ผู้เขียน หัวข้อ: ระหว่างรถที่ซื้อตอนเปิดตัว กับรถที่ซื้อปลายอายุตลาด รถคันไหนราคาตกกว่ากันเวลาขาย  (อ่าน 7341 ครั้ง)

ออฟไลน์ Akeem-CLII

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 499
  • ทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน
รถรุ่นนึง มีอายุการทำตลาด อย่างน้อย ๆ ก็ 3 ปี อย่างมากก็ 6 ปี

เมื่อเลือกซื้อรถตอนเปิดตัวใหม่ ๆ การผลิตยังไม่ชำนาญ อาจมีปัญหาได้ แต่ขายต่อน่าจะราคาตกน้อยกว่า

กับ การซื้อรถที่เปิดตัวไปแล้วซัก 2-3 ปี อะไร ๆ ก็ลงตัว ปัญหาต่าง ๆ ผู้คนก็กล่าวกันมากมาย ทำให้ตัดสินใจ
ซื้อหรือไม่ซื้อรถรุ่นนั้น ๆ ได้ แต่หากตัดสินใจซื้อมาแล้ว ขายต่อราคาตกกว่าแน่ ๆ (รึเปล่า)

ขอยกตัวอย่าง nissan neo เพราะรถผมเพิ่งขายไปครับ

neo ปี 2001 ตอนมือ 1 นั้นราคา 779,000 บาท
ขาย 2012 ก็คือผ่านไป 11 ปี ได้ราคา 270,000 บาท (กรณีขายเองไม่ผ่านเต็นท์)
= เสียส่วนต่างไป 509,000 บาท หรือ ปีละ 46,273 บาท

กับ neo ปี 2003 ตอนมือ 1 ราคาเท่ากัน (หรืออาจมากกว่านิดหน่อย)
ขายปี 2012 คือผ่านไป 9 ปี ได้ราคา 330,000 บาท (กรณีขายเองไม่ผ่านเต็นท์)
= เสียส่วนต่างไป 449,000 บาท ซึ่งคิดเป็นปีละ 49,889 บาท

นั่นหมายความว่า หากซื้อรถตอนเปิดตัวใหม่ ๆ กับ ซื้อตอนเปิดตัวแล้วซัก 2 -3 ปี แต่เป็น model เดิมนั้น
รถคันที่ซื้อทีหลัง มีแนวโน้มเสียค่าใช้จ่ายต่อปีมากกว่า หรือราคาตกกว่านั่นเอง

เพื่อน ๆ ทุกคนคิดเห็นว่าไงมั่งครับ
ควรจะซื้อรถตอนเปิดตัว หรือรอให้ผ่านไปซัก 2-3 ปีก่อนดีกว่าครับ

ส่วนผมก็กำลังดู ๆ mazda 2 อยู่ซึ่งก็เปิดตัวมา 2 ปีกว่าแล้ว กลัวว่าเวลาขายจะราคาตกเยอะ
หรือว่าผมควรจะซื้อ eco car ออกใหม่ดีครับ
I will buy Volvo some day.

Phongrapee

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าใช้ 8 ปี 9 ปี หรือ 10 ปีขึ้นไป ก็เลิกคิดถึงตรงนั้นแล้วครับ

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,047
ถ้าใช้ 8 ปี 9 ปี หรือ 10 ปีขึ้นไป ก็เลิกคิดถึงตรงนั้นแล้วครับ
เห็นด้วยครับ
แต่หลักการคิด มีการพิสูจน์แล้ว ก็เชื่อถือได้ในระดับหนึ่งครับ

ออฟไลน์ beerrl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,672
    • อีเมล์
ซื้อตอนรถพึ่งเปิดตัวก็จะได้ขับในโฉมใหม่นานกว่า

