Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: jaesz ที่ มกราคม 11, 2017, 22:26:53
-
แบบว่ารัฐบาลไทยสนับสนุน และทำให้เกิดการแข่งขันรถไทยถูก รถญี่ปุ่นแพง เหมือนที่มาเลย์ทำกับโปรตอน
....
มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างกับรถและตลาดรถในไทย ? รถไทยจะดีเลิศเพอร์เฟคหรือห่วยแตก? โรงงานผระกอบรถยนต์ต่างชาติจะไม่ลงทุนในไทย? .....
-
ในความเห็นผมนะครับ
ตอนนี้มันหมดยุคที่จะสร้างรถยนต์แห่งชาติไปนานมากแล้วนะครับ
ขนาด Apple Inc. ใหญ่มากขนาดนั้นยังไม่คิดจะทำรถของตัวเองเลยครับ
เพราะไม่อยากทำในสิ่งที่ไม่ถนัด
บางทีควรจะคิดมุมกลับในยุค Big Data มากกว่านะครับ
คือแทนที่จะมุ่งกระแสรถแห่งชาติ หรือรถไฟฟ้าแห่งชาติ
คือ การผลักดันรวบรวม Data ที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่ในเมืองไทย
และลองพัฒนาเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติให้เป็นศูนย์กลาง
สำหรับใช้ประโยชน์ในคมนาคมมากกว่า แบบนี้มันจะเข้ายุคการเปลี่ยนแปลง
ที่จะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้มากกว่านะครับ
-
ถ้าเป็นผมก็จะซื้อรถญี่ปุ่นอยู่ดีครับ แพงกว่าก็เก็บเพิ่มจนกว่าจะซื้อได้ ชื่อเสียงและความไว้ใจไม่ได้สร้างกันง่ายๆ ผมจะเอาเงินหลักแสนหลักล้านไปซื้อรถ ผมเอายี่ห้อที่พอจะแก้ปัญหาให้ผมได้ สมรรถนะดีหน่อย แบรนด์ใหม่ผมไม่กล้าเสี่ยงครับ เงินไม่ใช่น้อยๆเลย อย่าหาว่าไม่สนับสนุนคนไทยด้วยกันเลยครับ การสร้างแบรนด์ให้คนเชื่อถือนั้นยากมากๆ ถ้าวันใดแบรนด์ไทยถึงจุดที่ผู้ใช้พิสูจน์แล้วว่ามันไว้ใจได้ผมอาจจะเป็นลูกค้าอีกรายก็ได้ครับ
-
คหสต.ผมคิดว่าบางครั้งคนเราก็ยอมจ่ายเพื่อความชอบ และสิ่งที่เราพอใจนะครับ
ซื้อรถยี่ห้อเดิมๆ เพราะใช้แล้วดี มีปัญหาจัดการได้ และบางทีความชอบในยี่ห้อหรือตัวรถมีผลมากกว่าราคาอีกครับ
-
ผมว่าอยู่ที่ว่าตัวรถมันดีแค่ไหนกับราคาดีมั้ยครับ
อย่างคนไทยก็คงทำกระบะขาย เหมาะสุด แต่ว่าระบบขับเคลื่อนเราสู้ญี่ปุ่น อเมริกาได้มั้ย ตัวถังเราทำเองได้มั้ย หรือต้องซื้อแชสซีตกยุคมา
ส่วนตัวมองว่ายากมากครับที่จะเริ่มจาก 0 ขนาดจีนเค้าทำรถกันมาเป็นสิบๆ ปี เทคโนโลยียังตามญี่ปุ่นไม่ทันเลย แต่ตอนนี้ก็เข้าใกล้มามากแล้ว เทียบกับ 10 ปีก่อนที่ Chery ทำตลาดในไทย
