนต์ราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มกราคม 17, 2012, 23:43:13 »
ซื้อเป็นเรื่องปกติครับ โดยไม่คิดมากด้วย

ก็เห็น C-Class / E-Class / E-Coupe / SLK / CLS / etc.

วิ่งกันให้เกฝื่อนออกนี่ครับ

ผมว่ามันอยู่ที่ รสนิยม และ ใครซื้อๆหวมากกว่า

ไอ้ที่จะบอกว่าซื้อไว้เข้าสังคม ฝ ซื้อไว้อวด เนี่ย ผมว่าน้อยนะ

ส่วนมากมีแต่ได้ยินอยู่2อย่าง

1.คุ้ม
2.ชอบ
บุหรี่ เป็นภัยต่อสังคม

เราจะเป็นฮีโร่

ดูด ให้มันหมดโลกไปซะ

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,047
Re: เรื่องรถยนต์ราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มกราคม 18, 2012, 00:06:46 »
เหมือนๆกับแตกประเด็นออกมาจากรถอเมริกันกระทู้ล่างๆเลยครับ

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
Re: เรื่องรถยนต์ราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มกราคม 18, 2012, 02:21:37 »
มันไม่ใช่เพิ่งจะมาแพงหรอกครับ แต่รถก็ขยับตัวเองให้โตขึ้นไปเรื่อยเรื่อย
พอไปซ้อนทับกันมากมาก ก็โดนจับยุบ รวมรุ่น ให้เหมาะกับสถานการณ์เท่านั้น

สมัยก่อน S-class คันละ 128,000 Corolla คันละ 35,000 ครับ
รายได้คนก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยเรื่อยเหมือนกัน 1ล้านบาทตอนนี้ ก็ไม่ได้ถือว่ามากอะไร

ออฟไลน์ Bangkok Infinity X12

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 231
Re: เรื่องรถยนต์ราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มกราคม 18, 2012, 08:22:37 »
ขอบคุณที่ให้คำตอบครับ
คนเราซื้อรถได้ ควรดูที่ความเร็ว การควบคุม คุณภาพ รอบด้านครับ

ออฟไลน์ XL_SiZe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,041
Re: เรื่องรถยนต์ราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มกราคม 18, 2012, 10:51:41 »
ผมอยากรู้ อยากลองครับ (พูดเหมือนยาเสพติด)
ผมไม่ได้คิดมากจริง ๆ ครับ
มีเงินเย็นมากกว่าราคารถ เท่ากว่า ๆ ผมก็ซื้อเลยครับ X1 ราคา 2,149,000 บาท

คิดมากเกินเลยก็ทุกข์ครับ แถมไม่ได้ขับรถอีก ทุกข์ไปก่อนแล้ว
แต่เรื่องคำนวณ ก็ต้องรอบคอบพอควรครับ

ก็พอใจกับรถตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ยึดติดครับ เพราะเดี๋ยวมันก็เก่า แก่ พังไปในไม่ช้า

ออฟไลน์ YF-19

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 974
Re: เรื่องรถยนต์ราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มกราคม 18, 2012, 11:05:28 »
อยากได้ + เงินถึง = จัดเลยครับ ถ้ารถ คือความสุขของคุณ ;D ;D
รีวิว "VW scirocco" กำลังจะมาครับ ขอเวลาอีกนิด

รีวิว "Hyundai coupe" ของผมเอง ติชมได้ตลอดครับ
http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=3731.0

ออฟไลน์ Appenzell Swiss

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 327
Re: เรื่องรถยนต์ราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มกราคม 20, 2012, 15:30:31 »
คิดว่าเป็นเรื่องปกติที่รถจะปรับราคาขึ้นเรื่อยๆ เพราะต้นทุนสูงและเพิ่มขึ้น ทั้งการแข่งขันทางธุรกิจสูงคล้ายๆธุรกิจด้านIT จนทำให้หลายบริษัทประสบปัญหาทางการเงินทั้งในอดีตและปัจจุบัน
ผมเชื่อว่าธุรกิจรถยนต์ไม่อยากเพิ่มราคาเท่าที่เป็นไปได้ เพราะการแข่งขันสูง

คำถามที่ว่า คนไทยจะซื้อรถราคา 1 ล้านหรือไม่? ผมไม่แน่ใจว่าความนิยมรถใหญ่จะลดลงไหม เพียงแต่เชื่อว่าคนไทยจะซื้อรถขนาดเล็ก, Eco car เพิ่มขึ้นแน่นอน เพราะเหมาะกับสังคมเมือง
สภษ.(Proverb)14:15 คนเขลาเชื่อถือวาจาทุกอย่าง แต่คนหยั่งรู้มองดูว่าเขากำลังไปทางไหน

ออฟไลน์ HYDE--

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,643
    • อีเมล์
Re: เรื่องรถยนต์ราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: มกราคม 20, 2012, 17:31:45 »
แล้วแต่รายได้ กะ รสนิยมด้วยครับ
บางคน มีเงินเป็นพันล้าน ขับแค่ Camry ก็มี ไม่ิสิ ขับแค่ Vios ยังมีเลย

บางคน ทำธุรกิจส่วนตัว รายได้เดือนละ 3 แสน หรือ ปีละ 3 ล้านกว่าๆ ขับ E-coupe ก็มีถมไป (เราก็เห็นๆกันอยู่ว่ามันเยอะขนาดไหน)
บางคน ทำธุรกิจส่วนตัว รายได้เดือนละ 3 แสน หรือ ปีละ 3 ล้านกว่าๆ เหมือนกัน แต่เค้าคิดว่าขับ Camry ก็เจ๋งมากแล้ว
บางคน อยากมีรถไม่แพงมาก (รถเล็ก/รถมือสองแบบดีๆหน่อย) หลายๆคัน แทนที่จะมีรถแพงๆแค่คันเดียว