Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: Lookkaew ที่ มกราคม 16, 2010, 20:34:01
-
ความประทับใจนี้ถือเป็นความประทับใจครั้งที่สองที่เกิดขึ้นหลังจากความประทับใจครั้งแรกที่เกิดขึ้นในงาน Motor Expo เมื่อปลายปีที่ผ่านมา (ทั้งๆ ที่จะว่าไปแล้ว ครั้งแรกก็ไม่ได้ประทับใจสักเท่าไหร่ แต่เอาล่ะ! ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสรถจากค่ายซูซูกิก็แล้วกัน) สำหรับท่านใดที่ยังไม่เคยอ่านสัมผัสแรกระหว่างผมกับน้องสวิฟท์ สามารถอ่านได้จากกระทู้นี้ครับ http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=3503.0
ถึงจะมีหลายจุดที่ประทับใจ แต่ก็ยังมีหลายจุดที่ยังสงสัย และอยากจะมี “นัดล้างตา” กันอีกสักครั้ง ว่า Swift จะทำให้ผมประทับใจได้มากขึ้นกว่าเดิมไหม หากเป็นการทดลองขับชนิดไม่รีบร้อนมาก และพอมีเวลาอยู่กับรถสักพักหนึ่ง
-
เมื่อคราวก่อน ผมได้ทดลองขับคันสีดำตัวท้อป ราคา 649,000 บาท หรือถ้าให้เรียกแบบเป็นทางการเลยก็คือรุ่น GL ซึ่งมีออพชั่นครบถ้วน (รายละเอียดต่างๆ ของตัวรถ ลองหาข้อมูลจาก
http://www.suzuki.co.th/webpage/swift/index.html ได้เลยครับ เพราะข้อมูลทั่วไปของตัวรถ ผมจะไม่เอามาลง ขอรวบรัดตัดความสักหน่อย) แต่อย่างที่ทราบ ว่าคราวที่แล้วไม่ได้ตั้งใจไป Test Drive แต่บังเอิญพนักงานขายตั้งใจดี มีรถให้ลอง ก็เลยจัดไปด้วยความฉุกละหุก และยังมีหลายประการที่ผมสงสัยในตัวรถ เช่น
- อัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งค่อนข้างจะไม่ปรู๊ดปร๊าดอย่างคู่แข่ง (รู้ๆ กันอยู่นะ มีรถอะไรบ้าง)
- เครื่องเสียงคุณภาพดีแค่ไหน (คราวที่แล้วไม่ได้พกแผ่นไปลอง วิทยุก็ไม่ชัดเพราะไม่ได้ใส่เสาอากาศ)
- พวงมาลัยแม่นยำจริง แต่ให้น้ำหนักแปลกๆ บางทีก็เบา แต่พอหมุนไปสักหน่อยกลับหนักขึ้นซะงั้น ทั้งที่รถวิ่งเท่าเดิม ระยะหมุนไม่คล่องตัวเท่าไหร่
- เบรกมีไหลนิดๆ ตอนกดสุดจน ABS ทำงาน
- ระบบปรับอากาศที่ไม่เย็นสักเท่าไหร่
คราวนี้ผมจะได้ไขข้อสงสัยสักที ว่าน้องสวิฟท์รุ่นที่เห็นอยู่นี้ จะทำให้ผมประทับใจและตัดสินใจจองหรือไม่
-
ก่อนที่จะไปทดลองขับ ได้มีการนัดหมายพนักงานขายท่านเดิมให้มาดูแลและแนะนำสินค้าเพิ่มเติม โดยที่โชว์รูมที่ผมทดลองขับนั้น คือโชว์รูมใหม่ iTOA อยู่บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งมีสวิฟท์ให้ดูกันเกือบทุกสีเลย ซึ่งสีที่ผมสนใจนั้นมีอยู่สองสี คือสีขาวมุกและสีแดง คันที่จอดโชว์ก้นอยู่นี่เอง
ถ้ายึดตามโบรชัวร์ สีนี้ก็คือสี Radiant Red มีเฉพาะในตัวท้อป GL เท่านั้น ผมถือว่าเป็นสีที่แปลกดี คล้ายแดงเลือดนก แต่ก็ไม่เข้มสักเท่าไหร่นัก แม้ว่าจะไม่สวยติดเรทแบบ Burgundy Red Pearl ที่แดงไวน์จนออกอมม่วงก็ตามที แต่ผมก็ถือว่าสีแบบนี้ล่ะ เป็นสีที่สวยแบบเรียบๆ ได้ ถูกใจผมซึ่งชอบรถที่มีสีในโทนสว่าง
-
ระหว่างรอคิวทดลองขับ ลองเปิดเข้าไปดูในรถดีกว่า
-
เมื่อก้าวเข้าไปในรถ จะเจอพรมเข้ารูปลายกระดุม อันเป็นของแถมพื้นฐานของที่นี่อยู่แล้ว ตัดเย็บเข้ารูปสวยงาม แต่สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจนิดนึงคือแป้นพักเท้าซ้ายครับ อันใหญ่โตมาก และติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่กำลังสบาย ไม่เล็กและโด่ขึ้นมาเกะกะตาแบบ Lancer Cedia ที่ผมขับอยู่
-