-
จริงคับ หมดเวลาแล้ว
ตามเค้าไม่ทันแล้ว
แต่เรามีรถไฟฟ้า สัญชาติเราแล้วนะ แต่ คงแค่ สวมแบรน แต่จ้าง จีนผลิตแบบไม่มีองค์ความรู้อะไรมาก
Proton ก็แทบไม่ได้ ทำอะไรมากเช่นกัน นอกจาก ออกแบบตัวถัง กำหนด รูปแบบรถ เอามาประกอบ ร่างด้วยอุปกรณ์ จาก ผู้ผลิตที่มี เทคโนโลยีอยู่แล้ว
รถก็เหมือนคอมครับ
คอมบาง ยี่ห้อ ก็แทบไม่มี อุปกรณ์อะไรที่เป็นของตัวเองเลย เอา ของยี่ห้ออื่นมาประกอบร่าง ตีตรา
ตอนนี้ รอ FOMM เพราะ ผม นับถือ ท่านประธาน ผมเป็น ติ่งยุ่น
และ ผมมองว่า ยุ่น มองไทยเป็น บ้านหลังที่ สอง
-
รัฐบาล ก็คงจะต้องใช้ภาษีในการอุ้ม อุดหนุน ออกนโยบายเอื้อให้รถแห่งชาติ และเพิ่มภาษีรถญี่ปุ่น และยุโรป ยิ่งๆขึ้น
และถ้าวันใดวันหนึ่ง ทำไม่ไหว ก็อาจจะส่งผลกระทบ ต่อหลายภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจ ที่เกิดมาจากกลไกที่บิดเบือน และนี่ยังไม่นับรวม 'ความขายหน้าแห่งชาติ'
ผมมองโลกในแง่ร้าย ไปไหมครับ?
-
เพลงของน้าแอ๊ดยังใช้ได้อยู่จนจวบทุกวันนี้ครับ
เพื่อนผมใช้ ไซโจ เดนกิมาตลอดเพราะมันเข้าใจว่าเป็นแอร์ญี่ปุ่นมาโดยตลอด
ทันทีที่รู้ว่า ใครเป็นเจ้าของ
มันเปลี่ยนยี่ก้อทันที
-
ชาตินิยมของเรามีไม่พอ เกาหลี ญี่ปุ่น เขามีสิ่งนี้มากกว่าเรา
คนไทยทำอะไรจะโดนดูถูกจากคนไทยด้วยกันก่อนเสมอ
-
มีเลย ขอชื่อไทยๆนะ
-
ผมว่าทำได้นะครับ แต่ทุนต้องหนามากๆ ผลิตภัณฑ์ต้องสวยมาก่อน อย่างพวกซูเปอร์คาร์แบรนด์ใหม่ๆ ที่ทยอยเปิดตัวกัน แนวโน้มออกมาดีทั้งนั้น แต่ของไทย อย่างรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเปิดตัว 13 ม.ค. นี้ ผมมองว่าไม่ผ่าน ไปไม่รอด เห็นแวปแรกแล้วไม่ประทับใจ
-
ขนาด proton วันนี้ยังยังร่อแร่เลยครับ
ต้องใช้เงินรัฐฯมากมายอุดหนุน ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่ามีผลดีกับประเทศขนาดไหน (การจ้างงานทางตรง แค่ 1 หมื่นกว่าตำแหน่ง การจ้างงานทางอ้อมของ supplier ผมไม่นับเพราะบ.ผลิตรถไหนๆก็ต้องใช้ทั้งสิ้น)
คหสต เงินไม่มีสัญชาติครับ กิจการเพื่อกำไร ทำธุรกิจเพื่อทำกำไร จะสัญชาติใดก็ไม่ต่างกัน
-
มีคนพูดแบบนี้เยอะมาก (เมื่อไหรไทยจะมีแบรนด์ของตัวเอง) แต่รับรองว่า..ไม่ได้เกิดแน่นอนครับ เทคโนโลยีต้องแข่งขันต้องพัฒนาแบบกระพริบตาไม่ได้ เมื่อตามเค้าไม่ทันก็จะเจ๊งล้มละลายเปล่าๆ (ลองหาอ่านกรณีของ Tanin ดูนะครับ)
