Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Pan Paitoonpong ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2016, 16:24:07
-
Subaru ฉลองครบรอบวาระ 3 ปีของ XV ในประเทศไทยด้วยการปิดกลบจุดที่เราเคยตำหนิ ใน XV รุ่นแรกที่เปิดราคามา 1.35 ล้านแต่ให้ภายในมาดูแล้วไม่ต่างจากรถราคา 8 แสนบาททั้งที่ความจริงอุปกรณ์ก็ไม่ใช่น้อย..ภายในนั้นดูดีขึ้น เรียกได้ว่าอีกนิดเดียวก็จะดูหรูเท่า Levorg ได้แล้ว จอกลางบนเปลี่ยนเป็นจอแบบเดียวกับ Levorg/WRX หน้าปัดเปลี่ยนโทนสีใหม่ พวงมาลัยดูหรูขึ้น คันเกียร์โคนหุ้มหนัง ช่องแอร์ล้อมกรอบด้วยสีเงิน วัสดุ Gloss-black ถูกนำมาใช้ตกแต่งแดชบอร์ด เบาะนั่งฝั่งคนขับเป็นไฟฟ้า แม้จะเป็นรายละเอียดส่วนปลีกย่อย แต่ภาพรวมออกมาดูแล้วสมกับราคาดีขึ้น...หรือเปล่า เพราะได้ข่าวว่าราคาในปี 2016 จะขึ้นอีก 70,000 บาท ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงอาจจะขอถอนคำพูดนะ
XV Minorchange ใช้เครื่องเดิม พวงมาลัยเพาเวอร์ไฮดรอลิกเหมือนเดิม (สำหรับสเป็คอาเซียน-ญี่ปุ่นจะใช้ไฟฟ้า) เกียร์ CVT ก็นิสัยเดิม พอเจอรถติดหนักๆนานๆมากแล้วออกวิ่งจะมีหอนเบาๆ (ไม่ดังแบบ Swift) เวลากระแทกออกตัวจะมีอาการอมๆไว้ที่รอบ 2,500 ค่อนข้างนานทำให้เสียจังหวะเรื่องอัตราเร่ง ขนาด X-Trail 2.0 ที่ตัวโตกว่าและหนักกว่าราว 100 โลยังสามารถออกตัวไล่ฆ่า XV ได้สบาย..ก็เพราะเกียร์นั่นแหละครับ เกียร์ของ X-Trail รวมถึง HR-V สามารถจับและปล่อยพลังยามกระแทกคันเร่งได้ดีกว่า XV อย่างเห็นได้ชัด
แรงเครื่องก็เหมือนเดิม ทำเป็นแตะๆจะดูเหมือนพุ่ง แต่พอกดจริงต้องรอ 4,000 รอบถึงจะรู้สึกดึง อัตราเร่งเทียบได้กับรถบ้าน B-Segment 1.5 ลิตรหรือ C-Segment 1.6 ลิตร มันไม่ได้แรงอะไรนัก แค่เอาไว้พึ่งพายามเดินทางได้และไต่เนินชันแบบไม่ต้องมานั่งถามว่าขึ้นดอยนั้นดอยนี้ได้ไหม
การเก็บเสียงในรถคันนี้รู้สึกว่าหลัง 120 จะดัง แต่ไม่ดังเท่า CX-5 เสียงลมดังมาจากการกรีดอากาศผ่านกระจกมองข้างและหูช้าง เอามือแตะกระจกตรงนั้นรู้เลยว่าลมตีแรงกว่าส่วนอื่น
เบาะนั่งยังเป็นจุดเด่นที่สบาย รองรับส่วนทวารหนักผมได้ค่อนข้างเต็ม มันไม่ใช่เบาะกึ่งบัคเก็ตซีทแบบ WRX ดังนั้นเวลาเทโค้งจะไม่ค่อยโอบตัวเท่าไหร่ แต่ก็แลกมาด้วยความสบายทั้งตัว หลัง, หัว, ไข่,ไหล่, ตูด พนักพิงศรีษะสามารถปรับองศาการดันได้ พวงมาลัยปรับสูงต่ำ-เข้าออกได้ครบ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้การขับสบายเป็นบ้า
