Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: GreenG ที่ กันยายน 18, 2009, 18:49:49

หัวข้อ: ขอถามว่ายังจำเป็นอยู่หรือไม่ที่เครื่องเสียงรถยนต์ จะต้องมีหัวอ่านCDอยู่ในรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ กันยายน 18, 2009, 18:49:49
ผมอยากฟังความคิดเห็นหลายๆท่านครับว่า ณ ปัจจุบัน โดยเฉพาะรถรุ่นใหม่ๆ
ควรจะต้องมีหัวอ่าน CD ติดรถหรือไม่

 ;)สำหรับผมๆใช้รถเก่าจริงแต่คิดว่าไม่ค่อยจำเป็นแล้วเพราะผมไม่ได้ซื้อ CD ธรรมดามาหลาย
ปีแล้ว แม้กระทั่งแผ่น MP3 ก็ไม่เคยซื้อมาหลายปีเช่นกัน ปัจจุบันผมใช้วิธีหาจาก net เอา
หรือไม่ซื้อ VCD ไปเลยแล้วค่อยมาแปลงเอาครับ ผมรู้สึกว่า CD มันไม่ค่อยสะดวก(สำหรับผมครับ)
เพราะผมจะต้องไปแปลงเป็น Audio CD แล้ว Write ลงแผ่น สิ้นเปลืองเวลาในการ แปลง file
Write ลงแผ่น ตัวแผ่นCD-R แถมพอเบื่อก็ลบไม่ได้ ดังนั้นถ้าเลือกได้ผมว่าเครื่องเสียง USB SD
ดีกว่า CD ในแง่ค.สะดวกครับ :)

ขอเสริมนิดนึงนะครับว่า เครื่องเสียงใน VIOS ตอนนี้ไม่เข้าท่าเลยถ้าเทียบกับ CITY
ในความคิดเห็นผม เพราะ มี CD MP3 WMA จริงแต่ไม่มี USB หรือแม้กระทั้ง AUX
ซึ่งผมว่าเป็นอะไรที่แย่มากๆ สำหรับ VIOS(ในแง่วิทยุ) เพราะมันหาเปลี่ยนยากและ
แถมเปลี่ยนก็ยิ่งไม่ได้ราคาเลย สู้มาแบบ CITY ไปเลยดีกว่า ไม่ต้องไปเปลี่ยนอะไรเลยครับ
(ค.เห็นส่วนตัวนะครับ ถ้าจะแรงไปผมก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ)

ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นครับ :)

(http://www.vivaonline.biz/Images/ETR/Big/MP3/Bowmann-DL-2000MP3-photo.jpg)
หัวข้อ: Re: ขอถามว่ายังจำเป็นอยู่หรือไม่ที่เครื่องเสียงรถยนต์ จะต้องมีหัวอ่านCDอยู่ในรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SignifeR ที่ กันยายน 18, 2009, 21:38:04
ผมชอบแบบรถเก่าๆ มากกว่า อยากจะเปลี่ยนเฮดยูนิตใหม่ๆ มันสะดวกกว่ามากครับและยังดูลงตัวอยู่
นี่ก็เพิ่งเปลี่ยนใส่ซาบมา ของเดิม 14 ปี เรียบร้อยกลับญี่ปุ่นไปแล้ว(ไพโอเนียร์) ก็เลยเปลี่ยนเป็นพวกเล่นแผ่นเดียว มีเสียบ USB เหมือนกัน
ร้านเขาแนะนำมา

โดยส่วนตัวเห็นว่า รถใหม่ๆ เขาคงไม่อยากให้เรามายุ่งวุ่นวายกับระบบเสียงก็เลยหล่อเป็นหน้ากากมาเลย
ในแง่ความสวยงามก็อาจจะสวยดี ในแง่ดนตรี มันก็อีกเรื่อง
หัวข้อ: Re: ขอถามว่ายังจำเป็นอยู่หรือไม่ที่เครื่องเสียงรถยนต์ จะต้องมีหัวอ่านCDอยู่ในรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: RhinoMango ที่ กันยายน 18, 2009, 21:45:40
ส่วนตัวผมเก็บ CD เก่าๆไว้เยอะมาก (ยิ่งคุณพ่อนี่แบบว่า สี่ห้าแฟ้ม CD แบบ 40 แผ่น)

