Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: tumsung ที่ ตุลาคม 01, 2018, 13:54:35
-
ตามหัวกระทู้เลยครับ อยากรู้พี่ๆที่ใช้รถยุโรปกันรายได้ต่อเดือนประมาณเท่าไหร่กันบ้างครับ
หลังหักภาระ ค่าใช้จ่ายต่างๆแล้ว ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอยด้วยนะครับ
-
70K+ โดยประมาณ ถ้าไม่มีหนี้สินอะไรที่ต้องผ่อนมาก เช่น บ้าน, ค่าประกันสุขภาพ, ค่าใช้จ่ายประจำวัน และงบเลี้ยง(เมีย ;D)
เริ่มๆก็มี
-C220d Avantgard
-320d Iconic
-GLA CLA
-X1
-XC40
-
ขับแบบสบายใจก็ควรซื้อสด และมีรถญี่ปุ่นสำรองครับ (ขั้นต่ำ2คันรวมกัน4ล้าน) ถ้าเก็บ10 ปีก็ ปีละ 400,000 ก็ประมาณเดือนละ 33,333
ถ้าเป็นเงิน เก็บ1/3 ก็ควรจะมีเงินขั้นต่ำ100,000/เดือนครับ
ปล.ถ้ารายได้ต่ำกว่า 100,000 ก็ไม่ควรขับอะไรที่มันถึง2ล้าน
-
เข้าศูนย์อย่างต่าครั้งละกี่บาทครับ
-
ขับแบบสบายใจก็ควรซื้อสด และมีรถญี่ปุ่นสำรองครับ (ขั้นต่ำ2คันรวมกัน4ล้าน) ถ้าเก็บ10 ปีก็ ปีละ 400,000 ก็ประมาณเดือนละ 33,333
ถ้าเป็นเงิน เก็บ1/3 ก็ควรจะมีเงินขั้นต่ำ100,000/เดือนครับ
ปล.ถ้ารายได้ต่ำกว่า 100,000 ก็ไม่ควรขับอะไรที่มันถึง2ล้าน
พอเห็นภาพเลยครับ
-
ขับแบบสบายใจก็ควรซื้อสด และมีรถญี่ปุ่นสำรองครับ (ขั้นต่ำ2คันรวมกัน4ล้าน) ถ้าเก็บ10 ปีก็ ปีละ 400,000 ก็ประมาณเดือนละ 33,333
ถ้าเป็นเงิน เก็บ1/3 ก็ควรจะมีเงินขั้นต่ำ100,000/เดือนครับ
ปล.ถ้ารายได้ต่ำกว่า 100,000 ก็ไม่ควรขับอะไรที่มันถึง2ล้าน
ผมก็คิดแบบนี้เลย
-
เข้าศูนย์อย่างต่าครั้งละกี่บาทครับ
ช่วงหลังๆมา เห็นรับประกันฟรี 5 ปี ระยะทางไม่แน่ใจครับ
-
ถ้าเอารถราคา 2.2-2.8 ล้าน ผมว่า 100,000 บาทต่อเดือนไม่มีภาระอะไรก้ใช้ได้ครับ
-
สอบถามครับ ถ้าเป็นรถยุโรปมือสอง อย่าง E-class, 5 series อายุสัก 4-5 ปี ที่เริ่มหมดระยะเวลารับประกันแล้ว ราคาประมาณ 1.2-1.8 ล้าน จะมีค่าใช้จ่ายดูแลรถต่อเดือนเท่าไหร่ครับ (ไม่รวมค่าน้ำมัน แต่รวมยาง ผ้าเบรก ของเหลว กรองต่างๆ ประกัน ฯลฯ)
-
70K+ โดยประมาณ ถ้าไม่มีหนี้สินอะไรที่ต้องผ่อนมาก เช่น บ้าน, ค่าประกันสุขภาพ, ค่าใช้จ่ายประจำวัน และงบเลี้ยง(เมีย ;D)
เริ่มๆก็มี
-C220d Avantgard
-320d Iconic
-GLA CLA
-X1
-XC40
ผมว่า 70000 แล้วซื้อรถยุโรปน่าจะเป็นการใช้เงินเกินตัวไปมากๆๆๆ เลยครับ 70000 นี่ถ้าซื้อรถที่เหมาะสมกับฐานะจริงๆ ผมว่าวีออสรุ่นท็อปหรือ Cseg ตัวล่างกำลังไหว เงินเดือน 1 แสนค่อยขึ้น C-segment ตัวท็อป เกิน 1.5 แสนค่อยซื้อ Dsegment