เบาะนั่งนี่ล่ะคือส่วนหนึ่งที่ผมว่ามันเป็นจุดเด่น และทำให้ผมเอ็นจอยที่จะขับรถคันนี้ไปไหนไกลๆก็ได้ที่ใจอยากไป
ช่วงล่างเป็นจุดเด่นที่ชื่นชมมาตลอด และยังชื่นชมต่อไป ด้วยความนุ่มเวลาขับในซอยที่กระชับกำลังดี สบายกว่า CR-V Gen 3 ของพ่อผมเสียอีก พอวิ่งทางตรงก็มั่นคงแม้จะวิ่งไป 160-170 บาลานซ์ของตัวรถดีมากเมื่อมองว่าบอดี้สูงกว่ารถเก๋ง การเบรกและโยกหลบแรงๆที่ 120 กม./ชม.นั้น XV ทำได้เหมือนเป็นเรื่องธรรมดาโดยไม่มีระบบอิเล็กทรอนิกส์ใดๆทำงานเลยด้วยซ้ำ มีแต่เสียงยางหน้าร้องนิดๆ
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายเล็ก สเป็คไทยจุแค่ 310 ลิตร ใส่ถุงกอล์ฟ 118cm หัวอ่อนไปตามขวางได้ แต่ไม่เหลือเนื้อที่อะไรมากนัก มองซะว่าด้านท้ายรถจุเท่ารถเก๋งแฮทช์แบ็ค
ถ้าเทียบกับ HR-V แล้ว ทาง Honda ยังดูหรูหราทันสมัยกว่า ของเล่นเพียบทั้งคัน แถมมีระบบ Brake Hold นั่นคือจุดเด่นที่ Honda ชนะเพราะเวลาอยู่ในเมืองมันหรู สบายเท้า พื้นที่ในห้องโดยสารส่วนขามากกว่านิด และนุ่มพอ แต่ถ้ารถเริ่มเคลื่อนตัวเมื่อไหร่ ช่วงล่างของ XV ชนะ HR-V ขาดในทุกสภาพถนน ยิ่งเร็วก็ยิ่งต่างกันแบบคนละเรื่อง ดังนั้นถ้าให้แนะนำ พวกคนที่ชอบขับรถทางไกลเป็นชีวิตจิตใจ แถมชอบวิ่งในทุกสภาพอากาศแล้วยังขับช้าๆไม่เป็น XV น่าจะช่วยให้การเดินทางสนุกและมั่นใจมากกว่า แต่ถ้าอยู่ในเมืองตลอดปี เดินทางไกลๆแค่เดือนละครั้ง ขับไม่เร็ว แบบนั้น HR-V ก็จะตอบโจทย์ได้มากกว่า
ส่วนใครที่ชอบรถใต้ท้องสูงกว่าปกติ ไม่ชอบให้ท้องครูด แต่อยากได้รถที่ช่วงล่างดีใกล้เคียง XV มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ คุณลองไปดู CX-3 ซึ่งช่วงล่างดีกว่าที่ผมคาด และแรงสั่งได้ สนุกสะใจ แต่ไม่มีขับสี่ และอย่าหวังอะไรกับเนื้อที่และความเอนกประสงค์
https://www.youtube.com/watch?v=51mpS_Du5BE
https://www.youtube.com/watch?v=JW0hQJNrr1g
-
ผมเคยเล็ง รุ่น ต่ำสุด 9XXXXX บาทไว้
พอ หาเงินมาได้ ยกเลิก เหลือแต่รุ่น 1XXXXXX
เลยไม่ได้คู่กัน
-
อยากได้มากกก เล็งมาสักพักตัว 998,000 แต่ติดที่ภายในไม่สวย
พอ MC ตอน Motor expo สวยจบ ชอบสุดๆ แต่ขึ้นมา 100,000 เป็น 1098,000 ยังกัดฟันรับได้
