[ปรึกษา] อยากอัพเบรค Jazz GE ครับ

[mxyalw]

ตอนนี้รถเดิมๆครับ ปกติไม่ได้เป็นคนขับรถเร็ว แค่อยากให้เบรคดีขึ้นรู้สึกของเดิมเบรคไม่ค่อยอยู่

ตอนนี้ที่คิดไว้คือ

Step 1 : เปลี่ยนผ้าเบรคซิ่ง เช่น Nexzter, Mu-Spec, Brembo
• ( ตรงนี้คุยกับช่างแกเคยอยู่ศูนย์ Honda อู่แกจะมี Jazz เป็นลูกค้าหลักเลย )
เค้าก็แนะนำว่า ถ้าจะเปลี่ยนผ้าเบรค ให้ใส่เป็นจานขยายไปเลยดีกว่า
เพราะลูกค้าแกส่วนใหญ่ไปใส่ผ้าเบรคซิ่งแล้วก็กลับมาใส่ผ้าเบรคเดิมศูนย์กันหมด
พร้อมชี้ไปที่กองผ้าเบรคที่ถูกถอดทิ้งไว้ริมกำแพง - -")

Step 2 : ผ้าเบรค + จานซิ่งขนาดเดิม
• อันนี้ก๊มีหลายยี่ห้อเลยครับเท่าที่ดูทั้ง Runstop Brembo TRW
ข้อนี้ก็คิดอยู่ว่าจานขนาดเท่าเดิมมันจะดีกว่าเดิมได้ซักแค่ไหน ยี่ห้อที่ดูไว้เป็น Runstop ครับ

Step 3 : เปลี่ยนเป็นจานขยายใหญ่กว่าเดิม
• ที่เอาอันนี้ไว้ข้อสุดท้าย เพราะรู้สึกว่า จานใหญ่ขึ้นก็จะเพิ่มน้ำหนักขึ้นมาตรงจุดหมุนของล้อ
จะกลายเป็นเพิ่มภาระให้กับรถ ( รึเปล่า ) เพราะดู Review ใน youtube บอกว่า นน.​เพิ่มจากจานเดิมๆ พอสมควร

อยากจะขอคำปรึกษาว่าผมควรจะไปทางไหนดีครับตอนนี้สับสนเลือกไม่ถูกเลย 

[sith(สิทธิ์)]

ไม่ใช่คนขับรถเร็ว แค่อยากอัพให้รู้สึกดีขึ้น งั้นขอเทียบกับมิราจแฟนละกันนะครับ
เปลี่ยนมาใช้ TRW เซาะร่อง ความรู้สึกหลังเปลี่ยนดีขึ้นเยอะ แต่ผ้าเบรคของ trw ถ้าช่วงออกตัวช่วงแรกไม่เกิน2กิโล ถ้าใช้เบรคมันจะมีเสียงดังบางคนอาจจะไม่ชอบ แต่พอเบรคร้อนแล้ว เอาอยู่ ร้อนแค่ไหนก็เอาอยู่ ไกลแค่ไหนก็นิ่งครับ ข้อเสียอีกอย่างฝุ่นจากผ้าเบรค เยอะอยู่นะ
จานเดิมผมคด มิราจแฟนวิ่งทางไกลบ่อย เบรคตกหลุมบ้าง วิ่งไปร้อนๆเจอฝนตกบ้าง คงถึงเวลาของมันแล้วละ แต่ก็จับความรู้สึกช่วงนั้นได้ พอเปลี่ยนมาใช้ของTRW เจอความแตกต่างเยอะครับ รู้สึกดีขึ้น
ตอนนี้รอเค้าออกของปาปอตรุ่นใหม่. อยากลองเปลี่ยนมาใส่ปาปอตดูมั่ง อยากรู้ว่ามันจะดีขึ้นไหมเหมือนกัน

[Turin]

เชียร์ระบบเบรคเดิม แต่ใช้จานดีๆ ผ้าดีๆ ... โดย "ดี" ในที่นี้คือดีจริงๆเกรดสูงกว่ายีห้อที่ว่ามา

ถ้าราคาไม่แรงมาก (แต่แรงกว่ายี่ห้อว่ามานะครับ) มองเป็น จาน EBC USR + ผ้า EBC Greenstuff หรือ Yellowstuff ... ถ้า green ก็จับเร็ว นุ่มเท้า ทนร้อนได้ดีกว่าเดิมแต่โหดๆก็ไม่ไหว ฝุ่นเยอะมาก / yellow จับช้ากว่าหน่อย (แต่ที่เคยใช้เหมาะกับนิสัยเบรคของ Honda ที่กระฉับกระเฉงเกินเหตุดี) ทนร้อนดีกว่า ฝุ่นน้อยกว่าหน่อย

