เจอข่าวนี้เข้าไปแล้วจะสยองกับแนวคิดของพวกไดโนเสาร์ล้าหลัง 4.0 ครับ
http://energynewscenter.com/index.php/activity/detail/246
ประชาชนติดตั้งเอง ออกเงินค่าใช้จ่ายเอง แต่ขอเผือกไปเก็บเงินเค้าเฉย!? กลัวรายได้หดหาย?
ไม่แปลกที่ทำไมประเทศเราไม่ค่อยพัฒนา เพราะมีพวกล้าหลังพวกนี้อยุ่นั่นเอง
อันนี้เค้ามีเหตุผลแหล่ะครับ มันเหมือนจะปัญญาอ่อนอย่างที่ท่านว่า ถ้าไม่อยู่ในวงการจะอธิบายยากหน่อย ไฟฟ้ามันผลิตตามคนใช้ครับ ถ้าคนใช้นิ่งๆเช่ยเปิดแอร์ทั้งวันเค้าก็ไม่วุ่นวาย แต่ถ้าใช้ไม่นิ่ง เช่นกลางวันใช้โซล่าเซล แล้วกลางคืนใช้ไฟจากการไฟฟ้าแทน พอความต้องการเยอะ โรงไฟฟ้าเค้าอาจจะต้อง start gas turbine เพิ่มขึ้นอีกตัว เพื่อ support ตรงนี้ ึ่งบางทีจำเป็นต้องเดินเครื่องไม่เต็มประสิธิภาพ ทำให้ขาดทุน ณ เวลานั้น พอเช้าก็ต้องหยุดอีก ทำให้ขาดรายได้อีก โดนทั้งขึ้นทั้งร่อง ประมาณนี้ครับ เค้าก็คงไม่อยากขายไฟให้ แต่ทำไม่ได้ เลยจะขึ้นค่าไฟแทน แต่ดันไม่อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ หลักมันคือค่าบริหารจัดการแล่ะครับ คนใช้โซล่าเซลจะทำให้บริหารจัดการยาก แต่ก็งงๆว่าดันส่งเสริมให้ใช้กันก่อนหน้านี้ ตรงนี้แหล่ะปัญญาอ่อนสิ้นดี
ปล. gas turbine มันจะประหยัดที่โหลดสูงๆที่ออกแบบมา ถ้า load ต่ำๆนี้กินพลังงานบรรลัย โรงไฟฟ้าขาดทุนแน่ๆ
สาเหตุเพราะภาครัฐ บริหารผิดพลาด หรือ สุมหัวกับนายทุน ที่ช่วง 10 กว่าปีก่อนไปส่งเสริม ให้เอกชนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ แต่ให้ค่า adder ต่อหน่วย 4-8 บาทได้มั้ง ไปดูบริษัทพลังงานในตลาดหลักทรัพย์ บางบริษัท รวยภายในเวลาไม่กี่ปี ประชาชนคนใช้ไฟต้องเสียค่าไฟ ไปให้นายทุนกลุ่มนี้นับเป็นแสนล้าน ผ่านการส่งเสริม การให้ค่า adder สูงๆแบบนี้ จริงแทนจะส่งเสริมแนวว่าถ้าประชาชนคนไหนจะใช้พลังงานทางเลือก ก็เอาค่าใช้จ่ายมา ลดหย่อนภาษีก็พอแล้ว แต่อาจจะยาวไปสัก 5 ปีก็ได้เช่นลงทุนไป 5 ล้าน ก็ให้ไปหักลดหย่อนได้ปีละล้านต่อเนื่อง 5 ปี หรือ อาจอนุญาติให้นำค่าใช้จ่ายที่จะลดหย่อนนั้นเก็บไว้ใช้ได้นาน 10 ปี คือจะเก็บไว้ค่าใช้จ่ายไปไว้ลดหย่อนในปีที่มีกำไร แต่อาจให้เก็บได้ไม่เกิน 10 ปีเป็นต้น หรือ อาจจะบอกว่าใครที่ผลิตใช้เองได้บางส่วน โดยเฉพาะในเวลาที่มีการใช้ peak สูงก็อาจจะลดค่าไฟให้กับหน่วยงานที่ลงทุนผลืตไฟเอง โดยอาจจะบอกว่าสมมติ เอกชนลงทุนจะผลิตไฟใช้เอง ถ้าเอกชนรายนั้นมีการใช้ไฟก็จะลดค่าไฟให้ โดยนำมูลค่าใช้จ่ายที่ลงทุนไปนั้น ใช้เป็นส่วนลดได้ ในอัตราส่วนกี่ % เช่น 50% ของส่วนที่เงินที่ลงทุน เช่น ลงทุนไป 5 ล้าน และอาจให้สิทธิ 5 ปีนั้นลดค่าไฟให้ 50% ที่ใช้แต่ไม่เกินปีละ ล้าน
สมมติปีไหนมีการใช้ไฟเกิน 2 ล้านก็จะลดค่าไฟให้ 1 ล้าน