ทั้งๆที่ไม่มีอะไรเพิ่มมา เปลี่ยนแค่สีด้ายเบาะ พวงมาลัยทรงใหม่ และจอสัมผัสหาย และดอกเบี้ย แพงยับ
รับรถเมษา 59 พอกำลังจะจอง เดือนนี้กุมภาพันธ์ ขึ้นอีก 70,000
คืออัลไร เปิดตัวยังไม่ส่งมอบ พี่ท่านขึ้นอีก 70,000 รวมขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก = 170,000
ผมเชื่อว่าราคาภาษีใหม่ 59 ทาง Motor image คิดแล้ว รวมแล้ว ตอนเปิดตัว MC เมื่อ Motor expo
แต่พอเห็นค่ายอื่นๆ กล้าขึ้นราคากัน 0-100,000 หรือมากกว่า กูเอามั้ง ฟันกำไรเยอะๆ
เสียใจ XV เราคงไม่มีวาสนาจะต่อกัน
-
ผมซื้อมาตอน 1.35 ล้าน ไม่รู้จะบ่นไรแว้ว :-\
-
คืออัลไร เปิดตัวยังไม่ส่งมอบ พี่ท่านขึ้นอีก 70,000 รวมขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก = 170,000
ผมเชื่อว่าราคาภาษีใหม่ 59 ทาง Motor image คิดแล้ว รวมแล้ว ตอนเปิดตัว MC เมื่อ Motor expo
แต่พอเห็นค่ายอื่นๆ กล้าขึ้นราคากัน 0-100,000 หรือมากกว่า กูเอามั้ง ฟันกำไรเยอะๆ
งงเหมือนกันครับ รุ่น Minorchange เปิดตัวในงาน MotorExpo แต่ส่งมอบได้
หลังปีใหม่ ก็นึกว่าตั้งราคามารวมอัตราภาษีใหม่แล้ว เลยไม่คิดว่าจะขึ้นอีก 70,000 แหนะ
เดี๋ยวรอดูใบราคาอย่างเป็นทางการอีกที ถ้าขึ้นนี่แพงเกินไปมั้ยยยย
-
คืออัลไร เปิดตัวยังไม่ส่งมอบ พี่ท่านขึ้นอีก 70,000 รวมขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก = 170,000
ผมเชื่อว่าราคาภาษีใหม่ 59 ทาง Motor image คิดแล้ว รวมแล้ว ตอนเปิดตัว MC เมื่อ Motor expo
แต่พอเห็นค่ายอื่นๆ กล้าขึ้นราคากัน 0-100,000 หรือมากกว่า กูเอามั้ง ฟันกำไรเยอะๆ
งงเหมือนกันครับ รุ่น Minorchange เปิดตัวในงาน MotorExpo แต่ส่งมอบได้
หลังปีใหม่ ก็นึกว่าตั้งราคามารวมอัตราภาษีใหม่แล้ว เลยไม่คิดว่าจะขึ้นอีก 70,000 แหนะ
เดี๋ยวรอดูใบราคาอย่างเป็นทางการอีกที ถ้าขึ้นนี่แพงเกินไปมั้ยยยย
คือ ลูกค้าที่จอง ช่วงงาน Motor Expo จนถึง วันที่ 31 ม.ค. 59 จะได้ราคาเดิม คือ 1,098,000-1,198,000
พร้อมกับ แคมเปญเบาหวิวว เหมือนแทบจะไม่แถมอะไรเลย แม้แต่ประกันภัยชั้น1
ส่วนลูกค้าที่จอง หลังจากปรับราคา ผมเชื่อว่าแคมเปญ คงจะดีกว่าเดิมครับ ก็รอดูครับผม
-
ผมว่าตอนนี้ราคาแพงจนไม่น่าสนใจแล้วล่ะครับ
ตอนนี้ XV iP ราคาปาเข้าไป 1,268,000 แล้ว Forester CKD มีข่าวว่าจะเปิดราคามา 1.4 ล้าน