ขับงบขึ้นมา มีจาน Dixcel SD + ผ้า Dixcel Type M "ว่ากันว่า" ใช้ดีกว่า Yellowstuff แต่ผมเพิ่งเปลี่ยนมาไม่นาน ยังบอกอะไรมากไม่ได้ แต่เทียบกับ mu spec ที่เคยใส่ในรถคันเดียวกัน "คนละเรื่อง" ครับ (เอาเข้าจริง ผมเปลี่ยนผ้า mu spec แป๊บเดียวก็ถอดออกเหมือนกันครับ)

ผ้าและจานที่ว่ามา ราคารุนแรงพอควรนะครับ อย่างจาน Dixcel SD ของรถที่ผมใช้ คู่หน้าราคา 9000 ผ้า type M อีก 6500 เทียบกับของ OEM replacement จาน 2 พันกว่า ผ้าพันกว่า ... ซึ่งพอราคาขนาดนี้ เข้าใจว่าคนแต่งรถจะคิดประมาณว่าใช้จานขยายไปเลย "หล่อ" กว่า ผ้าก็ไม่แพง .... ก็นานาจิตตังครับ

ปล. ขยับเฉพาะผ้าก่อนก็ได้ครับ จานไม่เห็นผลเท่าไหร่ หรือถ้าจะประหยัดงบ ลองมองมาทาง Brembo ตัว high carbon หรือ TRW เซาะร่อง ก็ได้ครับ
ปล2. จานเซาะร่อง ใช้งานดี แต่กินผ้านะครับ

[vitavas]

ใช้  crv g3 เปลี่ยนผ้าจากธรรมดา ไปเป็น dixcel m type
ผลที่ได้รับคือ
๑ ระยะเบรคสั้นลงเป็นที่น่าพอใจ และไม่ต้องคอยให้ร้อนอีกด้วย
๒ ฝุ่นเบรค ไม่ค่อยมี คล้ายของเดิม
๓ เสียง มีจี๊ดบ้าง นานๆครั้ง

[UpToGu]

ผมเคยตั้งกระทู้เรื่องการอัพเกรดเบรคอยู่ ถ้าขับไม่เร็ว จำกัดความเร็ว ไม่เกิน140 ข้อ1 เหลือๆแล้วครับ
จานเดิมเปลี่ยนแค่ผ้าเบรค ไว้ให้จานคด กินจาน หรือเจียแล้วจานบาง ค่อยเปลี้ยนจานขนาเท่าเดิมที่เซาะร่องก็ได้ครับ อย่าลืมเปลี่ยนน้ำมันเบรคดีๆเสริมด้วยนะครับ

รถที่บ้านทั้งหมด ผมทำแค่เสต็ปแรก เพียงพอครับ

- vios 2005 จานเดิมจับคู่ compact infinity nano หน้าหลัง ไม่เกิน140 ยังไงก็เอาอยู่ครับ

 Bendix เคยใช้กับvios เบรคอยู่แต่หัวทิ่มครับ  นั่งทีปวดหัวครับ

- camry 2005 จานเดิมจับคู่ compact primo(ตัวท็อปสุด) จากเบรคเดิมที่เคยไหลๆ กลายเป็นเบรคนุ่มแต่เอาอยู่เลยครับ เพียงพอต่อความต้องการ

 Akebono เคยใส่กับcamry อยากจะเควี้ยงทิ้ง ไหลเอาไม่อยู่ ข้อดีถูกและหมดช้า

-mazda2 2011 จานเดิมจับคู่ compact infinity nano หน้าหลัง ผมชอบฟิลลิ่งแป้นเบรค ของมาสด้า สั้นและควบคุมน้ำหนักดี ไม่เกิน 150 ยังไงก็เอาอยู่ครับ

-civic 2014 จานเบรคตัวs กับคู่ compact primo(ตัวท็อปสุด) ในเมือง เบรคอยู่หัวไม่ทิ่ม ในความเร็วสูงก็เบรคอยู่แบบมั่นใจ(ขับเร็วแต่ไม่จี้นะครับ)

ผ้าเบรคติดรถ ทนใช้ได้สักพัก ถอดทิ้งครับ ในความเร็วต่ำหัวทิ่มบางทีก็ไหล ในความเร็วสูง ไหลเลยครับ

Mu spec อัพเกรดจากผ้าติดรถ ในความเร็วต่ำดีขึ้น ในความเร็วสูง ดีขึ้นกว่าเดิม ราคา 3000กว่า แต่ยังไม่เท่าตัว primo


ไว้พิจารณา เป็นทางเลือกก็ได้ครับ ผมลองอัพเกรดที่ผ้าก่อน สุดท้ายจบในความต้องการตัวเอง ในราคาย่อมเยาว์
ตัวกลางinfinity nano ราคาไม่เกิน2000 หน้าหลัง
ตัวสูง primo ราคาไม่เกิน 3500 หน้าหลัง (ได้มาในราคาทุนครับ)


 เพื่อนๆพี่ๆในเว็บเคยแนะนำผ้าเบรค ebd กับdixcel ที่มียี่ห้อ อันนี้เบรคชั้นนำ มีรีวิวเยอะ ผมว่าดีจริงแต่ราคาก็สูงขึ้นครับ

ส่วนเสต็ป 2,3 รอพี่ๆท่านอื่นครับ

[ภูมิใจไหม?]

