เหนื่อยใจครับกับการเมืองยุคนี้
ประหยัดไว้ดีสุดครับ เพราะอีก4-5ปี เราประชานิยมกันมาก
จนต้องกู้เงินนอกประเทศมาใช้ สุดท้ายล่มจมแบบอาเจนตินา
ตอนนี้พยายามใช้สอยอย่างประหยัด ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน
วันนั้นมาถึงคงมีคนเดือดร้อนกันทั่วแผ่นดิน ส่วนตระกูลร่ำรวย
คงไปเสวยสุขอยู่ ตปท. พวกเรานี่แหละรับกรรมเต็มๆ
อย่าประมาทครับพี่น้อง
ปล. ผมไม่สังกัดสีใดนะครับผมสีไตรรงค์
เทอดทูนและสำนึกในบุญคุณสถาบันกษัตริย์ที่ทำให้เรามีประเทศเป็นปึกแผ่นมาถึงทุกวันนี้
เหมือนกันผมคนหลากสีครับ อย่ามองเป็นการเมือง ให้มองเป็นการเรือนแทนจะได้ไม่เครียด
ผมก็เห็นด้วยกับ จขกท.นะครับ เพราะคำว่าโอนกรรมสิทธิ์ แปลว่าเราซื้อสด หรือปิดไฟแนนท์....
ปัญหาคือ คนที่ซื้อรถราคาต่ำกว่า 1,000,000 สักกี่คนครับที่จะได้สิทธิ์นี้ เพราะมันต้องเป็นรถคันแรกด้วย???
รถคันแรก และต้องเป็นรถใหม่ด้วย...เพราะอ่านจากข้อมูลมันคือภาษีสรรพสามิต แล้วรถเก่าหล่ะได้มั๊ย?
รถคันแรกแต่รถเก่า รถมือสองน่ะ? คาดว่าไม่ได้.....
แล้วถามต่อว่า คนที่เพิ่งจะเริ่มทำงาน และหรือ เริ่มมีรถคันแรกเนี่ย แล้วไม่ต้องกู้มาซื้อเนี่ย จะมีสักกี่คนหล่ะครับ
ไหนจะเงินเดือนไม่ได้เยอะ ดาวน์ได้ต่ำ ผ่อนหลายปี มันก็หมดสิทธิ์ไปแล้ว
ส่วนคนที่ได้สิทธิ์ คือคนที่มีเงินเก็บเยอะระดับหนึ่ง(ซื้อรถคันเกือบล้านด้วยเงินสด) ถามตรงๆว่า เจ้าของรถที่เพิ่งเริ่ม
ทำงานหรือเพิ่งซื้อรถคันแรก จะมีเงินเก็บเยอะขนาดนั้นหรือ? ผมว่าก็อาจจะต้องเรียกว่าเป็นเงินเก็บที่บ้านมาซื้อดีกว่า
เงินจากพ่อแม่ผู้ปกครองอะไรก็ตาม
และหรือ บ้านรวยอยู่แล้ว เลยไม่จำเป็นต้องผ่อน ซื้อสดเลย
สรุป โครงการนี้ ช่วยคนรวยมากกว่าคนจนครับ ง่ายๆเลย
และนโยบายนี้จริงๆเหมือนให้ประชาชนที่มีเงินออมที่อยากได้ได้รถในส่วนลดแบบนี้ต้องเอาเงินออกมาซื้อ
โดยแท้จริงแล้ว รถคือสิ่งที่มันลดมูลค่าลงเรื่อยๆ แต่เงินออมสามารถนำมาเพิ่มมูลค่าได้จากการลงทุนครับ
วิธีคิดแบบนี้ไม่ได้มีส่วนช่วยโดยตรงกับคนที่อยากได้รถใหม่และเป็นผู้เริ่มชีวิตการทำงาน หรืออะไรใหม่ได้เลย
ตอบโจทย์ไม่ได้เลย ผมวิเคราะห์ด้วยเหตุและผลนะครับ
ปล. รถคันแรกไม่เกิน 1,000,000 ถ้าเป็นคุณพ่อคุณแม่ผมซื้อ ก็ไม่ได้อีกเพราะมีรถคันแรกเมื่อสิบกว่าปีก่อนแล้ว....
นโยบายมันค้านกับความเป็นจริงส่วนช่วยเหลือค่ายรถค่ายใดหรือเปล่าอันนี้ผมตอบแทนไม่ได้
เพราะทุกค่ายก็อยากได้ประโยชน์ไม่เฉพาะโตโยต้าหรอก
เชื่อผมสิ