กุญแจอัจฉริยะที่มีมาให้สองดอก เป็นรีโมทในตัว สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกเพราะไม่ต้องควักขึ้นมากด เพียงแค่พกรีโมทให้อยู่ในระยะก็สามารถใช้งานได้แล้ว ทั้งล็อค-ปลดล็อค และสตาร์ทรถโดยบิดสวิทช์ที่คอพวงมาลัย
-
ภายในครับ
-
หน้าจอ Multi Information Display แสดงเฉพาะนาฬิกา เมื่อยังไม่ได้สตาร์ทรถ
-
หลังจากที่ชมภาพด้านหน้าแล้ว มาที่ด้านหลังกันบ้าง จะเห็นว่า Suzuki จัดสรรพื้นที่ด้านหลังมาได้ดีทีเดียว แม้ฐานล้อจะสั้นกระจิ๋วแค่ 2,390 มม. แต่สามารถทำให้พื้นที่ใช้สอยด้านหลังนั้นกว้างขวางกว่าที่คิด สูสีกับมาสด้า 2 ที่มีฐานล้อยาว 2,490 มม. จุดสังเกตอีกอย่างคือแนวขอบธรณีประตูหลังมีพลาสติกปิดไว้ด้วย สามารถติด Scuffplate ที่ประตูคู่หลังได้
-
สำหรับพื้นที่เหนือศีรษะนั้นเหลือเยอะมาก เนื่องจากการออกแบบให้ท้ายตัดลงในแนวค่อนข้างตรง จะมีปัญหาอยู่บ้างก็ตรงเสา C ที่หนามากๆ เพราะมีการเฉือนขอบประตูส่วนหนึ่งทำเป็นเสา C ไปด้วย
-
ทดลองให้คุณแม่ซึ่งสูงประมาณ 155 ซม. มาลองนั่งหลัง พื้นที่เหนือศีรษะจะโล่งมาก ต่างกับคราวที่ทดลองขับมาสด้า 2 ซึ่งพื้นที่ดูพอดีศีรษะไปสักหน่อยสำหรับคุณแม่ซึ่งไม่ได้ตัวสูงเลย
-
นอกจากพื้นที่เหนือศีรษะที่ให้มาแบบเหลือเฟือแล้ว ส่วนรองนั่งก็ยังให้มาแบบพอดี (สำหรับรถเล็ก) รวมถึงพนักพิงหลังที่แม้จะปรับไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ตั้งตรงจนเกินไป สังเกตรูปนี้ เห็นได้ชัดว่าเบาะหลังมีขนาดใหญ่ไม่น้อยเหมือนกัน เมื่อเทียบกับขนาดตัวรถที่ตอนนี้ถือว่าเล็กที่สุดในกลุ่ม Sub-compact แล้ว
-
เอาล่ะ เกริ่นกันเสียยืดยาว ได้เวลาทดลองขับเสียที สำหรับรถทดลองขับคันนี้เป็นรุ่น GL สีม่วงอ่อน Purplish Silver Pearl ซึ่งเป็นสีที่ผมว่าสวยเก๋มาก สีนี้ทำให้ผมนึกไปถึงดอก Lilac หรือจะว่าไปก็นึกไปถึงสีของโทรศัพท์มือถือ Motorola V8088 (V ยิ้ม ที่หลายคนเรียกกัน) เมื่อหลายปีก่อน
-
ลองดูสีนี้อีกมุม สวยมีเสน่ห์ไม่น้อย
-
นี่คือระดับความสูงเบาะคนขับที่ผู้ทดลองขับก่อนหน้า ปรับไว้เสียต่ำมาก ถือว่าพื้นที่ Leg Room เบาะคนขับมีให้เยอะใช้ได้เลย ไม่อึดอัด ต้นขาไม่ชนพวงมาลัย
-
คันทดลองขับ มีการติดตั้งกล่องท้าวแขนอเนกประสงค์มาด้วย
-
เปิดขึ้นมาก็จะเป็นอย่างนี้
-
สำหรับแผงหน้าปัด หลังสตาร์ทรถก็จะเป็นแบบนี้ครับ มาตรวัดธรรมดา ไม่เรืองแสง แต่สังเกตอะไรมั้ย...มีมาตรวัดอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นให้ด้วยล่ะ นอกจากนี้มาตรวัดความเร็วยังมีแค่ 180 กม./ชม. ได้ฟีล Japanese Car มาเต็มๆ
-
หลังจากนั้นก็เริ่มออกทดลองขับกันเลยครับ ถนนพระรามเก้าคือเป้าหมายของเรา เนื่องจากรถน้อยกว่า แต่จะว่าไปก็ไม่ถือว่าโล่ง เพียงแต่ว่าสามารถทำความเร็วได้หน่อย มีจังหวะให้คิกดาวน์ได้เยอะ แต่ผมก็ไม่ค่อยมีโอกาสทำนัก มุ่งเน้นไปที่อัตราเร่งที่ความเร็วต่ำๆ ในเกียร์ 1 และอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งเสียมากกว่า (ได้ถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้ด้วย) บอกได้แค่ว่าไม่เร็วอย่างที่คิด ไม่สามารถเร่งหรือมุดได้สนุกสนานสักเท่าไหร่ ครั้งนี้น้ำหนักบรรทุกอยู่ที่ประมาณ 200 กิโลกรัม เป็นผู้โดยสาร 2 คน และผู้ขับอีก 1 เข้าใจว่า ถ้าน้ำหนักบรรทุกน้อยกว่านี้ ก็จะทำอัตราเร่งดีกว่านี้