อยากให้เชื่อผม แล้วจะจบปิ๊งงง

จาน Dixcel SD ขนาดเดิม แบบเซาะร่อง สวย ราคาไม่แพง ถูกกว่า EBC

ผ้า Dixcel ES ไม่จำเป็นต้องเป็นเกรดสูงกว่านี้ ราคาแพงจนอึ้ง แต่สมราคา แพงกว่า EBC

ยาง michelin pilot sport 3 ถ้าเป็นล้อ 15

ถ้าไม่เคยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรค ก็ถือโอกาสนี้จัดการไปด้วยเลยครับ

อย่าใส่จานขยาย อย่าใส่ผ้าเบรคเรซซิ่ง อย่าใส่ล้อใหญ่ ๆ ครับ

[каваи]

ลองขยับแค่ผ้าเบรคเป็น Dixcel Premium (ราคาไม่แรงแบบ ES หรือ EC) + น้ำมันเบรคดีๆ ดูก่อนครับ ถ้าคุณเป็นคนขับรถแบบใช้ในชีวิตประจำวันธรรมดาๆ เพราะลองจาก Honda City โฉมปัจจุบัน เอาผ้าเบรคศูนย์ออก เปลี่ยนเป็นผ้าเบรคยี่ห้อตามที่ว่าข้างต้น หรือ ยี่ห้อผ้าเบรคยี่ห้ออื่นที่ดีๆฟิลลิ่งก็ดีกว่าผ้าเบรคเดิมติดรถแล้วครับ

[tom46]

ลองหาผ้าเบรคแบบทนความร้อนสัก 500 องศา มาใช้กับจานเดิมโรงงานดูก่อนก็ได้ครับ เกรด 500 องศา ส่วนมากตามผ้าเบรคแต่งเขาจะเป็นเกรดถนน จะฝุ่นน้อย เสียงไม่ดัง ส่วนยี่ห้อก็แล้วแต่งบประมาณเลยครับว่ารุ่นที่ใช้อยู่มี ยี่ห้อไหน รุ่นไหนให้เลือกบ้างละครับ

[YenChar]

สูตรสำเร็จของผมคือ ผ้าเบรค Prospec + จาน dba
หรือจะใช้ผ้า MuSpec ก็ได้

รถเบาๆ อัพเกรดนิดๆหน่อยๆก็ดีขึ้นเยอะแล้วครับ

แต่ถ้าให้แนะนำ ลองเปลี่ยนแค่ผ้าเบรคก่อน ถ้าพอใจก็จบ
ไม่ว่าจะ Muspec หรือ EBC ตัวเขียว
พร้อมทั้งยางสปอร์ตอย่าง RE หรือ PS ทั้งหลาย รถจะขับดีขึ้นอีกเยอะ

[mxyalw]

ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านมากเลยครับ   

[Tien.W]

ถ้าช่าง แนะนำผม แบบ แนะนำคุณนี่ ผมหาอู่อื่นก่อนเลยครับ

ผ้าเบรคศูนย์ Jazz GE สำหรับผม เข้าขั้นเลวร้าย สำหรับคนขับเร็วนะครับ มาเร็วหน่อย มันไหลอย่างเดียว ไปใส่จานใหญ่ จานขยาย แต่ผ้ายังเหมือนเดิม ก็อาจจะดี ในแง่ของฟิลลิ่งการกดครั้งแรก ที่ออกแรงน้อยลง แต่มันก็ไหลอยู่ดี เพราะความฝืดของผ้าเบรคมันต่ำน่ะครับ

..............

Pulsar ผม ใส่ Dixcel Type M
Mazda 2 ใส่ Dixcel Type ES
CRV ใส่ Dixcel Type X + จาน Type SD

แน่นอน CRV ดีสุด สะกิดเป็นจับ ดูดแรง ดูดลงทั้งคัน มา 160 กดลงไป ยังไงก็เอาอยู่ แถมใช้เท้าคอนโทรลน้ำหนักเบรคได้ดีเยี่ยม ... ตามราคามันแหละ เพราะทั้งชุดก็เกือบ 4 หมื่น !!!

รองลงมา คัน Pulsar เปลี่ยนมาใหม่ๆ เจอร้านดัง ไล่น้ำมันเบรคแถมฟองอากาศที่ล้อหน้าขวา เบรคแล้วจม เอะใจ ให้ลูกน้องไล่ใหม่หมด เบรคดีขึ้น แต่ยังตะหงิดๆ แบบ มันไม่ใช่ Dixcel มันต้องได้ดีกว่านี้สิ !!