-
มันจะไม่เกิดเพราะความคิดคนในประเทศเนี่ยแหละ ไม่ใช่เรื่ององค์ความรู้หรอก
-
เป็นเรื่องที่ดีครับ แต่มันสายเกินไปแล้ว ส่วนตัวตอนนี้ มองว่าไปสนับสนุนพวกแบรนด์ After Market ของไทยกันดีกว่าครับ ตอนนี้ในระดับอาเซียน เราที่สุดสายนี้แล้ว เช่น ECU=Shop ผมว่าท่านเจ้าของกระทู้คงรู้จักอย่างดีเลยหละครับ และกำลังจะโตขึ้นไปเรื่อยๆ ในเมื่อรถยนต์แห่งชาติมันสายไป มาสนับสนุนผลิตภัณฑ์ After Market กันดีกว่าครับ ของไทยดีๆและไม่แพง ยังมีให้เลือกใช้ครับ
-
จากการคุยกับเพื่อนคนมาเลย์หลายคน คนที่นู่นถ้าเก็บตังค์ได้เค้าเลือกซื้อรถญี่ปุ่นก่อนโปรตอนเสมอครับ ถึงแม้จะแพงกว่าเยอะ อย่างฮอนด้าซิตี้ราคาเท่าซีวิคบ้านเรา ซีวิคที่นู่นก็แพงเหมือนแอคคอร์ดบ้านเรา รถโปรตอนไว้ทำแท็กซี่ กับสำหรับคนที่ไม่มีงบมากนัก
-
อะไรที่โดนดูแลผิดธรรมชาติ สักพักนิสัยมันก็จะเสียผิดธธรรมชาติไปด้วยครับ...
ไว้มีคนไทยแบบ หวัง ชวนฝู (BYD) สัก 5-6 คน และวิศวะ,นักวิจัย,ช่างเทคนิค ฯลฯ ที่พร้อมจะร่วมเป็นร่วมตายแบบปากท้องไม่สนอีกจำนวนนึงก่อนถึงตอนนั้นรัฐจะไม่สนับสนุน ก็เกิดขึ้นได้....
-
เป็นเรื่องที่ดีครับ แต่มันสายเกินไปแล้ว ส่วนตัวตอนนี้ มองว่าไปสนับสนุนพวกแบรนด์ After Market ของไทยกันดีกว่าครับ ตอนนี้ในระดับอาเซียน เราที่สุดสายนี้แล้ว เช่น ECU=Shop ผมว่าท่านเจ้าของกระทู้คงรู้จักอย่างดีเลยหละครับ และกำลังจะโตขึ้นไปเรื่อยๆ ในเมื่อรถยนต์แห่งชาติมันสายไป มาสนับสนุนผลิตภัณฑ์ After Market กันดีกว่าครับ ของไทยดีๆและไม่แพง ยังมีให้เลือกใช้ครับ
จริงๆ ครับ
สร้างแบรน อุปกรณ์ รถยนต์เป็นของตัวเองให้ได้ก่อนเป็นหลัก
พวก โช้ค สปริง ECU หัวฉีด
ถ้าสันดาปทำไม่ได้ ก้มาลงมอเตอร์
ทำ Reverse Engineering ให้ได้ก่อน
ใครทำงาน ใน OEM ไทยก็จะรู้ว่า ไทยทำแค่ รับจ้าง องค์ความรู้ ในตัว อุปกรร์ณ์มีน้อยมาก
เพราะ พัฒนามาจาก ฝั่ง ชาตินิยมมาแล้ว
พูดง่าย แต่ทำยาก สุดๆครับ ต้องใช้ งบมหาศาล รัฐบาลหรือ องค์กรใหญ่ไม่ช่วย ก็จบ
เพราะ เรามาเริ่มตอนที่เค้าไปไกลกันมาก จน ยากจะตามครับ
-
ไอ้ยุ่นมันไม่ยอมหรอกครับ ถามไอ้โตหรือยัง 8)
-
