Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: tongtoy ที่ มกราคม 03, 2013, 14:24:42
-
ตอนนี้ผมอยู่ปี 4 กำลังจะจบวางแผนว่าอีก 5-8 ปีข้างหน้าจะมาเปิดร้านประดับยนต์เพราะชอบทางนี้มากๆ แต่ผมไม่ค่อยมีความรู้ด้านนี้มากนัก
- พอจะมีหนังสือหรือนิตยสารแนะนำให้ผมอ่านเก็บความรู้ไประหว่างทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนได้ไหมครับ
- แล้วลงทุนใช้งบเท่าไหร่ครับ
(ถ้าเห็นไม่สมควรลบทิ้งได้เลยคับ)
ขอบคุณครับ ปล.มีอะไรนอกเหนือจากนี้ขอให้แนะนำด้วยครับจะขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
-
มีทุนและใจรักก็สามรถทำได้ครับ แต่ผมว่าเลือกมองทำร้านที่เป็นแบบเฉพาะไปเลยดีกว่า เช่นล้อยาง หรือ เครื่องเสียง หรือจะเป็นชุดแต่งหรือไฟก็แยกไปเลย
ส่วนหนังสือก็อ่านจาก นิตยสารทั่วไปนี้ก็ได้ครับ แต่เราต้องหาให้ได้ก่อนว่าชอบอะไร
-
ไปหัดงานร้านประดับยนต์ครับ แล้วอีก 4 ปีค่อยมาคิดใหม่ตลาดประดับยนต์เปลี่ยนแปลงเร็วครับ... โชคดีครับ
-
เริ่มแรกถ้าคิดจะลงทุนลองไปหาขายของแต่งรถตามตลาดนัดดูก่อนครับเอาเฉพาะเวลาว่างก็พอ เสาร์-อาทิตย์ ประมาณนี้ จากนั้นก็ซื้อรถแล้วหัดแต่งไปเรื่อยๆไม่ต้องเอาแพงนักนะครับเอารถนั่นแหละขนของไปขาย จากนั้นก็ต่อยอดไปเรื่อยๆเอา มนุษย์เงินเดือนมีข้อดีคือไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่มเพราะลงทุนกับการเรียนหมดแล้วและมีเวลาว่างกับวันหยุดเยอะสามารถจัดสรรมาทำงานเสริมได้ ตอนนี้คุณเรียนอยู่น่าจะทำเสริมได้สบายเลยครับ ผมเคยรู้จักคนนึงขายเสี้อผ้าที่ท่าพระจันทร์มีถุงเสื้อผ้าเป็นเหมือนกระสอบ 1 ใบหิ้วขึ้นรถเมล์ไปขายของรายได้ส่งตัวเองเรียนโดยไม่ได้พึ่งทางบ้านเลย
-
ใชช่วงวัยหนุ่มไฟแรง ก็ต้องการทำในสิ่งที่รักชอบ แต่ขอเตือนไว้อย่างหนึ่ง งานอะไรที่มีคู่แข่งเยอะ โอกาสประสบผลสำเร็จน้อยครับ ควรรอบคอบ ทำตามข้างบนคือเป็นเด็กในร้านอื่น(อย่าอาย) ก่อนดูว่าเราทำจะไหวหรือเปล่า แล้วค่อยตัดสินใจครับ
-
มีทุนและใจรักก็สามรถทำได้ครับ แต่ผมว่าเลือกมองทำร้านที่เป็นแบบเฉพาะไปเลยดีกว่า เช่นล้อยาง หรือ เครื่องเสียง หรือจะเป็นชุดแต่งหรือไฟก็แยกไปเลย
ส่วนหนังสือก็อ่านจาก นิตยสารทั่วไปนี้ก็ได้ครับ แต่เราต้องหาให้ได้ก่อนว่าชอบอะไร
เห็นด้วยกับตรงนี้ค่ะ เช่นเพื่อนเราทำร้านเคลือบสี เคลือบแบบใจรักนะคะ วันนึงรับได้ไม่เกิน 2-3 คัน
โหลูกค้าเยอะมาก คือ ต้องโทรจองคิว เพราะเขาเคลือบแบบมืออาชีพ ล้างทุกซอกทุกมุม ขัดเคลือบถ้ายังมีรอยอยู่
จะไม่ยอมส่งลูกค้าเลย คือ เวลาเขาตรวจสอบรอยเขาจะเอาไฟส่อง
สรุป คือ ทำเฉพาะทางดีกว่าค่ะ
-
ปัจจุบันผมอายุ 33ปี
ผมเริ่มทำธุระกิจประดับยนต์ เมื่อ 7 ปีที๋แล้ว ..