ถ้าราคามาตามข่าวลือจริงเป็นผมผมไป Forester ไม่คิดเลยครับ
-
ราคามาแบบนี้กับออปชั่นเพิ่มแค่นี้เซลล์ยังบ่นให้ผมฟังเลยครับว่าขายยาก
-
จากแฟนบอยซูบารุ ปัจจุบันมีอยู่สองคัน บอกเลยเลิกซื้อแล้วตราบใดที่บริหารงานโดย. TC Motorimage ปัญหาเยอะมากซึ่งไม่ได้มาจากตัวรถเลย มาจากคนล้วนๆ. บางเคสพอๆกับ Chev Ford
ซื้อมือสองเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ามาก. อู่นอกเก่งกว่าศูนย์อีก รถผมไปศูนย์เสรีไทยสามสี่รอบไม่หายไปอู่ที่ติดกับอ่างอบนวดแถวคลองตันทีเดียวหาย ไหนจะเรื่องน้ำมันเครื่องอีก.... เยอะ
เรื่องตั้งราคาเหมือนคนขาดความมั่นใจ ลักปิดลักเปิด
-
จะมีแววลดราคาเหมือนกับตัวก่อนหน้านี้ใหมน่ะ
-
พอเริ่มขายดีหลังจากใช้กลยุทธ์ด้านราคามาสร้างกระแส
มาตอนนี้เริ่มขึ้นราคากลับมาใหม่
สรุป ราคาแปรผันตามความต้องการ
เดี๋ยวพอเริ่มขายไม่ดี จะลดราคาใหม่มั้ยนะ 555
-
เปลี่ยนน้อยมากๆ แต่ก็ดูดีขึ้น
-
รถเทพปี 2012 พอมี HR-V กับ CX-3 เข้ามา กลายเป็นรถที่มีดีแต่ช่วงล่างเป็นหลักเลยแฮะครับ แพงด้วย เดี๋ยวต่อไปมี MG GS มาอีก หนักหน่วงจริงๆ ตลาด B Crossover ราคาไม่เกินล้านต้นๆ นี่
-
ราคาไม่น่าคบ
-
ผมซื้อทัน 998000 :-* :-* :-*
ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีครั้งนึง
-
ไม่เข้าใจว่าไมเนอร์ทั้งที ไม่เพิ่มออพชั่นความปลอดภัย
แค่ถุงลมข้าง กะม่านก็ยังดี ช่วงล่างดี อัตราเร่งพอใช้ กินไปนิด
มีลูกเล่นเพิ่มแล้ว ขอแค่ถุงลม ก็ไม่ให้......
-
ขยับราคาโหดดีนะ 100,000 + 70,000
ขายดีก็งี้แหละ แต่เดวคงรู้ผล
-
แอบขัดใจเรื่อง option นี่ละครับ
-
อยากทราบความเห็นท่านแพนครับ
ถ้าอยากซื้อมาแล้วโมต่อ
ขอ0-100สัก8กลาง
ท้อปไม่ต้องเพิ่ม
เครื่องเดิมเกียร์เดิม จะมีแนวทางไหนมั้ยครับ
เอาเป็นว่าขอ4ปีไม่พอใจหลังจากนั้นขายทิ้ง
เรื่องกินน้ำมันเฉยๆ
เอาแบบไม่กินข้าวลิงพอ
-
ถ้าตัวล่างเริ่มต้นที่ 1.1 ล้านกว่าๆ ตามที่ลือกัน
ผมว่ายอดคงเทไปที่ HRV CX3 มากขึ้น เพราะตัวรองท็อป ออฟชั่นก็หนี XV ไปไกลแล้ว
แถมราคาแพงกว่ากันสองแสน
จะซื้อได้ ต้องใจรักจริงๆ เลย
-
รุ่นนี้ผมติอย่างเดียวว่าเครื่องมันไม่ค่อยแรง
ถ้าเราวางเครื่องซูบารุเทอโบซัก 200 แรงม้า นี่จะทำให้มันแรงเกินช่วงล่างไม๊
แล้วมันวางยาก หรือแค่ถอดนน๊อตเข้าออก ?
