Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: GreenG ที่ มีนาคม 02, 2011, 22:32:33

หัวข้อ: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ มีนาคม 02, 2011, 22:32:33
ไม่รู้ว่าผมแปลกไปคนเดียวหรือเปล่า

คือ เท่าที่ผมอ่าน การ test ของพี่ๆน้องๆทีมงานเวปเรา
ถ้าเป็นรถแนวๆ แบบ lancer EX กับ Volk หลายๆรุ่น ผมอ่านแล้วไม่ค่อยจะชอบ ทั้งที่รถมันก็ดีนะครับ
บางทีก็ไม่ได้อ่านด้วยซ้ำ(แต่กลับมาอ่านทีหลังตลอด)

แต่พอมีพวก Eco car เช่น March หรือ Hybrid เช่น Camry Prius
รู้สึกชอบอ่านและแบบตื่นเต้นสุดๆ อัลติส ตัว 1.6(เพราะประหยัดน้ำมัน แรงกำลังดี) ก็เป็น
ผมคิดว่าเป็นเพราะผมชอบ รถที่รักษาสิ่งแวดล้อมสุด ประหยัดน้ำมันที่ หนึ่ง ซ่อมง่าย(ถูก)
ตอนพี่ๆ Jimmy กับ ผู้การพี่แพน แนะนำรถ เฟีนสต้า 1.4 ผมว่ารถดี แต่กินน้ำมันนี่รับไม่ได้เลย
แย่สุดๆ (แต่เกียร์ธรรมดาดีเลยนะ พอไหว)

ผมรู้สึกว่า Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
ทั้งที่รถเหล่านี้ที่ผ่านมาดี แต่ผมก็ชอบคิดอย่างนี้ ก็ไม่ค่อยเข้าใจตนเองเหมือนกันครับ

คิดว่าการคิดแบบนี้แปลกไหมครับ ขอบคุณครับกับทุกความเห็น :D
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ มีนาคม 02, 2011, 22:40:27
Everybody has an obligation to reduce emissions....
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: PKS8 ที่ มีนาคม 02, 2011, 22:55:17
รถประหยัดแต่ขับไม่สนุก ผมก็ไม่เอาครับ

แต่สิ่ง VW ให้ได้คือ ทั้งประหยัด ทั้งขับสนุก หายากครับสำหรับที่ตอบโจทย์แบบนี้ได้
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: J!MMY ที่ มีนาคม 02, 2011, 23:17:57
ติดยึดมากไปหรือเปล่า?

คนเรา แรงจูงใจในการซื้อรถแต่ละคันที่ตัวเองชอบมันต่างกัน
ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องคิดเหมือนใคร และไม่จำเป็นที่ใครจะต้องมาติดเหมือนคุณ

ถามหน่อย ถ้ากินน้ำมัน 13.5 แต่คุณงามความดีด้านอื่นเพียบเลย
ขับดีกว่า รถที่กิน 18 กิโลเมตร/ลิตร แต่นั่งไม่สบาย ปวดหลัง
คุณ GreenG คิดว่ารับได้ไหมที่จะต้องทนใช้ชีวิตกับรถแบบนั้น?
รถที่ตัวเองขับแล้วเมื่อย ไม่สบายตัว

พวกที่จะเอาแต่ประหยัดมากๆๆๆๆๆ อย่างเดียว ขี้ไม่ยอมให้หมาแดก เนี่ย มีเยอะมาก
อย่าให้ความขี้ไม่ให้หมาแดกเหล่านั้น มันต้องกลายมาเป็นนิสัยเสีย จนทำให้เราลืมมอง
โลกในแง่มุมอื่นๆ กันนักเลย

หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: pladaek ที่ มีนาคม 02, 2011, 23:21:51
ผมก็คล้ายๆ จขกท. รีวิวพวก Benz BMW หรือรถราคาเกินหลัก 2ล้านขึ้นไป ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่..
แต่ก็มีอ่านบ้าง เล็กน้อยๆ เพื่อพอให้เข้าใจบ้าง..
แต่ผมกลับสนใจในรถที่ผมสนใจ รถญี่ปุ่นทั่วไป หรือรถที่ผมสามารถมีกำลังซื้อได้.. (ไม่เกิน 2ล้าน)
ต่อให้รถคันนั้นจะขับสนุกหรือดีมากเพียงใด แต่มันเกินกำลังซื้อผม ผมกลับรู้สึกเฉยๆ..
เป็นธรรมดา ที่มันทำให้ผมไม่มีแรงจูงใจครับ..  ;)

เหมือนคอลัมส์ที่สุดของแจ้ ผมกลับไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก สำหรับคนอ่านอย่างผม
เพราะ 1 ใน 10 ผมสามารถเอื้อมได้เพียง นิสสัน เทียน่า  :-\

แต่ไม่ว่ารุ่นไหน ยี่ห้อไหน ที่ผมไม่ค่อยสนใจ
แต่ทีมงานก็มีความพยายามและความตั้งใจในการทำรีวิว..
ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกรีวิวครับ..
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: Sappe! ที่ มีนาคม 02, 2011, 23:26:44
รถประหยัดแต่ขับไม่สนุก ผมก็ไม่เอาครับ

แต่สิ่ง VW ให้ได้คือ ทั้งประหยัด ทั้งขับสนุก หายากครับสำหรับที่ตอบโจทย์แบบนี้ได้

ถูกครับ บบ  :D

ประหยัดแต่ขับไม่สนุกผมก็ไม่เอาอ่า า

^^"
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: J!MMY ที่ มีนาคม 02, 2011, 23:30:47
รีวิวรถหรูหนะ

ที่ทำให้อ่านกัน
เพราะ จะไดรู้ว่า โลกวันนี้หนะมันไปกันถึงไหนแล้ว
ทำออกมาให้อ่าน เพื่อเปิดโลกทัศน์
จะได้เห็นแนวโน้มว่า อีกหน่อย ออพชันตัวไหน มันอาจจะถูก
นำมาใส่กับรถบ้านได้บ้าง ทำออกมาให้อ่าน เพื่อให้มีจินตนาการ
มีแรงจูงใจ ทำในสิ่งดีๆ หลายๆด้าน ไม่ใช่อ่านแล้วเกิดกิเลส
แบบนั้น มันอยู่ที่ใจคนอ่าน ไม่ใช่ใจของคนทำ

อย่าแค่สนใจแต่รถที่ตัวเองเอื้อมถึงเพียงอย่างเดียว
เพราะถ้าไม่เช่นนั้น ต่อไปนี้ จะทำรีวิวแต่เฉพาะรถถูกๆ ขับแต่รถถูกๆ
ก็เห็นชอบอ่านกันแต่แบบนี้ ก็จะได้จัดทำให้แค่แบบนี้เท่านั้น