แต่บางครั้ง เป็น USB ไปเลยก็ดีครับ แต่ความเลียดของ MP3 ผมว่ามันยังไม่ละมุมเท่า CD นะ ถ้าจะเอาให้ได้เทียบเท่า CD ไฟล์ๆนึงมันจะใหญ่มากๆเลยล่ะ
หัวข้อ: Re: ขอถามว่ายังจำเป็นอยู่หรือไม่ที่เครื่องเสียงรถยนต์ จะต้องมีหัวอ่านCDอยู่ในรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ohmmypp ที่ กันยายน 18, 2009, 21:51:55
ถ้าจะให้เสียงดีก็คงต้องเป็นไฟล์พวก lossless ล่ะครับ
หัวข้อ: Re: ขอถามว่ายังจำเป็นอยู่หรือไม่ที่เครื่องเสียงรถยนต์ จะต้องมีหัวอ่านCDอยู่ในรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyName ที่ กันยายน 18, 2009, 21:56:09
ถ้าจะฟังเพลง ผมไม่ชอบการเก็บเพลงแบบ CD ธรรมดาผมชอบการเก็บแบบ MP3 ที่ใช้ USB
แต่เรื่องเสียง ผมชอบเสียงของ CD ธรรมดาแต่ไม่ชอบเสียงของ MP3 ไม่ว่าจะอยู่ใน USB หรือ CD ก็ตาม
หัวข้อ: Re: ขอถามว่ายังจำเป็นอยู่หรือไม่ที่เครื่องเสียงรถยนต์ จะต้องมีหัวอ่านCDอยู่ในรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: choomodify ที่ กันยายน 18, 2009, 22:46:15
ชอบเสียงของ CD มากกว่าครับ รายละเอียดของCD เทียบกับ ไฟล์MP3 ต่างกันแบบเห็นๆเลย
หัวข้อ: Re: ขอถามว่ายังจำเป็นอยู่หรือไม่ที่เครื่องเสียงรถยนต์ จะต้องมีหัวอ่านCDอยู่ในรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Steeringwheel Father ที่ กันยายน 19, 2009, 10:45:20
เสียงจากแผ่น Audio CD ดีกว่าเยอะครับ
หัวข้อ: Re: ขอถามว่ายังจำเป็นอยู่หรือไม่ที่เครื่องเสียงรถยนต์ จะต้องมีหัวอ่านCDอยู่ในรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: S77 ที่ กันยายน 19, 2009, 13:04:24
ชอบฟังวิทยุมากสุด เพลง+ข่าว+กีฬา สลับๆ กัน
แต่เวลาออกต่างจังหวัด (หลายๆ ปี ครั้ง) ก็ยังฟัง CD อยู่ค่ะ
หัวข้อ: Re: ขอถามว่ายังจำเป็นอยู่หรือไม่ที่เครื่องเสียงรถยนต์ จะต้องมีหัวอ่านCDอยู่ในรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ กันยายน 20, 2009, 10:43:02
ขอบคุณกับทุกค.คิดเห็นครับ
หัวข้อ: Re: ขอถามว่ายังจำเป็นอยู่หรือไม่ที่เครื่องเสียงรถยนต์ จะต้องมีหัวอ่านCDอยู่ในรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: liveshow ที่ กันยายน 21, 2009, 09:42:51
จำเป็น เพราะ พ่อผม ไรทเป็นแต่ซีดี MP3 ใช้ยากโคตรๆๆๆๆ ใน pioneer  3150UB และอีกอย่างทำไมเครื่อง pioneer รถผมกะ isuzu โง่พอกัน สรุป จงมีซะ แล้วชีวิตวัยรุ่นจะสบาย

นะนำจะเอาความสะบายถ้าซื้อfront ใหม่ ใช้โซนี่ ใช้ง่ายสุดแล้ว แต่เสียงพอแค่ถูๆกับหู
หัวข้อ: Re: ขอถามว่ายังจำเป็นอยู่หรือไม่ที่เครื่องเสียงรถยนต์ จะต้องมีหัวอ่านCDอยู่ในรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: 380Z ที่ กันยายน 23, 2009, 20:59:30
ผมกล้าบอกเลยว่าผมเป็นคนที่โชคดีโคตรๆ ฟังเพลงจากอะไรก็เพราะไปหมด แยกไม่ออกเลย ให้ตายสิ