Headlight Magazine : community
General => Relax & Photoshop Room => ข้อความที่เริ่มโดย: vellcap ที่ พฤษภาคม 14, 2011, 21:47:19
-
โรงเรียนที่ 1
นักเรียนตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยม มีทั้งหมด 500 คน และนักเรียนส่วนใหญ่จะสนิทกัน พ่อแม่จะรู้จักกันและสนิทกัน บางทีรู้ไปถึงวงตระกูลเลยก็มี
พื้นฐานครอบครัวและการเลี้ยงดูของนักเรียนค่อนข้างดี ครูดูแลเด็กได้อย่างใกล้ชิด กฎระเบียบเยอะ มีกล้องส่องดูเกือบทั้งโรงเรียน
โรงเรียนที่ 2
นักเรียนทั้งหมดประมาณ 4000 คน เฉพาะมัธยม มีนักเรียนดีและไม่ดีประปนกันไป พื้นฐานครอบครัวและฐานะของนักเรียนแต่ละคนต่างกันอย่างมาก
ครูดูแลเด็กไม่ค่อยทั่วถึง กฎไม่เยอะเท่าโรงเรียนที่ 1 แต่แหกกฎได้ง่ายกว่า
ถ้าคุณเรียนมัธยมอยู่ คุณจะเลือกเรียนที่ไหนดีครับ
-
โรงเรียนที่สองมั้ง ดูสบายๆ ดี แล้วผมก็เรียนมาแบบโรงเรียนที่สอง
-
โรงเรียนที่2ครับเพราะโรงเรียนผมก็แบบที่2แปะเลย
-
ผมโดนตรงข้อ 1 เลยครับ
-
ผมว่าอยู่โรงเรียนที่ 2 ดีกว่า
เพราะมันคล้ายๆโรงเรียนผมเลย....
อยู่โรงเรียนแรกพานจะบ้ากันก่อน อิอิ ;D(บ้าตรงที่กฏเยอะนี่แหละ)
-
ผมเรียนมาแบบ รร.ที่ 2 ครับ
ถ้าให้เลือกก็ชอบแบบที่ 2 ครับ
คหสต. ผมมองว่ากฏระเีบียบบางอย่าง สร้างขึ้นมาโดยไม่รู้ ว่าจะทำไปทำไม ไม่เห็นมีใครได้ประโยชน์
และผมมองว่า กฏระเบียบมันจะไปสร้างความเก็บกดให้เด็กครับ ปล่อยให้เด็กได้ลองผิดลองถูกมั่งก็ดีครับ
ย้ำว่า ความเห็นส่วนตัวนะครับ :)
-
ผมอยู่โรงเรียนที่ 1 อ่ะครับ
แต่ก็ชินแล้วล่ะครับ กระดิกไม่ค่อยได้ กระดิกปุ้บรายงานที่บ้านไม่เกิน 1 สัปดาห์
แต่ถ้าเลือกได้ขอคนเยอะกว่านี้หน่อย ห้องผมมี 20 คนเอง เบื่อหน้ากันแล้ว
-
ผมอยู่โรงเรียนที่ 1 อ่ะครับ
แต่ก็ชินแล้วล่ะครับ กระดิกไม่ค่อยได้ กระดิกปุ้บรายงานที่บ้านไม่เกิน 1 สัปดาห์
แต่ถ้าเลือกได้ขอคนเยอะกว่านี้หน่อย ห้องผมมี 20 คนเอง เบื่อหน้ากันแล้ว
ห้องคุณ 20 คน ก็น่าจะเงียบดีนะ แต่ห้องผม 40 คน...พักกลางวันทีไร ไม่ได้อยู่ดีมีสุขแน่ๆ...
ดีกว่าตอนอยู่ประถม อันนั้นเยอะเกิ๊นนน.... 65 คน!!!