ถ้าจะซื้อรถยุโรปตัวเริ่มต้นแบบไม่เป็นพิษเป็นภัยกับเงินในกระเป๋า ควรที่จะมีเงินหลังหักค่าใช้จ่ายหมดแล้ว สามารถซื้อเงินสดมันได้ใน 1 ปี เช่น เงินเดือน 4 แสน หักภาษีเหลือ 3 แสน ใช้จ่าย 1 แสน แล้วเหลือ 2 แสน แบบนี้พอจะซื้อรถยุโรปตัวเริ่มต้นมาใช้แบบสบายใจได้ แบบขายทิ้งราคาตกหรือค่าซ่อมแพงก็ไม่เดือดร้อน
ถ้า 70000 ผ่อนเดือนละ 40000 เหลือ 30000 ไว้ใช้นี่แทบจะกินแกลบแล้วครับ ยิ่งถ้าอยู่ในกรุงเทพนี่ไม่เหลือเงินเก็บแน่ๆ ยังไม่นับเวลาเช็คระยะหรือมีอะไรเสียหลังประกันหมดก็หมดตัวเลยพอดี
ยกเว้นว่าเปิดบริษัทแล้วใช้เป็นรถประจำตำแหน่งเอามาหักเป็นรายจ่าย แบบนั้นค่อยคุ้มหน่อยครับ
-
พี่ผมรายได้ต่อเดือน 40-50k ก็ขับ C-Class แล้วครับ ที่บ้านซื้อให้ (ขำๆนะครับ :D)
ในความเป็นจริง ถ้าเป็นโสด รายได้ต่อเดือนประมาณ 100k ดาวน์เยอะๆหน่อย ก็ผ่อนสบายแล้วครับ
แต่ต้องสำรองเงินในแต่ละเดือนไว้ด้วย เผื่อค่าประกันภัยรถยนต์ ค่าเปลี่ยนยาง Car Care และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
-
พี่ผมรายได้ต่อเดือน 40-50k ก็ขับ C-Class แล้วครับ ที่บ้านซื้อให้ (ขำๆนะครับ :D)
ในความเป็นจริง ถ้าเป็นโสด รายได้ต่อเดือนประมาณ 100k ดาวน์เยอะๆหน่อย ก็ผ่อนสบายแล้วครับ
แต่ต้องสำรองเงินในแต่ละเดือนไว้ด้วย เผื่อค่าประกันภัยรถยนต์ ค่าเปลี่ยนยาง Car Care และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
มันดีตรงนี้ครับ 8)
-
เฉลี่ย150,000-200,000ครับ
เพราะ ค่าน้ำมัน ค่าภาษี ค่าประกันปีที่2 ค่าเซอวิส มันมีมาตลอดครับ
อ่อ ถ้าเอาอุ่นใจต้องมีสำรองญี่ปุ่นอีกสักคันครับ เผื่อชน เผื่อรออะไหล่ เผื่อขึ้นยานแม่
-
.
.
คำถามคือหลังหักค่าใช้จ่ายใช่ไหมครับ
เป็นผมจะต้องเหลืออย่างต่ำ 2 แสนครับ
เพราะควรจะเผื่อเงินไว้ลงทุนและเก็บด้วย
ไม่งั้นลงกับรถหมดอนาคตแย่ครับ
-
ผมไม่ได้ขับนะ แต่เอาจากรอบข้างที่มีใช้กัน
เจ้าของธุรกิจทั้งนั้น ไม่มีคนรับเงินเดือน รายได้ต่อเดือน 1 ล.บ. - หลัก 10 ล.บ.
ซื้อสดทุกคน
ส่วนตัวถ้าจะซื้อรถคันละ 3 ล.บ. ผมต้องมีเงินเก็บต่อเดือน หลังหักค่าใช้จ่ายอื่นๆ ประมาณ 5 แสน
ซื้อได้ กับ ซื้อโดยไม่เดือดร้อนมันต่างกันมากจริงๆนะครับ
-
ส่วนตัวคิดว่าควรมีรายได้ประมาณ 2 แสนบาทต่อเดือนนะคะ สำหรับรถยุโรปราคา 2-2.5 ล้านบาท เพราะค่างวดรถไม่ควรจะเกิน 25% ของเงินเดือนทั้งหมด
.
.
