dealer รถยนต์นั้น บางเจ้าก็เรียก "ผู้แทนจำหน่าย" บางที่ก็เรียก "ผู้จำหน่าย" แล้วแต่ว่าภายในบริษัทแม่จะเรียกกัน
งานจะแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ ส่วนที่หาเงิน กับ ส่วนที่ช่วยซัพพอร์ทส่วนที่หาเงิน
ส่วนหาเงินก็จะแบ่งออกเป็น
- งานขาย
- งานบริการหลังการขาย
- งานอะไหล่
ส่วนซัพพอร์ทก็จะมี
- งานบัญชี
- งานการเงิน
- งานสำนักงาน(ธุรการ)
- งานบุคคล
งานในศูนย์บริการถือเป็นงานบริการหลังการขาย โดยจะมี "ผู้จัดการศุนย์บริการ" ดูแลงาน
"Service adviser (S.A.)" ทำหน้าที่รับรถ แจ้งรายละเอียดกับลูกค้า เป็นด่านหน้ารับเรื่องราวร้องทุกข์จากเจ้าของรถ
หลังจากนั้นจะทำการแปลคำพูดรายละเอียดลงเอกสาร จ่ายงานให้กับ "ช่าง" ในศูนย์บริการ
เมื่อช่างรับรถไปจะทำการตรวจสอบ พร้อมแจ้งสาเหตุลับมาที่ S.A. เพื่อให้แจ้งและขอคำอนุมัติสั่งซ่อมจากลูกค้า
โดย S.A. ต้องทำใบประเมินราคาการซ่อมพร้อมกำหนดระยะเวลาการซ่อมเสนอไปให้ลูกค้าด้วย
เมื่อลูกค้าสั่งซ่อมรถ S.A. จะส่งรายละเอียดอะไหล่ที่จำเป็นต้องใช้ไปให้ "เจ้าหน้าที่อะไหล่"
เจ้าหน้าที่อะไหล่จะจัดอะไหล่ออกมาให้จาก คลังอะไหล่ โดยมีเลขสั่งซ่อมกำหนดลงไปในอะไหล่แต่ละชุดเพื่อป้องกันการผิดพลาดในการนำไปใช้
ช่างรับอะไหล่ไปทำการซ่อมรถให้ลูกค้า เมื่อซ่อมเสร็จจะจัดส่งรถให้ "หัวหน้าช่าง" หรือ "Final inspector" ตรวจสอบงานซ่อมก่อนส่งมอบอีกครั้ง
หลังจากทำการตรวจสอบครั้งสุดท้ายเรียบร้อย รถจะถูกส่งไปทำความสะอาดก่อนส่งมอบคืนแกลูกค้า
ในช่วงที่รถทำความสะอาดอยู่นั้น S.A. จะแจ้งรายงานการซ่อมพร้อมค่าใช้จ่ายให้ลูกค้าทราบ และพาลูกค้าไปชำระเงินกับ "แคชเชียร์"
จ่ายเงินเสร็จปุ๊บ รถล้างเสร็จปั๊บ S.A. จะพาลูกค้ามาส่งที่รถพร้อมสรุปงานซ่อมให้ฟังอีกรอบก่อนส่งมอบรถคืนลูกค้า
หลังจากลูกค้ารับรถไปแล้ว 1 วัน "เจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์" จะโทรติดตามความพึงพอใจลูกค้าหลังเข้ารับบริการ ในบางที่จะมีการโทรติดตามเป็นระยะหลังจากนี้ด้วย
คราวนี้กลับมาที่ใบเสร็จกับเงินที่ลูกค้าจ่าย
จะถูกส่งไปให้กับ "เจ้าหน้าที่การเงิน" และ "เจ้าหน้าที่บัญชี"
โดย เจ้าหน้าที่อะไหล่ ก็จะส่งเอกสารเกี่ยวกับรายการอะไหล่ที่ใช้ในรถคันเดียวกันไปให้เพื่อใหผ้ตรวจสอบความถูกต้อง
S.A. จะส่งใบสรุป "จ็อบงาน" ไปด้วยเพื่อตรวจสอบค่าแรง ค่าอะไหล่ ไปให้ทั้ง2แผนก
lส่วนการเงินก็จะรู้กระแสเงินสดของบริษัทอยู่ตลอดเวลา
ส่วนของงานบัญชีก็จะต้องจัดการด้านภาษี งานตรวจสอบยอดต่างๆให้ตรงกัน ให้ถูกต้อง
หากในการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆในศูนย์บริการมีปัญหา "เจ้าหน้าที่ธุรการ" ก็จะเข้ามาช่วยดูแล
ลิฟท์ยกรถพัง ประแจเบอร์12หัก ถังถ่ายน้ำมันเครื่องรั่ว แม้แต่ "แม่บ้าน" ที่มาช่วยทำความสะอาด "ช่องซ่อม" ก็ถือเป็นคนที่ช่วยซัพพอร์ท
หากวันไหนเกิดมีช่างป่วยหรือลางาน
"เจ้าหน้าที่งานบุคคล" ก็จะแจ้งให้ผู้จัดการศูนย์บริการรู้เพื่อจัดสรรค์กำลังพลให้เหมาะสมกับงาน (แต่ส่วนใหญ่มันก็ต้องลางานกับผู้จัดการก่อนอยู่แล้วแหละ)
ขาด ลา มาสาย กลายเป็นงานของเจ้าหน้าที่งานบุคคลที่ต้องมาดูแลรวมทั้งเรื่องสวัสดิการ เงินเดือน
ผู้จัดการศูนย์บริการต้องประสานกับงานขายเพื่อขอเป้าการขาย แล้วนำมาวางแผนในส่วนของานบริการ
ต้องวางแผนว่าจะขอคนเพิ่มมั๊ย ขอซื้ออุปกรณ์อะไรเพิ่ม หากยอดขายเพิ่มเท่านี้จะต้องเพิ่มช่องซ่อมเท่าไหร่
เตรียมวางแผนส่งคนไปอบรมความรู้เพิ่มกับทางบริษัทแม่ก็ต้องประสานกับงานบุคคลเพื่อจัดส่งคนเข้าอบรม
ดูแล้วเหมือนจะสับสนวุ่นวาย แต่อย่าตกใจไปครับ
เรามีตัวช่วยอยู่ คือ DMS
DMS คือ dealer management system
เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มาช่วยให้ระบบต่างๆ ง่าย และ เร็ว ขึ้นภายในคลิ๊กเดียว
โดยรายละเอียดที่ว่ามาทั้งหมดจะส่งเข้าไปเก็บไว้ในเซิฟเวอร์และแต่ละแผนกก็สามารถจะทำงานประสานกันได้เลย
โดยรวมๆแล้วก็ประมาณนี้ครับ ไม่รู้ว่าพอจะช่วยอะไรได้บ้างรึเปล่า