อ่านข้างบนดูแล้ว ทำใมกรณีจอดในห้าง ทำใมห้างต้องรับผิดชอบครับ
ทำไมห้างต้องรับผิดชอบด้วย
เท่าที่อ่านคำพิพากษา ฏีกา เกี่ยวกับกรณีนี้มาบ้างสรุปคร่าวๆ
กรณีแรก รถหายสมัยที่ห้างแจกบัตรเข้าออก รถหายไปโดยที่บัตรเข้ายังอยู่กับเจ้าของรถ ดังนั้นศาลจึงถือว่าเป็นความผิดของห้างและรปภที่ไม่เข้มงวดให้ดี ปล่อยให้บุคคลอื่นมาขับรถออกไปได้ (การควบคุมการเข้า-ออกของรถ ตกอยู่ในการดูแลของห้าง)
กรณีที่สองล่าสุด รถหายในสมัยที่ห้าง บ.ซ. ลำลูก.. ไม่ได้แจกบัตรแล้ว ไม่มีรปภประจำป้อมเข้า-ออก ตรวจตรา
ศาลเห็นว่าในสมัยก่อนห้างนี้มีการแจกบัตร และ รปภตรวจบัตรเข้า-ออก ภายหลังไม่มีการประจำรปภประจำป้อมทางออก งดแจกบัตร
ดังนั้นจึงถือว่า ทางห้างหล่ะหลวมในการดูแล ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 7471/2556
"ห้างฯ ต้องให้ความสำคัญกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นสินค้า ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย กับทั้ง พรบ.ควบคุมอาคาร ก็ยังบังคับให้ห้างฯ
ต้องมีพื้นที่จอดรถภายในอาคารเพื่อความสะดวกแก่การจราจร ทั้งต้องคำนึงถึงความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของลูกค้า และมีหน้าที่ต้องดูแลตามสมควร
มิใช่ปล่อยให้ลูกค้าต้องระวังหรือเสี่ยงภัยเอาเอง อีกทั้งก่อนนั้น มีการแจกบัตรเข้าออก เพื่อตรวจตราและความเข้มงวด แต่ห้างฯ กลับยกเลิกการรับบัตร
อันเป็นการเพิ่มความเสี่ยงซึ่งห้างรู้ดี ดังนั้นห้างฯ จึงต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อลูกค้า"
ตอนนี้จะสังเกตเห็นได้ว่า ห้างในเครือเซนทรัลมียามประจำทางเข้า-ออกแล้ว และยังมีจุดแจ้งเหตุ +ยามขี่รถมอเตอร์ไซด์วิ่งตรวจตรารอบลานจอด
แต่ยังไม่แจกบัตรเข้า-ออก(เลี่ยงประเด็นในเรื่องทางห้างเป็นผู้ควบคุมการเข้า-ออกของรถ) เพื่อชี้ให้เห็นว่าห้างมีการอำนวยความปลอดภัยตามสมควรแล้ว
แต่ลานจอดรถให้เช่า น่าจะไม่อยู่ใน พรบ ควบคุม อาคาร
ดังนั้นถ้าอำนวยความสะดวกโดยติดไฟส่องสว่างโดยทั่ว มีกล้องส่องทางเข้า-ออก ห้ามจอดในที่ส่วนกลาง
บังคับจอดในช่องและมีรั้วเล็กๆให้เจ้าของรถเอากุญแจมาล๊อคแต่ละช่องได้เอง (สิทธิ์การควบคุมรถยังอยู่ในการดูแลของเจ้าของรถ)
แต่ไม่มีประตูกั้นทางเข้า-ออกใหญ่ (การควบคุมรถไม่ได้อยู่ในความดูแลเจ้าของที่ดิน) จึงไม่ต้องรับผิดชอบกรณีรถหาย
เพราะถือว่าอำนวยความสะดวกความปลอดภัยโดยสมควรแล้ว