จะให้ทำแบบนั้นก็ได้นะครับ ถ้าต้องการกันจริงๆ
ผมจะได้เลิกเอาเบนซ์ เอา BMW เอารถแพงๆ หรูๆ ดีๆ มาทำรีวิวให้คุณอ่าน
คุณจะได้ อ่านแต่รถทั่วๆไป พื้นๆ บ้านๆ กันตามความชอบใจ
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: pladaek ที่ มีนาคม 02, 2011, 23:37:24
ครับผม.. ก็อย่างที่ผมบอก..
ผมก็ยังอ่านอยู่ พวกรถหรู เพื่อให้พอเข้าใจ และรู้ถึงวิวัฒนาการรถสมัยนี้บ้าง..
ถึงแม้มันจะไม่ได้อยู่ในเป้าหมายผม แต่ก็ยังมีคนอื่นอีกมากมาย ที่สนใจรถในกลุ่มนี้..
ผมเข้าใจว่าพวกพี่ทำงานหนักแค่ไหน กว่าจะได้มาแต่ละรีวิว.. มันไม่ง่ายเลย..
แต่ผมก็ยังเอาใจช่วยพวกพี่ๆ ให้ทำออกมาเรื่อยๆครับ..  ;)
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: baeyongcai ที่ มีนาคม 02, 2011, 23:43:21
มีล้อวิ่งได้ ผมชอบหมดอ้ะครับ  ;D
จากจิตวิญญาณของคนชอบรถเลยนะ


หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: mengkubs ที่ มีนาคม 03, 2011, 00:30:55
ประหยัดขับมันเอารถยุโรปเก่ามาลงแก๊สจูนดีๆก็โลละบาทกว่าๆๆ เอามาเช็คช่วงล่างกะหม้อน้ำ

เหยียบ180+ นิ้งครับ

ผมขับbmw e36ปี1991 318i ของตกทอดจากพ่อ  เมื่อก่อนจะไปติดแก๊สอัด205+ได้ครับ

ติดแล้วยังไม่กล้าลองท็อบสปีดเลย

ถ้าไม่กลัวปัญหาจุกจิกจากรถเก่าก็ลองซื้อรถยุโรปเก่าๆ เครื่องไม่โทรมมากมาเล่นได้เลยครับ
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: vollgas ที่ มีนาคม 03, 2011, 00:55:40
ไม่รู้ว่าผมแปลกไปคนเดียวหรือเปล่า

คือ เท่าที่ผมอ่าน การ test ของพี่ๆน้องๆทีมงานเวปเรา
ถ้าเป็นรถแนวๆ แบบ lancer EX กับ Volk หลายๆรุ่น ผมอ่านแล้วไม่ค่อยจะชอบ ทั้งที่รถมันก็ดีนะครับ
บางทีก็ไม่ได้อ่านด้วยซ้ำ(แต่กลับมาอ่านทีหลังตลอด)

แต่พอมีพวก Eco car เช่น March หรือ Hybrid เช่น Camry Prius
รู้สึกชอบอ่านและแบบตื่นเต้นสุดๆ อัลติส ตัว 1.6(เพราะประหยัดน้ำมัน แรงกำลังดี) ก็เป็น
ผมคิดว่าเป็นเพราะผมชอบ รถที่รักษาสิ่งแวดล้อมสุด ประหยัดน้ำมันที่ หนึ่ง ซ่อมง่าย(ถูก)
ตอนพี่ๆ Jimmy กับ ผู้การพี่แพน แนะนำรถ เฟีนสต้า 1.4 ผมว่ารถดี แต่กินน้ำมันนี่รับไม่ได้เลย
แย่สุดๆ (แต่เกียร์ธรรมดาดีเลยนะ พอไหว)

ผมรู้สึกว่า Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
ทั้งที่รถเหล่านี้ที่ผ่านมาดี แต่ผมก็ชอบคิดอย่างนี้ ก็ไม่ค่อยเข้าใจตนเองเหมือนกันครับ

คิดว่าการคิดแบบนี้แปลกไหมครับ ขอบคุณครับกับทุกความเห็น :D

โอเคต่างคนค่างความคิด
ถ้าคุณชอบรถประหยัดจริงผมว่าคุณคงลืมHybridไปเลยถ้าคุณคิดถึงดีเซล
fabiaปี2002วี่ง กทม แบบลากรอบนิ้ดหน่อยได้ 18-19km/l ตจว 20-25km/l @110km เก่าแล้วนะเนี่ย
Hybridก็Hybridเหาะเจาดีเซลhatch europe เข้าไปก็จมดินหมด
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: Lertvarit ที่ มีนาคม 03, 2011, 01:02:01
ไม่รู้ว่าผมแปลกไปคนเดียวหรือเปล่า

คือ เท่าที่ผมอ่าน การ test ของพี่ๆน้องๆทีมงานเวปเรา
ถ้าเป็นรถแนวๆ แบบ lancer EX กับ Volk หลายๆรุ่น ผมอ่านแล้วไม่ค่อยจะชอบ ทั้งที่รถมันก็ดีนะครับ
บางทีก็ไม่ได้อ่านด้วยซ้ำ(แต่กลับมาอ่านทีหลังตลอด)

แต่พอมีพวก Eco car เช่น March หรือ Hybrid เช่น Camry Prius
รู้สึกชอบอ่านและแบบตื่นเต้นสุดๆ อัลติส ตัว 1.6(เพราะประหยัดน้ำมัน แรงกำลังดี) ก็เป็น
ผมคิดว่าเป็นเพราะผมชอบ รถที่รักษาสิ่งแวดล้อมสุด ประหยัดน้ำมันที่ หนึ่ง ซ่อมง่าย(ถูก)
ตอนพี่ๆ Jimmy กับ ผู้การพี่แพน แนะนำรถ เฟีนสต้า 1.4 ผมว่ารถดี แต่กินน้ำมันนี่รับไม่ได้เลย
แย่สุดๆ (แต่เกียร์ธรรมดาดีเลยนะ พอไหว)

ผมรู้สึกว่า Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
ทั้งที่รถเหล่านี้ที่ผ่านมาดี แต่ผมก็ชอบคิดอย่างนี้ ก็ไม่ค่อยเข้าใจตนเองเหมือนกันครับ

คิดว่าการคิดแบบนี้แปลกไหมครับ ขอบคุณครับกับทุกความเห็น :D

ผมว่าไม่แปลกหรอกครับ เพราะมันเป็นความชอบส่วนตัวของพี่ ( รถประหยัดพลังงาน )
และในเวปนี้ก็มีรีวิวรถหลากหลายแบบ หลายสไตล์ให้เลือกอ่าน แล้วแต่ผู้อ่านท่านนั้นจะสนใจอ่านรีวิวฉบับไหน คันใด ;D
ผมอ่านหลายๆคัน ก็ทำให้ได้รับมุมมองในหลายๆด้าน ,,  เป็นกำลังใจให้พี่ jimmy และทีมงาน ออกผลงานดีๆมาให้เราได้อ่านกันตลอดไปนะครับ =]
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ มีนาคม 03, 2011, 01:23:12
ผมว่ารถน่ะ ถ้าคุณใช้แล้วคุณพอใจมันก็จบ ส่วนจะเขียวแค่ไหน มันเป็นหน้าที่ของผู้ผลิตที่จะทำรถที่ดีที่สุด และเขียวที่สุดครับ