สำหรับคันเร่งนั้น ผมรู้สึกว่ามันตอบสนองไวดี น้ำหนักคันเร่งก็กำลังดี ไม่เบาหวิวเหมือนเจ้าอื่น แต่จุดด้อยของสวิฟท์ในคันที่ทดลองขับนั้น ผมเจออยู่ 3 เรื่อง ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบสักเท่าไหร่ แต่ก็ยอมรับได้
1) การตอบสนองการเร่งแซงที่ความเร็วต่ำนั้นไม่ถือว่าจัดจ้าน ทั้งที่คันเร่งไวดี แต่เหมือนเกียร์และกล่องสมองเกียร์มันอยู่ในโหมดยุโรปหรือโหมดประหยัดอย่างไรไม่ทราบได้ ตีนต้นมันขึ้นแบบหนืดๆ บางทีก็มีอาการมึนงงเหมือนไม่อยากจะลดเกียร์ลงให้ แต่อีกซักพัก เออ ลดลงให้ก็ได้(วะ) กระทืบตูจริง และในตำแหน่งเกียร์ D นั้นไม่สามารถลากรอบไปได้มากกว่า 6,000 รอบต่อนาทีได้เลย จะตัดเปลี่ยนเกียร์ขึ้นไปก่อนตลอดแม้จะขยี้คันเร่งกันแทบทะลุพื้นแล้วก็ตาม แต่เมื่อใช้เกียร์ L ทุกอย่างก็ดูสวยงาม เสียงเครื่องคำรามราวกับ Big Bike มีเสียงวี้...ด้วย ลากรอบได้แตะ 6,500 รอบต่อนาทีในเกียร์แรก สนุกขึ้นมาก
2) การเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์จาก D>N นั้นมีกระตุกนิดนึง (เป็นทุกครั้ง) รวมถึงตำแหน่ง N>D ด้วย แต่กระตุกน้อยกว่า แม้จะเหยียบเบรกสุดก่อนเข้าเกียร์แล้วก็ตาม ส่วนในเกียร์ P>R>N N>R นั้นกลับไม่กระตุก
3) การเก็บเสียงยังไม่ดีนัก แม้จะจอดติดไฟแดง เสียงจากภายนอกก็ยังเข้ามาค่อนข้างชัด แม้จะไม่ถึงกับน่ารำคาญ แต่ก็ไม่น่ามีมาให้ได้ชัดขนาดนี้ ลักษณะเสียงคล้ายปิดกระจกไม่สนิท แต่เมื่อตรวจสอบดูแล้ว กระจกทุกบานปิดสนิทดี เดาว่าน่าจะมาจากยางกรอบกระจก หรือยางขอบประตู ยังมีเรื่องเสียงปิดประตูที่ดูกลวงเบาไปสักหน่อย คล้าย Lancer Cedia ของผมเลย แต่ของสวิฟท์จะไม่มีเสียงแกร๊ก! ให้ได้ยินชัดนัก
สำหรับเรื่องเบรก ไม่ได้มีการทดลองอะไร เพราะเคยทดลองไปตั้งแต่ครั้งที่แล้ว แต่จากการขับขี่ทั่วไป ถือว่าแป้นเบรกหยุ่นเท้าสไตล์ยุโรป อัตราส่วนแรงกดต่อแรงกระทำที่จานเบรก ทำได้ดี ช่วงล่างก็ทำได้ดี แม้จะไม่ถือได้ว่านุ่มนวล แต่ก็ไม่กระด้าง ซับแรงสะเทือนได้ดี จังหวะที่ต้องโยกเปลี่ยนเลนกะทันหัน ทำได้ดี ไม่มีวูบวาบ หรือแฉลบให้เห็น ถือว่าพอจะใช้วิ่งทางไกลยาวๆ ได้ไม่(น่าจะ)เหนื่อย
ส่วนเรื่องฉายาม้าตีนปลายนั้น ไม่ได้ลองครับ ตอนทดลองขับมาสด้า 2 นั้นรู้สึกตีนต้นจี๊ดจ๊าดกว่านี้มาก แต่ไปตกม้าตายเอาช่วงเกิน 80 ในขณะที่สวิฟท์ ผู้ใช้จริงก็พากันชื่นชมในช่วงอัตราเร่ง 80-120 ที่วิ่งฉิวปลิวลมแนวสไตล์รถยุโรปที่ตีนต้นช้า พอลอยตัวแล้วจะวิ่งได้เร็วไม่มีอืด ตรงนี้ยังไม่สามารถตอบข้อสงสัยในใจผมได้ว่าจริงไหม?
ระหว่างทดลองขับ ก็เก็บภาพอะไรต่อมิอะไรไปเรื่อยๆ ชอบมุมนี้จริงๆ ปุ่มปรับกระจกมองข้างและปุ่มพับกระจกไฟฟ้า แม้ว่ากระจกคนขับจะไม่มี Jam Protection และจังหวะขึ้นไม่ออโต้ แต่ก็ยังมีปุ่มล็อคประตูเสริมมาให้แบบไม่มีกั๊ก (กระจกคนขับขาขึ้นไม่ออโต้นั้นรับได้ แต่ถ้าขาลงไม่ออโต้แบบ AVEO นั้นเกินจะทน)
-
หน้าจอ Multi Information Display พร้อมไฟเรืองแสงสีส้มที่ติดขึ้นตลอดเวลา อยู่ในมุมที่มองเห็นง่าย ไม่ต้องละสายตาจากพื้นถนนนัก มีนาฬิกา, อุณหภูมินอกรถ และมาตรวัดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงทั้งแบบ ณ เวลานั้น และแบบเฉลี่ย หน่วยเป็น กม./ลิตร มาให้เลย ไม่ต้องไปเอาร้อยหารแบบค่ายคู่แข่งที่มีหน่วยมาให้เป็นลิตร/100 กม.