เคยมีแล้วในอดีตเมื่อหลายสิบปีก่อน เป็นรถกระบะ VMC สุดท้ายก็เจ๊งล้มไปไหนที่สุด เพราะปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น ไม่สามารถผลิตเครื่องยนต์เองได้ ก็ต้องพึ่งอะไหล่จาก OEM ทั้งหลายอยู่ดี แถมคุณภาพยังสู้ TATA ไม่ได้เลย (ขออภัยที่ต้องบอกตรงๆ) ทั้งแบบ ทั้งคุณภาพ ทั้งสมรรถนะ จะมีที่เหลือแบบลูกครึ่งอย่างไทยรุ่งก็ไม่ใช่ 100% ที่ยังพอขายได้อยู่บ้าง
อ้อ ยังมี ตุ๊ก ตุ๊ก ไทยแลนด์ ที่ยังพอคงเอกลักษณ์ ความเป็นไทยได้บ้างครับ
(http://community.headlightmag.com/index.php?action=dlattach;topic=41102.0;attach=42044)
อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้า ธานินทร์ (ไม่รู้ว่ารู้จักกันหรือเปล่า) คุณภาพก็ไม่สามารถเทียบได้กับแบรนด์เนมทั้งหลาย ในขณะที่ราคาไม่ต่างกันเลย (เคยซื้อมาใช้ สุดท้ายก็ต้องกลับไปหาแบรน์เนมอยู่ดี - กลายเป็นเสีย 2 ต่อ)
-
ต้องมีคนที่เก่งมากๆ ทั้งเรื่องแผนงาน ทั้งตัว product
ต้องผลิต prototype ออกมาเองเลยสักคัน การออกแบบก็ต้องตาถึง รวมไปถึง
เก่งด้านการเงินและบัญชี (อาจใช้เพื่อนก็ได้)
ถัดมา
ต้องการเงินขนาดไหนและต้องไปหา invester นี่เป็นวิธี standard ที่สุด ไม่ว่าใครประเทศไหน
ก็ต้องทำแบบนี้ แผนดีมั้ย รถดูเข้าท่ามั้ย ประหยัดงบได้มั้ย เช่น รถทรงสวยมาก
facelift ได้อีก 5 ครั้งรวด ลูกค้าไม่ขัดใจ ใช้พื้นฐานเดิม โครงเดิมได้อีก 25 ปี โคตรคุ้ม!
ได้เงินมา ผลิตขาย เลือกตลาดผิดมั้ย ผิดก็เจ๊งอีก
ถ้าคนทำหัว bright มาก เดี๋ยวคนยอมรับฝีมือเอง
คือรู้เลยตาคนนี้ เก่ง เยี่ยม วิสัยทัศน์ดี วิศวกรรมฉลุย รถไม่เสียไม่พัง
ถามว่าคนๆ นี่มีตัวตนไหม ในโลกนี้มีหลายคน
แต่ในไทยยังไม่มี ที่จะมีอะไรรอบด้านขนาดนี้
-
แต่ในไทยยังไม่มี ที่จะมีอะไรรอบด้านขนาดนี้
ทำคนเดียว มันเยอะมาก ไม่ได้ครับ ในไทยเลยไม่มี ใคร
Benz เครื่องยนต์ พัฒนามา ร่วม 100 ปี ผ่าน
ผิดมาเยอะ กว่าจะเก่ง
ญี่ ปุ่น จีน อินเดีย เกาหลี กลุ่ม รัฐหรือผู้มี อิทธิพล ทำให้เกิด ขึ้น
นักการเมืองมาจาก ภาค เทคโนโลยี และ อุตสหกรรม นักพัฒนา
แต่ไทย นักการเมือง มาจากมาเฟีย และ นัก ดูดงบประมาณ โดยแท้
ไทยเจริญ แค่ สร้าง ถนน เข้าทางลูกรังครับ กับ ทำลายป่า เอามาทำที่เสื่อมโทรม ถนนเยอะจริงๆ ครับ ในป่า มันก็จะตัดเข้าไป ในนามันก็จะตัดเข้าไป