แต่อย่างพี่ๆ ว่าแหละ ถ้าโคตรเขียว แต่อย่างอื่นไม่ได้เรื่องก็ไม่เอาละ ผมยอมให้โลกแตกเร็วขึ้นสัก 200-300 ปี ไปซื้อรถที่ตัวเองถูกใจดีกว่า เพราะเงินเรานี่หว่า
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: PREM ที่ มีนาคม 03, 2011, 01:42:40
แล้วแต่ความชอบส่วนตัวครับ
ตรงกันข้าม ผมอ่านรีวิวรถหรูๆ ละเอียดกว่ารถราคาประหยัดซะอีก
เพราะอยากรู้ว่ารถแพงขนาดนั้น มีอะไรดี เทคโนโลยีที่อัดมามันมีอะไร ทำงานยังไง ดีมั้ย
เพราะผมยังฝันจะครอบครองรถหรูๆ แำพงๆ และผมคิดว่ามีโอกาสเป็นไปได้

จะว่าไปก็ตรงตามเจตนารมย์ของคนทำรีวิว ;D
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ มีนาคม 03, 2011, 02:16:58
หารถดีเซลเครื่องเล็กๆมาใช้ก็พอ มลพิษน้อยกว่า Hybrid หรือ eco จอมปลอมซะอีก(ต่างประเทศรถ B มันราคาเริ่มเท่าๆ eco ไทยนี่แหละ)
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: kman007 ที่ มีนาคม 03, 2011, 05:44:45
มีหลายคนชอบที่จะอ่านสิ่งที่ตัวเองสนใจแต่จะมีใครรู้ละว่าใครจะชอบอะไรผมคิดว่าชอบก็อ่านไม่ชอบก็ผ่านผมยังไม่อยากให้ HML เป็น Web เฉพาะทางรถ Local แต่เพียงอย่างเดียวมันดูดาดๆไปขาดความน่าสนใจไปเลยเป็นอย่างทุกวันนี้ผมว่าโอเคแล้วนะ  ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: nutmos ที่ มีนาคม 03, 2011, 06:28:08
คือ ถ้าในทัศนคติของผมนะ
Eco กับ Hybrid มันก็ตอบโจทย์เป็นบางคนได้
เพราะโจทย์การซื้อรถแต่ละคนไม่เหมือนกัน
เช่น โจทย์การซื้อรถของผม ทั้งแรง+ประหยัด
ซึ่งคำตอบก็คือ VW Golf หรือ Ford Focus TDCi
แต่ละคันราคา... ก็เลยต้องตัดใจ

ส่วนถ้าเน้นประหยัดก็ไปหา Eco Car หรือ Hybrid

ถ้าเน้นหรูหราก็ต้องไปหาดาวสามแฉก ใบพัดฟ้า

ซึ่งแต่ละคนโจทย์ไม่เหมือนกัน ก็ไม่แปลกที่ จขกท. จะคิดเช่นนั้น
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ มีนาคม 03, 2011, 06:53:00
ดูรถหรูครับ

- เพราะเป็นรางวัลชีวิต ของคนที่ทำงานมาทั้งชีวิต
- ดูเพื่อเป็นกำลังใจ ในการใช้ชีวิตของเรา ว่าวันนึงเราต้องมีให้ได้
เราต้องพยายาม
- ดูเพื่อให้เห็นว่าเทคโนโลยีมันไปไกลขนาดไหนแล้ว
- ดูเพื่อเป็นส่วนในการพิจารณา
- ดูเพื่อจะได้รู้ว่า แึคมรี่2.4 ไม่สามารถสู้1.8เทอรโบของอีคลาสได้
จะได้ไม่ไปลองดีให้หน้าแตก


รถที่ดี ไม่จำเป็นต้องประหยัดมากมาย
แต่มันต้องตอบโจทย์ได้

รถคันนึงประหยัดน้ำมัน แต่นั่งได้แค่4คน
บังเอิญ สมาชิคที่บ้านมี 8 คน ต้องขับไป 2 คัน??
แต่ผมนั่งH1 ประหยัดน้ำมันไม่มาก แต่ขับไปคันเดียว?

รถคันนึงประหยัด แต่นั่งไม่สบาย พื้นที่แคบ
ขึ้นลงลำบาก คุณเป็นวัยรุ่น คงไม่เข้าใจ
ที่บ้านใครมีคนอายุมากๆ จะทราบดีว่าท่านรู้สึกยังไง
เห็นใจคนอายุมากๆครับ

ความประหยัด เป็น1 ในการพิจารณารถของผม เป็นอันดับต้นๆเลยด้วย
แต่ส่วนอื่นๆก็ต้องควบคู่กันไป ให้มัน "พอดี"
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ มีนาคม 03, 2011, 07:06:39
ขอบคุณทุกคนครับ

จริงๆ ผมชอบ BENZ CGI กับ CDI และ BMW Diesel นะครับ เป็นรถหรูที่ประหยัดน้ำมัน ราคามีเหตุผล
แต่เวลาอ่านชอบ แต่แพงไปหน่อย แต่ก็ชอบอ่านครับ

ก็จะพยายาม่านทุก review ครับ เพราะจะได้รู้แนวโน้มว่า เทคโนอันไหนจะเข้ามาขายในรถบ้านๆบ้างครับ
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: XL_SiZe ที่ มีนาคม 03, 2011, 07:31:53
เพราะชอบความประหยัดเป็นอันดับแรกมั้งครับ
ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะเทคโนโลยี ต่อไปข้างหน้า
ก็จะออกมาแนว รักษ์โลก มากขึ้นเรื่อย ๆ

รถแรง ๆ ซด ๆ ผมว่าก็คงจะมีปริมาณการซื้อลดลงไปเรื่อย ๆ แต่ก็คงยังขายได้อยู่

สองคนยลตามช่องครับ
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: off_033 ที่ มีนาคม 03, 2011, 08:15:55
ความประหยัดก็น่าเอามาพิจารณาแต่ไม่ใช่หัวข้อใหญ่ครับ 

