ผมใช้รถ Lancer EX 2.0 GT ซื้อตอนเดือนพฤษภาคม 2010 ออกที่ศูนย์มิตซูปราจีนบุรี
เหตุผลที่ซื้อรุ่นนี้ชอบ Evolution X เคยไปดูที่งาน Tokyo Motor เมื่อปลายปี 2007 น่าจะวันที่ 2 พ.ย.
ซึ่งหาใครเคยไป มีรถมากมายหลายรุ่นให้นั่งเล่น ลูบคลำได้ทั้งวันไม่เบื่อเลย
สำหรับใครที่บอกถ้ามีเงินเยอะจะซื้อรถแพงๆขับ เช่น Benz BMW หรือรถสปอร์ตต่างๆ
ถ้าเป็นพวกชอบรถๆจริง ลองไปงานนี้ดูก่อน อาจไปได้รถรุ่นอื่นแทนก็ได้
เพราะเท่าที่ไปลองนั่งจริงๆ ถึงไม่ได้ขับ บางรุ่นมันก็ไม่ผ่านจริงๆครับ
แต่คันนี้สีเขียวด้านล่างนี่ผมชอบมากครับ แต่น้อยกว่า Evo X ครับ
Evo X สีดำที่จอดให้ลองนั่ง ชอบมากครับ ไปยืนต่อเข้าคิวลองนั่งอยู่พักนึง สังเกตคนลองนั่งกันเสร็จ ยิ้มมีความสุขกันทุกคน ยืนดูราคาที่ติดตรงกระจกคิิดเป็นเงินไทยล้านกว่าบาท แต่ที่ญี่ปุ่นเสียค่าต่อภาษีแพงกว่าบ้านเราเยอะครับ
สำหรับ Galant Fortis คิดว่ามาไทยก็ซื้อแน่นอน ภายนอก ภายในลงตัวมากๆครับ
ตัวญี่ปุ่นมีจอพร้อมกล้องมองหลังมาให้เลย ไม่รู้บ้านเราเมื่อไหร่จะติดให้ครับ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแสงไฟหรือเปล่าว่าสีนี้ต่างกับบ้านเรานิดๆครับ
อีกส่วนหนึ่งก็คือ รถคันแรกผมเป็น New lancer ตอนนั้นแฟนพี่สาวเลือกให้ไม่ได้เลือกเอง
ย้อนไปเมื่อ 6 ปี New lancer เป็นรถที่คนด่าเยอะเช่นเดียวกับ EX บอกเกียร์ CVT ไม่ทน ศูนย์แย่ หลังคาผุ
ซึ่งจากที่ผมใช้มา 6 ปี เป็นรถที่ดีมาก ถ้าไม่มี EX ผมกะว่าจะออก New lancer นี่แหละ
ผมเคยชนหนัก ถุงลมนิรภัยทำงาน เข็มขัดนิรภัยทำงาน ระบบแอร์ดี แอร์ไม่เหม็น ระบบไฟดีมากๆ ไฟไม่มีเสียเลย
และความดีของ New lancer ก็แสดงให้เห็นได้ด้วยตัวของมันเอง คนพูดในแง่ไม่มีดีก็ล้มหายตายจากไป
ที่ปัจจุบันก็มีแต่คำชื่นชมแล้วสำหรับรถรุ่นนี้
มีคนออกป้ายแดงมาเรื่อยๆคงเพราะถัง CNG ที่มาตรฐานดีกว่าบางค่ายที่พยายามสื่อว่าของตัวเองดีก็รู้ๆกันอยู่ว่ามันจริงไหม
จัดเด่นผมมองว่าเป็นช่วงล่าง ความกว้าง เบาะนั่งสบาย ทัศนวิสัยดี
รถเพื่อนๆผมที่ออกมาช่วงเดียวกัน เสียและเปลี่ยนอะไรไปหลายแล้ว ซึ่ง New lancer ผมก็ยังใช้ดีอยู่
(จริงๆคันนี้ชนหนักมาด้วยตอนยังไม่ครบปี อู่นอกที่ทำไม่ค่อยเรียนร้อยนัก ต้องมาเปลี่ยนเองอีกเพียบเลย)
รถที่เค้ามักพูดกันทำไมไม่ซื้อ เท่าที่ผมเห็นคนรอบข้างที่ใช้ เจอปัญหากันมากมาย
แอร์เหม็นพอรับได้ แต่ที่แย่สุดก็ถุงลมไม่กาง ซึ่งมีรถอยู่ 2 รุ่น 2 ค่าย ซึ่งยังไงผมก็ไม่ซื้อ
ถึงแม้จะเพิ่มถุงลมมารอบคันก็เถอะ!
