Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: nuttaponckj ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2021, 01:56:38
-
:D
-
ผมทำธุรกิจส่วนตัว เป็นโรงกลึง เวลาซื้อรถที่ไม่ใช่รถกระบะที่เอามาใช้งาน
จะไม่ตามใจตัวเองมาก โดยดูจากเงินออมอย่างเดียว เพราะทุกอย่างเป็นเงินหมุน
เอาเป็นว่ามูลค่ารถ ต้องน้อยกว่าเงินออมสิบเท่า ไม่งั้นไม่สบายใจครับ
-
จากที่ได้ข้อมุลมาจากหลายๆคน ...คนที่มีปัญหา ผ่อนรถไม่ไหวมีอยู่ประเภทเดียวครับ คือ
ไม่มีเงินเก็บ ... หวังแต่จะเอาเงินอนาคตมาชำระ .... พวกที่ทำแบบนี้แล้วอยู่รอดได้มีแค่อาชีพเดียวคือพนักงานบริษัทหรือข้าราชการเท่านั้น ... แต่ถ้าธุรกิจส่วนตัว หรือค้าขาย หารอดยากครับ ...
ส่วนถ้าคนทำธุรกิจส่วนตัว เค้าจะมีเงินเก็บ มากพอที่จะซื้อรถคันนี้เงินสดได้ แต่เค้าเลือกผ่อน เมื่อมีปัญหาในธุรกิจ ก็จะเอาเงินเก็บมาผ่อน หรือไม่ก็ขายออกไป เพื่อตัดภาระ ...
ดังนั้น เราและไม่ว่าใคร คิดดีๆครับ รถแพงไม่ใช่คำตอบ เอาที่เหมาะกับตัวเรา รถคือรถ แต่ถ้าคุณมองรถเป็นเครื่องประดับ นั่นคือคุณต้องรวยจริง...
-
ขอเพื่อนผมที่ทำค่ายเพลง เช่าเครื่องเสียง ออกงานอีเว้น กับเรื่องลิขสิทธ์เพลง มันผ่อนรถแบบดาวน์น้อยสุดๆแทบจะไม่ได้ดาวน์
แต่ผ่อนค่อนข้างเยอะ ถ้าส่วนตัวมองว่ามันไม่เหมาะกับผมเลย แต่มันบอกว่า มันจำเป็นต้องเก็บเงินสดเป็นเงินออมไว้กับตัวให้มากที่สุด
ส่วนจะผ่อนอยู่เท่าไหร่ต่อเดือนจะกี่คันมันเป็นค่าใช้จ่ายที่แน่นอน ที่มันสามารถคำนวนได้ แต่ถ้าเงินในมือมีน้อย เกิดอยากลงทุนอะไรเพิ่มมันขยับตัวยาก
มันผ่อน ford everest 3.2 อยู่เดือนละ 32k คันอื่นๆมันก็เยอะมากๆ
-
ต้องมีเงินติดบัญชี อย่างน้อย 4 เดือน ของค่าผ่อนรถ
เช่นผ่อน เดือนละ 10,000 บาท
ต้องมีเงินในบัญชี อย่างน้อย 40,000 บาท หรือมากกว่าไว้หมุน
-
ผมทำบริษัทเล็กๆมากๆ หลักๆคือดูว่ารถคันนั้นเรามีเงินก้อนสามารถซื้อสดได้ครับ จากนั้นดาวน์ให้เยอะที่สุดเท่าที่ดอกเบี้ยจะถูกที่สุด (แต่ส่วนใหญ่ผมเลือก 30%)
เพราะหากเกิดปัญหาไม่คาดคิด จะได้มีทางเลือก 2 ทาง 1.คือผ่อนต่อได้ถ้าไม่อยากขาย หรือต้องเก็บไว้ใช้ทำงาน 2.ขายเพื่อปลดหนี้เอาเงินที่เหลือเสริมสภาพคล่อง (ข้อนี้ ถ้าดาวน์น้อย แล้วต้องขายในปีแรก อาจจะไม่พอปลดหนี้)