-
ผมว่าขายได้น้อย
-
แต่ในไทยยังไม่มี ที่จะมีอะไรรอบด้านขนาดนี้
ทำคนเดียว มันเยอะมาก ไม่ได้ครับ ในไทยเลยไม่มี ใคร
Benz เครื่องยนต์ พัฒนามา ร่วม 100 ปี ผ่าน
ผิดมาเยอะ กว่าจะเก่ง
ญี่ ปุ่น จีน อินเดีย เกาหลี กลุ่ม รัฐหรือผู้มี อิทธิพล ทำให้เกิด ขึ้น
นักการเมืองมาจาก ภาค เทคโนโลยี และ อุตสหกรรม นักพัฒนา
แต่ไทย นักการเมือง มาจากมาเฟีย และ นัก ดูดงบประมาณ โดยแท้
ไทยเจริญ แค่ สร้าง ถนน เข้าทางลูกรังครับ กับ ทำลายป่า เอามาทำที่เสื่อมโทรม ถนนเยอะจริงๆ ครับ ในป่า มันก็จะตัดเข้าไป ในนามันก็จะตัดเข้าไป
การศึกษาบ้านเราเน้นพัฒนาสมองซีกเดียวครับ
เก่งคำนวนเก่งวิทย์ก็ควรหัดวาดรูปเก่งๆ ด้วย แบบลีโอนาโด นาวินชี่
บ้านเราหน้าตาบ้านเมืองถนนหนทาง การเมืองเป็นยังไง ก็มาจาก
หน้าตาของระบบการศึกษา
ผมชอบคนเก่งทั้งวิทย์ทั้งศิลป์ คุยกันรู้เรื่อง แต่ถ้าหัวอาร์ตมาเลย
หรือหัวด้านคำนวนมาเลยนี่คุยแล้วเหนื่อย
-
ถ้ารัฐสนับสนุนจริง แค่รถที่ใช้ในหน่วยงานรัฐ ภาคเกษตร ขนส่ง ก็ขายได้มากแล้ว
ส่วนรถส่วนบุคคล คงไม่มาแย่งตลาดในระยะสั้น แค่รถกระป้อ สามล้อ รถเครื่อง
ยอดขายหลักแสน หลักล้าน แค่แก้กม.ให้วิ่งในชุมชน ตีทะเบียนได้
รถไฟฟ้า วิ่งทางสั้นเกิดง่ายกว่าน้ำมันวิ่งทางยาว แค่ส่งไปรษณีย์ชุมชนก็ขายทั่วประเทศแล้ว
เอาแค่โฟล์คลิฟท์ 1 ตัน ทำราคาต่ำได้เป็นไฟฟ้า หรือแก็ส ก็อยู่ได้
แต่บางประเทศเน้นนำเข้ารถเก่าจากยุ่นมากกว่า บางคันใหม่จนแทบไม่ได้ใช้
รถขับสี่แถบนี้ ต้องหน้าแคบตัวยาว ไม่หนักมาก เพราะถนนแคบ ดินอ่อน
ซึ่งแถบจะหาคนทำไม่ได้แล้ว ระบบไฟฟ้าน้อยๆ ช่วงล่างทนทาน
ถ้าเอาln มาปลุกผีใส่ออโต้ ดิฟหน้าหลัง ราคาหลักแสน ยังมีคนสนใจซื้อ เพื่อนบ้านก็อยากใช้
ถนนดิน โคลนยังมีอีกเยอะ ยิ่งหน้าฝน หน้าน้ำ รถรุ่นใหม่ไปไม่ได้
ยังไม่นับรถไถนา รถเกี่ยว ที่คนไทยทำได้ทั้งคัน ส่วนรถก่อสร้างถ้าไม่ยกหนักก็ไม่ยาก
ส่วนรถตู้ กะบะ ทำได้แต่ชิ้นส่วนต้องขึ้นพิมพ์แบบรถอังกฤษ สมัยvmcใช้รอบคันจากรถยุ่น
เนื่องจากผู้ถือหุ้นไม่อยากสร้างขึ้นใหม่ ทำให้หน้าตาต่างจากต้นแบบที่อิตาลีออกแบบไว้มาก
คนดูไม่ออกว่าใช้บิ๊กเอ็มหน้าหัก มาแต่งเป็นมังกรทองก็เยอะ
จีนแดงก็เริ่มจากวิธีนี้ จนขายดีพอจะสร้างใหม่หมด แล้วค่อยใส่เอกลักษณ์กันทีหลัง