ใช้จนจะหมื่นกม. รอบนี้ขึ้นอุดร .. แหมมม Dixcel กลับมาละ มาเร็วๆ กดแล้วอยู่ ไม่มีไหล ไม่มีต้องกดลึกๆให้ใจหาย ใช้น้ำหนักเท้าในการคอนโทรลเบรคได้ละ อาจจะไม่เท่า X แต่ก็ถือว่า เยี่ยมแหละ ที่สำคัญ ฝุ่นน้อยมาก

ส่วน Mazda 2 กับ ES คันนี้หลังดรัม เลยเปลี่ยนได้แค่หน้า ก็โอเคนะ ลดหลั่น ตามค่าตัวของมัน จำได้ว่า ฝุ่นพอตัว เบรคจะแข็งๆกว่า M สักหน่อย ไม่นุ่ม ไม่เนียนเท้าเท่า น่ะครับ

งบถึง จัด M เลย เชียร์ M ครับ ลองก่อน รันอินยาวๆ เชื่อว่า น่าจะพอใจ .. ทีแรก ผมไม่พอใจไง เลยสั่งจาน SD มาละ สั่งจานปุ๊บ อ้าวว เบรคดีเลย 2.2 หมื่นโผ้มมมม (แต่ก็นั่นแหละ ได้จานมา ก็ดีขึ้นอีกสเต็ปแหละ)

..............

เติมให้อีกนิด

อันนี้ ฝั่ง Nsport มั่ง .. มี CRV G4 2 คัน ใส่ 2 ชุด

คันแรก Project mu Type NS น้ำมันเบรค TYP200 (เหมือน CRV ผม) ค่าผ้าเบรค 8,500 บาท ... เจ้าของเค้าชมนะว่า เบรคดี เอาอยู่ เหลือๆ เรียกว่า ถูกใจมาก .. แต่เค้าก็ไม่เคยขับ CRV ผมนะ .. ส่วนผม มาขับรถเค้า

แน่นอน หน้าไม่ทิ่ม
ฟิลลิ่งแนวแน่นๆ แข็งๆ มันไม่นุ่ม แล้วจับตามการกดของเท้า เหมือนใน pulsar / crv ผม แต่มันมาแข็งๆแน่นๆ กดเท่าไหร่ จับเท่านั้น ไม่รู้สิ ผมไม่ชอบ ผมว่า มันคุมน้ำหนักยากนะ

ฝุ่นดำ หมดไวพอดู นี่ราวๆ 4 หมื่นกม. ข้างหลังเหลือ 3 มม.ละ


คันสอง Nsport mu spec

นิสัยเหมือนคันแรก แต่ทื่อกว่า ต้องออกแรงเยอะกว่า ถ้ามีน้ำหนักเบาะหลังเยอะๆ ก็ต้องเผื่อระยะหน่อย เอาว่า ดีกว่าของติดรถพอตัว แต่ยังไม่เหมาะกับขาซิ่ง .. ผ่าน 6 หมื่นกม.แล้ว ผ้าหลังยังแทบไม่สึก แต่เจ้าของรถบ่นว่า เบรคไหลแล้ว น่าจะด้าน (หรือ ผมเอาไปลง อินทนนท์ แล้วเผาควันออกล้อหลัง ไปรอบก็ไม่รู้สิ)

[#อินเดียหน้าโจร]

ขอส่ง Nexzter Mu-spec เข้าประกวดครับ + อัพน้ำมันเบรคดอทสูงขึ้น 1 สเตป แค่นี้ก็เบรคดีขึ้น 20-30% แล้ว ไม่รับรองผลว่าจะจบ เพราะคำว่าอีกหน่อย และคำว่าไม่ขับเร็ว มันเป็น subjective ของแต่ละคน และมันเป็น dynamic ตามกาลเวลาครับ (ใช้ 3 วันแรกรู้สึกดีกว่าที่คิด พอใช้สัก 3 เดือน เริ่มไม่พอซะแล้ว)

[Cola P.]

ลองดูผ้า Centric Posi Quiet เป็นทางเลือกอีกตัวนะครับ ตัวที่เป็น semi metallic ดูดเท้าดีเลย ฝุ่นน้อยด้วย ยี่ห้อนี้ไม่ค่อยมีใครพูดถึงซักเท่าไหร่

[RhythmCaster]

คันสอง Nsport mu spec

นิสัยเหมือนคันแรก แต่ทื่อกว่า ต้องออกแรงเยอะกว่า ถ้ามีน้ำหนักเบาะหลังเยอะๆ ก็ต้องเผื่อระยะหน่อย เอาว่า ดีกว่าของติดรถพอตัว แต่ยังไม่เหมาะกับขาซิ่ง .. ผ่าน 6 หมื่นกม.แล้ว ผ้าหลังยังแทบไม่สึก แต่เจ้าของรถบ่นว่า เบรคไหลแล้ว น่าจะด้าน (หรือ ผมเอาไปลง อินทนนท์ แล้วเผาควันออกล้อหลัง ไปรอบก็ไม่รู้สิ)

