Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: sith(สิทธิ์) ที่ พฤษภาคม 05, 2018, 10:27:56
-
ตามหัวข้อเลยครับ การฟอก(น้ำมัน)เกียร์น่าทำไหมครับ มันสะอาดจริงไหม
ต่างจากการ Flushing ไหมครับ ขอความรู้หน่อยครับ
-
ผมใช้เปลื่ยนทุกปีครับจำง่ายดี 8) นมค ก็ทุก 6เดือน ใช้ของธรรมดาptt เน้นเปลื่ยนบ่อยๆเอา
-
ถ้าหมายถึงร้านลุง... ที่ชอบพิมพ์เล่าเรื่องยาวๆ
การฟอกน้ำมันเกียร์ที่เขาทำ ก็คือ เอาน้ำมันเกียร์เก่ามาวนผ่านกรองผ้า ใช้หลักการเหมือนกรองละเอียด เพื่อกรองตะกอนกับเศษเหล็กออกไป ก่อนที่จะวนน้ำมันที่ผ่านการกรองแล้วกลับเข้าเครื่อง แล้วก็ฟลัชตามปกติ
เป็นนิยามที่กำหนดใหม่ ใช้เพื่อการโฆษณาว่าฟอก แต่อาจจะได้ผลหรือไม่... สิ่งสกปรกอาจจะออกมากกว่าปกติก็ได้ครับ ถ้าความละเอียดกรองผ้ามากเพียงพอที่จะกรองเศษโลหะพวกนั้น ผมก็จำไม่ได้ว่ากี่ไมครอน ถามข้อมูลแกดู
ที่ต้องระวังกับร้านนั้น ก็คือ เกรดน้ำมันเกียร์ที่ใช้และอธิบายยืดยาวเกี่ยวกับมาตรฐาน มันเหมาะกับรถของท่านจริงๆ หรือไม่ แต่ร้านนั้นก็ไม่ได้ปิดโอกาสในการหิ้วของเหลวที่ต้องใช้ไปเอง ลองคำนวณดูอีกทีละกันครับ อาจจะคุ้มก็ได้
-
สำหรับผม เอาง่ายๆ ถ้ารู้ถึงคราวต้องมีการฟอกหรือกรองน้ำมันเกียร์แล้ว นั่นแสดงว่าถึงคราวต้องเปลี่ยนแล้ว ยอมเสียแพงกว่าแต่ได้ของดีกว่า เผลอๆ อาจได้ เปลี่ยนเกียร์เร็วขึ้นกว่าปกติก็ได้
-
เปลี่ยนน้ำมันกับเปลี่ยนกรองเกียร์มันก็ใหม่แทบจะทั้งระบบแล้วนะ
น้ำมันเกียร์เปลี่ยนทุก 4 หมื่น 8 หมื่นเปลี่ยนกรองด้วยเท่านี้น่าจะพอแล้ว
-
ผมก็ไปฟอกมาครับ
หลักการฟอก ก็ตามที่ท่านแมวดราม่า ว่ามา และก็น่าจะเป็นร้านเดียวกันด้วย 555
เรื่องน้ำมันเกียร์ ก็มีหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ เช่น AISIN LIQIU MOLY อื่นๆ ( สังเคราะห์ )
รถผม ถ้าถ่ายที่ศูนย์ น้ำมันเกียร์ของศูนย์ใช้ MOBIL ATF 3309 เป็นกึ่งสังเคราะห์ ถ่าย 3 ลิตรกว่า (เบิก 4 ลิตร เหลือนิดหน่อย ) เกียร์จุน้ำมัน 10.7 ลิตร
ผมเลือกน้ำมันเกียร์ AISIN เพราะเกียร์รถผมก็ AISIN
ความรู้สึกหลังจากฟอกผมและเพื่อนๆ อีก 5 คัน เห็นตรงกันว่า เกียร์ตอบสนองไวขึ้น เร่งดีขึ้นนิดนึงครับ
-
ผมว่าเปลืองครับ
เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียรซักครั้ง แล้วเอาไปวิ่งซักหมื่นโลค่อยถ่ายอีกทีนึงดีกว่า
ซักครั้ง สองครั้งก็ล้างได้ทั้งระบบแล้วครับ ฟลัชชิ่งใช้น้ำมันเกียรเยอะเกินไป
ถ้าไม่ใช่รถเก่าจริงๆไม่น่าทำครับ
-
ผมว่าเปลืองครับ
เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียรซักครั้ง แล้วเอาไปวิ่งซักหมื่นโลค่อยถ่ายอีกทีนึงดีกว่า
ซักครั้ง สองครั้งก็ล้างได้ทั้งระบบแล้วครับ ฟลัชชิ่งใช้น้ำมันเกียรเยอะเกินไป
ถ้าไม่ใช่รถเก่าจริงๆไม่น่าทำครับ
ลองเอา โค๊ก( สมมุตเป็นน้ำมันเกียร์ที่ผ่านการใช้งาน) 1 ลิตร เทออก 30%
เติมน้ำเปล่า(สมมุตเป็นน้ำมันเกียร์ใหม่)เข้าไปแทน 300 cc เขย่าให้เข้ากัน
เทออก 300 cc เติมน้ำเปล่าเข้าไป 300cc เขย่าให้เข้ากัน เทออก... เติมน้ำ...