แต่ราคาขายต่ออยู่ที่โฉมนั้นๆว่าเปลี่ยนไปหรือยัง ถ้าเปลี่ยนแล้วราคาล่วงแน่นอน

ถ้าจะมองว่าจะซื้อรถแล้วขายต่อให้ตกน้อยนั้น ก็ควรมองรถขนาด b-segment หรือ ต่ำกว่า เพราะราคาก็จะตกน้อย และควรขายก่อนจะเปลี่ยนโฉมใหม่
แต่ถ้าใช้นาน 10 ปี up ราคาขายต่อไม่ค่อยต่างครับ
Volvo 850GLT
Honda odyssey
Toyota Camry hybrid
Suzuki swift eco
Hyundai tucson crdi
Nissan Xtrail 2.0V 4wd
Honda Civic FC 1.8EL

Phongrapee

  • บุคคลทั่วไป
ในทางตรงกันข้าม ถ้าจะมองว่ารถต้นปีขายได้สองแสนกว่า รถปีหลังๆขายได้สามแสนกว่า ก็คือรถปีแรกๆราคาตกมากกว่า จะได้ไหมครับ อันนี้มองแบบหยาบๆ อันนี้คือผมสงสัยว่าทำไมต้องเอาส่วนต่างหารด้วยจำนวนปี เพราะตัวหาร (จำนวนปี) น้อยหรือมากน่าจะมีผลต่อผลลัพธ์ที่เป็นค่าใช้จ่ายต่อปี

ออฟไลน์ porasit33

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,188
น่าจะใจครับ
น่าจะอันเนื่องมาจากรถโมเดลเดียวกัน โดยเฉพาะรถเก๋ง
ที่เวลาไมเนอร์เชนจ์แล้วตัวรถโดยรวมไม่เปลี่ยนอะไรมาก (โมเดลเดียว เครื่องเดียว ภายในเดียว ลากยาว)

แต่..... ถ้าระหว่างนั้นมีการเปลี่ยนเครื่องละก็ ราคารถท้ายปี (ท้ายโมเดล).....อาจจะได้เปรียบมากกว่าครับ(แต่ก็ส่วนน้อยมาก)

ออฟไลน์ MystogaN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,475
ผมว่าถ้าใช้แค่ 4-5 ปีควรซื้อตอนเพิ่่งเปลี่ยนโฉมนะครับจะได้ราคาไม่ตกเวลาขาย :)

ออฟไลน์ eaowpj

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 610
ผมก็เห็นด้วยถ้าขายก่อนเปลี่ยนโฉมน่าจะราคาดีกว่าขายหลังเปลี่ยนโฉม อีกอย่างหนึ่งผมว่าช่วง 3 ปีแรกราคามันจะตกมาก หลังจากนั้นมันก็จะตกน้อยลง  :)

ออฟไลน์ hutzero

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,561
    • อีเมล์
ถ้าซื้อเพื่อใช้งานจริงๆก็ซื้อเวลาที่ต้องการใช้เถอะครับ  ไม่ต้องสนใจหรอกครับว่าปีไหน 
เกิดต้องการใช้ตอนนี้  แต่กลัวราคาตก เลยทนนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปอีก 2 ปี  เกิดคนขับซิ่ง เสียหลักเกิดอุบัติเหตุทำให้คุณแขนขาขาด
แล้วคุณอาจจะเสียใจตรงจุดนั้น ว่าทำไมมีเงินในกระเป๋าถึงมัวแต่นั่งคิดเรื่องราคาตก จนตัวเองพิการ  ย้อนเวลากลับไปไม่ได้แล้ว

"ชีวิต ความเป็นอยู่ ความสุข  มีค่ามากกว่ากว่าเงินทองในส่วนต่างราคาขายต่อยิ่งนัก"


ออฟไลน์ xtrarach

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 113
    • อีเมล์
ผมว่าส่วนใหญ่รถใกล้ๆจะ model change นี่จะได้ส่วนลดเยอะอยู่นะครับ

คิดแค่ราคาเต็มมันไม่ได้

ดูตัวอย่าง Ford Focus ตัวปัจจุบันก็ได้เอ้า

ออฟไลน์ chaiz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 966
    • อีเมล์
ผมว่าเรืองแบบนี้มันมีหลายปัจจัยที่ทำให้ราคาขายต่างกันนะ