ตอนนี้ใส่ Mu Spec (สีแดงอมชมพู แต่กลองเขียวอ่ะ = . =') กับ City 2012 อาการเหมือนกันเลยครับ
ให้ความรู้สึกดีกว่าโรงงานชัดเจน แต่ก็ยังแอบลื่น ๆ อยู่บ้าง ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่คนขับเร็ว แต่ขับแล้วยังไงก็เครียดน้อยกว่าตัวเดิม
คราวหน้าคงต้องลองผ้าเบรก Dixcel บ้างแล้วครับ เดาว่า type M คือรุ่นล่างสุด (ยังงง ๆ กับการไล่รุ่นอยุ่)
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

[Tien.W]

คันสอง Nsport mu spec

นิสัยเหมือนคันแรก แต่ทื่อกว่า ต้องออกแรงเยอะกว่า ถ้ามีน้ำหนักเบาะหลังเยอะๆ ก็ต้องเผื่อระยะหน่อย เอาว่า ดีกว่าของติดรถพอตัว แต่ยังไม่เหมาะกับขาซิ่ง .. ผ่าน 6 หมื่นกม.แล้ว ผ้าหลังยังแทบไม่สึก แต่เจ้าของรถบ่นว่า เบรคไหลแล้ว น่าจะด้าน (หรือ ผมเอาไปลง อินทนนท์ แล้วเผาควันออกล้อหลัง ไปรอบก็ไม่รู้สิ)

ตอนนี้ใส่ Mu Spec (สีแดงอมชมพู แต่กลองเขียวอ่ะ = . =') กับ City 2012 อาการเหมือนกันเลยครับ
ให้ความรู้สึกดีกว่าโรงงานชัดเจน แต่ก็ยังแอบลื่น ๆ อยู่บ้าง ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่คนขับเร็ว แต่ขับแล้วยังไงก็เครียดน้อยกว่าตัวเดิม
คราวหน้าคงต้องลองผ้าเบรก Dixcel บ้างแล้วครับ เดาว่า type M คือรุ่นล่างสุด (ยังงง ๆ กับการไล่รุ่นอยุ่)
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

Dixcel ไล่จาก premium -> Type EC -> Type ES -> Type M -> Type X (มีแต่สำหรับรถ SUV) สุดที่ Z ครับ

premium คู่นึง 2 พันกว่าบาท น่าจะประมาณ Bestop ของ project mu ครับ (สี่ล้อ 5 พัน)

ES ประมาณคู่ละ 5 พันกว่า

M ประมาณคู่ละ 6 พันกว่า (สี่ล้อ 1.3 หมื่น)

X ประมาณคู่ละ แถวๆหมื่น (สี่ล้อ 1.6 หมื่น)

EC ไม่รู้อ่ะ ไม่เคยลอง

............

เดี๋ยวหาว่า เชียร์แต่ Dixcel

มี EBC อีกตัว ใช้ได้เหมือนกัน จะต่างตรง ฟิลลิ่ง จะแนวรถยุโรป ตามเชื้อชาติเค้า ... มาแนวนุ่มๆ แน่นๆ จับไม่แรง แต่จับต่อเนื่อง (อารมณ์เบรครถยุโรป กับ เบรครถญี่ปุ่น .. แล้วแต่ชอบ)

Yellow Stuff ... 4 ล้อ หมื่นต้นๆ เด่นตรงทนร้อน 900 องศา แต่ ตอนเช้าต้องวอร์มเบรคก่อน ไม่งั้นไหลยาว นิสัยเค้า ยิ่งร้อนยิ่งจับ แรกๆดูดไม่หนัก แต่พอกระทันหัน กระทืบลงไป มันหยุดแบบเหลือเชื่อ (แต่เสียว)

Green Stuff ... 4 ล้อ แถวๆ 8 พัน ทนร้อน 600 องศา ทำงานตั้งแต่ออกรถ จับไม่หนัก ดูดไม่แรงเท่า Yellow

[spkornp]

ลองเปลี่ยนผ้าเบรคเกรดสูงดูก่อนครับ ผมใส่ nexzter pro spec ทนความร้อน 600องศา 

แก้ปัญหาเบรคเดิมไหลได้เกือบหมด และคุมน้ำหนักเท้าได้ดีขึ้นเยอะครับ ถ้ายังไม่พอใจ

อนาคตค่อยเปลี่ยนจานแต่งของ nexzter ราคาย่อมเยาว์ หรือ มีงบก็ dixcel type sd ครับ

ส่วนน้ำมันเบรคควรเปลี่ยนไปด้วยเลยครับ แนะนำ dot4/5.1 ของดีๆ (dixcel,motul,ate)