ยุ่น หลีก็แนวเดียวกัน ขาดแต่ไต้หวัน รบกันขึ้นมาขาดอะไหล่ จอดทิ้งได้เลย
โซเวียตที่ว่าล้าหลัง รัสเซียที่ว่าถังแตก อินเดียที่ว่าไปไม่รอดจากเจ้าอาณานิคม ยังมียี่ห้อทำขายอยู่
แล้วเราไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของฝรั่ง จะทำไม่ได้เชียวเหรอ
คนไทยพร้อมสนับสนุน ถ้ารัฐเอาจริง และคนทำไม่หลอกขายของคุณภาพต่ำกว่าราคา
เสือเหลือง คนในชาติไม่ลงรอยกัน แถมมีน้อยกว่า ยังเข็นให้รอดมาได้ จนไปซื้อโลตัส ตอนนี้แข่งf1แล้ว
เราทำเองบ้าง วันหน้ายังมีโอกาศ ไปซื้อม้า กระทิง ปีก มาเป็นของคนไทยบ้าง
-
New brand อาจจะยากเพราะลงทุนสุง คุ้มทุนนานมาก
เน้นไปซื้อแบรนด์มารีแบรนด์ดีกว่า
-
ยากมากๆๆๆครับ
สินค้าคุณภาพดีมีเต็มท้องตลาด
ถ้าจะทำเก๋งแข่งกับโตต้า หรือฮอนด้า
ถ้าจะทำกระบะแข่งกับโตต้า หรืออิสุ
คงไปไม่รอดหรอกครับ
ถ้าจะให้แบรนด์ใหม่เกิด
เราต้องหาช่องว่างของผลิตภัณฑ์ที่เจ้าตลาดยังไม่มีสินค้า
ผมคิดได้อย่างเดียว คือ ตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าติดแอร์ (นั่งได้ 3 คนเหมือนเดิม)
เหตุผล
1. วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์เป็นรถคันที่ 2-3 ของบ้าน
เช่น บ้านนึงอาจมีรถกระบะหรือเก๋ง หรือ SUV เป็นรถหลัก เวลาไปไหนทั้งครอบครัวก็เอาคันนี้ไป
แต่เวลาวันทำงาน พ่อบ้านอาจเอารถหลักขับไปทำงาน แม่บ้านอาจจะเอาน้องตุ๊กแอร์ (ไม่ใช่ตุ๊กแกนะครับ) ขับไปทำงานคนเดียว หรือส่งลูก 2 คน
ผมว่าทุกวันนี้เราซื้อรถ 'เผื่อ' มากเกินไปในหลายๆบ้าน
2. ด้วยความที่มันมีเป้าหมายใช้งานแค่นี้ จึงไม่จำเป็นต้องมีพิสัยการวิ่งไกลนัก รุ่นเริ่มต้นชาร์ทเต็มวิ่งได้ 100 กม.ก็เกินพอ
ความเร็วสูงสุดเอาแค่ 90 ล๊อกไว้ตามที่กฏหมายกำหนดเป๊ะ
แต่ขอเงื่อนไข
- ออกแบบให้สวยงามและมีเอกลักษณ์ ดูแล้วรู้ว่า ตุ๊กแอร์มาจากไทย
----- เช่น รุ่นหนุมาน แต่งแนวสปอร์ท
----- รุ่นขุนแผน แต่ง VIP
----- รุ่นบางกอก แต่ง modern
----- รุ่นกะทิ แต่งแนวน่ารัก
- ราคาไม่แพง
3. การซ่อมบำรุง น่าจะไม่ยากนัก เพราะก็เป็นแบบเดียวกับรถใช้ไฟฟ้าอื่นๆ คือชิ้นส่วนน้อยกว่า ICE
แต่การออกแบบ ต้องมาแนว jigsaw คือถอดเปลี่ยนแต่ละพาร์ทง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก
เช่น สามารถถอดแบตเดิมออก แล้วเอาแบตใหม่ที่ความจุสูงกว่าใส่แทนได้เลย
ชุดแต่ง สามารถถอดใส่ เอาแบบ A ออก แล้วจับแบบ B มาใส่ได้ทันที
อยากให้ฝันกลางวันนี้เป็นจริงมากๆครับ
-
ไม่ต้องพัฒนาตั้งแต่แรกแบบ proton เพราะ proton ยังขาดทุน ต้องหาคนซื้อต่อเลยครับ
ซื้อรถยี่ห้ออื่นมาประกอบแล้วแปะตราคนไทยขาย เหมือน perodua ที่เอา daihatsu มาแปะตราขายดีกว่า
ได้รถราคาถูก คุณภาพไว้ใจได้
-
ยากมาก มีเหนื่อยตั้งแต่แรกเลย ด้วยหลายปัจจัย การลงทุน คนออกแบบ วิศวกร พนักงาน ศูนย์บริการ อะไหล่รองรับครับ
-
ต้องไปขอร่วมพัฒนากับเจ้าหลักๆก่อนครับ พัฒนาร่วม เปลี่ยนรูปแบบนิดหน่อย ทำบริการหลังบริการดีๆ อะใหล่ใช้ร่วมกับเจ้าหลักอยู่แล้ว ราคาอะใหล้ไม่สูงมาก ถึงเคยมีมาในอดีต แต่คิดว่าปัจจุบัน คนไทยน่าจะเข้าใจกระบวรการมากขึ้นและหันมาบริโภคได้มากขึ้นครับ
-
พรุ่งนี้ วันที่ 13 มกราคม 2560 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ รถยนต์ไทย ฝีมือคนไทยครับ "Wera V1" รถยนต์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า ขอย้ำว่าฝีมือคนไทยครับ เรื่องที่พวกเราควรจะภาคภูมิใจ
-
ต้องแก้ที่ค่านิยมก่อนครับ ถ้ายังนิยมของนอก เอาภาพลักษณ์ก่อน ต่อให้ทำออกมาดี คนก็ไม่ซื้อ เพราะขับแล้วไม่เท่ ไม่สามารถอวดคนอื่นได้
-
ผมอยากให้มีครับ
ประเทศเราถูกใช้เป็นฐานการผลิตมานานแล้ว เรามีทรัพยากรคน มีคนเก่งๆพร้อมที่จะทำเยอะแต่ไม่มีเวทีให้ได้ใช้เพื่อทำของโดยคนไทยเอง
คนไทยเราออกแบบรถยนต์อยู่ต่างประเทศเยอะนะครับ จะดีกว่ามั้ยถ้าเริ่มตอนนี้ดีกว่ายังไม่ได้ไปไหนเลยแล้วโทษคนในอดีตว่าไม่ได้สร้างไว้
-
ต้องแก้ที่ค่านิยมก่อนครับ ถ้ายังนิยมของนอก เอาภาพลักษณ์ก่อน ต่อให้ทำออกมาดี คนก็ไม่ซื้อ เพราะขับแล้วไม่เท่ ไม่สามารถอวดคนอื่นได้
ผมว่าถ้าเมืองไทยมีคนแบบ Elon Musk
ผมว่าเกิดได้
แต่คนไทยที่เก่ง มักเก่งเฉพาะทาง และทางใครทางมัน
เหมาะที่จะเป็นลูกจ้างให้คนประเทศอื่นบริหารจัดการมากกว่า
ถ้าเรามีคนหัวดีรอบด้าน เก่งบู๊บุ๋น IQ EQ และ Q อื่นๆ มากมายดีหมด
จินตนาการเยี่ยม ความคิดสร้างสรรค์สุดยอด เก่งทั้งวิทย์ทั้งศิลป์
เข้าสังคมก็เก่ง ทำงานเป็นทีมดีเยี่ยม เก่งซะเหลือเกินจนดังไปทั่วโลก
พอมาตั้งบริษัทรถ คนไทยก็ยังแอนตี้เพราะว่าเป็นคนไทยหรือครับ
ผมว่าไม่ใช่ละ