-
ในคลิบขาดวิจารณ์เบรกและพวงมาลัย
-
เทียบกับFocus 2.0 Gdi ใครยัดโค้งได้แรงกว่ากันครับ
-
XV ออกมาแรกๆนี่เจ๋งเลย แต่พอมาเจอคู่แข่งใหม่ๆนี่ เริ่มสู้ไม่ค่อยได้ซะแล้ว นี่ยังไม่รวมเรื่องราคาอีก :-\
คงต้องรอดู all new อย่างเดียว
-
ขอบคุณครับ :D
-
ขอบคุณคร๊าบ
-
ราคาที่เพิ่มขึ้นหลักแสน คงเพราะต้นทุน
1.จออัจฉริยะ (ของมันหายากใครๆในโลกนี้ก็ต่างแสวงหากัน)
2.DRL ที่เป็นรูปตัวแอล(จ้างดีไซร์ด้วยเงินมหาศาล)
ถือว่าคู่ควรกับแบรนด์ระดับโลก
-
ขอบคุณครับ
-
อยากทราบความเห็นท่านแพนครับ
ถ้าอยากซื้อมาแล้วโมต่อ
ขอ0-100สัก8กลาง
ท้อปไม่ต้องเพิ่ม
เครื่องเดิมเกียร์เดิม จะมีแนวทางไหนมั้ยครับ
เอาเป็นว่าขอ4ปีไม่พอใจหลังจากนั้นขายทิ้ง
เรื่องกินน้ำมันเฉยๆ
เอาแบบไม่กินข้าวลิงพอ
8 กลางดูแล้วน่าจะยากครับ ต้องแก้ที่ 2 จุดคือการจับส่งพลังของเกียร์ ตรงนี้ผมไม่รู้มีใครทำได้หรือเปล่า
ถ้าทำได้ ก็ยังมีปัญหาเรื่องการใช้ระยะยาวว่าอายุจะสั้นลงครับ ของเดิม 11 วินิดๆ ถ้าจะลดให้ได้ 2.5 วินี่
มันเหมือนความต่างระหว่าง Teana 2.0 กับ 2.5 เลย กล่าวคือคุณต้องมีแรงม้าเพิ่มราว 40 ตัว แรงบิด
ต้องเพิ่มอีกราว 30-40Nm (ถ้าจะไม่ทำอะไรกับเกียร์เลย) การ Reflash ผมเชื่อว่าเพิ่มม้าได้ราว 10 ตัว
ถ้าไม่เปลี่ยนประเภทเชื้อเพลิง (ไม่ใช่เอารถเดิมมาวัดม้า แล้วไปเติม E85 แล้วจูนแล้วได้ 20 ม้าแล้วบอกว่า
จูนอย่างเดียวเพิ่ม 20 ม้า..ไอ้ E85 นี่เพิ่มม้าได้ไม่ใช่ขี้ๆถ้าจูนลงตัว)
แต่ถ้าอยากได้ 10 วิถ้วน ผมว่าพอมีลุ้น Reflash เน้นกำลังที่ 4,000-6,000 น่าจะเพิ่มได้เพราะ
ธรรมชาติ Subaru ชอบปล่อยน้ำมันหนา (เข้าใจว่า Boxer จำเป็นต้องหนานิดๆเพราะลักษณะห้องเผาไหม้)
ถ้าลองวัด A/F ดูแล้วหนา ก็ลดน้ำมันลงหน่อย แต่ช่วงหลัง 5,700 รอบไม่ต้องลดน้ำมันมาก
ผมคิดว่าแบบนี้พอได้ หรือถ้าใจกล้ายัด E85 เลยแล้ว Reflash ด้วยนี่ม้าอาจจะเพิ่มได้ 15-20 ตัว
แล้วออกตัวโดยใช้ M Mode ผมว่า 9.5-10 วิถ้วนได้ครับ
ปล.
แต่ถ้าเป็นผม ผมไม่ทำอะไรนะ ถ้าต้องการเค้นพลังจริงๆใช้เกียร์ M ช่วย 0-100 จะดีขึ้น
ใช้ให้เบื่อๆสักพัก เก็บเงินรอหน้าตัด Levorg 2.0T มาลงเลยดีกว่า ผมเห็นในเพจไทยเรสซิ่ง
มีไปอู่ซูบารุ ทำอยู่คันนึง เอาของ Levorg มานอนใน XV หมด 450,000 บาท ผมงี้ตาลุกวาว
เจ๊ดเข้ XV หน้าตาเดิมล้อเดิม วาง 300 ม้า กับ CVT8 นี่มัน Sleeper ไทยแลนด์มากๆ
-
ในคลิบขาดวิจารณ์เบรกและพวงมาลัย
ลืมจริงๆ
เบรกระยะเหยียบสั้น กดมากได้มากกดน้อยได้น้อยสัมพันธ์ดี แรงเหยียบไม่ต้องเยอะแบบ WRX ก็เอาอยู่ ผ้าเบรกเฟดง่ายกว่า WRX