[RhythmCaster]

Dixcel ไล่จาก premium -> Type EC -> Type ES -> Type M -> Type X (มีแต่สำหรับรถ SUV) สุดที่ Z ครับ

premium คู่นึง 2 พันกว่าบาท น่าจะประมาณ Bestop ของ project mu ครับ (สี่ล้อ 5 พัน)

ES ประมาณคู่ละ 5 พันกว่า

M ประมาณคู่ละ 6 พันกว่า (สี่ล้อ 1.3 หมื่น)

X ประมาณคู่ละ แถวๆหมื่น (สี่ล้อ 1.6 หมื่น)

EC ไม่รู้อ่ะ ไม่เคยลอง

............

เดี๋ยวหาว่า เชียร์แต่ Dixcel

มี EBC อีกตัว ใช้ได้เหมือนกัน จะต่างตรง ฟิลลิ่ง จะแนวรถยุโรป ตามเชื้อชาติเค้า ... มาแนวนุ่มๆ แน่นๆ จับไม่แรง แต่จับต่อเนื่อง (อารมณ์เบรครถยุโรป กับ เบรครถญี่ปุ่น .. แล้วแต่ชอบ)

Yellow Stuff ... 4 ล้อ หมื่นต้นๆ เด่นตรงทนร้อน 900 องศา แต่ ตอนเช้าต้องวอร์มเบรคก่อน ไม่งั้นไหลยาว นิสัยเค้า ยิ่งร้อนยิ่งจับ แรกๆดูดไม่หนัก แต่พอกระทันหัน กระทืบลงไป มันหยุดแบบเหลือเชื่อ (แต่เสียว)

Green Stuff ... 4 ล้อ แถวๆ 8 พัน ทนร้อน 600 องศา ทำงานตั้งแต่ออกรถ จับไม่หนัก ดูดไม่แรงเท่า Yellow

ขอบคุณครับ ละเอียดมากเลย แถมมีตัวเลือกมาให้ด้วย
ตอนแรกเข้าใจว่า Premium คือรุ่นสูงกว่า ES กับ M ซะอีก ในเว็บเอาไว้บนสุดอีกต่างหาก

ฟีลลิ่งรถยุโรปพอจินตนาการได้ครับ ถึงจะไม่เคยขับ (ฮา)
แต่เดาว่าตัวผมเองน่าจะเหมาะกับฟีลลิ่งญี่ปุ่นเบรกด้วยปลายเท้า กดแป้นเบา ๆ

เปลี่ยนครั้งหน้าคงป้วนเปี้ยนแถว ๆ ES ไม่ก็ Green Stuff (งบไหว)
เพียงพอสำหรับการใช้งานผมเลย - ตื่นเช้าสตาร์ทรถขับออกจากบ้าน แล้วเริ่มเบรกได้เลย ไม่ต้องวอร์ม

[Turin]

Dixcel ไล่จาก premium -> Type EC -> Type ES -> Type M -> Type X (มีแต่สำหรับรถ SUV) สุดที่ Z ครับ

premium คู่นึง 2 พันกว่าบาท น่าจะประมาณ Bestop ของ project mu ครับ (สี่ล้อ 5 พัน)

ES ประมาณคู่ละ 5 พันกว่า

M ประมาณคู่ละ 6 พันกว่า (สี่ล้อ 1.3 หมื่น)

X ประมาณคู่ละ แถวๆหมื่น (สี่ล้อ 1.6 หมื่น)

EC ไม่รู้อ่ะ ไม่เคยลอง

............

เดี๋ยวหาว่า เชียร์แต่ Dixcel

มี EBC อีกตัว ใช้ได้เหมือนกัน จะต่างตรง ฟิลลิ่ง จะแนวรถยุโรป ตามเชื้อชาติเค้า ... มาแนวนุ่มๆ แน่นๆ จับไม่แรง แต่จับต่อเนื่อง (อารมณ์เบรครถยุโรป กับ เบรครถญี่ปุ่น .. แล้วแต่ชอบ)

Yellow Stuff ... 4 ล้อ หมื่นต้นๆ เด่นตรงทนร้อน 900 องศา แต่ ตอนเช้าต้องวอร์มเบรคก่อน ไม่งั้นไหลยาว นิสัยเค้า ยิ่งร้อนยิ่งจับ แรกๆดูดไม่หนัก แต่พอกระทันหัน กระทืบลงไป มันหยุดแบบเหลือเชื่อ (แต่เสียว)

Green Stuff ... 4 ล้อ แถวๆ 8 พัน ทนร้อน 600 องศา ทำงานตั้งแต่ออกรถ จับไม่หนัก ดูดไม่แรงเท่า Yellow