การศึกษาเราปั้นให้เรามาเป็นคนแนวพนักงานรับจ้างเอง
ส่วนที่มีกิจการ ก็เป็นแนวพ่อค้าซื้อขาย ดังนั้นคนอย่าง Elon Musk
จึงไม่มี
-
มีก็ดีชิครับ... การเริ่มไม่จำเป็นต้องเริ่มจาก0 นะ
เป็นpartner ไปก่อน และเลือกสิ่งดีๆจุดเด่นๆของแต่ละค่ายมาเลย
ไปจ้างผู้บริหาร MB, designer Aston Martin , เครื่องยนตช่วงล่างFord, ภายในBentley
, QA Toyota, sale Isuzu
ก็เริ่มจากstartup approach แหละว่าจะยังไง. มีเงินก็ทำได้ครับ เพราะไม่ได้บอกว่ามีงบจำกัด
และให้รัฐสนับสนุนเรื่องภาษีอีกแรง
-
สมัยเด็กๆผมก็ฝันอย่างที่เจ้าของกระทู้คิดและฝพี่น้องสมาชิกหลายๆท่านในนี้ละครับ ว่าอยากมีแบรนด์รถของชาติเรา
แต่พอโตมาและได้อยู่ในอุตสาหกรรมจริงๆ จากที่ผมดูวิธีคิด วิธีทำงานของคนไทยเรากันเองแล้ว
"หมดหวังกับรถยนต์แห่งชาติไปแล้วครับ"
ได้แต่หวังกันว่าเราจะสร้างคนไทยยุคใหม่ๆที่มีหัวคิดแบบก้าวหน้า รักชาติแต่ไม่คลั่งชาติ มีระเบียบวินัย และเข้าใจโลก เข้าใจธุรกิจ เข้าใจวิศวกรรม และกล้าทำสิ่งใหม่ๆ บริษัทรถยนต์เกิดแน่นอนครับ
ของแบบนี้ในชั่วชิวิตผมอาจจะไม่ได้เห็น แต่ผมหวังว่ามันจะเกิดขึ้นในสักวัน......
วันนี้เราจะทำอะไรได้บ้างละ?
ทำในสิ่งที่เราคุ้นเคยครับ เราเป็น OEM ผลิตชิ้นส่วนมากมายให้บริษัทรถยนต์ทุกยี่ห้อ แต่ยังขาดเรื่อง R&D ที่จะพัฒนาชิ้นส่วนและลดต้นทุนได้ เราควรเรื่มจากตรงนั้นก่อนหรือเปล่า บริษัทคนไทยแท้ๆที่มีหน่วยงาน R&D และได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังมีกี่บริษัทครับ? ที่ผมรู้ๆตอนนี้มีไม่เกิน 5 บริษัทแน่ๆ เราควรจะสนใจสิ่งนี้ก่อนหรือเปล่าครับ
มุ่งไปสู่สิ่งที่เราถนัด ปรับตัวให้เข้ากับการเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมยานยนต์โลก นี่เป็นสิ่งที่เรายังทำได้ในตอนนี้ครับ
ส่วนการที่จะไปหวังอะไรจากรัฐบาล.....ระดับข้าราชการน่ะเค้ารู้กันดีครับว่าต้องทำยังไง แต่ระดับรัฐมนตรีกับปลัดทั้งหลายนี่สิ เป็นกันทุกยุคซะด้วย
เอาคนที่ไม่รู้ ไม่เข้าใจหลักการอุตสาหกรรมมาบริหาร มันจะรู้เรื่องอะไรละครับ
ดูเรื่องรถพลังงานไฟฟ้าเป็นตัวอย่าง ออกนโยบายยังไม่ชัดเจน แต่พวกจะเอาให้เอกชนขายให้ได้ใน 3 เดือน 6 เดือน จะทำได้ยังไงครับ? ถามแค่นี้พอละ
-
เลือกผู้แทน ที่ดี
ไม่มีให้เลือก