ที่ผ่านมาผ่อนจบทุกคัน เพิ่งมาต้นปีที่แล้ว เจอ Covid เลยตัดใจเลือกข้อสองครับ และดันเป็นยุโรปคันแรกด้วย เสียดายมากๆ แต่ขอปลอดภัยไว้ก่อนจะได้ไม่เครียดมาก
-
อาชีพอิสระครับ
ผมเน้น ดาวเยอะ ให้ยอดกู้น้อย ภาระผูกพันจะได้ไม่มาก
มีเงินสำรองพอที่จะใช้ชีวิต(แบบปัจจุบัน)เผื่อค่าเทอม ค่าบ้าน ได้อีกประมาณ 2 ปี (ถ้าก้อนนี้หมดก็ เริ่มขายกองทุนออกละ)
ถ้ามีเงินเหลือ ก็ทยอยโป๊ะหนี้บ้าน แบ่งเอาไปลงทุนตามที่ถนัด
ส่วนตัวผมเน้นใช้ของแต่พอดีๆ ของบางอย่างเราอาจมีความสุขที่ได้ใช้ แต่ไม่ได้มีความสุขเวลาเป็นเจ้าของ
-
ผมอาจจะไม่ตรงซักทีเดียว เพราะตัวผมทำงานประจำ ส่วนแฟนออกมาทำเทรดหุ้นเต็มตัว
ตอนนี้ผ่อนรถอยู่ 2 คัน ก็หนักเอาการอยู่ครับ แต่ผมก็มีเงินเย็นที่สามารถปิดรถได้ทั้งสองคันครับ
ที่ผมคำนวณรายได้คือ ผมไม่เอาเงินรายได้จากที่แฟนเทรดหุ้นมาคิดเป็นรายได้ประจำเดือนครับ มองแค่เป็นรายได้เสริมมากบ้างน้อยบ้าง ก็แล้วแต่จังหวะ
ปล. รถท้้ง 2 คัน ผมเลือกดาวน์เยอะ(มากกว่า 50%) ผ่อนต่อเดือนพยายามให้ไม่เกินเดือนละ 10K ต่อคันครับ
-
คหสต.
1.เงินสดหรือเงินที่สามารถถอนออกมาใช้ได้เลย มีไม่ต่ำกว่า 6เท่าของค่างวดรถ+อสังหาทั้งหมดทุกรายการที่เป็นหนี้และต้องจ่ายค่างวดอยู่
2.ค่างวดรถ+อสังหาทั้งหมด ไม่ควรเกิน30% ของรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ในกรณีไม่มีหนี้อื่นๆนอกเหนือจากนี้
-
ตอนนี้ทำธุรกิจส่วนตัวกับที่บ้าน
-ใช้รถที่บ้าน ไม่มีผ่อนอสังหาฯ
-ออกรถใหม่ ดาวน์ 20%++ ผ่อน 4-5 ปี ขึ้นอยู่กับดอกเบี้ย/โปรโมชั่น ยอดผ่อนพยายามไม่เกิน 10% ของส่วนแบ่งกำไรสุทธิ
สำรองเงินสดส่วนตัวไว้บางส่วน เอากำไรจากพอร์ตมาผ่อนรถ+สินเชื่อ Loan ธุรกิจส่วนบุคคล
ยกตัวอย่างคนใกล้ตัวบ้าง...
ผู้รับเหมา
-ซื้อมือสองรถเงินสด
-ซื้อบ้านเงินสด ซื้อรถแบบดาวน์น้อยผ่อนนาน (ประหยัดดอกเบี้ยบ้านไปหลายล้านเลย)
เกษตรกร ทำสวน ไร่ นา
-ผ่อนรถรายปี หลังเก็บเกี่ยวผลผลิต ดาวน์มีตั้งแต่ 5-50%
Freelance อาชีพอิสระ
-ไม่เห็นซื้อรถ นั่งแต่ grab uber ไปต่างจังหวัดก็เช่ารถเก๋งขับเอา ไม่ก็นั่งเครื่องบิน เค้าบอกยังไงก็ยังจ่ายน้อยกว่าผ่อนรถทุกเดือน
-
ผมใช่สูตรผ่อนเป็นจำนวนเงินน้อยๆ แต่ยอมผ่อนนานๆครับ ไม่เคยได้ผลกระทบเลย
ผมทำธุรกิจกับที่บ้าน เงินเดือนมั่นคง แต่เงินค่าคอมสวิงพอสมควรครับ แปลว่าถ้าอยากได้รถที่เกินกำลังเล็กน้อยก็พอทำได้แต่ ผมก็ใช้สูตรที่ผมว่า