ขอบคุณครับ ละเอียดมากเลย แถมมีตัวเลือกมาให้ด้วย
ตอนแรกเข้าใจว่า Premium คือรุ่นสูงกว่า ES กับ M ซะอีก ในเว็บเอาไว้บนสุดอีกต่างหาก

ฟีลลิ่งรถยุโรปพอจินตนาการได้ครับ ถึงจะไม่เคยขับ (ฮา)
แต่เดาว่าตัวผมเองน่าจะเหมาะกับฟีลลิ่งญี่ปุ่นเบรกด้วยปลายเท้า กดแป้นเบา ๆ

เปลี่ยนครั้งหน้าคงป้วนเปี้ยนแถว ๆ ES ไม่ก็ Green Stuff (งบไหว)
เพียงพอสำหรับการใช้งานผมเลย - ตื่นเช้าสตาร์ทรถขับออกจากบ้าน แล้วเริ่มเบรกได้เลย ไม่ต้องวอร์ม

Green นุ่ม ดูดีเท้า จับเร็ว ใช้ดีมาก ยิ่งถ้าไม่ได้ขับโหดด้วยจะใช้ดีมาก .... แต่ๆๆๆๆ ฝุ่นชั่วร้ายมากนะครับต้องเตือนกันไว้ก่อนเลย  ล้อล้างยากๆนี้ ต้องตฃคิดให้หนักเลยครับ

Yellow เรื่องฝุ่นดีกว่าหน่อย แต่ก็จัดว่าเยอะอยู่ดี .. ทนร้อนดีหายห่วงรองรับงานโหดๆได้สบาย กดแล้วดูดเท้าดีเช่นกัน ... แต่เหมือนจะกินจานประมาณนึง และตัวมันเองก็อายุการใช้งานก็ไม่ได้ยาวมาก ประมาณ 5 หมื่นก็หมดเกลี้ยงแล้ว (green ไม่ทันได้รู้ ขายรถก่อน)

ส่วนเรื่องเย็นแล้วไม่ค่อยดี ผมว่าแล้วแต่รถด้วย ตอนใช้กับ accord ที่มีปัญหาเบรคแล้วหัวทิ่ม กลายเป็นพอดี .. แต่พอใช้กับ outback ที่เบรคเดิมทื่อๆหน่อย ก็จะมี้หวอๆนิดๆตอนเย็นๆ แต่เบรคสัก 2 ทีก็เข้าที่ขึ้นเยอะแล้วครับ

Type M เพิ่งลองใช้ .. นับถึงตอนนี้ เอาจริงๆยังชอบ yellow มากกว่าหน่อย ผมว่ามัน linear ไปหน่อย ในขณะที่ yellow มันจะดูดเท้าไปเลย เหมือนกับว่าพอมันเริ่มจับแล้ว แรงเบรคมันค่อยๆเยอะขึ้น ..... แต่เห็นคุณ tien.w ว่า bed-in มันนาน อาจต้องให้เวลาเค้าอีกหน่อย

[Tien.W]

Yellow ใส่ใน Civic FD ไหลยาว ตอนเย็นๆ

Yellow ใส่ใน CRV G3 (เค้าว่า เป็นเกรด SUV ซึ่งทนร้อนไม่ถึง 900 องศา แต่ ตอบสนองทันที ที่ออกรถ) หมดที่ 5 หมื่นกม. (ผมเปลี่ยนไม่เกิน 1 อาทิตย์หลังออกรถ) หมดพร้อมจานเดิมๆจากโรงงาน บางจนหมดไซส์ (ไม่เคยเจียร์นะ)

X นี่ ใช้ต่อจาก Yellow ผ่าน 6 หมื่นกม.แล้ว ล้อหน้าเหลือเกือบ 50% จานจับเจียร์ไปรอบนึงละ (เบรคติด จน จานคด) คิดว่า ผ่าน 7 หมื่นกม.ได้

..............

M กับ Yellow ถ้าไม่นับอาการตื่นสาย ... Yellow พลังดูดแรงกว่า อีกอย่าง Yellow มันน่าจะเจอกับ X หรือ Z แหละ (แต่นะ Z ราคาโดดไปไกลมาก)

[mxyalw]

ถ้าช่าง แนะนำผม แบบ แนะนำคุณนี่ ผมหาอู่อื่นก่อนเลยครับ

ผ้าเบรคศูนย์ Jazz GE สำหรับผม เข้าขั้นเลวร้าย สำหรับคนขับเร็วนะครับ มาเร็วหน่อย มันไหลอย่างเดียว ไปใส่จานใหญ่ จานขยาย แต่ผ้ายังเหมือนเดิม ก็อาจจะดี ในแง่ของฟิลลิ่งการกดครั้งแรก ที่ออกแรงน้อยลง แต่มันก็ไหลอยู่ดี เพราะความฝืดของผ้าเบรคมันต่ำน่ะครับ

..............