รถหรู  รถถูก ผมสนใจหมดแหละ  อ่านประดับความรู้  แต่จะเน้นคันที่สนใจเป็นพิเศษ
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: SaLaPaoMan ที่ มีนาคม 03, 2011, 09:06:09
ชอบรถหรู สวยทั้ง exterior and interior
แรง ไม่แรง ไม่สน สนแต่ความสวยงาม
อยากได้ review Aston Martin จังเลยครับ  :)
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: lekkk ที่ มีนาคม 03, 2011, 09:34:44
ที่นี้เปรียบเหมือนห้องสมุดครับ
คุณชอบแนวไหนก็ไปหาข้อมูลแนวนั้น เป็นธรรมดาครับหลายคนอาจจะชอบไม่เหมือนคุณ
อย่างผม ชอบรถเล็กๆ สวยๆ ยิ่ง5ประตูยิ่งชอบ [แม้ที่สุดของแจ้จะเกินเอื้อมผมไปนิด แต่ก็น่าสนใจมาก]
ส่วนแนวอื่นๆ ที่อยู่ในนี้ ผมถือว่าเป็นข้อมูลความรู้ครับ
ซึ่งพวกพี่เค้าทำไว้ให้ศึกษา พิจารณา เองครับ
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ มีนาคม 03, 2011, 10:10:03
- ดูเพื่อจะได้รู้ว่า แึคมรี่2.4 ไม่สามารถสู้1.8เทอรโบของอีคลาสได้
จะได้ไม่ไปลองดีให้หน้าแตก

ถ้าเป็น 250 CGI ที่ถูกใส่เทอร์โบให้เท่าเครื่อง 2.5 ที่ใหญ่กว่ามันก็ต้องทำได้ดีกว่าอยู่แล้วล่ะครับ
แต่ถ้าเป็น 200 CGI ก็โดนกินอิ่ม
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: prai ที่ มีนาคม 03, 2011, 10:26:36
ผมอยากจะบอก การที่คนทุกคนคิดอะไร ไม่มีคำว่าถูกหรือผิดครับ
เพราะทุกคนล้วนแล้วแต่ใช้ชีวิตประจำวันอยู่กันคนล่ะสังคมกัน
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ มีนาคม 03, 2011, 10:36:44
ไม่ได้กวนส้นนะ

แต่ถ้าเรามองทุกสิ่งอย่างให้มันเกินเลยความเป็นจริงไปหน่อย
คุณจะพบว่ารูปแบบการขนส่งทีไม่ใช่การเดิน และปล่อยมลพิษน้อยสุด
มันก็คือจักรยาน

ระหว่างจักรยาน กับรถ คุณเลือกอะไร แน่นอน คุณก็ต้องเลือกรถ
เพราะมันสบายกว่า และมันปลอดภัยกว่า ถูกไหมครับ


ทีนี้ ถ้าเป็นรถกับรถล่ะ? คุณอาจจะห่วงเรื่องมลพิษ แต่ในใจลึกๆของคุณ
ความปลอดภัย และการขับขี่ที่คุณถูกใจ มันคือหัวใจหลักอยู่ดี ถูกไหมล่ะ

รถจะดี ต้องมีดีมากกว่า 1 ด้านครับ มันไม่ควรเป็นสิ่งที่ดีอยู่อย่างเดียวแล้ว
อย่างอื่นแย่ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราไม่ได้โฟกัสรถที่ประหยัดน้ำมันและดีต่อโลก
เพียงอย่างเดียว และถ้าเราโฟกัสแต่รถพวกนั้นเพียงอย่างเดียว จะมีอะไรเป็นตัวเทียบ
ว่ารถคันไหนประหยัด หรือไม่ประหยัด

ข่าวดีก็คือแนวโน้มของโลกรถยนต์ มีการแข่งกันเรื่องมลภาวะอยู่แล้ว
อีกหน่อย หากอยากได้รถไฟฟ้าใช้ ก็คงไม่ต้องรอนานเพราะทุกภาคทั่วโลก
เขาสนับสนุนและเห็นความจำเป็นของมันกันแล้ว และไม่นาน รถพวกนี้
ก็จะมาถึงเมืองไทย และเราก็จะทดลองขับมันมาเล่าให้ฟังถ้ามีโอกาส

ที่จริงอยากให้ใช้เหตุผลและการอ่านมากกว่านี้อีกนิดจะรู้ว่า
1. รถที่เราลองขับส่วนใหญ่ก็ยังเป็นเครื่อง 4 สูบ ที่ไม่ได้มลภาวะสูงอะไรมากมาย
2. รถใหญ่ๆบางคันที่เห็น หากเอาไป search ข้อมูลเพิ่มเติมจะรู้ว่า มันไม่ได้ปล่อย CO2 เข้าชั้นบรรยากาศ
มากไปกว่ารถทั่วไปเท่าไหร่ ในโลกนี้ทุกวันนี้ รถอย่าง March ยุโรปปล่อย CO2 98 กรัม/ก.ม. รถอย่าง BMW320d, Golf GTi, Volvo S60 ปล่อยประมาณ 166-188 กรัม/ก.ม. ส่วนรถ Exotic V12 มักจะปล่อยแถวๆ 390-410 กรัม/ก.ม.

หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: Yojinboh!! ที่ มีนาคม 03, 2011, 10:47:42
พี่ Jimmy พูดเหมือนน้อยใจนะครับ เเต่สำหรับผมอ่านทุกรีวิวที่พี่ทำนะครับ ได้อ่านก็มีความสุขเเล้วครับ
ไม่ว่ารถคันนั้นจะราคาเท่าไหร่ ผมมีปัญญาซื้อหรือไม่ก็ตาม เพราะเวลาที่เราอ่านรีวิว
มันก็เหมือนกับการที่เราได้สัมผัสรถคันนั้นไปด้วยนะครับ
ขอบคุณความพยายามของ พี่ Jimmy เเละทีมงานทุกคนนะครับ
ที่ช่วยทำให้เวปนี้เป็นเเหล่งข้อมูลชั้นยอดให้เราเข้ามาหาความรู้กันได้อย่างฟรีๆ 5555
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: fishfinger ที่ มีนาคม 03, 2011, 10:50:22
Altis จะซ่อมดีจะประหยัดยังไง จะเร่งปรู้ดปร้าด

ผมก็ไม่ซื้อครับ

เนื่องจากนั่งแท็กซี่กลับบ้านมา 6ปี altis  ทุกวัน รถอะไร้ เร่งก็เร่ง แต่ความสบายแม่มไม่มีเลย

คอนโซลก็ไม่สวย แถมเร่งทีรถเหมือนกำลังจะบินเอาบินเอา

บางคนซื้อรถเค้าก็อยากได้ ความสะดวกสบายความสวยงาม ไม่งั้นนั่งแท็กซี่ รถเมย์ ขับรถเอง ก็ึคงเหมือนๆกันแหละ  ;D
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ มีนาคม 03, 2011, 10:59:37
พี่ Jimmy พูดเหมือนน้อยใจนะครับ เเต่สำหรับผมอ่านทุกรีวิวที่พี่ทำนะครับ ได้อ่านก็มีความสุขเเล้วครับ
ไม่ว่ารถคันนั้นจะราคาเท่าไหร่ ผมมีปัญญาซื้อหรือไม่ก็ตาม เพราะเวลาที่เราอ่านรีวิว
มันก็เหมือนกับการที่เราได้สัมผัสรถคันนั้นไปด้วยนะครับ
ขอบคุณความพยายามของ พี่ Jimmy เเละทีมงานทุกคนนะครับ
ที่ช่วยทำให้เวปนี้เป็นเเหล่งข้อมูลชั้นยอดให้เราเข้ามาหาความรู้กันได้อย่างฟรีๆ 5555
ผมก็รู้สึกเหมือนกัน ดูๆไปไม่น่าพูดเลย ไม่อยากให้ทางทีมงานเสียใจนะครับ
เพราะผลงานที่ทำมาดีอยู่แล้ว แต่ผมเองนะมีความคิดแปลกๆ ก็เลยอยากถามเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ว่า
เป็นแบบนี้ไหมครับ
แต่ยังไงผมก็จะติดตามชมผลงานของทางทีมงานต่อไปครับ ก็ต้องพยายามปรับทัศนคติครับ