-
จุดขายอีกสองจุดที่อดชมเสียมิได้ คือเครื่องเสียงคุณภาพเยี่ยมและระบบปรับอากาศอัตโนมัติครับ
- เครื่องเสียงคุณภาพเยี่ยมมาก เยี่ยมมากจริงๆ สำหรับชุดเครื่องเสียงธรรมดาที่มีลำโพงกรวยกระดาษแบบ Dual Cone ทั้ง 4 ตัว ยึดด้วย spacer อย่างแน่นหนา ไม่มีทวีตเตอร์มาให้ แต่สุ้มเสียงที่ได้นั้น เหลือๆ ครับสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ไม่ใช่นักฟังหูทอง แม้จะไม่มีทวีตเตอร์ แต่สุ้มเสียงนั้นกังวานใสใกล้เคียง Honda City SV เลย แม้ว่าเบสจะแข็งสักหน่อย แต่ก็ถือให้คุณภาพมาเป็นอันดับสอง รองจาก City SV ละกัน ทิ้ง Mazda 2 ไว้อันดับ 3 ซึ่งผมค่อนข้างจะชอบเบสของ Mazda 2 มากกว่า Swift อยู่หน่อย แต่โดยรวมแล้ว Swift ยังถือว่าเสียงดีกว่าครับ ข้อด้อยมีอยู่นิดนึงครับ คือไม่รองรับ USB, AUX-in แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะกะจะไปติด XCarLink อยู่แล้ว แค่ 3,400 บาท ให้รองรับทั้ง USB, AUX-in และ SD Card โดยที่ยังควบคุมเครื่องเสียงได้จากพวงมาลัยเหมือนเดิม สำหรับปุ่มควบคุมที่พวงมาลัยสามารถควบคุมการปิดเสียง, Seek, Vol และเลือก Source ได้ สำหรับออพชั่นในตัวเครื่องเสียงนี้ก็เหมือนคู่แข่งครับ ปรับ Bass/Treble มาได้อย่างละ 7 ระดับ (0-6) มีระบบ AVC ที่สามารถเลือกเปิดและปรับได้ 3 ระดับ แต่ไอ้เจ้าระบบเร่งเสียงเพลงตามรอบเครื่องยนต์ของสวิฟท์นี่ค่อนข้างไม่ได้เรื่อง กล่าวคือมันไม่ได้เร่งเสียงตามความเร็วแต่อย่างใด เร่งเสียงตามรอบเครื่องยนต์เท่านั้น ทำให้เสียงมันดังๆ เบาๆ อยู่ตลอดเวลาซึ่งน่ารำคาญมาก แม้จะปรับแค่ระัดับ 1 ก็ตาม รถวิออส, ซีวิค, มาสด้า 2 ไม่เห็น sensitive มากขนาดนี้เลย ในที่สุดก็ต้องปิดระบบนี้ไป
- ระบบปรับอากาศไม่ต้องพูดถึง ผมชื่นชมเรื่องการใส่ใจรายละเอียดของการปรับอุณหภูมิที่ละเอียดระดับ .5 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าทำได้ดี กระจายความเย็นได้ทั่วถึงดีครับ อุณหภูมิที่ใช้ โดยมากจะตามหน้าจอครับ สำหรับเวลาแถว 11.00 น. ในรถที่นั่งกัน 3 คน ไม่ได้ติดฟิล์มกรองแสง ส่วนคราวที่แล้ว ผมไม่แน่ใจว่าที่รู้สึกว่าแอร์ไม่เย็น เป็นเพราะโหมด FULL หรือเปล่า ที่จะปรับให้รับอากาศภายนอกเข้ามาหมุนเวียนอัตโนมัติ เพื่อไม่ให้ภายในรถขาดออกซิเจน มาคราวนี้ทำการบ้านไว้ล่วงหน้า โหมดที่ใช้จึงเป็น manual ล้วนเลย (พนักงานขายบอกว่าแอร์เป็นของ Nippon Denso ทำ ไม่แน่ใจว่าจริงหรือเปล่า ใครอยู่วงใน วานตรวจสอบหน่อยนะครับ)
-
หมดเรื่องประตูหน้ากันแล้ว เรามาประตูหลังกันบ้างดีกว่าครับ อิอิ บานประตูคู่หลัง เปิดได้กว้าง ขนาดไหน ทางเข้าออกเป็นอย่างไร ดูหัวข้อที่พี่ J!MMY ทำไว้ได้เลยครับ
http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=828:exclusive-first-impression-suzuki-swift-15-5-&catid=63:b-segment-1300-1500-cc&Itemid=74
-
ผมขอเพิ่มเติมในบางส่วนแล้วกันนะครับ เบาะหลังก็ไม่มีอะไร หน้าตาเรียบร้อย พับแยกได้ ชอบตรงที่มีตัวล็อคสายเข็มขัดให้ติดกับตัวรถแถวซุ้มล้อหลัง เพื่อไม่ให้เกะกะเวลาที่เราพับเบาะหลังลงมา ถือเป็นไอเดียที่ดีครับ
-
มาดูมุมมองจากท้ายรถกันบ้างครับ มุมนี้จะเห็นถึงการใส่ใจในรายละเอียดของซูซูกิได้ดีทีเดียวครับ หลังเบาะผู้โดยสารตอนหน้ามีการติดขอเกี่ยวถุงพับเก็บได้ รองรับน้ำหนัก 3 กก.ไว้ด้วย มุมนี้จะเห็นตัวเหน็บเข็มขัดเบาะหลังไว้ด้วย งานประกอบค่อนข้างเรียบร้อย ภายในห้องเก็บสัมภาระบุไว้ดี แม้ว่าเบาะจะพับได้ไม่ราบเป๊ะ ว่าแต่...เจ้าถาดวางของแผงหลังที่พลิกตั้งฉากได้เมื่อตะกี๊มันไปอยู่ไหนแล้วน้อ...
-
นี่เลยครับ สิ่งที่ได้ใจผมไปเต็มๆ เราสามารถถอดถาดที่ว่านี้ มาซ่อนไว้ใต้แผ่นพลาสติกท้ายรถได้ด้วย โห คิดได้ไงอะ นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีตัวยึดถาดอย่างแน่นหนา พลิกเปิดหยิบของข้างใต้ได้ด้วย! (รูปเบลอไปนิด อย่าว่ากันนะ)
-
ยัง ยังไม่พอ แผ่นพลาสติกที่ว่านี้ ยังสามารถปิดไว้เฉยๆ เอาไว้ใส่ของได้สองชั้น คือชั้นล่าง และส่วนบนพับปิดไว้แบบนี้
-
หรือถอดขึ้นมาพับครึ่งแล้วสอดเก็บไว้ด้านใน เพื่อแบ่งประเภทสัมภาระได้อีกเช่นนี้
-
หรือแม้แต่เสียบเก็บไว้ด้านในอย่างนี้
-
หรือจะถอดเก็บไว้ที่บ้านทั้งชิ้นเลยก็ทำได้เช่นกัน
-
เฮ้อ...เหนื่อยครับ ลูกเล่นตรงประตูหลังมันเยอะเหลือเกิน เยอะเกินจะคิดจริงๆ ไม่รู้ว่าคนออกแบบเค้าคิดได้ยังไง
-
พอแค่นี้ดีกว่า เท่านี้ก็ตัดสินใจได้แล้วว่า Swift…คุณค่าที่คุณ...คู่ควร(หรือไม่?)