โทรไปสอบถามราคา EX เซลล์บอกว่ารถ Test drive ให้ลอง ซึ่งศูนย์นี้มีข้อดีคือมีรถให้ลองครับ
หลังจากลองขับแล้ว ช่วงล่างดีมากๆ เทียบกับ New lancer ที่ได้ชื่อว่าดีอยู่แล้ว แบบคนละเรื่องกันก็ว่าได้
แต่ตอนลองขับนั้นรู้สึกว่าแต่ไม่มากนัก แต่เมื่อลองใช้ EX ไป 1 เดือนแล้วกลับไปขับ New lancer มันคนละเรื่องกันเลย
ล่าสุดเข้าไปใช้บริการเห็นมี Pajero Sport ตัว VG Turbo ให้ลองขับครับ
ทำไมตัดสินใจเข้าศูนย์ปราจีนบุรี
ใกล้บ้านครับ อีกเหตุผลหนึ่ง คือ รองกรรมการส่งจดหมายให้เบอร์มือถือมาด้วย ว่าถ้ามีปัญหาอะไรให้โทรแจ้งได้เลย
นั่นเป็น 2 เหตุผล เพราะรู้สึกว่า มีปัญหาอะไรก็อุ่นใจ เพราะเคยโทรไปก็โทรกลับมาตลอด
จึงชอบศูนย์นี้ เพราะรู้ดีว่าลูกน้องหรือพนักกงานนั้นคุมกันยาก แต่ถ้ามีคนบริการที่ไว้ใจได้แล้ว มีปัญหาอะไรก็หายห่วงครับ
ศูนย์มิตซูบิชิปราจีนบุรี
เดินทางจากนิคม 304 ไปตัวเมืองปราจีนบรี ระยทางประมาณ 40 กิโลเมตร เลยบิกซีมานิดหน่อยครับ
และวันที่ไปรับบริการครั้งสุดท้ายวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ซึ่งรถที่นำเข้าไปใช้ิบริการเป็นรถ Lancer EX 2.0 GT ซื้อจากศูนย์มิตซูบิชิปราจีนบุรีครับ
แผนที่ตาม link ครับ
http://map.longdo.com/p/A00177021/map- ความสะดวกในการนำรถเข้าจอด ยังจุดรับรถ
ทางเข้ากว้างขวางครับ ความกว้างประมาณรถสามคันครับ
ส่วนที่จอดกว้างขวางครับ แต่วันที่ผมเข้าศูนย์นี้มีรถเข้าบริการ 10 กว่าคัน มาพร้อมกันในเวลาเดียว
จนรถคันสุดท้ายออกสุดที่ถนนใหญ่เลย จนพนักงานต้องรีบรับรถนับเข้าไปจอดด้านใน แต่เสร็จเรียบร้อย
และไทรตันป้ายแดงออกหนึ่งคัน ซึ่งก็เพียงพอครับ
รูปด้านล่างนี้ผมถ่ายภายในห้องพักลูกค้า ซึ่งสามารมองเห็นรถเราได้ระดับนึงครับ
สำหรับคนที่ชอบเย็นๆและยังคงเป็นห่วงรถตัวเองก็อยู่ห้องนี้ครับ เพราะเห็นชัดเจนครับ
ไม่ต้องกลัวว่าพนักงานจะขับเราไปไหนครับ
รูปนี้เป็นมุมถ่ายจากด้านหน้าครับ จะเห็นว่ากว้างดีครับ
เข้าใจว่าทีทำกว้าง 3 ช่อง ช่องแรกสำหรับรถเข้า ช่องสองสำหรับรถเสร็จแล้วรอออก
ช่องสามสำหรับการขับรถออกไปลองครับ
สำหรับคนที่ไม่ชอบห้องแอร์ ซึ่งจริงๆก็มีนะครับ ก็มีที่นั่งด้านนอกนั่งลมเย็นๆไม่ได้ร้อนอบแบบในกรุงเทพครับ
ที่ศูนย์มีฮ้อย (เรียกถูกไหมครับ) ไว้รองรับรถได้ถึง 5 คันครับ แต่วันนี้ช่างมีแค่ 2 คนเหลือเฟือเลยครับ
-การต้อนรับ
พอลงจอดปุ๊บก็มีพนักงานมาต้อนรับ ยกมือไหว้ สอบถามว่าถึงความต้องการ
และเชิญเข้าไปนั่งรถในห้องแอร์ด้านข้างเพื่อจะชี้แจ้งรายละเอียดและราคาค่าบริการโดยประมาณ