ถ้าแทนจะไปจ่ายค่า adder หน่วยละแพง 4-8 บาทต่อหน่วย มาส่งเสริมแบบที่ไม่ต้องจ่ายเงินตามจำนวนการผลิตแบบนี้นะครับ รัฐจะเสียเงินน้อยกว่ามาก
เหตุที่จะมาคิดเงินกับ คนผลิตไฟฟ้าเยอะในตอนหลังแบบนี้ก็เพราะ แต่เดิม peak การใช้ไฟอยู่ตอนกลางวัน ก็กลัวว่าต้องสร้างโรงงานไฟฟ้าและ เดินเครื่องอย่างเต็มกำลังตอนกลางวันหรือช่วงบ่ายๆ โดยเขาก็เอาเงินที่จะลงทุนที่จะสร้างโรงไฟฟ้า เอามาจ่ายให้ค่า adder แพงๆและผูกพันระยะยาวนานเกินเช่น 5-10 ปี แต่เมื่อส่งเสริม พลังงานแสงอาทิตย์ที่ผลิตไฟได้จริงแค่ 9.00-15.00 โดยประมาณ ซึ่งจริงก็แก้ปัญหาในช่วงแรกได้ แต่อัตราการใช้ไฟมันเยอะขึ้นแต่พลังงานที่มาจาก พลังงานแสงอาทิตย์ตอนกลางวันที่เป็นแบบ on-grid อาจใกล้ๆถึง 2000 MW ซึ่ง 2000MW ในมุมผมนะจริงๆไม่น่าจะมีผลมากนัก ถ้าวิเคราะห์ช่วงบ่ายๆที่ควรจะการใช้กำลังไฟฟ้าสูงสุดสุทธิจริงๆ กับ ช่วงหัวค่ำที่มองว่าเป็นปัญหากลายเป้นช่วงกำลังไฟฟ้าสูงสุดแทนจากการที่กลางวันมีพลังงานแสงอาทิตย์มาทดแทน แต่อาจจะเพราะคนรุ่นใหม่ในเกือบทุกครัวเรือนใช้แอร์โดยเฉพาะคอนโดที่อยู่แค่คนเดียว เลยจาก Office หรือโรงงานที่เปิดแอร์ให้คนทั้งบริษัทหรือองค์กร อาจใช้แอร์เยอะ แต่ว่าก็อาจจะจำนวน unit ไม่เยอะ แต่ว่า เมื่อช่วงเย็นกลับไปถึงหัวค่ำก็แต่ละคนกลับไปใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าของตนเองคนละหน่วยกันหมด ผลคือ การใช้ไฟที่แต่ละคนก็ใช้คนละหน่วย ผลคือ การใช้ไฟในช่วงหัวค่ำ อาจไม่น้อยกว่าช่วงบ่ายสักเท่าไรผล ก็คือว่า กำลังไฟฟ้าที่ต้องจัดหาในช่วงเวลาค่ำก็ยังต้องเยอะและมีค่าใช้จ่ายสูงอยู่ดีเลยต้องหาทางมาเก็บเงินเอาคืนกํบคนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์รายใหม่ เรียกว่าหาทางเอาคืนกับความผิดพลาดที่ทำไปก่อนหน้านี้ แต่ผมบอกว่าเป็นการเอาคืนผิดคน นะ
และทางแก้ควรต้องหาทางไประบุระเบียบว่าการจะให้ค่า adder ควรจะเป็นค่าแปรผันตามช่วงเวลาของวัน และต้นทุนแปรผันในการผลิตไฟว่าสูงหรือต่ำ (เช่น การผลิตพลังงานที่ต้องใช้เชื้อเพลืงมีต้นทุนแปรผัน จะสูงกว่า การผลิตจากพลังงานจากแสงอาทิตย์ หรือจากพลังงานงานน้ำ หรือ พลังงานลม) ควรจะปรับค่า adder ให้เยอะสำหรับเวลาที่การไฟฟ้าต้องการไฟ และจากแหล่งพลังงานที่มีต้้นทุนแปรผันสูงกว่า อย่างพลังงานแสงอาทิตย์ไม่ควรจะให้มีค่าสูง
จากข่าวที่อ้างอิงมา ผมว่าทาง กกพ หาทางแก้ปัญหาที่ตัวเองสร้าง โดยจะสร้างภาพว่าเอาจากคนกลุ่มที่สร้างปัญหา แต่จะบอกมันไม่ใช่เพราะมันคือคนละคน คุณควรจะไปหาทางเอาคืนจากนายทุนที่คุณให้ค่า adder ไปสูงๆมากกว่า
และควรจะหาทางปรับนโยบาย การส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าเสียใหม่แทนนะครับ