-
เฮ้ออออออ...... ถอนหายใจยาวๆ ในที่สุดผมก็ตกร่องปล่องชิ้นกับเจ้าสวิฟท์จนได้ ว่าแต่สีไหนดีล่ะ สีแดงหรือสีขาว คิดจนหัวจะแตกแล้วก็ยังตัดสินใจไม่ได้สักที ไว้รถมาเมื่อไหร่ เซลล์จะโทรคอนเฟิร์มสีกับฟิล์มกรองแสงอีกครั้งหนึ่ง ว่าจะเอาอย่างไรดี สีขาวก็สวยนะครับ แต่ผมว่าประกายมุกมันน้อยมากๆ เลย มองเผินๆ เหมือนสีขาวด้านด้วยซ้ำ
-
ต้องสาดแฟลชเข้าไปใกล้ๆ แบบนี้ ถึงพอจะเห็นประกายมุกขึ้นมาบ้าง
-
เก็บตกกับคันนี้ จำได้ไหม คันที่โชว์ในงาน Motor Expo ไงครับ ถูกจับถอด Skirt ไปเป็นแม่แบบแล้ว
-
ล้อลายนี้มันกระแทกใจดีจริงๆ เล้ย ขนาด 7x17 นิ้ว
-
ลองมาดู Accessories กันบ้างดีกว่าครับ ผมสนใจตัวนี้จัง ตัวจริง คุณภาพหนังมันก็ใช้ได้นะ ไม่แข็งกระโด๊ก นิ่มใช้ได้ เพียงแต่ลายตะเข็บมันเวอร์ไปหน่อย ดูลิเกๆ ยังไงไม่รู้สิ
-
แถมให้อีกภาพ สำหรับเบาะหนังทู-โทน ตะเข็บแดง
จบแล้วครับ ขอบคุณที่ติดตาม
จากวันนี้ก็นอนรอไปอีกสองสามเดือน จริงๆ รถคงมาก่อนล่ะ แต่กำหนดรับรถผมมันนานสักหน่อย แต่ด้วยความอยาก “ล้างตา” จึงจัดนัด Test Drive นัดนี้ขึ้นล่วงหน้าก่อนรับรถหลายเดือน และทำให้ผม...ตัดสินใจเลือก Suzuki Swift ครับ
-
ขอบคับ เชียร์สีแดง จะถูกจะแพงแดงไว้ก่อน (สีนะคับ ไม่ใช่การเมือง)
-
พี่ลูกแก้ว
เจ๋งไปเลย
รถรุ่นนี้ผมโคตรชอบบบบบ
ในที่สุดก้อเป่าหูจนพี่เปลี่ยนใจได้ ( มั้ง )
ส่วนสีเนี้ยผมว่า มันก็สวยทุกสีเลยนะ
แต่ที่ผมชอบคงสี ฟ้าอ่ะ ซอฟดี เป็นหนุ่มสดใส 555
-
เอามาฝากน้อง Art สำหรับสีฟ้า Ocean Light Blue Metallic
-
ตอนแรกผมก็ดูๆไว้เหมือนกันแหละ
แต่ว่า
มันใส่เฮลิคอปเตอร์พ่อผมไม่ได้อะสิ ใส่ได้ก็แค่ลำเดียว แถมปิดฝาท้ายไม่ได้อีกตะหาก
- -'
-
เนี่ย
-
โอ โห ไม่ไหวอะน้องกล้วย เห็นตัวเล็กๆ ไม่นึกว่าจะมีซ่อนรูป ใหญ่ยาวขนาดนี้
;D ;D ;D ;D
ต้อง Jazz แล้วล่ะ ถึงจะใส่ของยาวได้ขนาดนี้
รึเอา 2 S MT ดี ชอบใช่ม้า
-
มีเบาะหนังดำ ตะเข็บแดงไม๊ ไม่ต้องทูโทนน่ะ เข้าคู่กับตัวถังสีขาว แจ่ม ;D
-
โอ โห ไม่ไหวอะน้องกล้วย เห็นตัวเล็กๆ ไม่นึกว่าจะมีซ่อนรูป ใหญ่ยาวขนาดนี้
;D ;D ;D ;D
ต้อง Jazz แล้วล่ะ ถึงจะใส่ของยาวได้ขนาดนี้
รึเอา 2 S MT ดี ชอบใช่ม้า
อารายคับเพ่ลูกแก้ว
ซ่อนรูปไรกัน ป่าวซะหน่อย อิ๊ๆ
-
ตกลงไม่เอา mazda 2 เหรอครับ
แต่จริงๆแล้วผมก็เชียร์ swift มากกว่าตั้งแต่แรกแล้วแหละ
ยินดีด้วยนครับ
-
ตกลงไม่เอา mazda 2 เหรอครับ
แต่จริงๆแล้วผมก็เชียร์ swift มากกว่าตั้งแต่แรกแล้วแหละ
ยินดีด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ แล้วพี่ล่ะครับ ตกลงเอารถอะไรดี?