ก่อนเข้าผมก็ถามว่ามีน้ำมันเกรดไหนบ้าง ราคาเท่าไหร่ ก็ตอบได้ดีครบถ้วน ผมก็ยื่นกุญแจกับสุมดคู่มือรถให้
มีการสอบถามว่าจะล้างรถไหม ผมก็บอกว่าไม่ล้างครับ
- แจ้งรายละเอียด ประเมินราคา การเข้ารับบริการ
นั่งรอประมาณ 10 นาที พนักงานก็มาแจ้งรายละเอียด และประเมินราคา
มีการแจ้งว่ามีการล้างห้องเครื่องด้วย ซึ่งพนักงานดูเลขกิโลเมตร แจ้งว่าไม่จำเป็นต้องล้าง
ผมถามว่าเท่าไหร่ครับ 30 บาทสำหรับน้ำยาล้างห้องเครื่อง ผมก็ว่าล้างครับ
ประเมินราคาตรวจเช็ค ค่าแรง ค่าน้ำมันเครื่อง ไส้กรอง ประเก็น น้ำมัน น้ำมันล้างห้องเครื่อง ประมาณ 1000 บาท
เห็นลูกค้าบางท่าน กรองอากาศเก่ามากแล้วก็เอามาให้ดูกับตาว่าต้องการเปลี่ยนไหม
ลูกค้าตอบไม่ก็จบ ไม่มีการขยั้นขยอแต่อย่างใดครับ
- สิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับรองรับลูกค้า
มีคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องแต่ไม่มีเมาส์ให้!
แอร์เย็นสบายกำลังดี มีทีวีให้ดู มีน้ำเย็น และแก้วน้ำสะอาดให้
ไม่มีข้าวกลางวันให้กิน ศูนย์มิตซูที่ฉะเชิงเทรามีข้าวกลางวันให้ อยากสั่งอะไรก็สั่งได้ครับ อาหารตาสั่งครับ
และบริการรถส่งไปเดินเที่ยวบิ๊กซี
มีหนังสือพิมพ์ให้อ่าน มีหนังสือแนวบันเทิงให้อ่าน
มีห้องรับรองลูกค้าฝ่ายค่ายแยกต่างหาก ซึ่งจะมีทีวี LCD น้ำดื่ม ที่นั่ง โซฟาแยกมาอีกห้อง
- มารยาทของพนักงาน+ของเซลล์
มารยาทดี พูดจาดี เซลล์มีการทักทาย ให้ความสนใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส
- การซ่อมบำรุง หรือ ทำตามความต้องการที่ลูกค้าแจ้งไว้ให้
ตรงตามที่แจ้งไว้ ไม่ได้ทำอะไรขาดหรือเกิน
ตอนรับรถ ผมว่าเอ..ทำไมแอร์ไม่ทำงาน มองไปที่ปุ่มแอร์เลื่อนมาอยู่ที่ปิด ผมก็เลยเปิด Auto เหมือนเดิม
จุดนี้เข้าใจว่าเป็นมาตรฐานว่าต้องปิดแอร์หรือเปล่าไม่แน่ใจครับ
รถไม่มีรอยเลอะอะไร เนื่องจากมีการคลุมเบาะทั้งหมด
แต่ทุกทีศูนย์นี้จะคืนอะไหล่ที่เปลี่ยน แต่คราวนี้เหมือนจะลืม เพราะลูกค้าเยอะ ไม่ได้คืนกรองน้ำมันและน้ำมันเครื่องที่เหลือมาให้ครับ! (รถ Lancer EX 2.0 จะเติิมน้ำเครื่อง 4 ลิตรครึ่ง ซึ่งจะเหลือน้ำมันขวด 1 เล็กเกือบครึ่งขวดครับ)
- ระยะเวลาในการรอรับบริการ
แจ้งว่าประมาณ 1 ชั่วโมงก็เรียบร้อย เวลาทำจริง 2 ชั่วโมง เข้าใจเพราะเห็นแล้วว่ามีช่างแค่ 2 คน
แต่จริงๆพนักงานก็แจ้งด้วยว่าวันนี้อาจจะล่าช้าหน่อยเพราะช่างไปอบรมกันหมด
แต่รถมาพร้อมๆกันเป็น 10 คัน
ควรจะปรับเปลี่ยนการประมาณเวลาครับ!
