ทำไมถึงคิดว่า TATA ไม่มีวันจะขายรถราคาถูกล่ะครับ ?ผมว่า ที่ TATA ขอถอนตัว เพราะติดเงื่อนไขยากๆ โหดๆ มากกว่าครับ- มาตรฐานไอเสีย ยูโร 4- มาตรฐานความปลอดภัย UNECE- ผลิต 100,000 คันในปีที่ 53 ข้อนี้ ผมว่า ทำไม TATA ไม่แน่ใจในขณะที่ ถ้าไม่ใช้เงื่อนไข ECOCar ค่ายตัวเองก็ทำรถได้ถูกกว่า ราคารถตลาดๆ อยู่แล้ว ก็ถอนตัวออกไปดีกว่า อยากจะผลิตรุ่นไหนขาย เครื่องเท่าไหร่ กำลังผลิตเท่าไหร่ ขายในประเทศเท่าไหร่ ก็แล้วแต่จะสะดวกเลยอย่าลืมนะว่า ECOCar คันแรก Nissan March ก็ปาไป 3.75 แสนบาทแล้วยังมีช่องว่างเหลืออีกเยอะครับปล. สมมติ TATA NANO ผลิตขายในไทย ราคา 1.8 แสน คุณว่า เค้าจะขายได้มั้ย ?
เห็นด้วยครับ แต่คิดว่าราคาน่าจะ 2 แสนกลางๆ มากกว่านะครับ เพราะขนาดรถกอล์ฟขับในหมู่บ้าน ยังราคาตั้ง 3 แสนเลย ถ้า Tata จะขาย ไม่ว่าต้นทุนจะ 8 หมื่น หรือ 2 แสน ผมว่าเค้าน่าจะเปิดตัวที่ 2.5 แสน - 3 แสน เนื่องจากยังไม่มีรถที่ราคาถูกกว่านั้นเป็นคู่แข่ง และฟันกำไรได้สุดๆ ครับ ฉะนั้น ถอดตัวจาก อีโคคาร์ เป็นอะไรที่ เป็นประโยชน์ต่อ ทาทา มากมายเลยทีเดียว
ผมไม่ห่วงเรื่องคุณภาพการทำรถของ นิสสัน ครับ เมื่อเทียบกับ ทาทาแต่ที่น่าห่วงมากกว่าคือ พัฒนาการของ ทาทาถ้าตอนนี้ มุ่งสร้างชื่อไปก่อน เป็นหลัก ก็ย่อมจะไปได้ดีกว่านี้ทาทา นาโน นั้น ถ้า 2.2 แสนบาท ผมว่า เหนื่อยมากๆและมันไม่มีทางจะกดราคาให้ต่ำเหลือแค่ 1.5 แสนบาทได้ ตลาดอินเดีย นิสสัน คงจะไม่ส่งมาร์ชเข้าไปขายแน่ๆ เพราะมีโรงงานผลิตเองอยู่ที่นั่นแล้วทาทา อินดิโก หรือ อินดิกา นั้น เมื่อดูคันจริงแล้ว แม้ว่าจะยอมรับได้ สวย น่าใช้แต่ ค่าตัวของรุ่นกลางๆ จะต้องต่ำกว่า 3.5 แสนบาท สถานเดียว ตัวถูกสุด เปิดราคาได้ที่ 3.3 แสนบาทแต่ตัวท็อป ต้องไม่เกิน 4.2 แสนบาท ไม่เช่นนั้น ก็ ดับสนิท