Kia Rio Sedan รุ่นที่จำหน่ายในบ้านเรานับเป็นรถรุ่นปี 2012 เทียบขนาดกับรุ่นแฮทช์แบค ความกว้างและความสูงเท่ากัน คือ 1,720 มม. และ 1,455 มม. มีเพียงความยาวที่เพิ่มขึ้นเป็น 4,365 มม. บวกเพิ่มเพียง 320 มม. วางอยู่บนฐานล้อขนาด 2,570 มม. ความคล่องตัวในการใช้งานของทั้ง 2 ตัวถังจึงไม่มีความแตกต่างกัน
ในต่างประเทศมีรุ่นเครื่องยนต์หลากหลายตามรูปแบบตัวถัง โดยมีทั้งเบนซินและดีเซลช่วงความจุระหว่าง 1.1 - 1.6 ลิตร บ้านเราทั้ง 2 ตัวถังทำตลาดด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ตระกูล Gamma ของ ฮุนได มอเตอร์ ความจุ 1.4 ลิตร DOHC พร้อมเทคโนโลยี CVVT - Continuous variable valve timing วาล์วแปรผันต่อเนื่อง จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด MPI กำลังสูงสุด 107 แรงม้าที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 13.8 กก.-ม. ที่ 4,200 รอบ/นาที ใช้เชื้อเพลิง E10 - E20 ได้
ระบบส่งกำลังมีให้เลือกแบบเดียวคือ อัตโนมัติ 4 จังหวะ H-Matic เบาแรงด้วยพวงมาลัยไฟฟ้า MDPS ชุดกันสะเทือนหน้าอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง คอยล์สปริงเยื้องศูนย์ Co-axial หลังอิสระ ทอร์ชั่นบีม เทรลลิ่งอาร์ม ล้อขนาด 15 นิ้วสวมยาง 185/65 หยุดพละกำลังทั้งหมดด้วยดิสค์เบรคหน้าพร้อมช่องระบายระบายความร้อน คู่กับดรัมเบรคหลัง
ด้านความปลอดภัยมากับมาตรฐานในระดับ 5 ดาวจาก Euro NCAP ถุงลมนิรภัยคู่หน้า De-powered ถูกติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Rio คือ งานออกแบบภายในที่เรียบแต่ดูสปอร์ต ซึ่งธีมการออกแบบนี้ถูกใช้มาตั้งแต่ Kia Picanto ชุดเบาะเป็นแบบทูโทน อำนวยความสะดวกด้วยพวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง, เซนเซอร์ช่วยถอย, กระจกไฟฟ้า 4 บาน/One Touch พร้อมระบบป้องกันการหนีบฝั่งผู้ขับ สวิทช์ควบคุมวางตำแหน่งให้ใช้งานง่าย มีพอร์ท AUX, USB พร้อมเชื่อมต่อ iPod และปลั๊ก 12 โวลท์ 2 จุด นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธได้ด้วย
ใครสนใจก็ลองติดต่อไปที่ตัวแทนจำหน่ายของ ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ กันดูครับ ราคาจำหน่าย Rio รุ่นตัวถัง 4 ประตูซีดานเปิดออกมาที่ 758,000 บาทครับ
Credit:
http://www.motortrivia.com/2013/new-car-thai-001/150-kia-rio/kia-rio-sedan-2013.html