คุณพ่อเราบอกว่า เราควรจะมีเงินเก็บอย่างน้อยเท่ากับราคารถคันที่เราจะตัดสินใจซื้อ เพราะรถเป็นของที่เสื่อมมูลค่า
ต่อให้เงินเดือน 3 แสนบาท แต่ถ้ายังเก็บ 2.5 ล้านบาทไม่ได้ ก็ยังไม่ควรซื้อรถราคาเท่านั้นค่ะ :)
-
สมมติรายได้ 100k รับสุทธิ95k
ค่าใช้จ่ายFix 50k
เงินเหลือ 45k
เยอะสุดไม่ควรผ่อนเกินเดือนละ50%ของเงินเหลือ
คืองวดละ 22,500 สมมติตอนนี้ซื้อF30 320d Iconic คงต้องดาวสัก700,000 บาท ผ่อน60งวด
แต่ถ้าจะดาวน์น้อยๆสัก 200,000บาท ใช้สูตรนี้ คุณต้องมีรายได้เดือนละอย่างต่ำ 120,000 บาทครับ
-
สมมติ 320D
ประกันชั้น 1 ต่อทะเบียนปีละเท่าไหร่ครับ?
-
จะไม่สามารถต่อทะเบียนที่ขนส่งได้ครับ ทางขนส่งอาจจะให้แค่ใบชั่วคราวมา แต่ป้ายสี่เหลี่ยมจะไม่ให้ จนกว่าเราจะไปจ่ายค่าปรับใน 30 วัน แล้วถึงค่อยกลับมารับป้ายสี่เหลี่ยมที่ขนส่งใหม่ครับ อันนี้ update ล่าสุดเลย เมื่อก่อนไม่ต้องจ่าย ก็ยังต่อภาษีได้จริงๆ แต่ตอนนี้ ต่อได้ แต่ไม่ได้ป้ายสี่เหลี่ยม...
-
สำหรับผมไม่ได้ทำงานประจำแล้ว ลงทุนในหุ้นเป็นหลัก เลยใช้วิธีคิดอีกแบบครับ
คือใช้เกณฑ์ว่า คันต่อๆไป ต้องรถยุโรปตลอดเท่านั้นนะ
ดังนั้น สมมุติว่าตอนนี้อายุ 40 คิดว่าจะขับรถต่อไปจนอายุ 65 ใช้รถคันละ 6 ปี
ดังนั้นตั้งแต่อายุ 40 - 65 จะต้องซื้อรถทั้งหมด 5 คัน (เผื่อเหลือเผื่อขาดให้อีก 1 คัน)
คันแรก 2.5 ล้าน ใช้ไป 6 ปี ขายได้ 1 ล้านถ้วนๆ เอาไปดาวน์คันใหม่
คันที่ 2-4 จะใช้เงินคันละ 1.5 ล้าน
= 2.5 + (1.5 * 4) = 8.5 ล้าน
ดังนั้นก็จะกันเงิน 8.5 ล้านออกมาจากส่วนอื่นๆทั้งหมดของชีวิต
ไม่เกี่ยวกับเงินเกษียณ เงินเที่ยว เงินให้ลูก เงินในการทำธุรกิจ เงินลงทุนอื่นๆ
นำส่วน 8.5 ล้านนี้มาลงทุนแบบเสี่ยงต่ำๆ เช่น หุ้นกู้ A ขึ้นไป , Property Fund , ...