ที่พี่แพนบอกเรื่องการขับขี่ของรถ มาคิดๆ ดูแล้ว ยังไงเราก็ต้องมีเรื่องนี้อยู่บ้างจริงๆ
ผมได้ลองคิดดูพบว่าตนเองชอบรถที่ ขับสบาย นิ่มๆ พวงมาลัยเบาๆ ในเมือง แต่ทางไกลนิ่งๆ(ที่ความเร็ว 120)
และความปลอดภัย ถ้ามีถุงลมมากๆ ผมก็ชอบมากกว่าไม่มีเลย
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: น้าเดช ที่ มีนาคม 03, 2011, 11:03:26
กลายเป็นกระทู้ ติดไฟไปแล้วครับ  อ่านแล้วก็วิจารน์ กับพอหอมปากหอมคอนะครับ
 อย่าได้เอาเก็บมาคิดกันครับ  เดียวจะกลายมาเป็น น้ำผึ้งหยดเดียว ใจเย็น ๆ

     ทุกคนรักกันดอก จึงได้หยอกกันเล่น  ครับ

พี่เบริท์ด  รักทุกคน  ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ มีนาคม 03, 2011, 11:17:20
กลายเป็นกระทู้ ติดไฟไปแล้วครับ  อ่านแล้วก็วิจารน์ กับพอหอมปากหอมคอนะครับ
 อย่าได้เอาเก็บมาคิดกันครับ  เดียวจะกลายมาเป็น น้ำผึ้งหยดเดียว ใจเย็น ๆ

     ทุกคนรักกันดอก จึงได้หยอกกันเล่น  ครับ

พี่เบริท์ด  รักทุกคน  ;D ;D ;D

เห็นด้วย ไม่อยากให้กลายเป็นกระทู้ไฟไปนะครับ เพราะแค่อยากแลกเปลี่ยนความเห็นและมุมมองเฉยๆ
ครับ ยังไงก็ต้องขอโทษทุกท่านนะครับ ถ้าความคิดของผมจะแรงไปครับ

หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: udis ที่ มีนาคม 03, 2011, 11:34:59
การเขียนข้อความทำให้หลายๆคนไม่สบายใจ รู้สึกแย่ มันแย่ว่ารถที่ปล่อยมลพิษไหมครับ?
ผมเองก็มักเขียนอะไรแย่ๆเหมือนกัน เพราะบางทีก็คิดว่าเป็นการแสดงความคิดเห็น แสดงข้อมูล ข้อเท็จจริง
ซึ่งผมก็ต้องแลกกับความรู้สึกไม่ดีของตัวเองเหมือนกันที่เขียนอะไรไปครับ ไม่ได้ดีใจหรอกที่ว่ารถคันอื่นไม่ดีนะครับ

แต่บางครั้งก็เป็นการทำร้ายจิตใจของใครหลายๆคน
ถ้าหลายๆคนที่มักถามว่าซื้อ March มันคุ้มไหมครับ?

แล้วมันคุ้มกันไหมกับการ "แลกเปลี่ยนความเห็นและมุมมองเฉยๆ" ที่เขียนมาครับ

 วันนี้ผมอารมณ์ดีครับ อ่านแล้วไม่ชอบภาษาที่ใช้เขียนครับ (ผมขอออกความเห็นบ้าง อิอิ)
 ;D ;D ;D

สู้ๆครับทีมงาน Headlightmag.com



หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: Iwata Kana Σ4 ที่ มีนาคม 03, 2011, 11:37:41
ผมอ่านทุกรีวิวหมดครับ ไม่ว่ารถจะราคาไหนก็ตาม
เพราะบางครั้ง รถหรูกับรถธรรมดา ก็ให้ความรู้และความสนุกในการอ่านเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ มีนาคม 03, 2011, 11:42:51
การเขียนข้อความทำให้หลายๆคนไม่สบายใจ รู้สึกแย่ มันแย่ว่ารถที่ปล่อยมลพิษไหมครับ?
ผมเองก็มักเขียนอะไรแย่ๆเหมือนกัน เพราะบางทีก็คิดว่าเป็นการแสดงความคิดเห็น แสดงข้อมูล ข้อเท็จจริง
ซึ่งผมก็ต้องแลกกับความรู้สึกไม่ดีจองตัวเองเหมือนกันที่เขียนอะไรไปครับ ไม่ได้ดีใจหรอกที่ว่ารถคันอื่นไม่ดีนะครับ

แต่บางครั้งก็เป็นการทำร้ายจิตใจของใครหลายๆ
ถ้าหลายๆคนที่มักถามว่าซื้อ March มันคุ้มไหมครับ?

แล้วมันคุ้มกันไหมกับการ "แลกเปลี่ยนความเห็นและมุมมองเฉยๆ" ที่เขียนมาครับ

 วันนี้ผมอารมณ์ดีครับ อ่านแล้วไม่ชอบภาษาที่ใช้เขียนครับ (ผมขอออกความเห็นบ้าง อิอิ)
 ;D ;D ;D

สู้ๆครับทีมงาน Headlightmag.com




ผมไปอ่านที่ตนเองเขียนดูอย่างตั้งใจ รู้สึกว่ามันแรงไปจริงๆครับ

ผมว่าไม่น่าเขียนไปเลย
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: AVANTGARDe' ที่ มีนาคม 03, 2011, 12:02:53
เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีเริ่มพัฒนาแล้วครับ Puredirve ,Blue-efficiency ,Efficient-Dynamic ทำให้เครื่องยนต์สันดาปภายในได้ทั้งสมรรถนะสูงสุดและประหยัดสูงสุดครับ

รถหรูๆทั้งหลายผมก็ชอบอ่านนะ อย่างน้อยก็ได้ทำให้ได้รู้ว่ารถแพงๆทั้งหลายมีเทคโนโลยีอะไรบ้างที่ทำให้มันแพงขนาดนั้น เพราะโอกาสที่ผมจะได้ใช้รถเหล่านั้นมันน้อยมาก