Pulsar ผม ใส่ Dixcel Type M
Mazda 2 ใส่ Dixcel Type ES
CRV ใส่ Dixcel Type X + จาน Type SD

แน่นอน CRV ดีสุด สะกิดเป็นจับ ดูดแรง ดูดลงทั้งคัน มา 160 กดลงไป ยังไงก็เอาอยู่ แถมใช้เท้าคอนโทรลน้ำหนักเบรคได้ดีเยี่ยม ... ตามราคามันแหละ เพราะทั้งชุดก็เกือบ 4 หมื่น !!!

รองลงมา คัน Pulsar เปลี่ยนมาใหม่ๆ เจอร้านดัง ไล่น้ำมันเบรคแถมฟองอากาศที่ล้อหน้าขวา เบรคแล้วจม เอะใจ ให้ลูกน้องไล่ใหม่หมด เบรคดีขึ้น แต่ยังตะหงิดๆ แบบ มันไม่ใช่ Dixcel มันต้องได้ดีกว่านี้สิ !!

ใช้จนจะหมื่นกม. รอบนี้ขึ้นอุดร .. แหมมม Dixcel กลับมาละ มาเร็วๆ กดแล้วอยู่ ไม่มีไหล ไม่มีต้องกดลึกๆให้ใจหาย ใช้น้ำหนักเท้าในการคอนโทรลเบรคได้ละ อาจจะไม่เท่า X แต่ก็ถือว่า เยี่ยมแหละ ที่สำคัญ ฝุ่นน้อยมาก

ส่วน Mazda 2 กับ ES คันนี้หลังดรัม เลยเปลี่ยนได้แค่หน้า ก็โอเคนะ ลดหลั่น ตามค่าตัวของมัน จำได้ว่า ฝุ่นพอตัว เบรคจะแข็งๆกว่า M สักหน่อย ไม่นุ่ม ไม่เนียนเท้าเท่า น่ะครับ

งบถึง จัด M เลย เชียร์ M ครับ ลองก่อน รันอินยาวๆ เชื่อว่า น่าจะพอใจ .. ทีแรก ผมไม่พอใจไง เลยสั่งจาน SD มาละ สั่งจานปุ๊บ อ้าวว เบรคดีเลย 2.2 หมื่นโผ้มมมม (แต่ก็นั่นแหละ ได้จานมา ก็ดีขึ้นอีกสเต็ปแหละ)

..............

เติมให้อีกนิด

อันนี้ ฝั่ง Nsport มั่ง .. มี CRV G4 2 คัน ใส่ 2 ชุด

คันแรก Project mu Type NS น้ำมันเบรค TYP200 (เหมือน CRV ผม) ค่าผ้าเบรค 8,500 บาท ... เจ้าของเค้าชมนะว่า เบรคดี เอาอยู่ เหลือๆ เรียกว่า ถูกใจมาก .. แต่เค้าก็ไม่เคยขับ CRV ผมนะ .. ส่วนผม มาขับรถเค้า

แน่นอน หน้าไม่ทิ่ม
ฟิลลิ่งแนวแน่นๆ แข็งๆ มันไม่นุ่ม แล้วจับตามการกดของเท้า เหมือนใน pulsar / crv ผม แต่มันมาแข็งๆแน่นๆ กดเท่าไหร่ จับเท่านั้น ไม่รู้สิ ผมไม่ชอบ ผมว่า มันคุมน้ำหนักยากนะ

ฝุ่นดำ หมดไวพอดู นี่ราวๆ 4 หมื่นกม. ข้างหลังเหลือ 3 มม.ละ


คันสอง Nsport mu spec

นิสัยเหมือนคันแรก แต่ทื่อกว่า ต้องออกแรงเยอะกว่า ถ้ามีน้ำหนักเบาะหลังเยอะๆ ก็ต้องเผื่อระยะหน่อย เอาว่า ดีกว่าของติดรถพอตัว แต่ยังไม่เหมาะกับขาซิ่ง .. ผ่าน 6 หมื่นกม.แล้ว ผ้าหลังยังแทบไม่สึก แต่เจ้าของรถบ่นว่า เบรคไหลแล้ว น่าจะด้าน (หรือ ผมเอาไปลง อินทนนท์ แล้วเผาควันออกล้อหลัง ไปรอบก็ไม่รู้สิ)

สงสัยเพราะผ้าเบรคที่ผมถามจะเป็นเกรดซิ่งแบบร้านทั่วๆไปด้วยมั้งครับ เค้าเลยบอกให้ใส่ของเดิมดีกว่า พวก N-Sport ตัวล่างอะไรพวกนี้

ที่คิดไว้ตอนนี้คงลองไปซื้อผ้า Dixcel Premium ใส่ก่อนครับ ราคาไม่แรงมาก พอสู้ไหวครับ คือไม่ได้จะเอาดีกว่าเดิมขนาดนั้น แต่ของเดิมก็เลวร้ายเกินไปจริงๆ