แล้วทะยอยใช้ไปเรื่อยๆ แบบนี้จะรู้สึกสบายใจสุดๆครับ
อาจจะดู over เกินไปสำหรับหลายๆคน แต่ผมก็ทำแบบนี้จริงๆ
เพราะการขับรถยุโรป คือ ความสุขอย่างหนึ่ง
การที่เราเลือกความสุขนี้ ก็ไม่ควรไปทำให้ความสุขส่วนอื่นๆลดลงด้วย
ถ้ายังมีไม่มากนัก หรือ ยังไม่พร้อมมาก Camry, Accord, CX-5, Fortuner, Everest ก็หล่อแล้วครับ
แต่น้องที่ทำงานเก่าผมเค้าก็ไม่ได้ใช้วิธีนี้นะครับ เค้าบอกว่า ขืนให้สูตรแบบนี้ ชาตินี้เค้าคงไม่ได้ขับ
เค้ารายได้เกิน 80,000 ก็จัด 320d แล้วไปประหยัดส่วนอื่นๆชดเชยเอา เพื่อให้มีเงินเหลือเก็บต่อเดือนบ้าง
เที่ยวน้อยลงหน่อย กินหรูอยู่แพงน้อยลงหน่อย อะไรประมานนั้น
สุดท้าย ทั้งผมและน้อง ก็มีความสุขดีตามวิธีคิดของตัวเอง
ดังนั้นสรุปผมว่า ซื้อไปเถอะ ถ้าชอบมันจริงๆ ซื้อแล้วไม่เดือดร้อน
ซื้อแล้วยังสามารถใช้ชีวิตให้มีความสุข และมั่นคงได้เหมือนเดิมก่อนซื้อ
ซื้อแล้วสบายใจทางด้านการเงินเหมือนก่อนซื้อ
-
ข้าราชการหลายๆคนที่เห็นที่รู้จัก ใช้ bmw x1 320D benz e class class ก็มี เคยถามคนนึงเป็นข้าราชการ เงินเดือนแกก็ไม่เยอะเท่าไหร่ บอกรายรับต่อเดือน60,000 มีเงินเก็บ2ล้านแกอยากขับbenzมากเลยเอาเงินไปดาวน์แล้วผ่อนได้สบายๆ เพราะแกไม่มีภาระอะไรลูกๆก็โตทำงานหมดแล้ว แกบอกว่าถ้ามัวแต่กลัวคงตายก่อนได้ขับ
-
สำหรับผมไม่ได้ทำงานประจำแล้ว ลงทุนในหุ้นเป็นหลัก เลยใช้วิธีคิดอีกแบบครับ
คือใช้เกณฑ์ว่า คันต่อๆไป ต้องรถยุโรปตลอดเท่านั้นนะ
ดังนั้น สมมุติว่าตอนนี้อายุ 40 คิดว่าจะขับรถต่อไปจนอายุ 65 ใช้รถคันละ 6 ปี
ดังนั้นตั้งแต่อายุ 40 - 65 จะต้องซื้อรถทั้งหมด 5 คัน (เผื่อเหลือเผื่อขาดให้อีก 1 คัน)
คันแรก 2.5 ล้าน ใช้ไป 6 ปี ขายได้ 1 ล้านถ้วนๆ เอาไปดาวน์คันใหม่
คันที่ 2-4 จะใช้เงินคันละ 1.5 ล้าน
= 2.5 + (1.5 * 4) = 8.5 ล้าน
ดังนั้นก็จะกันเงิน 8.5 ล้านออกมาจากส่วนอื่นๆทั้งหมดของชีวิต
ไม่เกี่ยวกับเงินเกษียณ เงินเที่ยว เงินให้ลูก เงินในการทำธุรกิจ เงินลงทุนอื่นๆ
นำส่วน 8.5 ล้านนี้มาลงทุนแบบเสี่ยงต่ำๆ เช่น หุ้นกู้ A ขึ้นไป , Property Fund , ...
แล้วทะยอยใช้ไปเรื่อยๆ แบบนี้จะรู้สึกสบายใจสุดๆครับ
อาจจะดู over เกินไปสำหรับหลายๆคน แต่ผมก็ทำแบบนี้จริงๆ
เพราะการขับรถยุโรป คือ ความสุขอย่างหนึ่ง
การที่เราเลือกความสุขนี้ ก็ไม่ควรไปทำให้ความสุขส่วนอื่นๆลดลงด้วย
ถ้ายังมีไม่มากนัก หรือ ยังไม่พร้อมมาก Camry, Accord, CX-5, Fortuner, Everest ก็หล่อแล้วครับ
แต่น้องที่ทำงานเก่าผมเค้าก็ไม่ได้ใช้วิธีนี้นะครับ เค้าบอกว่า ขืนให้สูตรแบบนี้ ชาตินี้เค้าคงไม่ได้ขับ
เค้ารายได้เกิน 80,000 ก็จัด 320d แล้วไปประหยัดส่วนอื่นๆชดเชยเอา เพื่อให้มีเงินเหลือเก็บต่อเดือนบ้าง
เที่ยวน้อยลงหน่อย กินหรูอยู่แพงน้อยลงหน่อย อะไรประมานนั้น
