ผมก้ทำคล้ายๆคุณ จขกท. ทำนั่นแหละคับ ตรงกันหลายๆข้อ โดยเฉพาะก่อนออกรถทุกครั้งไม่ว่าจะเช้าสายบ่ายค่ำ ผมจะสตาร์ทเครื่องอุ่นก่อน ไม่ใช่แค่ 10-20 วิ นะคับ ผมนี่ทิ้งไว้ปีระมาณ 3-4 นาทีเลยทีเดียว จนกว่าเสียงคำรามจะเบาลงและได้ยินเสียงรอบเดินปีกติ ช่วงระหว่างนั้นผมก้เก็บของไปอะไรไป พอเก็บเสร็จมันก้อุ่นพอดี และหลังกลับมาจากข้างนอก ผมจะไม่ดับเครื่องทันทีนะ จะปล่อยไว้สัก 30 วินาทีค่อยดับ หรือถ้ามีเสียงเครื่องยนต์และแอร์ทำงาน ผมจะรอจนกว่ามันตัดรอบเสร็จถึงจะดับเครื่อง และก้เปิดฝากีะโปรงทิ้งไว้ให้เครื่องเย็น พอใกล้ไฟแดงก้ปบ่อยไหล ไม่เหยียบส่งต่อ
ปล. แค่ผมสงสัยนิดนึงว่า มันมีคนที่เปลี่ยนเกียร์ตอนรถใกล้จอดนิ่งด้วยเหรอคับ แล้วออโต้มันทำได้เหรอ ผมนี่ต้องจอดสนิทก่อนนะถึงเปลี่ยนเป็น N ก้เลยงงว่ามันมีคนทำแบบนั้นด้วยเหรอ ถ้าเปนแมนน่วลก้ว่าไปอย่าง
เรื่องการวอร์มเครื่องยนต์ก่อน ในรถบ้านใช้งานทั่วไป ปัจจุบันนี้ความเห็นแตกต่างกันไปครับ
หลายบทความไม่ได้แนะนำให้ต้องวอร์มเครื่องแล้ว เพราะเป็นการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
สุ้เอาน้ำมันส่วนที่ใช้วอร์มนั้น เอาไปวิ่งเป็นได้ระยะทางดีกว่า และลดมลพิษในส่วนที่เกิดจากการวอร์ม
(แต่อาจจะเพราะปัจจุบับเปลี่ยนรถยนต์กันก่อนที่เครื่องยนต์หลวม ใช้งานนานๆแบบสมัยเก่าก่อน)
ส่วนตัวผมใช้รถเบนซินคันหนึ่งไปหกแสนกว่าโล ไม่เคยโอเวอร์ฮอลทำเครื่องยนต์เลยสักคครั้ง
และไม่เคยวอร์มอุ่นเครื่องเลย แต่เน้นออกตัวธรรมดา ไม่ออกตัวแรง จนกว่าเครื่องร้อนถึงอุณหภูมิทำงานของรถ)
ส่วนอีกคันเบนซิน ใช้มาสองแสนกว่าโลถึงปัจจุบัน ไม่เคยวอร์มเหมือนกัน
ส่วนการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติขณะรถยังวิ่งไหลอยู่แบบที่ว่า มีแต่ทำให้เกียร์สึกหรอพังเร็วขึ้น
อีกเรื่องสำหรับสองคันที่กล่าวข้างบนใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์100% เปลี่ยนทุก 10,000โลตลอด
ไม่ได้ใช้น้ำมันเครื่องแพงเลย เป็นหลักก็- บางจาก กับ ปตท. ยี่ห้ออื่นก็ลองตอนมีโปรฯ
แต่ปัจจุบันรถคันหลังที่ยังคงใช้งานอยู่ เดี่ยวนี้ขี้เกียจหิ้วน้ำมันเครื่องเข้าไปเองก็อุดหนุนน้ำมันศูนย์(ตัวไม่แพง)บ้างครับ