-
เงินยังไม่หลุดจากกระเป๋าง่ายๆครับ ขอดูไปก่อน รอน้อง มาร์ช กับ เฟียสต้าลงสนาม
-
รีวิวได้ละเอียดยิบเลยครับ มีทั้งข้อดี-ข้อเสียแบบไม่กั๊ก
ยังไงก็ขอให้มีความสุขกับรถคันใหม่ด้วยครับ
แต่รู้สึกสีขาวต้องรอนานรึป่าวไม่แน่ใจครับ
;D
-
ดีใจกับรถใหม่ด้วยนะครับ ขอให้ได้รถเร็วๆและมีค.สุขมากๆนะครับ
แต่เหมือนจะได้ยินว่า swift นี้จะเปลี่ยนโฉมแล้วไม่ใช่หรอ มีใครรู้ช่วยบอกทีนะครับ เพราะโฉมนี้ก็นานมากแล้ว น่าจะถึงเวลาแล้ว
-
มีถ่ายรูปตรงที่เก็บยางอะไหล่มาไหมคะ อยากเห็นว่าซูซูกิพ่นสีตัวถังรถเต็มคันรึเปล่า
เห็นของมาสด้าสอง ยาริส นี่แอบพ่นไม่เต็มตามซอก ตามมุมอับ
ดูไปดูมาชักเริ่มเห็นว่าสวิฟมันสวยกว่าสองแล้วนะ ทรงแบบนี้ดูได้อีกหลายปีถึงแม้รุ่นใหม่จะออกปีนี้ก็ตาม
เสียอย่างเดียววิทยุน่าจะทำช่อง aux มาหน่อย นอกนั้นคุ้มค่ากับราคาซื้อเลย เห็นด้วยที่สุด ตัวท้อปเลยนะคุ้มๆ จริงๆ
แต่เอาสีขาวดีกว่าไหม นานๆ ไปกล้วเบื่อสีแดง แต่ไม่รู้เหมือนกันเพราะสวยทุกสีจริงอะไรจริง
อีกนิดมาสด้าสองแอบมีกรีดพรมใต้เบาะคนนั่งหน้าด้วยเป็นรูปสี่เหลี่ยมจุตรัส ต้องเลื่อนเก้าอี้ไปหน้าสุดหน่อยจะเห็น
ไม่รู้กรีดทำไมเหมือนกัน มีทุกคัน ถามคนในบอร์ดสองแล้วไม่มีใครรู้ ลองมาถามที่นี้ดูเผื่อมีคนรู้
-
สีฟ้าสวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
ขอบคุณมากครับ
-
Swift นี่ละสวยที่สุดสำหรับ Suzuki แล้วละครับ
ผมกลับชอบสีขาวมากกว่าอะ
-
มาสด้าสองแอบมีกรีดพรมใต้เบาะคนนั่งหน้าด้วยเป็นรูปสี่เหลี่ยมจุตรัส ต้องเลื่อนเก้าอี้ไปหน้าสุดหน่อยจะเห็น ไม่รู้กรีดทำไมเหมือนกัน มีทุกคัน
== กรีดไว้ให้เอาไว้ดูเลขตัวถังหรือเปล่าครับ แต่ผมไม่แน่ใจนะ == ;D
-
ขอบคุณน้องลูกแก้วมากครับ ;D
ชอบเรื่องลูกเล่นแผ่นปิดช่องเก็บของด้านท้ายจัง สุดยอดจริงๆ
แต่งเป็น Swift Sport สวยน่าดูครับ :)
-
รูปสวยมากครัับ โดยรวมรีวิวได้เยี่ยมครับ
-
แหม รีวิวกันใหญ่เลย ทำได้เยี่ยมครับ อ่านสนุกดี ผมเชียร์นะ "สีแดงครับ" สีแดงมันถึงจะดูแรง แม้จะไม่ 3 เท่าและไม่มีเขาก็ตาม
สวิฟเนี่ยพี่สาวผมชอบมากเลยเช่นกัน ก็ขอให้มีความสุขกับรถใหม่นะครับ ;D ;D ;D
-
ตอนไปทดลองขับ Mazda 2 1.5 Maxx Sport ไม่ได้สังเกตซะด้วยสิครับ เลยไม่เห็นรอยกรีด แต่ถ้าเป็นเลขตัวถัง จะอยู่ที่ใต้เท้าคนขับครับ มีบานพับพลาสติกปิดไว้เรียบร้อย
-
ขอบคุณครับ สำหรับรีวิวครับ ชัดเจนมากๆ :)
-
แวะเอารูปมาฝากครับ นอกจากรูบิคที่เซลล์ให้มาเล่นในงานมอเตอร์ เอ็กซโปแล้ว เมื่อวานยังแจกปฏิทินตั้งโต๊ะปี 2010 - 2011 มาให้อีกหลังจากที่ได้จองไป
วัสดุเยี่ยมทีเดียว เป็นกระดาษอาร์ต 4 สีแบบบางเหมือนกระดาษอัดรูปเลย แต่บางกว่า แผ่นหน้าปกเป็นแบบมัน (ที่ถ่ายให้ดู) แผ่นในเป็นกระดาษอาร์ตเหมือนกันแต่เป็นแบบด้าน
-
ยินดีกับรถใหม่คับผม ตอนแรกผมก็ลังเลระหว่างสวิฟท์กับ 2 เลือกไม่ถูกซักที เพราะเจ้าสวิฟท์มันได้บุคลิกนุ่มนวล เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ แต่คุณภาพการขับขี่อยู่ในมาตรฐานเดียวกับรถยุโรปอย่างน่าเหลือเ้ชื่อ สมรรถนะดีพอสมควร การใช้งานอุปกรณ์ ความสะดวกสบายมีให้ครบ ที่นั่งกว้างขวาง ซ่อนลูกเล่นเอาไว้อย่างน่าสนใจ ขณะที่เจ้า 2 จะได้บุคลิกเร้าใจ ก้าวร้าว ดุดัน คุณภาพการขับขี่ตามสไตล์ของมาสด้าซึ่งได้มาตรฐานรถยุโรปอยู่แล้ว ตีนต้นดุเดือดมาก ตีนปลายพอรับไหว ความสะดวกสบายมีให้ครบ แม้ว่าภายในจะแคบกว่าสวิฟท์ก็ตาม
แต่สุดท้ายผมก็เลือก 2 เพราะว่ามาสด้าศูนย์บริการที่ต่างจังหวัดเยอะกว่า ดูแล้วเหมาะกับคนที่ขับออกจ่างจังหวัดบ่อย ๆ อย่างผมเลยคับ
กระนั้นผมก็ยังมองโลกในแง่ดีที่ว่า ซูซูกิจะสามารถปรับปรุง พัฒนา และขยายศูนย์บริการให้ได้มาตรฐานเทียบเคียงกับเจ้าตลาดยี่ห้ออื่นได้ในอนาคตอันใกล้นี้ เพราะผมเห็นความตั้งใจจริงของซูซูกิในการทำตลาดในเมืองไทยอย่างเต็มตัวคับ
ขอให้โชคดีกับรถใหม่คับ
-
ขอบคุณและยินดีกับรถใหม่ด้วยครับ
คุณแม่ท่านน่ารักดีนะครับ ยอมเป็นแบบให้ถ่ายด้วย