ทั้งสภาพรถ ผู้ซื้อยอมจ่ายแค่ไหน ตลาดขณะขาย (มีคู่แข่งเยอะไหม กำลังจะเปลี่ยนโฉมหรือยัง เศรษฐกิจช่วงนั้นเป็นอย่างไร ฯลฯ)

ส่วนตัวถ้าผมใช้รถเกินสิบปี ผมไม่ซีเรียสเรื่องขายต่อ เพราะถ้าจะคิดความคุ้ม ต้องคิดถึงว่า ผมใช้รถคันนี้ หารายได้ หาความสุข ได้มากเท่าไหร่ด้วย ระหว่างใช้รถคันนี้ ได้พบโอกาส หรือรอดพ้นจากเหตุการณ์อะไรมาได้บ้าง ซึ่งมันคงต่างกันไปตามบุคคลอยู่แล้ว

ดังนั้น ถ้าผมใช้มานานเกินสิบปี ขายต่อได้เงินกลับมาบ้าง ผมก็พอใจแล้วครับ ขายต่อราคาก็ต้องตกอยู่แล้วไม่ว่ารุ่นไหน

แต่ในมุมกลับกัน ถ้าผมเป็นคนเปลี่ยนรถบ่อย ซื้อมาใช้ปีสองปีแล้วเปลี่ยน หรือไม่เกิน 5 ปี ผมเลือกที่จะดูแลรถให้ดี และขายในช่วงก่อนเปลี่ยนโฉม (ไม่ใช่ช่วงมีข่าวว่าจะเปลี่ยนโฉมนะ ต้องก่อนนั้นอีก) เพื่อให้ได้ราคาดีครับ


ออฟไลน์ int

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 47
    • อีเมล์
ผมว่าตรรกะแปลกๆนะ หัวข้อกระทู้เขียนว่าเรื่องราคาตก แต่ทำไมไปคำนวนคิดที่ราคาเสื่อมเฉลี่ยต่อปี
รุ่นเดียวกัน รถเก่าปีกว่าราคาก็ต้องตกกว่า เป็นธรรมดา

การไปคิดค่าราคาเสื่อมเฉลี่ยต่อปี  ค่าเสื่อมมันก็แปรผันไปตามจำนวนอายุปี ปีแรกๆลดเยอะ ปีหลังๆลดช้าลง
รถปีใหม่กว่า จำนวนปีน้อยกว่า เอาไปหาร ก็ต้องควรจะได้ราคาเสื่อมเฉลี่ยมากกว่า
สมมุตินะ รอจนปลายอายุรถแล้วเพิ่งออกมาได้ครึ่งปี ดันมี Model Change ออกมาแล้วราคาตกไปเป็นแสน  ค่าเสื่อมเฉลี่ยปาไปปีละ 2 แสนทันที
และถ้าอยากให้เห็นราคาเสื่อมเฉลี่ยต่อปีน้อยๆ ก็ใช้ 20 ปีเลย เป็นต้น

แล้วแต่ว่าจะมองมุมไหนนะครับ
1. ซื้อรถตอนเปิดตัว ได้ใช้รถใหม่ เทคโนฯใหม่ ความปลอดภัยใหม่ มาตรฐานใหม่ อีกนานกว่าจะตกรุ่น
แต่อาจมีข้อผิดพลาดรอ minor change
2. ซื้อรถตอนปลายอายุ ได้รถเทคโนฯเก่า ใกล้ตกรุ่น แต่ได้แก้ข้อผิดพลาดแล้ว ราคาขายดีขายง่ายกว่ารถคันสมัยเปิดตัว
แต่การที่เป็นรถรุ่นเก่า ซื้อปุ๊บก็ตกเยอะปั๊บเลย

ผมเชียร์รถรุ่นใหม่เปิดตัวนะครับ  ถ้าจะซื้อรถปลายอายุรถก็ไปซื้อมือ 2 ก็ได้ราคาตกไปแล้ว