ใช้มา 8 เดือน ยังไม่มีปัญหาอะไรกับระบบ hybrid ชอบตรงที่มันตัดต่อกำลังได้เรียบเนียนมาก
แต่คันเร่งต้านเท้ามาก(หรือที่เรียกกันว่าคันเร่งหนัก) ต้านจนเป็นรองช้ำ แต่ทำไมคนอื่นไม่เป็นกัน
พอสลับไปขับรถคันอื่น(รุ่นอื่นที่ไม่ใช่ c-hr)แล้วรถพุ่งจนตกใจเพราะคันเร่งเบากว่ามาก
ผมล่ะงงว่าทำไมโตต้าถึงเลือกใช้สปริงคันเร่งแข็งจัง
เบรคไฟฟ้าก็ตื้นและแข็ง ตอนขับใหม่ๆ แตะเบรคนิดนึงหัวแทบทิ่ม แต่พอเริ่มกดมากขึ้นแล้วรถยังไหลอยู่
ใช้ไปซักพักก็ชิน กะระยะให้เบรคเนียนๆได้ แต่พอสลับไปขับรถคันอื่นแล้วตกใจว่าทำไมมันไม่หยุ๊ดดดดดดดด
ส่วนเรื่องการดูแล ต้องมีการดูแลเพิ่มเติมตรงระบบหล่อเย็นของอินเวอเตอร์ กับกรองอากาศช่องเป่าแบตไฮบริท แค่นั้นครับ
แบตลูกเล็กที่อยู่ในห้องเครื่องก็แบตตะกั่วกรดแบบรถทั่วไป ไม่ใช่แบต agm ลูกละหลายพันหรือหมื่นกว่าแบบแต่ก่อนแล้ว
เรื่องค่าอะไหล่แพงๆ ทั้งหลาย เช่น ปั๊มเบรคไฟฟ้า แบตไฮบริท คอมแอร์ไฟฟ้า
ทางโตต้าก็มีโครงการ rebuild เพื่อให้ค่าอะไหล่ลดลง หรือเปลี่ยนเฉพาะจุดที่เสียได้แล้ว ไม่ต้องเปลี่ยนทั้งชุด
ผมว่าเรื่องนี้ก็น่าจะอุ่นใจได้นะ แต่ก็คงแพงกว่าการซ่อมบำรุงเครื่องสันดาปล้วนอยู่ดี
เช่น รถทั่วไปเปลี่ยนครัชคอมแอร์ราคา 2500 แต่รถไฮบริทเปลี่ยนมอเตอร์คอมแอร์ราคา 3000-4000 (มั้ง) เพราะไม่มีครัช
เสริมอีกหน่อย เรื่องหยุดรถตอนรถติด พยายามใช้ auto brake hold แทนเข้าเกียร์ n นะครับ
เพราะถ้าเข้า n และแบตไฮบริทเหลือน้อย รถจะโวยวายให้ผลักเกียร์ไป p หรือ d แทน เพื่อจะได้ติดเครื่องปั่นไฟเข้าแบตได้
ตอนแรกๆ จะรู้สึกไม่ชินกับการที่ต้องค้าง d และเหยียบเบรคค้างให้ auto brake hold ทำงาน แต่ใช้ไปซักพักจะชินเองครับ