ตอนนี้ก็ภาวนาให้ทีมงานได้ทำรีวิว JAGUARในเร็วๆนี้เถิด  ;D ;D
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: apinui ที่ มีนาคม 03, 2011, 12:36:22
ประหยัดและรักโลก ติด แก็สสิครับ
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ มีนาคม 03, 2011, 13:24:32
ความรู้สึกเวลาเห็นข่าวพวก eco car ผมก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ
หน่อยแบบคุณ GreenG เป็นนี่แหล่ะครับ และยิ่งราคารถสูงขึ้นๆ
ไป ความตื่นเต้นก็จะเริ่มลดลงๆ จนราคาประมาณเหยียบ 2 ล้าน
นี่แหล่ะ ความอยากความต้องการ หายไปหมดเลย

แต่ผมก็อธิบายตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่า ชอบเพราะรถเล็กๆ
ถูกๆ มันประหยัดน้ำมันมากกว่าจริงรึเปล่า เพราะผมเองก็ไม่เคย
แยแสพวก LPG, NGV เลย สรุปจึงวิเคราะห์ตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
ว่าทำไมถึงไม่เห็นคุณงามความดีของรถที่ราคาสูงๆ ถ้ามองแค่ผ่านๆ
อาจจะเป็นแค่เรื่อง price tag ก็ได้

แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกชมชอบรถ จีน มาเลย์ อินเดีย ที่ราคาถูกแสนถูก
อะไรนั่นเลย ประเด็นเรื่อง cheap price tag crazy คงจะไม่ใช่ละ

แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้น ? สรุปแล้วอาจจะเป็นที่....
eco car กับ hybrid ณ ห้วงเวลานี้ มันมีจุดเด่นในตัวของมันเองนะ
ประหยัดก็แค่ส่วนนึง แต่ด้านอื่นๆ มันก็มีเอกลักษณ์ของมันอยู่
ถ้าพูดถึงพวกรถแรงๆ ทั้งหลาย ทั้งหรูทั้งแพง เรื่องขับก็คงสนุก
มากอยู่ แต่ความมีเอกลักษณ์ มันคงยังไม่ชัดเจน เหมือนกับว่า
ความเร็ว/ความแรง/ความเกาะถนน มันเป็นอะไรที่เป็นข่าวน่าชิน
ชามาร่วมๆ 20-30 ปีแล้่ว สมรรถนะมันเพิ่มมากขึ้นๆ แต่เอกลักษณ์
ของพวกมันก็ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าเราเก็บเงินซื้อรถสปอร์ต
แรงๆ ที่เราใฝ่ฝันได้สำเร็จ ด้วยเงินที่เก็บมาทั้งชีวิต เพียงไม่ถึงสอง
ปีหรือแค่หนึ่งปี ก็จะมีรถรุ่นเดียวกัน หรือรุ่นอื่นๆ ที่เป็น รุ่นใหม่ที่แรงกว่า
จัดกว่า มาขายในท้องตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ... ดังนั้น ของแบบนั้นมัน
เหมือนความสุขเพียงชั่วครู่ชั่วยามมากกว่าสำหรับผม เนื่องจากราคา
รถ+ภาษีด้วยทำให้ ของที่แพงมากๆ แต่ตกรุ่นได้ภายในช่วงข้ามปี
เป็นอะไรที่ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน โดยเฉพาะผมเป็นพวกที่ชอบของ
ใหม่ๆ เรื่อยๆ ด้วย ดังนั้นถ้ารถสปอร์ตคันโปรดของผมมีรุ่นใหม่ออก
มาในเวลาไม่นานนัก ความรู้สึกผมก็คงจะแย่มากๆ ด้วย

แต่ถ้าผมอยู่เมืองนอกที่ภาษีมันถูกๆ หน่อย รถคาเอื้อมถึงได้แล้ว
ล่ะก็ การซื้อรถหรูราคาแพงก็เป็นอะไรที่คุ้มค่ากับการลงทุนอยู่เหมือน
กัน

สรุปคือ ผมเห็นด้วยกับคุณ GreenG แต่ผมเชื่อว่า ที่คุณ GreenG
ชอบหรือตื่นเต้น คงไม่ใช่ประเด็นประหยัดน้ำมันมากๆ อะไรนั่น เพราะ
พวกคนที่ชอบประหยัดพลังงานมากๆ นั้นส่วนใหญ่ เค้าจะไม่ยี่หระหรือสนใจ
พวก eco car หรือ hybrid เลย แต่จะหันไปหาพวกพลังงานทางเลือก
แบบติดถังแก๊สมากกว่า ผมคิดเอาเองว่าคุณ GreenG คงเหมือนกับผม
ที่ตื่นเต้นในความมีเอกลักษณ์ของรถสองกลุ่มนี้มากกว่า ซึ่ง ความมี
เอกลักษณ์ในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่า มันต้องดีที่สุด ประหยัดที่สุด
แต่มันมีอะไรที่แตกต่าง มีข้อดีบ้าง ข้อเสียบ้าง และมีราคาที่เอื้อมถึง
ได้

ผมอาจมองต่างจากคนอื่น ในแง่ที่ว่า รถแพงๆ รุ่นใหม่ ดูใหม่และ
น่าตื่นเต้น แต่ผมกลับมองว่า พวกมันดูซ้ำซากจำเจไปหมด เร็ว แรง
เกาะถนน ขับสนุก แพง ทั้งหมดเหมือนหนังฉายซ้ำๆ ความตื่นเต้นก็
ลดลง แต่ถ้าเป็น เร็ว แรง เกาะถนน ขับสนุก ประหยัด ถูก และมีข้อ
เสียโน้นบ้างอะไรบ้าง ผมกลับมองว่ามันน่าสนใจพิลึกนะ ซึ่ง Focus
TDCi นี่ก็เข้าข่ายนะ ที่คุณแพนบอกว่า มันยังนั่งไม่ค่อยสบายไงล่ะ
Golf GTi ก็ถือว่าไม่แพงเกินนะ แต่ก็แพงน่ะแหล่ะ ที่แย่ก็คือโครง
สร้างตัวถัง Golf 6 ของมันยังไม่ใหม่ที่สุด น่าจะดู Golf 7 นี่แหล่ะ ถึง
จะ pure model change ซึ่งความน่าสนใจของ Golf GTi ก็คือ สอง
ล้านกว่าๆ มันยังเป็นอะไรที่เอื้อมสุดปลายนิ้วมือยังพอทำได้บ้าง

หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: 6162002 ที่ มีนาคม 03, 2011, 14:31:26
แบบนี้ต้องจัด เปอโย ไปเลยครับ ดีเซล เทอร์โบ ไฮบริด 200แรงม้า 26.32 กม./ลิตร แรง เร็ว หรู ประหยัด ครบ *-*
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ มีนาคม 03, 2011, 14:34:03
ความรู้สึกเวลาเห็นข่าวพวก eco car ผมก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ
หน่อยแบบคุณ GreenG เป็นนี่แหล่ะครับ และยิ่งราคารถสูงขึ้นๆ
ไป ความตื่นเต้นก็จะเริ่มลดลงๆ จนราคาประมาณเหยียบ 2 ล้าน
นี่แหล่ะ ความอยากความต้องการ หายไปหมดเลย

ใช่ เห็นด้วยกับคุณ ned ผมก็คิดแบบนี้แหละครับ อ่านแล้วความรู้สึกคล้ายๆกันเลย
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: eight ที่ มีนาคม 03, 2011, 15:08:28
ที่ผมอยากรู้จริงๆคือที่ว่า hybrid รักษาสิ่งแวดล้อม อันนี้มันจริงเท็จแค่ไหนครับ?
การปล่อยมลพิษอาจจะน้อยกว่า แต่การผลิต + ย่อยสลายแบตเตอรี่ อันนี้มันแตกต่างกันมากแค่ไหน?