ควรจะปรับเปลี่ยนวันไปช่างอบรมเป็นวันอื่นครับ! (ส่วนตัวผมเข้าใจว่า ช่างลาพักร้อน พูดฟังให้ดูดี อันนี้เข้าใจครับ)
อ้อที่นี่ศูนย์บริการเปิดวันอาทิตย์ด้วยครับ
ขณะช่างกำลังทำรถของเราสามารถไปยืนดูได้ตลอดเวลาครับ ผมก็ลงไปดูครับ ทำเรียบร้อยดีครับ
- การส่งมอบรถคืนให้ลูกค้า
จ่าบเงินไป 1048.60 บาทตามที่ประเมินตอนแรกครับ รับประกันงานซ่อม 10,000 กิโลเมตรหรือ 6 เดือนครับ
ก็ส่งมอบเรียบร้อยดี มีพนักงานเดินมาส่ง และยกมือไหว้ครับ
ล้างห้องเครื่องสะอาดดีครับ 30 บาท
ตอนแรกผมเข้าใจว่า ใส่กรองไม่แน่น จึงเลี้ยวกลับไปให้แก้ไข ช่างก็รีบทำให้ทันที
พอมาทำที่บ้าน ลองถอดใส่เอง คิดมากไปเองครับ เสียงเหมือนกันครับ 555+
ในรูปจะเห็นกรองมีรอยเลอะสีดำนิิดหน่อย เข้าใจว่าช่างมือเลอะ แล้วไปจับไส้กรองด้านใน
ระวังหน่อยก็ดีครับ
อ้อ ไม่มีการแจ้งว่า เมื่อสำนักงานใหญ่โทร ขอคะแนน 10 เต็ม ไม่มีแล้วครับ!
โดยสรุป พอใจกับศูนย์บริการนี้ ไปศูนย์บริการหลักๆที่ผมต้องการก็แค่ แอร์เย็น ทำตามสั่ง งานเรียบร้อย รอไม่นาน และสามารถลงไปดูรถได้ตลอดเวลา
ก็ได้ตามนั้น แม้จะช้ากว่ากำหนดไป 1 ชั่วโมง สิ่งที่อยากให้ศูนย์ปรับปรุงก็อย่างที่กล่าวไป ในวันที่เสาร์อาทิตย์
ช่างควรจะอยู่บริการให้เพียงพอ ควรประมาณการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเป็น 2 ชั่วโมงน่าจะดีกว่า เพราะผมทำเองที่บ้านก็ประมาณนั้นครับ และที่สำคัญกรวยเติมน้ำมันเครื่องขอสะอาดๆหน่อยนะครับ มันดำเหลือเกินครับ
ถ้าให้เทียบกับคราวก่อน พนักงานบริการตัอนรับมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดครับ
เหมือนมีผ่านการอบรมมาใหม่ ทำงานเป็นขั้นเป็นตอน และมีการแนะนำประวัติการทำงานด้วย
สร้างความน่าเชื่อถืออะไรประมาณนั้นครับ
แต่ที่พอใจก็คือ ไม่มีการแนะนำแต่ไม่มีการบังคับ นั่นเป็นสิ่งที่ดีครับ
สุดท้ายพนักงานต้อนรับ แจกแจงรายละเอียด ตรวจเช็คความเรียบร้อย ส่งลูกค้า เป็นคนคนเดียวกัน
ดูทำงานเยอะและเหนื่อยไปหน่อยครับ ลูกค้าเยอะ แต่ก็ดูแลได้ทั่วถึงครับ