ถ้าทำ 4 ครั้ง ครั้งละ 300 cc ใช้น้ำเปล่าไป 1200cc
คิดว่า โค้กในขวด 1000cc จะถูกถ่ายออกมาจดหมดหรือไม่ครับ
-
รู้เลยอ่านรายงานยาวๆที่ไหนมา555
-
เปลี่ยนธรรมดาบ่อยๆดีกว่า
-
เปลี่ยนธรรมดาบ่อยๆ ดีกว่าครับ
-
เคยอ่านอยู่ ตอนฟอกก็ปล่อยน้ำมันเข้าเครื่องแล้วสตาร์ทรถใส่เกียร์ไปด้วยดูล้อหมุนช้าแกบอกเพราะน้ำมันสกปรกพอฟอกเสร็จปิดเครื่องฟอกโห!!ล้อหมุนเร็วแล้วแสดงว่าน้ำมันสะอาด ผมนี่5555ก็unlikeเลย
โทรไปคุยแกก็ยืนยันว่าต้องทำทุกสองหมื่นโลเท่านั้น ห้ามเชื่อคู่มือเด็ดขาด โอ้ยใครจะไปทำไหวบ่อยขนาดนั้น
-
เคยอ่านอยู่ ตอนฟอกก็ปล่อยน้ำมันเข้าเครื่องแล้วสตาร์ทรถใส่เกียร์ไปด้วยดูล้อหมุนช้าแกบอกเพราะน้ำมันสกปรกพอฟอกเสร็จปิดเครื่องฟอกโห!!ล้อหมุนเร็วแล้วแสดงว่าน้ำมันสะอาด ผมนี่5555ก็unlikeเลย
โทรไปคุยแกก็ยืนยันว่าต้องทำทุกสองหมื่นโลเท่านั้น ห้ามเชื่อคู่มือเด็ดขาด โอ้ยใครจะไปทำไหวบ่อยขนาดนั้น
เอ้อ เรื่องล้อหมุนเนี่ย ผมถึงแทบจะทะเลาะกะเพื่อนเลยนะ
ไปเชื่ออะไรกะกิมมิคการขายแกขนาดน้านนนน ไปสนใจสิว่ามันกรองแล้วสะอาดกว่าฟลัชปกติมั้ย โธ่... สาระมันอยู่ตรงนั้น แค่นั้น
แต่แอดมินเว็บแกเล่าเพลินจริงๆ นะครับ ยาวเป็นฟิคตอนนึงเลย เวลาโพสต์แต่ละที ฮ่าๆ
-
เปลี่ยนธรรมดาบ่อยๆดีกว่า
+1
-
จริงมันดีทั้งสองวิธีแหล่ะครับ หลักๆผมว่าขึ้นกับราคา ถ้าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทีละหกเจ็ดพัน (ยุโรป) ฟอกพันกว่า ก็ทำสลับกันได้ ยืดอายุการเปลี่ยน แต่รถญี่ปุ่นเปลี่ยนครั้งละพันห้า แล้วจะไปฟอกทำไม ฟอกยังไงมันก็คือของเก่ากรองเศษออก คุณสมบัติในเนื้อน้ำมันยังไงก็ไม่เต็มร้อยเหมือนของใหม่ (ถ้าถ่ายออกเกลี้ยงๆหน่อย)
-
โดยหลักการผมว่าดีนะ
แต่ขายของยังไม่เก่ง
เขียนยาวไป
-
ไม่ดี เปลื้องเงินโดยใช่เหตุ คุณสมบัตินมก เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
เปลี่ยนนมก ไปเลยจะดีกว่า ถ้าทำได้ก็ฟลัชทั้งระบบ 100%
-
ร้านไหนเหรอคะ
-
ไม่ดี เปลื้องเงินโดยใช่เหตุ คุณสมบัตินมก เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
เปลี่ยนนมก ไปเลยจะดีกว่า ถ้าทำได้ก็ฟลัชทั้งระบบ 100%
ฟอก ของร้านนี้คือ เอาน้ำมันเกียร์เก่า ผ่านไส้กรองก่อน แล้ววนกลับเข้าไปในเกียร์เพื่อดึงตะกอนสกปรกจากเกียร์ มาผ่านกรองไปเรื่อยๆ
แล้วปิดท้ายด้วยการใส่น้ำมันเกียร์ใหม่ เข้าไปจนเต็มความจุของเกียร์ครับ
(https://scontent.fbkk2-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/24067851_1944885612504241_6232703208230140212_n.jpg?_nc_cat=0&oh=cceaf0ef7712f2dae3c5df708b8ee06a&oe=5B586567)
-
ผมไปลองมาแล้ว ร้านชื่อดังที่ชอบเขียนบทความยาวๆนั่นล่ะครับ