-
ตกใจแฮะที่มีคนเลือกโรงเรียนที่ 2 ด้วย !! :o :P
หัดมีกฎระเบียบตั้งแต่เด็ก จะช่วยฝึกวินัยที่ดี ให้เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพนะครับ
ผมว่าเน้นให้โรงเรียนมีกฎระเบียบเคร่งครัด 80% และมีอิสระบ้างแค่ 20% น่าจะดีครับ
-
ผมอยู่โรงเรียนแบบแรกครับ มีกล้องส่องถึงในห้องเรียนกันเลย แต่ผมก็ชินแล้วหละ บางวันเอาข้าวมานั่งกินหน้ากล้องกันเลยทีเดียว
-
โรงเรียนแบบแรกนี่ผมรู้สึกกดดันนะ เหมือนเป็นโรงเรียนในอุดมคติของทุกคน
แต่แบบที่สองถ้ามีคุณภาพสังคมที่ดีก็หมดกังวลครับ :)
-
จบแบบสองมา
แต่ในฐานะที่สอนระดับอนุบาล คิดว่าแบบแรกจะได้เรื่องมากกว่าครับ
เด็กจะดีไม่ดีอยู่ที่การดูแลทั่วถึงด้วยส่วนหนึ่ง
-
ถ้าอนุบาล ประถม ผมคงเลือกแบบ 1 แต่ถ้าเป็นมัธยมหละก็ขอเป็นแบบ 2 ครับ
-
Uumm ,,, ถ้าผมเป็นผู้ปกครอง : อยากให้ลูกมีสังคมที่ดี เลือก โรงเรียนที่ 1
อยากให้ลูกมีภูมิคุ้มกันทางสังคม เลือก โรงเรียนที่ 2 ( แต่เสี่ยงต่อการออกนอกลู่นอกทาง )
ส่วนกระผมเอง รร. ผมเป็นแบบ ผสม 1+2 คือ นักเรียนไม่มาก ห้องละ 30 คน กฏเข้ม และสังคมที่ค่อนข้างจะดี แต่มีนักเรียนหลายแบบปะปนกันไป
-
ผมก็จบแบบสองมา
แต่ละช่วงแต่ละวัยความต้องการคงจะไม่เหมือนกัน
ตอนนี้คงเลือกแบบ 1
ความปลอยภัย สังคม ครู ความรู้
ความรู้ ปัจจุบันผมมมองว่าเด็กได้จากนอกเวลาเรียน20% - 50%
กฎระเบียบ ส่วนใหญ่มีไว้ควบคุมความเรียบร้อย
บางครั้งผมมองว่า โรงเรียนคือการจำลองสถานะการณ์ ที่สามารถแก้ไขได้ โหดไว้ก็ไม่เสีย
-
ผมเรียนมาแบบ รร.ที่ 2 ครับ
ถ้าให้เลือกก็ชอบแบบที่ 2 ครับ
คหสต. ผมมองว่ากฏระเีบียบบางอย่าง สร้างขึ้นมาโดยไม่รู้ ว่าจะทำไปทำไม ไม่เห็นมีใครได้ประโยชน์
และผมมองว่า กฏระเบียบมันจะไปสร้างความเก็บกดให้เด็กครับ ปล่อยให้เด็กได้ลองผิดลองถูกมั่งก็ดีครับ
ย้ำว่า ความเห็นส่วนตัวนะครับ :)
เห็นด้วยว่ากฏระเบียบบางอย่าง สร้างขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล ครูบางคนที่ต้องการผลงานก็บังคับใช้อย่างบ้าเลือดไร้เหตุผล เวลาเด็กถามหาเหตุผลก็หาว่าเด็กก้าวร้าว และมักจะให้เหตุผลกับเด็กว่า " ถ้ามึงไม่พอใจก็ย้ายออกไป " บ้างอะไรบ้าง
-
ผมอยู่โรงเรียนที่ 1 อ่ะครับ
แต่ก็ชินแล้วล่ะครับ กระดิกไม่ค่อยได้ กระดิกปุ้บรายงานที่บ้านไม่เกิน 1 สัปดาห์
แต่ถ้าเลือกได้ขอคนเยอะกว่านี้หน่อย ห้องผมมี 20 คนเอง เบื่อหน้ากันแล้ว
ห้องคุณ 20 คน ก็น่าจะเงียบดีนะ แต่ห้องผม 40 คน...พักกลางวันทีไร ไม่ได้อยู่ดีมีสุขแน่ๆ...
ดีกว่าตอนอยู่ประถม อันนั้นเยอะเกิ๊นนน.... 65 คน!!!