ทำเอง นำเข้าเอง โป๊ของเอง และ ติดตั้งเอง
แรกๆ ขายในเวป แล้วก็นัดติดตั้งนอกสถาน่ที่ ทำเรื่อยๆมา ...
แต่ปัจจุบัน ผมเก็บเงินจากประดับยนต์ กิ๊กๆก๊อกๆ รับทำข้างถนน...
ตอนนี้ผมเป็นเจ้าของดีลเลอร์รถยนต์ยี่ห้อนึงในกทม. มี 2 สาขา ... ยอดขายก็ไม่เป็นรองใคร
และ ผมก็ยังทำประดับยนต์ต่อ แต่ คราวนี้ไม่ได้ทำเองแล้ว ให้ลูกน้องทำ และเร้นขายส่งครับ
.... อยากทำ ทำเลยครับ
-
ปัจจุบันผมอายุ 33ปี
ผมเริ่มทำธุระกิจประดับยนต์ เมื่อ 7 ปีที๋แล้ว ..
ทำเอง นำเข้าเอง โป๊ของเอง และ ติดตั้งเอง
แรกๆ ขายในเวป แล้วก็นัดติดตั้งนอกสถาน่ที่ ทำเรื่อยๆมา ...
แต่ปัจจุบัน ผมเก็บเงินจากประดับยนต์ กิ๊กๆก๊อกๆ รับทำข้างถนน...
ตอนนี้ผมเป็นเจ้าของดีลเลอร์รถยนต์ยี่ห้อนึงในกทม. มี 2 สาขา ... ยอดขายก็ไม่เป็นรองใคร
และ ผมก็ยังทำประดับยนต์ต่อ แต่ คราวนี้ไม่ได้ทำเองแล้ว ให้ลูกน้องทำ และเร้นขายส่งครับ
.... อยากทำ ทำเลยครับ
ต้องฟังท่านนี้ครับ ;)
เพราะผมเคยเป็นลูกค้าเฮียเค้ามาแล้ว เมื่อ3-4ปีก่อนได้ (ขออนุญาติเรียกเฮียนะครับ ผมเพิ่งจะ25)
แต่เฮียเค้าอาจไม่รู้
เพิ่งจะมาบอกนี่แหละ ;D
-
มาอ่านเก็บความรู้จากพวกพี่ ๆ ไว้ก่อน
อิอิ
-
ขอเสนอในอีกแง่มุมหนึ่ง : อยากให้หาประสบการณ์ตรงก่อน สักระยะหนึ่ง จนมั่นใจว่าเราพร้อมที่จะเป็นเจ้าของ
พร้อมที่จะรับกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้ เพราะงานแต่ละวงการย่อมมีปัญหาแตกต่างกัน ไม่มีอะไรที่สวยหรู หรือได้มาง่ายๆ
การเปิดร้าน มันง่ายมาก แต่จะรักษาและพัฒนาปรับปรุง ให้อยู่ได้เป็นสิ่งสำคัญกว่า อย่ามองแต่ด้านดี อย่าคิดแต่ผลประโยชน์ที่จะได้
ควรคิดว่าเราจะให้อะไรกับลูกค้าได้บ้างแล้วลูกค้าประทับใจ การบริการที่ประทับใจ และความรับผิดชอบที่ดี เป็นการสร้างฐานลูกค้า ที่สำคัญอย่างหนึ่ง
อย่าหยุดที่จะสร้างฝัน ถ้าเราเชื่อมั่นว่าทำได้ .........