แต่ใจอยากเห็นคนตัวเบิ้มๆไปนั่งมากกว่าครับ
ที่บ้านมีแต่คนตัวใหญ่
สีรถเดโมนี่ถูกใจครับ สวยดี
รูปถ่ายมาดีแล้วครับ ติดที่รูปถ่ายแผงคอนโซลด้านหน้าติดถุงพลาสติคมากหน่อย
อ่านๆดูก็ชักอยากจะได้สักคันแฮะ
ขาดตังไปแค่หกแสนเอง...หุหุ
อีดิทโชว์แมน...เอ้ย แก้ไขคำผิด หุหุ
-
มาแก้ตัวแล้วครับ เรื่องรอยกรีดของน้องสอง ที่คราวที่แล้วตอบไว้ผิด แฮะๆๆ ;D
สรุปว่าเป็นตำแหน่งที่สายไฟของแอร์แบ็กที่เบาะ (ถ้าเป็นรุ่นที่มี side airbag) จะโผล่ออกมาครับ
ซึ่งมาสด้า 2 ของไทยไม่มีเลยไม่ได้ใช้ รุ่นที่มีใช้ในไทยจะเป็นน้องสามกับ Tribute ครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก คลับมาสด้า 2 ด้วยตรับ
-
ลูกค้าเก่าของ Mitsubishi เหมือนกันเลย แต่แอบนอกใจไปสวิฟท์บ้าง สองบ้าง
เฮ้อ มิตซู หลอกให้รอ
-
ยินดีด้วยครับที่เลือกสวิฟท์ เป็นผมก็เลือกสวิฟท์ครับ แม้ปัจจุบันจะใช้แจ๊ส
-
ยิ่งอ่านยิ่งเห็นเท่าไหร่ก็ยิ่งอยากได้ :-[
-
ดีใจกับรถใหม่ด้วยนะครับ ขอให้ได้รถเร็วๆและมีค.สุขมากๆนะครับ
แต่เหมือนจะได้ยินว่า swift นี้จะเปลี่ยนโฉมแล้วไม่ใช่หรอ มีใครรู้ช่วยบอกทีนะครับ เพราะโฉมนี้ก็นานมากแล้ว น่าจะถึงเวลาแล้ว
เราจะได้เห็นตัว Full Model Change ที่ญี่ปุ่น กันยายน ปีนี้ครับ ส่วนรูป spy shot ก็มีให้เห็นกันบ้างแล้วในเวปต่างประเทศครับ
แต่ยอมรับว่าอ่านรีวิลแล้วได้ใจเหมือนกันนะเนี่ย โอ้โน้ววว
-
อ่านแล้วครับ ขอบคุณครับ
-
ยินดีกับรถใหม่คับผม ตอนแรกผมก็ลังเลระหว่างสวิฟท์กับ 2 เลือกไม่ถูกซักที เพราะเจ้าสวิฟท์มันได้บุคลิกนุ่มนวล เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ แต่คุณภาพการขับขี่อยู่ในมาตรฐานเดียวกับรถยุโรปอย่างน่าเหลือเ้ชื่อ สมรรถนะดีพอสมควร การใช้งานอุปกรณ์ ความสะดวกสบายมีให้ครบ ที่นั่งกว้างขวาง ซ่อนลูกเล่นเอาไว้อย่างน่าสนใจ ขณะที่เจ้า 2 จะได้บุคลิกเร้าใจ ก้าวร้าว ดุดัน คุณภาพการขับขี่ตามสไตล์ของมาสด้าซึ่งได้มาตรฐานรถยุโรปอยู่แล้ว ตีนต้นดุเดือดมาก ตีนปลายพอรับไหว ความสะดวกสบายมีให้ครบ แม้ว่าภายในจะแคบกว่าสวิฟท์ก็ตาม
แต่สุดท้ายผมก็เลือก 2 เพราะว่ามาสด้าศูนย์บริการที่ต่างจังหวัดเยอะกว่า ดูแล้วเหมาะกับคนที่ขับออกจ่างจังหวัดบ่อย ๆ อย่างผมเลยคับ
กระนั้นผมก็ยังมองโลกในแง่ดีที่ว่า ซูซูกิจะสามารถปรับปรุง พัฒนา และขยายศูนย์บริการให้ได้มาตรฐานเทียบเคียงกับเจ้าตลาดยี่ห้ออื่นได้ในอนาคตอันใกล้นี้ เพราะผมเห็นความตั้งใจจริงของซูซูกิในการทำตลาดในเมืองไทยอย่างเต็มตัวคับ
ขอให้โชคดีกับรถใหม่คับ
หลังจากที่อ่านรีวีวของพวกยุโรปมานานก็พอจะรู้สึกได้ว่า รถที่ได้คะแนนดีๆ จะออกแนวดิบๆ หน่อยๆ ขับแล้วสนุกเร้าใจ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรถที่นั่งแล้วไม่สะดวก (แคบนิดๆ) แนวๆ มาสด้าทู เนี่ยแหล่ะครับ ส่วนรถประเภท
โตโยต้า จะถือว่าน่าเบื่อสุดๆ (กว้างขวาง สะดวกสบาย เครื่องเีรียบเกินไม่เร้าใจ) ทั้งๆ ที่ข้อติก็เยอะ แต่ท้ายที่สุด มาสด้าทู มีความสปอร์ตและเร้าใจ ทำให้อยากลองเหมือนกันความเร้าใจเนี่ย
ส่วนสวิฟท์ เพิ่งรู้ว่าท้ายมันอเนกประสงค์จริงๆ นะครับเนี่ย ขอบคุณมากๆ เลย
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
แต่ผมว่าสีขาวก็สวยครับ
-
มาแก้ตัวแล้วครับ เรื่องรอยกรีดของน้องสอง ที่คราวที่แล้วตอบไว้ผิด แฮะๆๆ ;D
สรุปว่าเป็นตำแหน่งที่สายไฟของแอร์แบ็กที่เบาะ (ถ้าเป็นรุ่นที่มี side airbag) จะโผล่ออกมาครับ
ซึ่งมาสด้า 2 ของไทยไม่มีเลยไม่ได้ใช้ รุ่นที่มีใช้ในไทยจะเป็นน้องสามกับ Tribute ครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก คลับมาสด้า 2 ด้วยตรับ
ขอบคุณค่ะสำหรับคำตอบที่รอ แต่
กรี๊ดดดดดดดดดดด รู้ว่าไม่ให้คนไทยใช้แล้วจะเจาะทิ้งรอยไว้เพื่ออออออ คล้ำไปเจอแล้วเสียอารมณ์จริงๆ
แต่ก็นะแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานส่งออกที่คนไทยไม่ได้ใช้กันเลยทีเดียวมาสด้า
-
;D ;D ;D สวยครับ น่าลองครับผม ;D ;D ;D
-
เห็นแล้วก็อยากได้...