สุดท้าย ทั้งผมและน้อง ก็มีความสุขดีตามวิธีคิดของตัวเอง
ดังนั้นสรุปผมว่า ซื้อไปเถอะ ถ้าชอบมันจริงๆ ซื้อแล้วไม่เดือดร้อน
ซื้อแล้วยังสามารถใช้ชีวิตให้มีความสุข และมั่นคงได้เหมือนเดิมก่อนซื้อ
ซื้อแล้วสบายใจทางด้านการเงินเหมือนก่อนซื้อ
อ่านแล้วฟินมากมายครับ
-
ลองคิดกลับด้านครับ
ตอนนี้อายุยังน้อย หรืออายุเริ่มเยอะ อีกกี่ปีเกษียณ แล้ววันที่เกษียณมีเงินพร้อมจะอยู่ต่ออีก 20 ปีมั้ย? แปลว่าจะออมเงินเดือนละเท่าไหร่? ออมในอะไร? กองปันผล กองพันธบัตร กองอสังหา กองหุ้น
หรือแม้แต่ออมในที่ดินดีๆ สวยๆ
แล้ววางแผนต่อ เรื่องคนรอบตัว พ่อแม่ ครอบครัว ตัวเอง
บวกลบคูณหารกับ lifestyle กินข้าวแกงบ้าง เสต็คชิ้นสวยๆบ้าง ช่วยเหลือคนพิการ สังคม สัตว์ป่าบ้าง
แล้วมาดูครับว่าเหลือเงินจะผ่อนรถที่มีความสุขซัก 3-4 ปีแรก จากนั้นราคาจะตกเอา ตกเอา อีกเดือนละเท่าไหร่
เกือบ 20 ปีก่อน ผมมีจุดตัดสินใจคล้ายๆกันนี้ คนรอบข้างแข่งกันออกรถใหม่ โดนถามตลอดว่าเมื่อไหร่ผมจะออกรถใหม่
สับสนหน่อยๆ แต่โชคดีที่ตัดสินใจถูก เอาเงินไปผ่อนอสังหาบ้าง ดูหุ้นพื้นฐานดีๆบ้าง ลงทุนกับเพื่อนเก่งๆบ้าง บังคับตัวเองไม่ให้วอกแวกอยู่ 10 ปี
ตอนนี้ทรัพย์สินบวมขึ้นมาเป็น 9 หลัก (ไม่ได้เก่งนะครับ แต่อสังหา และหุ้นไทย 20 ปีนี้โตขึ้นมามากจนตกใจเหมือนกัน)
รวยแซงหน้าเพื่อนๆที่ยุคนั้นแข่งกันถอย Camry จนเงินต้นหายกันเกลี้ยงครับ
-
สมมติ 320D
ประกันชั้น 1 ต่อทะเบียนปีละเท่าไหร่ครับ?
เทียบกับรถผมล่ะกันออกตอน 2.899 ลบ.
ปีแรก 5x,xxx ศูนย์แถมให้
ปีต่อมา 4X,xxx หลังจากนั้นค่อยๆลดลงมาที่ 3x,xxx ครับ
-
ขับแบบสบายใจก็ควรซื้อสด และมีรถญี่ปุ่นสำรองครับ (ขั้นต่ำ2คันรวมกัน4ล้าน) ถ้าเก็บ10 ปีก็ ปีละ 400,000 ก็ประมาณเดือนละ 33,333
ถ้าเป็นเงิน เก็บ1/3 ก็ควรจะมีเงินขั้นต่ำ100,000/เดือนครับ
ปล.ถ้ารายได้ต่ำกว่า 100,000 ก็ไม่ควรขับอะไรที่มันถึง2ล้าน
ตามนี้เลยครับ เก็บเงินซื้อสดได้คือไม่เกินตัวแน่ๆครับ
-
ถ้ารายได้แสนนึงนี่ เหนียวคอแน่ๆครับ
ผ่อน3-4หมื่น ถ้าต้องผ่อนบ้าน หรือต่อประกันรถ เดือนไหนก็อ้วกแล้ว ไหนจะไอโฟนออกอีก ถ้าไม่ใช่เจ้าของกิจการ ควรจะเป็นหมอหรือนักบินครับ :'(
-
หักทุกอย่างแล้ว คชจ ต่างๆ หักเงินเก็บไปแล้ว เหลือซักแสนนึงแบบไม่รู้จะทำอะไร กำลังดีครับ
แต่ก็แล้วแต่คนอะนะครับ นั้นความคิดส่วนตัวของผมครับ
-
จะไม่สามารถต่อทะเบียนที่ขนส่งได้ครับ ทางขนส่งอาจจะให้แค่ใบชั่วคราวมา แต่ป้ายสี่เหลี่ยมจะไม่ให้ จนกว่าเราจะไปจ่ายค่าปรับใน 30 วัน แล้วถึงค่อยกลับมารับป้ายสี่เหลี่ยมที่ขนส่งใหม่ครับ อันนี้ update ล่าสุดเลย เมื่อก่อนไม่ต้องจ่าย ก็ยังต่อภาษีได้จริงๆ แต่ตอนนี้ ต่อได้ แต่ไม่ได้ป้ายสี่เหลี่ยม...