วานผู้รู้ชี้แจงด้วยครับ ผมเองก็ยังงงๆ สับสนเวลาคนถามเปรียบเทียบเรื่อง downsizing เครื่องยนต์ กับ เครื่องยนต์ hybrid อันไหนมีข้อดีข้อด้อยยังไง

 
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: Satanic za' ที่ มีนาคม 03, 2011, 16:02:32
เรื่องอื่นผมไม่รุ้ แต่เป็นกำลังใจให้ทีมงาน HLM ทำผลงานดีๆออกมาอีกครับ

จะรถแพง รถถูก รถตลาด รถหรู หรือจะเป็น super car ถ้าออกมาจาก HLM ยังไงก็มีคนอ่านครับ


ส่วนเรื่องรถประหยัดพลังงาน ถ้าวันไหนที่มีรถไฟฟ้าแบบ 100% และไฟฟ้าที่ได้มาจากอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่พลังงานฟอสซิ่ล ผมคิดว่านั่นล่ะ คือรถที่รักษาสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุด
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: methus zaa ที่ มีนาคม 03, 2011, 17:55:57
ถ้าผมมีเงินสักสามล้าน ระหว่างรถราคา500000-700000 เป็นผมเอา รถหรู บางคน ถามทำไมไม่เอา รถเล็กที่ประหยัดน้ำมัน ล่ะ เนี่ย ไปได้เรื่อยๆ ชิว ไม่ต้องรีบผมตอบว่า say no เลยครับ
1. เวลาที่ผมดูรถ จะต้องดูก่อนเลยว่าถูกใจหรือเปล่า
2. รูปลักษณ์ เป็นอย่างไร ภายในเป็นยังไง เบาะนั่งสบายไหม สมราคาหรือเปล่า แคบไหม
3. เรื่องความแรง อัตราเร่งดีไหม เป็นยังไงบ้าง ขึ้นเขาไหวไหม
4. อันนี้มาดูเรื่องบรรทุกสัมภาระ ขนของได้เยอะไหม เพราะบางทีรถเล็กก็อาจจะขนของไม่ได้เยอะ
5. ออปชั่นครับ สมราคาหรือเปล่า รถราคา500000-700000 ผมว่ามันยังให้ความสบายกับผู้ขับขี่ได้ไม่มากครับ
แอร์ออโต้ เนี่ย ควรจะให้มาได้แล้วกับรุ่นท็อปสุด เครื่องเสียงบางค่ายก็ยังเอา เครื่องเล่นถูกๆมาใส่ไว้ ใช่ อันนี้ใครๆก็บอกได้ว่าเอาไปเปลี่ยนได้ทั้งนั้น แต่ผมขอถามหน่อย ว่าทำไมไม่ให้ตั้งแต่แรก
6.สุดท้ายเลย คือเรื่องประหยัดน้ำมัน ถ้าเราขับเร็ว บรรทุกของหนักมันก็เปลืองหมดเหมือนกันทุกค่ายแหละ
ปล. แม่ผมเคยพูดว่า รถคันไหนก็เหมือนกัน นั่นแหละ เพราะมันมีล้อวิ่งได้ 555 ชอบประโยคนี้มากเลยครับ ต่างจิตต่างใจ
อันนี่ก็เป็นความเห็นส่วนตัว ของเด็กอายุ 17 คนนี้ครับ
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: methus zaa ที่ มีนาคม 03, 2011, 18:04:32
พี่จิมมี่และพี่ๆอย่าลืมของผมด้วยนะครับ 55
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: Phongrapee ที่ มีนาคม 03, 2011, 18:41:56
แล้วแต่ความชอบส่วนตัวครับ
ตรงกันข้าม ผมอ่านรีวิวรถหรูๆ ละเอียดกว่ารถราคาประหยัดซะอีก
เพราะอยากรู้ว่ารถแพงขนาดนั้น มีอะไรดี เทคโนโลยีที่อัดมามันมีอะไร ทำงานยังไง ดีมั้ย
เพราะผมยังฝันจะครอบครองรถหรูๆ แำพงๆ และผมคิดว่ามีโอกาสเป็นไปได้

จะว่าไปก็ตรงตามเจตนารมย์ของคนทำรีวิว ;D

จุดประสงค์ในการอ่านรีวิวรถหรูเหมือนกันครับ แต่ที่ไม่เหมือนกันคือผมคงไม่มีปัญญาครอบครอง และคงเอื้อมไม่ถึง  ;D

เอาเป็นว่าซื้อรถที่ชอบก็โอเคแล้ว ถึงจะไม่ใช่แบรนด์ที่ชอบ ดีไซน์ไม่โดน แต่ถ้าตอบโจทย์การใช้งานได้และไม่เดือดร้อนครอบครัว (การเงิน) ก็โอเคล่ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: banch ที่ มีนาคม 03, 2011, 20:07:45
เอาน่า ถือว่าแลกเปลี่ยนมุมมองกันดีกว่า








ผมเป็นคนเท้าหนัก ขับรถเร็ว มุดซ้ายป้ายขวา

ดังนั้น สิ่งที่ผมจะพิจารณาเป็นสิ่งแรก รองจากงบประมาณ

คือ การตอบสนองของเครื่องยนต์

เดิมๆ เพียงพอไหม และในอนาคตอัพเกรดขึ้นไปได้อีกไหม

หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: SignifeR ที่ มีนาคม 04, 2011, 07:54:02
เพราะทุกคนมันจะมี reason เป็็นของตัวเอง และมี impulsion จากอีโก้ของตัวเอง แต่แล้วก็ปล่อยออกมาเป็น pressure ทางรูตูดนั่นเอง

รถที่ชอบ อาจจะไม่ใช่รถที่ใช่สำหรับซื้อใช้ก็ได้ ผมต้องขอบอกความจริงบางอย่างว่า ที่จิมมี่ หรือแพนรีวิวๆ มาเกือบทั้งหมด ผมรู้สึกเออเจ๋งดีอ่ะก็ประมาณนั้น
ผมไม่ได้คิดว่า ที่จิมมี่ หรือแพน บอกมาทั้งหมดมันจะสุดยอดอะไรขนาดนั้นหรอกครับ เพราะเหตุผลคือ ผมชอบรถสปอร์ต....ผมชอบพอร์ช ของแลม ชอบเฟอร์
ดังนั้น รถตลาดๆ อย่าง กอล์ฟ หรือแม้กระทั้งรถ MTM ที่ว่าแรงๆ ผมก็เฉยๆ เพราะผมรู้ตัวว่า ผมชอบอะไร แค่เราไม่ปิดกั้นความรู้แสะประสบการณ์ที่ไ้ด้รับน่ะครับ
นั่นคือสิ่งที่ เรียกว่า เหตุผล ครับ เพราะผมมีเหตุผลกับทุกคน ดังนั้นเราก็ไม่ควรปิดกั้น ตรงนี้เป็นสิ่งที่ควรมี