-
โอ้ว นี่ขนาดลองขับของศูนย์ยังเขียนได้ขนาดนี้ น่าจับตามองครับ
ลักษณะ Impression นิดๆนะเพราะเป็นการทดลองขับระยะสั้น ไว้ถ้าสมมติไปซื้อมาจริงๆ
ก็ลองใช้สักนานหน่อยแล้วกลับมาเขียนอีกรอบ รับรองผมคอยอ่านเลย
นี่วันนี้กลับบ้าน เพิ่งสวนกับสวิฟท์คันนึงในซอยชินเขต ก็พาลให้นึกถึงวันที่ไปลองนั่งมันเล่นดูที่
งานMotorExpo ผมถูกใจกับตำแหน่งการขับขี่มาก แต่จนป่านนี้ยังไม่เคยลองขับ ถ้า itoa ให้เช่า
ผมอาจจะขอเช่าไปขับเล่นที่ทำงานสักสัปดาห์ก็ได้ และขอสีแดงแปร๊ดเลยด้วย เริ่ดค่ะ
-
โอ้ว นี่ขนาดลองขับของศูนย์ยังเขียนได้ขนาดนี้ น่าจับตามองครับ
ลักษณะ Impression นิดๆนะเพราะเป็นการทดลองขับระยะสั้น ไว้ถ้าสมมติไปซื้อมาจริงๆ
ก็ลองใช้สักนานหน่อยแล้วกลับมาเขียนอีกรอบ รับรองผมคอยอ่านเลย
นี่วันนี้กลับบ้าน เพิ่งสวนกับสวิฟท์คันนึงในซอยชินเขต ก็พาลให้นึกถึงวันที่ไปลองนั่งมันเล่นดูที่
งานMotorExpo ผมถูกใจกับตำแหน่งการขับขี่มาก แต่จนป่านนี้ยังไม่เคยลองขับ ถ้า itoa ให้เช่า
ผมอาจจะขอเช่าไปขับเล่นที่ทำงานสักสัปดาห์ก็ได้ และขอสีแดงแปร๊ดเลยด้วย เริ่ดค่ะ
เย้ๆ พี่แพนมาเม้นท์ด้วย
จองไปแล้วล่ะครับ หลังจากคิดไปคิดมาอยู่หลายวัน ก็คิดว่าคงเลือกเป็นสีขาวครับ ไว้ใช้ครบหมื่นโล จะมาทำ User's Voice แต่คงนานเป็นปีแน่ๆ
ป่านนั้นไม่รู้จะมีใครมารีวิวก่อนหรือเปล่า
ครั้งนี้เป็น Second Impression ครับ เพราะ First เดี๋ยวไปซ้ำพี่จิมมี่ แล้วก็ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ได้ทดลองขับครับ
-
รีวิวได้ละเอียดยิบเลยนะคะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ แบบนี้ ละก็ยินดีกับรถใหม่ด้วยค่ะ
-
ขอบคุณคับบบบ
-
XCarLink คืออะไรเหรอครับ ซื้อที่ไหน แล้วบอกกับร้านเค้าว่าตัวอะไรเหรอครับ
ซื้อมาได้แล้วต้องแปลงวงจรเข้ากับระบบเครื่องเสียงที่ติดมากับรถมากมั้ยครับ
ถ้าแปลงระบบวงจรเครื่องเเสียงจะหมดประกันไปเลยมั้ยครับ
ขอบคุณครับ
-
XCarLink คืออะไรเหรอครับ ซื้อที่ไหน แล้วบอกกับร้านเค้าว่าตัวอะไรเหรอครับ
ซื้อมาได้แล้วต้องแปลงวงจรเข้ากับระบบเครื่องเสียงที่ติดมากับรถมากมั้ยครับ
ถ้าแปลงระบบวงจรเครื่องเเสียงจะหมดประกันไปเลยมั้ยครับ
ขอบคุณครับ
โอ้โห มาเป็นชุดเลย
เอาเป็นว่าคือกล่องที่รองรับ SD Card, AUX in และพอร์ท USB โดยเชื่อมต่อเข้ากับตัวฟร้อนท์(ด้านหลัง)
เพื่อให้ฟร้อนท์เครื่องเสียงสามารถอ่านอุปกรณ์เชื่อมต่อภายนอกได้ครับ เรื่องประกัน อย่าได้แคร์ครับ
ถึงจะไม่ 100% Stock แต่มันก็เหมือนกับเราเอาเครื่องเสียง standard ไปต่อ CD Changer ล่ะครับ
-
THX :D
-
ขอบคุณกับเนื้อหาดีๆ ;D