ทั้งห้องมี20คนแล้วรักกลมเกลียวกัน ดีกว่า 40คนแล้วแตกแยกกันนะครับ :'(
-
ผมจบมาจากโรงเรียนแบบที่ 1 ครับ ;D
แต่ผมชอบแหกกฎประจำ ถูกเรียกผู้ปกครองมาโรงเรียนบ่อยจนครูใหญ่สนิทกับพ่อผมซะงั้น
ในโรงเรียนไม่มีใครไม่รู้จักผม ขอให้เอ่ยชื่อ จะมีเสียงแซ่ซ้องสาปแช่งตามมาเป็นระยะๆ 555 ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่เด็กในโรงเรียนรักกันมากกกก รู้จักกันทุกคน เวลามีอะไรช่วยกันตลอด เรื่องเรียนไม่ใช่ปัญหาเราเรียนไม่ได้ก็จะมีสุภาพสัตรีคอยติวให้ มีลูกก็จะส่งไปเรียนโรงเรียนแบบนี้แหละ ;)
ปล.คิดถึงโรงเรียนจัง
-
โรงเรียนที่ 2 ครับ และผมก็จบโรงเรียนแบบที่ 2 มาด้วยครับ
ที่ผมชอบแบบนี้ เพราะว่ามันทำให้ผมได้เจอเพื่อน เจอใครๆมากหน้าหลายตา ทำให้เรารู้จักเอาตัวรอด รู้จักวิธีเข้าสังคมหลายๆรูปแบบมากกว่า
กฏเกณก็น้อย ทำให้ต้องรู้จักการควบคุมตัวเอง ผมไม่ชอบให้มีอะไรมาบังคับมากมาย ยิ่งติดกล้องเนี่ย ผมไม่ใช่นักโทษครับ
ยอมรับครับว่าชีวิตช่วงวัยเฟี้ยว ผมก็เคยทำอะไรที่มันไม่ดีมาบ้าง เคยโดดเรียนตอนคาบว่างกับเพื่อน เอารถครูไปซ่อนไว้ในตึกชั้น 8 9ล9
แต่มันเป็นช่วงชีวิตที่สนุกและดีที่สุดที่ผมมี และจะไม่ลืมมันเลย เพราะผมจะไม่ได้พบเจอเพื่อนๆและประสบการณ์อะไรอย่างนี้อีกแล้ว
สอนให้รู้จักการใช้ชีวิต มีประสบการณ์ชีวิตเยอะดีครับ ทีหลังมีลูกจะได้ทันลูกบ้าง 555+ สมัยนี้ผู้ปกครองตามไม่ค่อยทันลูกหรอก
อยู่มหาลัยมันก็เด็กโตๆ มีความคิดกันหมดแล้ว จะมาหยอกล้อหยอกเล่นสนุกๆ แบบเพื่อนมัธยมไม่ได้แล้ว
ครูถึงบ้างไม่ถึงบ้างก็ดีครับ ทำให้รู้จักช่วยเหลือตัวเอง
เด็กดีดีที่ตัวครับ โรงเรียนแค่ส่วนหนึ่ง ถ้าเด็กไม่ดี คิดไม่เป็น ใครจูงไปทำอะไร เค้าก็เอาหมดแหละครับ
-
ผมจบโรงเรียนที่2มาครับ ( เป็นโรงเรียนชื่อดังในจังหวัดใครๆเค้าก็อยากเข้าเป็นธรรมดา )
ห้องหนึ่งประมามาณ50กว่าคน มีทั้งไม่ดีแตกต่างกันไป มีทั้งนักเลงหัวไม้ ยันไปคุณหนูไฮโซผมเคยอยู่ห้อง ที่นักเลงสุดๆกับเด็กเรียนสุดมาแล้ว
ผมผ่านมาหมดแล้วทั้งเป็นคนดีและไม่ดีครับ เคยโดนไล่กระทีบในโรงเรียน เคยเป็นหัวหน้าห้อง ประธานนักเรียน ประจบผู้ใหญ่
โดนเรียนผมก็เคย
มันทำให้รู้จักการใช้ชีวิต การเอาตัวรอดในสถานกาาณ์ต่างๆ มันทำให้เราคิดเป็นทำเป็นรู้จักผิดชอบชั่วดี