ผิดมู้ป่ะคับพี่
-
ถ้ารายได้แสนนึงนี่ เหนียวคอแน่ๆครับ
ผ่อน3-4หมื่น ถ้าต้องผ่อนบ้าน หรือต่อประกันรถ เดือนไหนก็อ้วกแล้ว ไหนจะไอโฟนออกอีก ถ้าไม่ใช่เจ้าของกิจการ ควรจะเป็นหมอหรือนักบินครับ :'(
ผมก็เป็นพนักงานกินเงินเดือนปกติก็ซื้อได้นะครับ
มีอีกหลายอาชีพเลยที่เงินเดือนมากกว่าหมอกับนักบิน
หัวหน้าผมก็เป็นมนุษย์เงินเดือน แกมี porsche สองคัน
จากเงินเดือนนะครับ
-
ถ้าเป็นคนชอบรถ มีความสุขที่ได้ขับ ได้ฟิน ก็จัดได้ไวกว่าครับ
รายได้หลังหักภาระต่างๆ แล้ว เหลือซัก 1 แสนอัพ ก็ขับได้แล้วครับ
แต่สำหรับผมคือรวมเงินลงทุน ประกัน เงินออม เป็นภาระนะครับ
แต่สำหรับสายลงทุน หรือมีความชอบด้านอื่น ก็จะเอาเงินไปใช้ด้านนั้นครับ .. บางคนชอบลงทุนเก็บออม ให้เงินมันเพิ่มขึ้นเยอะ ๆ แต่ไม่ชอบใช้เงินก็มีเยอะนะครับ บางทีมีเป็น สิบล้าน ร้อยล้าน .. แต่ใช้จ่ายกระเบียดกระเสียน มันก็ดูจะไม่ค่อยเดินสายกลางเท่าไหร่ครับ
-
ตราบใดที่ ไม่เดือดร้อน กับครอบครัว ทำได้ครับ
ตัวเอง อาจเดือดร้อน แต่มันก็เป็นประสพการณ์ โจทย์ และ คำตอบของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน
ถ้าจะเอาแบบบางคน ชาตินี้ก็ไม่ได้ขี่ BM ครับ
-
กว่าจะซื้อ W204 คิดแล้วคิดอีก พอดีปี 54 น้ำท่วม
ฮอนด้า แอคคอร์ด ได้คืนทุนประกัน 750000 บาท
เลยเอาเงินตรงนั้นไปดาวน์ แล้วผ่อน 4 ปี
สำหรับผมก็เป็นภาระพอสมควรนะครับ
ถึงแม้ว่าจะทำงานกิจการส่วนตัวก็เถอะ
ซื้อนะไม่เท่าไหร่ แต่ที่กังวลก็คือพวกค่าใช้จ่ายที่ตามมามากกว่า
ปีนึงต้องเตรียมไว้ประมาณ 5 หมื่นบาท
สำหรับค่าซ่อมบำรุงเวลาเข้าศูนย์ ค่าประกันภัยต่างๆ
ผ่านมา 7 ปี รถยังไม่งอแง ก็ต้องถือว่าโชคดี
มีรถ 2 คัน อีกคัน มิว เอ๊กซ์ ...
-
ต่ำๆก็ 2 แสนขึ้นครับ
ส่วนตัวเก็บไว้ลงทุนก่อนครับ รถมาทีหลังครับ
-
ส่วนตัว 2 แสนขึ้นแบบไม่มีภาระอะไร บ้านมีแล้ว รถญี่ปุ่นมีแล้ว ไม่เป็นหนี้อะไร ถึงกล้าซื้อครับ
-
สำหรับผมซื้อแบบเงินผ่อน ถ้ารู้สึกว่าผ่อนไม่มากเกินไป ก็ซื้อมาใช้ครับ แต่ถ้าคันไหนที่เรารู้สึกว่าผ่อนมากเกิน หรือ มาคิดมากเรื่องราคาขายต่อ ก็จะไม่ซื้อครับ (เพราะไม่ไหวแน่)
-
คนแถวบ้านผม ไม่มีครอบครัว 75000 + - ก็เป็นเจ้าของได้แล้วครับ
เขาขับ cla
แต่เขาอยู่กับพ่อแม่ ไม่มีหนี้สินอะไรพิเศษ 8)