ขออนุญาตถามพี่ๆในนี้เพิ่มเติมครับ
ผมขับรถ ทำ ป.1 มา 3 ปี ยังไม่เคยโดนชน หรือมีอุบัติเหตุจากคู่กรณี เคยมีโดนถอยมาชนติดไฟแดง แต่รถไม่เป็นไรมาก มีรอยนิดหน่อย ไม่ซีเรียส เลยปล่อยๆ ไป เพื่อนก็ด่าว่า ทำไม่ไม่เรียกเก็บตังมานิดหน่อย พอดีตอนนั้นคิดไม่ทัน
ผมสงสัยว่า
1. ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ประกันเรียกเก็บจากคู่กรณี หรือที่พี่ๆเรียกว่า"ไล่เบี้ย" (คืออะไร มีพี่ๆท่านใดอธิบลยเพิ่มเติมให้เป็นความรู้ได้ไหม๊ครับ) เค้าเอาเงินส่วนต่างนี้ ไปทำอะไรครับ เป็นค่าซ่อมใช่หรือปล่าวครับ? ในเมื่อเราก็จ่ายประกันเต็มเงินไปอยู่แล้วเรียบร้อย งี้ก็เท่ากับว่า เราจ่ายไป แล้วประกันก็ได้เงินจากคู่กรณีเราอีกทางใช่ไหม๊ครับ? ผมเข้าใจถูกไหม๊?
2. เคยเห็นแต่แถวๆบ้าน ที่พอโดนชนไม่มาก ก็เรียกเก็บเงินสดจากคู่กรณีที่ผิด แกบอกบางทีเรียกประกันมาไม่คุ้ม แกว่างั้น (แต่ถ้าตกลงไม่ได้ก็จำเป็นต้องเรียกมาเคลียร์) เช่น ทำประกันไป 19,XXX โดนชน เรียกเงิน มา 4-5 พัน หักจากค่าทำประกัน ก็เท่ากับว่าจ่ายไป 15,XXX ได้ค่าขนมนิดหน่อย
3. ถ้าเราโดนชนแล้วหนี แต่เราจำได้ทะเบียนได้ หรือถ่ายรูปไว้ได้ทัน เราไปแจ้งความ แล้วก็ให้ประกันตามเองได้ไหม๊ครับ?
4. เคยเห็นหลายเคส ชน เรียกประกันมาแล้ว แต่ทำไมไม่เอารถออกครับ? หรือยังตกลงไม่ได้ รอตำรวจ? คือถ้าผมโดนชน ผมคงคุยกะคู่กรณี ถ่ายรูป ใครผิดถูกก็ว่ากันไป ถ่ายรูปกล้องเราเป็นหลักฐาน เอารถเข้าหลบการกีดขวางคันอื่น รอเรียกประกันมา ผมทำถูกไหม๊ครับ แต่ส่วนมาก ชอบเห็นแต่คนโวยวาย หรือคู่กรณีคุยกันไม่รู้เรื่องนี่สิ
5. กรณีที่ เขาหาว่าเราผิด อยากให้เราทดใช้ ตามกระทู่ก่อน( มอไซค์เด็ก 13 ชน cx-5) แต่ถ้าเราถูก มีทางไหนป้องกันต่วเอง นอกจากแค่บอกว่าให้เขาไปฟ้องกัน สู้กันในศาลครับ?
ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าครับ สงสัยเยอะไปหน่อย แฮ่ๆ
1.ประกันไล่เบี้ย คือในกรณีที่การชนของเรานั้นเป็นฝ่ายถูกครับ
เช่น เราชน ค่าเสียหายรถเรา10000บาท เราเรียกประกันฝั่งเรา
ถ้าเราถูก คือ ประกันมีหน้าที่ออกเงินให้เรา10000บาทครับ เป็นค่าซ่อม แล้วประกันถึงจะไปไล่เบี้ยเอากับคู่กรณีได้10000บาท (ไล่เบี้ยเท่าที่เสียหายนะครับไม่มีกำไร ขาดทุน)
ถ้าเราผิด คือ ประกันก็มีหน้าที่ออกเงินให้เรา10000บาทครับ เป็นค่าซ่อม แต่ประกันจะไม่มีสิทธิไปไล่เบี้ยเอาจากคู่กรณีครับ (อีกทั้งประกันยังต้องไปจ่ายให้คู่กรณีอีก)
2.เนื่องจากการชนนิดๆหน่อยเป็นคดีกรณี ละเมิดครับ ซึงเป็น คดีแพ่ง เมื่อเป็นคดีแพ่งมันเป็นคดีที่ยอมความกันได้ จึงตกลงกันได้ เมื่อตกลงกันได้ ก็เรียกเท่าไรก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าตกลงกันได้รึเปล่า จึงตอบข้อสองได้ว่า ถ้าตกลงกันก่อนโดยเงินที่เรียกสูงกว่าความจริง แล้วคู่กรณีตกลงจ่าย ก็คุ้มกว่าเรียกประกันครับ
3.เป็นเรื่องของเรากับตำรวจครับ
4.ถ้าเอารถออกจะเสียรูปคดีครับ ถ่ายรูปได้ครับ แต่คงสู้เห็นของจริงไม่ได้
5.เบื้องตน ถ้าเราคิดว่าเราถูก เราอย่ายอมครับ ต่อให้ประกันอีกฝ่ายมาบอกว่าเราผิด แต่ถ้าเราคิดว่าถูก เราก็อย่ายอมครับ หรือ แม้แต่ตำรวจบอกว่าเราผิด ถ้าเรามั่นใจว่าถูก ก็อย่ายอมครับ 55555+ เพราะคนที่ตัดสินว่าฝ่ายถูกผิดคือศาล ครับ ส่วนวิธีคือ เราต้องดูสำนวนของตำรวจเป็นหลักครับ สิ่งที่ต้องดู คือ ว่าสำนวนนั้นตรงกับ เหตุการณ์ จริงหรือไม่ ถ้าตรงก็ขึ้นศาลได้เลยครับ แต่ส่วนมากถ้าสำนวนตรงกับเหตุการณ์จริง ตำรวจก็ดูได้ครับ ว่าใครถูกผิด (มันเป็นการแนะนำ ซึ่งคนส่วนใหญ่ จะเชื่อตำรวจ แล้วคดีก็จบที่ตำรวจบอกใครผิดถูก แล้วก็เชื่อ พอเชื่อก็ไปตกลงกันเองครับ เพราะเป็นคดีแพ่ง) สุดท้ายก็ไม่ขึ้นศาลครับ
ประมาณนี้นะครับ ที่ผมรู้
อีกอย่าง การไม่มีใบขับขี่ ก็ผิดแค่ไม่มีใบขับขี่ครับ เสียแค่ค่าปรับ
เมาแล้วขับ ก็ผิดแค่เมาแล้วขับ ก็ขึ้นศาลปกติ
ขับรถชนกัน ก็มาดูว่าใครผิดใครถูกครับ
ไม่ได้หมายความว่า การชนกัน คนที่ไม่มีใบขับขี่แล้วจะผิดเสมอนะครับ คนที่ไม่มีใบขับขี่ก็ถูกได้ เพราะการไม่มีใบขับขี่ไม่ได้หมายความว่าเขาขับรถไม่เป็นครับ
และ คนที่เมาแล้วขับ ก็ไม่ได้ผิดเสมอเหมือนกันครับ เพราะการเมาแล้วขับไม่ได้หมายความว่าเขาจะประมาทเสมอไป เช่นบางคนเมาแล้ว ขับเร็ว40กลับบ้าน แล้วถูกชน ก็ถูกได้ครับ จะผิดแค่ข้อหาเมาแล้วขับครับ
ทั้งหมดเป็นความผิดแยกกันครับ และต้องคิดแยกกันครับ