แต่ถ้าโรงเรียนที่1 อันนั้นก็ไม่ไหวเหมือนกันอยู่กันกลุ่มเล็กก็จริง สังคมก็จะเล็กตามไปด้วย แล้วบางครั้งเราอาจจะเป็นเหมือนหุ่นยนต์ต้องให้คอยมาป้อนคำสั่งให้ครับ
เราอาจจะคิดและตัดสินใตตัวเองไม่ได้
-
ตอนประถมผมอยู่รร.แบบที่1 ตามความรู้สึกของผมนะคับคือ มันทำให้ผมอยู่ในกฎระเบียบ เรียนดี(4.00 ป.5 ป.6) แอบเป็นคนเก็บกดนืดนึง EQ ต่ำมั่ง
และก็ไม่รู้จักคำว่ามีน้ำใจ แบบว่าเวลามีการบ้านแล้วเราทำไม่เสร็จเราลอกใครไม่ได้เลยล่ะคับ ต้องช่วยเหลือตัวเองโดยการทำเอง มันก็ทำให้เราเรียนดี
แต่พอตอนอยู่ม. รร.แบบที่ 2 ความรู้สึกมันต่างเลยคับ ความมีน้ำใจต่างๆๆเช่น เวลาเราทำการบ้านไม่เสร็จเนี่ยก็สามารถลอกการบ้านของเพื่อนได้
เวลาเราทำเสร็จเราก็ให้เพื่อนลอก แบบว่าอยู่กันแบบพึ่งพาอาศัยกันอ่าคับ ใครทำไม่ได้ก็ช่วยๆๆกัน เวลาสอบก็มีการเอาโพยเข้ามาในห้องแล้วส่งต่อ.กันอ่าคับ แบบว่าเสียวอาจารเห็นม๊ากๆๆ และก็มีการแหกกฎประจำคับ แบบว่าเวลามีคาบว่างเกือบทั้งวันเนี่ยก็แอบกลับบ้านกัน เล่นฟุตบอลในที่ๆเขาห้ามเล่น แล้วพออาจารมาก็วิ่งกันเอาตัวรอด ใช้ชีวิตแบบมีสีสัน ได้พบกับเพื่อนที่ดีและไม่ดี แต่นั้นทำให้การเรียนของผมตกบ้างเล็กน้อย ;D ;D แต่อย่างน้อยก็ทำให้เราสารมารถเข้าสังคมแบบต่างๆๆได้ดีคับ
ผมถึอคตินี้คับ มีความรู้ท่วมหัวแต่เอาตัวไม่รอด :D :D :D :D
-
ตอนนี้ผมอยู่โรงเรียนแบบที่ 1 อยู่ครับ ก็กดดันนะ เพราะมาสายสามคั้ง โดนเรียกผู้ปกครอง
โทรศัพท์มือถือของจำเป็นก็ใช้ไม่ได้ หาว่าทำให้เสียการเรียนบ้างล่ะ จริงๆคุณครูนั่นละที่เอามาแล้วเสียงานเสียการ
ถ้าไม่มีบัตรกลับบ้าน ก็ออกจากโรงเรียนไม่ได้ โอ้ มีงี้ด้วย
ออกไปจากโรงเรียน แล้วกลับบ้านเลย ห้ามเข้าร้านขายของ อันนี้มากไปหรือเปล่า
แต่ตอนนี้ ผมขอเลือกโรงเรียนแบบที่ 2 ครับ ขอโทษทีครับที่ระบายออกมามากไป
-
ขอเลิือกแบบ 2 ครับ โดยเฉพาะชีวิตม.ปลาย มันต้องเจอเพื่อนเยอะๆ ต้องกิจกรรม ต้องแหกกฎ
เรียนอย่างเดียว อยู่ในกฎระเบียบอย่างเดียวมันไม่มันส์
ตอนประถมผมอยู่รร.แบบที่1 ตามความรู้สึกของผมนะคับคือ มันทำให้ผมอยู่ในกฎระเบียบ เรียนดี(4.00 ป.5 ป.6) แอบเป็นคนเก็บกดนืดนึง EQ ต่ำมั่ง
และก็ไม่รู้จักคำว่ามีน้ำใจ แบบว่าเวลามีการบ้านแล้วเราทำไม่เสร็จเราลอกใครไม่ได้เลยล่ะคับ ต้องช่วยเหลือตัวเองโดยการทำเอง มันก็ทำให้เราเรียนดี