ผมอ่านแต่นิตสาร EVO มีแต่รถที่เราเอื้อมไม่ถึง แม้แพนจะทำนิยสาร Cars ก็ตาม แต่ผมไม่ชอบ Cars เพราะผมชอบ EVO ...เหตุผลคือ ผมชอบการนำเสนอ
และถ้อยคำของภาษาในนั้น ส่วนจิมมี่ มันก็ด่านิตสาร EVO ก็เรื่องของจิมมี่ เพราะผมชอบ นี่คือเหตุผล กับอารณ์ที่เราควรแยกระหว่าง ความเป็นตัวตนของตัวเอง

ยิ่งพิมพ์ยิ่งงง แต่ยกตัวอย่างให้ฟังเฉยๆ

แต่ความชอบ หรือผมจะเรียกว่า แรงกดดันภายใน อีโก้ ทุกคนก็มีแต่ไม่เหมือนกัน บางคนชอบรถแรงๆ ชอบรถสวย ชอบรถเล็ก ชอบห้าประตูก็ว่ากันไป
แต่สุดท้าย การเถียงกันเพื่อเอาชนะ ก็ย่อมขึ้นกับ เหตุผลจากข้อข้างต้น แต่ผมกลับมองว่า จะเถียงเพื่อเอาชนะไปทำบ้าอะไรวะ ในเมื่อรถแต่ละแบบ แต่ละคัน
มันไม่ได้มีจุดประสงค์ในการสร้างมาเหมือนกันสักกะหน่อย (แม้จะใกล้กันก็ตาม)

อย่างมีอยู่วัน จิมมี่บอกว่า เฮ๊ยมึงต้องลองเลย BMW S.5 ตัวใหม่ล่าสุด....นั่น ดีเซลเทอร์โบ กดทีล้อฟรีออกเอี๊ยดๆ มันบอกเจ๋งมาก ผมนั่งก็เออแม่งก็แรงดีอ่ะ
แต่เฉยๆ สาเหตุคือ ผมรู้สึกว่า มันไม่ได้รับความสนใจอะไรกับตัวผมมากนักนั่นเอง แต่คนอื่นเครซี่มาก เป็นต้น ผมคิดแค่ว่า กูเท่ห์มาก นั่งเบาะหลังเป็นผู้บริหาร...
แต่ถ้าวันนี้จิมมันบอกเฮ๊ย วันนี้กูเอาแลม มาทดสอบ นั่นผมคงจะวิ่งเร็วจี๋ รีบดิ่งไปหามันเลย เป็นต้น

อย่าปิดรับความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆครับ แต่การหยิบประสบการณ์นั้นๆ มาใช้ เท่ากับได้กำไรชีวิตแล้ว คิดแบบนี้ดีกว่า
ผมเป็นคนคิดบวกครับ เลยหน้าตาผิวพันธฺ์ อ่อนกว่าอายุจริง 5 5 5

หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ มีนาคม 04, 2011, 10:28:18
บรรทัดสุดท้าย ขี้วัวบินว่อน
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: Koong ที่ มีนาคม 04, 2011, 22:29:37
จากประสบการณ์ของผม   ตั้งแต่น้ำมันแพงผมก็เคยมีความคิดแบบเจ้าของ กท นะครับ คือสนใจและอยากได้รถอะไรก็ได้ที่ราคาไม่แพงและประหยัดน้ำมันมาใช้ 

สุดท้ายได้ NV  ติดแก๊สมาใช้อีกคันหนึ่ง มันประหยัดค่าใช้จ่ายดีแท้วิ่ง กม ละ 1 บาท  ค่ายางขอบ 13 ก็แสนถูก  ผมจะพยายามเอามันมาใชเป็นรถคันหลัก ถึงผมจะรู้สึกอึดอัดกับสมรรถนะ ในทุกๆด้านของมันที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับเจ้า BT-50 คันเดิมที่เคยใช้อยู่ประจำ

แต่แล้ววันหนึ่งที่ผมขับมันไปทำธุระตามปกติ มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งมาตัดหน้า  ผมเบรคล้อล็อคยางดำเป็นรอยอยู่บนถนนระยะทางไม่น่าต่ำกว่า 30 เมตร แต่ไม่รอดครับชนมอเตอร์ไซไปเต็มๆ    คิดในใจถ้าขับคันเดิมคงไม่ชน    และก็ยังมีอีกหลายๆ เหตุการณ์ คล้ายๆ กันเกิดขึ้นแต่ก็ไม่ได้รุนแรง    แต่มันก็ทำให้ผมฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า

"เงินทองเราก็ไม่ได้ขัดสนมากนัก  ภาระคนข้างหลังของเราก็มีอีกตั้งหลายคน   เราจะมัวแต่คิดแต่เรื่องประหยัดจนลืมเรื่องความปลอดภัยของชีวิตเรา หรือเอาชีวิตเรามาอยู่กับรถที่ให้ความปลอดภัยเราได้ไม่มากนักแบบนี้ทำไม    หลังจากนั้นผมก็ขาย NV  และกลับมาใช้รถคันเดิม ซึ่งคิดว่าปลอดภัยกว่า "

ไม่ได้หมายความว่ารถเล็ก รถประหยัดไม่ดี   มันอาจจะเหมาะกับหลายๆ คนที่ใช้ชีวิตในเมือง ใช้ชีวิตอยู่ในรถอยู่บนท้องถนนไม่นาน

แต่ผม อยู่ ตจว   เส้นทางที่ใช้ประจำเต็มไปด้วยรถบรรทุก  ใช้ชีวิตอยู่บนท้องถนนวันๆหนึ่งก็หลาย ช.ม. ระยะทางก็หลายสิบหรือเป็นหลักร้อย กม   
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: SignifeR ที่ มีนาคม 05, 2011, 15:12:58
บรรทัดสุดท้าย ขี้วัวบินว่อน

เอาไปพอกหน้าสักก้อนมั๊ยหล่ะครับ 5 5 5
หัวข้อ: Re: ถ้าไม่ใช่ Eco car กับ Hybrid หรือรถประหยัดพลังงาน ก็ไม่รู้จะซื้อรถคันนั้นไปทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: XL_SiZe ที่ มีนาคม 06, 2011, 10:33:40

ผมเป็นคนคิดบวกครับ เลยหน้าตาผิวพันธฺ์ อ่อนกว่าอายุจริง 5 5 5


ผมว่าคนละ พันธุ์ แล้วนะ (พรรณ) 55+