พวงมาลัยไม่ไวเท่า WRX น้ำหนักหน่วงมือโอเค กำลังดีขับในเมืองได้ ทางไกลไม่เครียด
เทียบกับFocus 2.0 Gdi ใครยัดโค้งได้แรงกว่ากันครับ
พอๆกัน ตัวรถ XV จะยวบมากกว่า แต่ Focus ด้านหลังจะเริ่มสไลด์ก่อน พูดง่ายๆคือเห็น XV มันตัวสูงๆแต่เวลาจะขับจะยัดอะไร ถ้าคุณเล่นโค้งกับรถมาหลายๆคันจนช่ำชองแล้ว คุณยัด XV เข้าเหมือนรถขับหน้าช่วงล่างยุโรปๆได้เลย แต่ถ้าเข้ามาแรงมากๆแล้วเบรกตรงก่อนจุดหักเลี้ยวแรงเกินไป ABS ของ XV จะทำงานก่อนและหน้าจะแถออกไปมากกว่านิดๆตามน้ำหนักของตัวรถที่ XV จะหนักกว่ามาก
-
อยากทราบความเห็นท่านแพนครับ
ถ้าอยากซื้อมาแล้วโมต่อ
ขอ0-100สัก8กลาง
ท้อปไม่ต้องเพิ่ม
เครื่องเดิมเกียร์เดิม จะมีแนวทางไหนมั้ยครับ
เอาเป็นว่าขอ4ปีไม่พอใจหลังจากนั้นขายทิ้ง
เรื่องกินน้ำมันเฉยๆ
เอาแบบไม่กินข้าวลิงพอ
8 กลางดูแล้วน่าจะยากครับ ต้องแก้ที่ 2 จุดคือการจับส่งพลังของเกียร์ ตรงนี้ผมไม่รู้มีใครทำได้หรือเปล่า
ถ้าทำได้ ก็ยังมีปัญหาเรื่องการใช้ระยะยาวว่าอายุจะสั้นลงครับ ของเดิม 11 วินิดๆ ถ้าจะลดให้ได้ 2.5 วินี่
มันเหมือนความต่างระหว่าง Teana 2.0 กับ 2.5 เลย กล่าวคือคุณต้องมีแรงม้าเพิ่มราว 40 ตัว แรงบิด
ต้องเพิ่มอีกราว 30-40Nm (ถ้าจะไม่ทำอะไรกับเกียร์เลย) การ Reflash ผมเชื่อว่าเพิ่มม้าได้ราว 10 ตัว
ถ้าไม่เปลี่ยนประเภทเชื้อเพลิง (ไม่ใช่เอารถเดิมมาวัดม้า แล้วไปเติม E85 แล้วจูนแล้วได้ 20 ม้าแล้วบอกว่า
จูนอย่างเดียวเพิ่ม 20 ม้า..ไอ้ E85 นี่เพิ่มม้าได้ไม่ใช่ขี้ๆถ้าจูนลงตัว)
แต่ถ้าอยากได้ 10 วิถ้วน ผมว่าพอมีลุ้น Reflash เน้นกำลังที่ 4,000-6,000 น่าจะเพิ่มได้เพราะ
ธรรมชาติ Subaru ชอบปล่อยน้ำมันหนา (เข้าใจว่า Boxer จำเป็นต้องหนานิดๆเพราะลักษณะห้องเผาไหม้)
ถ้าลองวัด A/F ดูแล้วหนา ก็ลดน้ำมันลงหน่อย แต่ช่วงหลัง 5,700 รอบไม่ต้องลดน้ำมันมาก
ผมคิดว่าแบบนี้พอได้ หรือถ้าใจกล้ายัด E85 เลยแล้ว Reflash ด้วยนี่ม้าอาจจะเพิ่มได้ 15-20 ตัว
แล้วออกตัวโดยใช้ M Mode ผมว่า 9.5-10 วิถ้วนได้ครับ
ปล.
แต่ถ้าเป็นผม ผมไม่ทำอะไรนะ ถ้าต้องการเค้นพลังจริงๆใช้เกียร์ M ช่วย 0-100 จะดีขึ้น
ใช้ให้เบื่อๆสักพัก เก็บเงินรอหน้าตัด Levorg 2.0T มาลงเลยดีกว่า ผมเห็นในเพจไทยเรสซิ่ง
มีไปอู่ซูบารุ ทำอยู่คันนึง เอาของ Levorg มานอนใน XV หมด 450,000 บาท ผมงี้ตาลุกวาว
เจ๊ดเข้ XV หน้าตาเดิมล้อเดิม วาง 300 ม้า กับ CVT8 นี่มัน Sleeper ไทยแลนด์มากๆ
ขอบคุณครับ
เครื่องlevorg 2.0t นี่ฟังดูน่าสนมาก
-
สนุกครับ เฮฮา+สาระ