แต่พอตอนอยู่ม. รร.แบบที่ 2 ความรู้สึกมันต่างเลยคับ ความมีน้ำใจต่างๆๆเช่น เวลาเราทำการบ้านไม่เสร็จเนี่ยก็สามารถลอกการบ้านของเพื่อนได้
เวลาเราทำเสร็จเราก็ให้เพื่อนลอก แบบว่าอยู่กันแบบพึ่งพาอาศัยกันอ่าคับ ใครทำไม่ได้ก็ช่วยๆๆกัน เวลาสอบก็มีการเอาโพยเข้ามาในห้องแล้วส่งต่อ.กันอ่าคับ แบบว่าเสียวอาจารเห็นม๊ากๆๆ และก็มีการแหกกฎประจำคับ แบบว่าเวลามีคาบว่างเกือบทั้งวันเนี่ยก็แอบกลับบ้านกัน เล่นฟุตบอลในที่ๆเขาห้ามเล่น แล้วพออาจารมาก็วิ่งกันเอาตัวรอด ใช้ชีวิตแบบมีสีสัน ได้พบกับเพื่อนที่ดีและไม่ดี แต่นั้นทำให้การเรียนของผมตกบ้างเล็กน้อย ;D ;D แต่อย่างน้อยก็ทำให้เราสารมารถเข้าสังคมแบบต่างๆๆได้ดีคับ
ผมถึอคตินี้คับ มีความรู้ท่วมหัวแต่เอาตัวไม่รอด :D :D :D :D
ชีวิตเรียนผมก็ประมาณนี้แหละครับ แต่ผมว่า รร. ประถมเข้มๆ ทำให้เรารู้ัจักกฎระเบียบ ไม่นอกลู่นอกทางนะ
-
โรงเรียนส่วนมากมักจะเป็นแบบที่ 2 ครับ โอกาสที่จะเป็นแบบที่ 1 ยาก ยกเว้น โรงเรียนที่พิเศษจริงๆ
-
ห้องผมมี 50 คนอะครับ
-
โรงเรียนผมตอนนี้เป็นแบบที่ 2 ครับ
-
ข้อ1. ดีตรงว่า เด็กจะไม่ค่อยเสีย อบอุ่นดี (ตอนประถม ผมอยู่แบบ1)
ข้อเสียอันนี้คือ ถ้าเวลาเราไปต่างที่ เข้ามหาลัย ทำงาน อาจจะทำให้เราปรับตัวเข้า กับคนอื่นไม่ค่อยได้
(หรือบ้างที เอาแต่ใจตัวเองไม่มีคนคบ) เพราะ ตอนอยู่รร เพื่อนรู้นิสัยกันเยอะ และสนิทกันมานาน พอไปสังคมใหม่ มักจะปรับตัวไม่ค่อยได้ คนอื่นไม่ค่อยเข้าใจ
ข้อ2. ดีตรง ที่ฝึกให้เราใช้ ชีวิตอยู่ในโลกที่กว้างขึ้น ได้ฝึกซ้อมรับ อารมณ์ ของผู้อื่น ได้ฝึกการปรับตัว (เอาใจเขาใส่ใจเรา)
ได้รู้จักคนที่มี อารมณ์ นิสัย แปลกต่างกันไป คนที่ได้อยู่ในสังคมนี้ ผมเชื่อว่า จะเข้าสังคมอื่นๆได้ง่ายกว่า กลุ่ม1 เยอะมากครับ
ขอเสียอันนี้ คือ ถ้าเด็กไปคบเด็กไม่ดี โอกาส ที่เด็กจะเสียนั้น มีมากกว่ากลุ่ม1มากครับ
ทั้งสองอันนี้คือความแตกต่างของเด็กในการอยู่ในสิ่งแวดล้อมนั้นๆ ซึ่งส่วนนึงนั้นขึ้นอยู่ กับการอบรม สั่งสอนของ ผู้ปกครองประกอบด้วย+ สิ่งแวดล้อมของที่บ้าน ทั้ง2อันนี้มีผลจริงๆครับ ผมมีตัวอย่างหลายกรณี มากเลยที่ผมเคยเห็นและได้ฟังมา
ปล.ความคิดเห็นด้านบนนั้น เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ผิดถูกยังไง แล้วแต่คนจะมองนะครับ :-\