เอาปาเจโร่ไปเปลี่ยน นมก 50,000 โล ที่อยากลองเพราะศูนย์ไม่รับเปลี่ยน จะให้ไปเปลี่ยนตอน 1 แสนโลทีเดียว ซึ่งผมไม่อยากรอนานขนาดนั้น
เท่าที่ดู ร้านเขาก็เอาเครื่องมาต่อสายเข้ากับชุดเกียร์ สตาทร์เครื่อง เข้าเกียร์ D ให้ล้อหมุน
นมก เก่าก็จะถูดดูดออกมาผ่านเข้าเครื่องกรอง แล้ววนกลับเข้าไปในชุดเกียร์ใหม่ ให้ นมก ที่ผ่านการกรอง
เข้าไปทำความสะอาดภายในชุดเกียร์
หลังจากนั้น เขาก็จะเอา นมก ของใหม่มาต่อเข้ากับเครื่อง ให้เครื่องดูด นมก ของใหม่เข้าไปแทนที่ของเก่า เป็นอันเสร็จกระบวนการฟอกเกียร์
ผมลองขับหลังจากเปลี่ยน นมก แล้ว มันก็... แทบไม่ต่างจากของเดิม อาจเป็นเพราะ นมก ของเดิมก็ยังค่อนข้างใสอยู่ ตัวรถก็ปกติดี ไม่มีอาการผิดปกติอะไร ไม่มีไฟเตือนขึ้น ขับมา 5,000 กว่าโลหลังเปลี่ยนก็ยังปกติดี
ข้อดีของร้านนี้
- เปลี่ยน นมก ไม่ต้องเปิดอ่าง
- เครื่องฟอก ใช้ตัวกรองละเอียดมาก ระดับไมครอน(เจ้าของร้านบอกมาแบบนี้)
- มี นมก ให้เลือกเยอะ
- ราคาเปลี่ยนรวมค่าแรง เทียบกับศูนย์แล้ว พอๆกัน
- มีการรับประกันเกียร์ให้
ข้อควรสังเกตุ (จริงๆอยากบอกเป็นข้อเสียนะ)
- การฟอก ใช้หลักการวนของ นมก เก่าออกมากรองแล้ววนกลับเข้าไป
- การเติม นมก ใหม่ ใช้หลักการเติมของใหม่เข้าไปแล้วดัน นมก ชุดเก่าออกมา
เพราะขั้นตอนนี้ เจ้าของร้านไม่ดับเครื่อง ให้เกียร์ทำงานตลอดเวลา (จะรู้ได้อย่างไรว่า นมก ในชุดเกียร์เป็นของใหม่ 100%)
- เจ้าของร้านบอก ต้องเปลี่ยนถ่าย นมก ทุก 20,000 โล (มันน้อยไปไหม นมก ที่แกใช้ก็เกรดดีๆทั้งนั้น)
รอบหน้า ผมคงเปลี่ยนแบบเปิดอ่างพร้อมเปลี่ยนกรองทีเดียว เปลี่ยนถ่ายแบบปกติดีกว่าครับ
ใช้เครื่องฟอกแบบนี้ ของร้านนี้ รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร
กลับไปใช้ระบบเปลี่ยน นมก อย่างเดียวทุก 4 หมื่นโล
เปลี่ยน นมก พร้อมกรองเกียร์ ทุก 8 หมื่นโลดีกว่า
-
เปลี่ยนน่าจะโอเคและง่ายกว่าฟอกนะครับ 8)
-
ฟอกดีจริง แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนกรอง ก็พอใช้ได้
แต่ผมว่า เปิดอ่างถ่าย และเปลี่ยนกรองดีกว่า ง่ายกว่านะ
-
ขอความกรุณาอย่าว่าผมนะครับ ผมใช้แอคคอร์ด 2.4 2013 ผมเปลี่ยนพร้อมนำ้มันเครื่องทุกรอบที่10000 กม.
เพราะอะไรถึงเปลี่ยนเร็ว บ้านผมใช้แอคคอร์ดมา 5เจน คันนี้เป็นคันที่6 เจน4-5 ผมเียร์พังที่70000 ทั้งคู่
ผมขับรถค่อนข้างโหด คือ ลากเกียร์และชิฟท์ดาวน์บ่อย และขับเร็ว มุด
พอคันนี้ผมเลยอยากลองประกอบกับเช็คค่านำ้มันเกียร์บวกค่าแรง ผมรับได้ ราวๆ 6-700 บาท แต่ถ่ายได้แค่3ลิตรนะครับ ตอนนี้รถผมเกียร์ยังนิ่ม ลื่นไหล ไม่กระตุก ขณะที่วิ่งไป 90000กว่า ใกล้แสนแล้ว ขาดแต่ไม่ได้เปลี่ยนกรองแค่นั้น นำ้มันเกียร์ถ่ายออกมาไม่เคยมีเศษ หรือดำเลย ถึงจะถ่ายได้ไม่หมด แต่ก็ได้เกือบครึ่งครับ