-
ส่วนใหญ่เวลาจะเปิดร้านหรือทำธุรกิจเรามักจะมองข้างข้อเสีย/ข้อด้อย/ปัญหาของร้านไป เช่น
- ร้านประดับยนต์ต้องมีของแต่งจำนวนหนึ่งในแต่ละรุ่น ทำให้ถ้าจะให้ครอบคลุมรถทุกยี่ห้อทุกรุ่น ต้องใช้ทุนจมหนึ่งก้อนเพื่อซื้อของมาสต๊อก
- เมื่อทำคนเดียวไม่ไหว ต้องมีลูกน้อง ที่นี้อาจจะต้องปวดหัวกับเรื่องลูกน้อง ฝีมือและอื่นๆ
- ถ้าคู่แข่งตัดราคาจะทำยังไง แหล่งที่รับสินค้ามาขายฝูกขาดกับเจ้าตลาด ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้เราจะทำยังไง
พยายามใช้คำว่า ถ้า ... คอยถามตัวเองและหาคำตอบให้กับตัวเองให้ได้ครับ
สู้ๆ ครับ
-
ผมงงๆ กับคำถามเจ้าของกระทู้นะครับ เพราะบอกว่า ชอบด้านนี้มากๆ แต่ไม่มีความรู้เลย.....
เอ๊ะยังไงกัน ถ้าชอบก็ต้องศึกษาหาความรู้สิครับ
ตัวผมเองก็ทำประดับยนต์เช่นกันครับ ผมเริ่มตั้งแต่ยังเรียนครับ แต่เฉพาะรุ่นพอสมควร ขายของที่เราจับใส่รถบ้าง เราชอบบ้าง
สั่งผลิตเองบ้าง สร้างขึ้นใหม่เองบ้าง อะไรทำนองนั้นครับ ขนาดอะไหล่เก่ามือสอง จับซากรถมาแงะขายก็เคยทำมาแล้วครับ
ผมว่าที่ผมบ้าที่สุดคือ แต่ก่อน โรงงานทำกันสาดติดเงินผมแสนกว่า ไม่มีตังค์คืน แต่ผมขอคืนเป็นของ
ผมเลยสั่งขึ้นโมลด์กันสาดรถเปอโยต์เกือบทุกรุ่นที่มีขาย ณ เวลานั้น เช่น 505 305 405 406 306 เบ็ดเสร็จ
ร้อยกว่าชุด ซึ่งคล้ายๆ บราเดอร์เทรดอ่ะนะ งานนั้นเงินแสนกว่าๆของผมก็งอกเพิ่มอีกหมื่นกว่าบาทครับ.....
ธุรกิจมันไม่ได้มีแค่แพ้ชนะครับ เสมอๆ ก็มีเยอะแยะ
ปัจจุบันผมก็นำเข้าสินค้าเข้ามาเองบ้าง สั่งผลิตบ้าง แต่ผมทำเอาสนุกนะครับ กำไรบางทีน้อยถึงน้อยมาก บางครั้งขาดทุนก็มี
เคยขาดทุนเยอะสุดประมาณ 80,000 บาทครับ พลาดเองครับ โดนของไม่ดีมา
ส่วนคู่แข่งตัดราคาก็เจอครับ หนักหนาสาหัสเหมือนกัน เหตุผลเพราะเขาสั่งของทิ้งแล้วไม่เอา ผมไปตัดโรงงานมาขาย เลยโดนครับ
ผมแนะนำว่า หาใจตัวเองให้เจอก่อนครับ เพราะทุกอาชีพมันไม่ได้เริ่มสวยหรูแน่นอนครับ หาใจให้เจอว่า เราชอบอะไรแล้วไปเฉพาะทาง
เอาให้สุดไปข้างนึง รับรองว่าไปได้ครับ เพราะลูกค้าเดี๋ยวนี้มีทางเลือกมากขึ้นครับ และเลือกมากกกกก ด้วย ลูกค้าก็อยากได้ของดีที่สุด
ในราคาที่ดีที่สุดเช่นกัน เราต้องขายของ ในมุมมองว่า ถ้าเป็นของแบบนี้ เราใช้เองและขาย แต่มันห่วยขนาดเราไม่ใช้ก็อย่าขายครับ!!!