ค่าคอมเดือนไหนที่เยอะๆก็สำรองเอาไว้สักเดือนหรือสองเดือนก็พอ เพราะยอดผ่อนน้อย
บางที ก่อนจะเทิร์นรถคันใหม่ ผมอาจกัดฟังจัดการกับค่าคอม เพื่อเก็บให้ได้เป็นก่อน ซึ่งผมมักจะพยายามดาวน์ให้ได้เกินครึ่งของตัวรถครับ เพื่อดอกเบี่ยที่ต่ำลงและระยะเวลาของการผ่อนยาวขึ้น
-
ผมขายสินค้าออนไลน์
ผ่อนรถไม่เกิน 1 ใน 10 ของกำไรครับ เงินสดหมุนหมดครับ
จริงๆก็อยากซื้อรถที่อยากได้อยู่ครับ แต่ก็ทำใจ กลั้นใจและอดทนครับ
-
ผมทำรีสอร์ตขนาดเล็กในโซนเขาใหญ่ ช่วงเดือน พ.ย. - ธ.ค. ที่ผ่านมา รายได้รวมกันแตะ 7 หลัก แต่ทั้งหมดนี้ต้องนำไปถัวเฉลี่ยกับช่วงกลางปีที่รายได้บางเดือนอาจได้แค่ 5 หลัก
-
ผมทำรีสอร์ตขนาดเล็กในโซนเขาใหญ่ ช่วงเดือน พ.ย. - ธ.ค. ที่ผ่านมา รายได้รวมกันแตะ 7 หลัก แต่ทั้งหมดนี้ต้องนำไปถัวเฉลี่ยกับช่วงกลางปีที่รายได้บางเดือนอาจได้แค่ 5 หลัก
ผมขายสินค้าออนไลน์
ผ่อนรถไม่เกิน 1 ใน 10 ของกำไรครับ เงินสดหมุนหมดครับ
จริงๆก็อยากซื้อรถที่อยากได้อยู่ครับ แต่ก็ทำใจ กลั้นใจและอดทนครับ
ความรู้สึกคล้ายๆกันครับ
-
แล้วอาชีพพวกนี้ไฟแนนซ์ปล่อยให้ไหมครับ?
ถ้าจดทะเบียนผมว่าได้ ถ้าไม่จดผมไม่ทราบจริง ๆ
-
แล้วอาชีพพวกนี้ไฟแนนซ์ปล่อยให้ไหมครับ?
ถ้าจดทะเบียนผมว่าได้ ถ้าไม่จดผมไม่ทราบจริง ๆ
ไม่จดทะเบียนก็ปล่อยได้ สำหรับรถนะครับ จะขอเอกสารเพิ่มเติมตามอาชีพ เช่น
เกษตรกร ดูโฉนดที่ดิน สัญญาเช่าที่ดิน การขายผลผลิต
ฟรีแลนซ์/ผู้รับเหมา ดูสัญญาจ้างงาน statement ต้องเดินตลอด เป็นต้นครับ
-
แล้วอาชีพพวกนี้ไฟแนนซ์ปล่อยให้ไหมครับ?
ถ้าจดทะเบียนผมว่าได้ ถ้าไม่จดผมไม่ทราบจริง ๆ
ไม่จดทะเบียนก็ปล่อยได้ สำหรับรถนะครับ จะขอเอกสารเพิ่มเติมตามอาชีพ เช่น
เกษตรกร ดูโฉนดที่ดิน สัญญาเช่าที่ดิน การขายผลผลิต
ฟรีแลนซ์/ผู้รับเหมา ดูสัญญาจ้างงาน statement ต้องเดินตลอด เป็นต้นครับ
ช่วง 5 ปีที่แล้ว
ยื่นกู้ไม่ใช้ปัญหาครับ ถ้ามีการเดินบัญชี มีเงินเข้า-ออก มีหลักฐานการซื้อขาย ทำกิจการจริงๆ
ไฟแนนซ์อาจส่งคนมา ถ่ายรูปหน้าร้าน ถ่ายstock เป็นหลักฐานไว้พิจารณาครับ
ถ้ามีเงิน + พิจารณาแล้วว่า มีรายได้ผ่อนไหว เขาก็ปล่อยให้ครับ
ปัจจุบันผมเองไม่แน่ใจเคยมีข่าวว่าต้องใช้ พงด. แนบเพื่อยื่นกู้ แต่คิดว่าน่าจะมีช่องทางอื่น ไม่งั้น พ่อค้าแม่ค้า นอกระบบ คงซื้อกันไม่ได้