และเทรนด์ของแต่งมาเร็ว ไปเร็วครับ ต้องศึกษาการตลาดล่วงหน้าครับ ต้องมีความเป็นผู้นำ
มีอยู่ช่วงที่หลอด LED เพิ่งเข้ามาใหม่ๆ ผมเองเป็นเจ้าแรกๆครับที่สั่ง หลอด LED แบบ SMD เข้ามาขายครับ ตอนนั้นสนุกมากแต่
ก็เจอปัญหาเรื่องคุณภาพสินค้าเหมือนกัน พวกนี้ บางทีไม่เจอกับตัวจะไม่เข้าใจนะ ผมรับผิดชอบเครมของให้ลูกค้ากันสนุกเลยครับ
แต่ก็ต้องทำ คืนตังค์ก็มี ขายของแต่งรถ ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรานะ ทีตัวเรายังอยากได้ของดี ยังอยากได้ร้านที่ขายของดีมีความรับผิดชอบ
ลูกค้าเขาก็คิดเหมือนเราแหละ
เพิ่งเรียนจบ ยังมีโอกาสอีกไกลครับ แต่ผมมองอนาคตของแต่งรถระยะเวลา 3 ปีจากนี้ ตลาดจะเทไปที่ ECO Car ครับ ทุกอย่างที่เป็นของเล่น
ECO Car ทุกค่าย จะมาครับ ทั้งชุดแต่ง ช่วงล่าง ล้อยาง โมดิฟายเครื่องยนต์ ภายใน เครื่องเสีย อะไหล่ตรงรุ่นต่างๆ นานา มาแน่ครับ
-
ผมก็สนใจเหมือนกัน ตอนนี้ก็ทำเล่นๆครับ สั่งของจากจีนมาขาย แล้วก็มีพวก Pre-Order พรมปูพื้น
เพราะตอนนี้ผมเรียนโทอยู่ แล้วเรียนสาย ปิโตรฯ มันค่อนข้างยุ่ง แต่ก็โอเค ตอนนี้ยอดขายเดือนนึงประมาณ 250000 +- นิดๆ กำไรจริงๆก็ประมาณ 5หมื่น
แต่ผมไม่เน้นของเฉพาะรุ่น เพราะผมไม่มีทุน เลยเน้นเป็นของที่ใช้ได้ทุกยี่ห้อ หรือของที่ราคาไม่สูงมาก
ถ้าจขกท. อยากทำจริงๆ มันจะมีเรื่องธุรกิจมาเกี่ยวข้อง ลองเสิช "โครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ (NEC) " ดูครับ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ปีนึงอบรมหลายรุ่น แล้วจะได้ไอเดียในการทำธุรกิจมากขึ้นเยอะครับ คนไปเรียนก็พวกเพิ่งจบทั้งนั้นเหมือนกัน (ผมเด็กสุดเลยรุ่นนี้ ผม23) แล้วเขาจะให้เรานำเสนอแผนธุรกิจตัวเอง โดยเขาจะแนะนำ และวิจารณ์ให้อย่างดี เป็นกันเองมากครับ (คล้ายๆ SME ตีแตก แต่ไม่กดดันเลย)
ลองดูครับ ปัจจุบัน รัฐ ส่งเสริม SME อะไรๆก็ทำได้ง่ายครับ
ส่วนตัวผม ตอนนี้กำลังลองขยายทีละนิด ไม่ขอเงินใคร ใช้แต่ทุนตัวเอง ตอนเริ่มมีทุนอยู่ 5พันเองครับ ขายแต่ของ Pre-Order ตอนนี้ถึงเริ่มมีตังสต๊อกของ กะว่า ถ้าไปได้ดี ก็ไม่ทำงาน (ถ้าดีกว่ารายได้ของ วิศวะปิโตรฯ) น่ะครับ
ลองเลยครับ คิดแล้วทำโลด อย่ารอ ช่วงนี้รถออกใหม่เยอะ ของพวกรถที่ได้คืนภาษีกำลังมาแรงครับ
-
ลองดูครับเผื่อสนใจ
https://www.facebook.com/RSIAUTO (https://www.facebook.com/RSIAUTO)