Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: iKrit ที่ กรกฎาคม 22, 2020, 14:15:19
-
พอดีวันนี้ได้มีโอกาสไปดูตัวจริงมา แล้วบังเอิญว่ามีรถ Test Drive พอดีด้วย เลยจัดแจงขอ Test Drive แล้วลองต่อสาย USB กับ Huawei P30 ที่มี Android Auto Build-in อยู่แล้ว สรุปว่าเสียบปุ๊บ ใช้งานได้ปั๊บไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยากเลย แต่พอถอดสายออกมันก็หลุดเลย (ไม่สนับสนุนแบบ Wireless นั่นเอง)
มีเรื่องเล่าเท่านี้ล่ะครับ
ปล. ขับง่ายกว่า C-HR ที่ผมใช้อยู่อีกง่า :'(
ปล.2 เอาน่ะ ไม่มี Auto Brake Hold กับคานกันกระแทกหลัง
ปล.3 Adaptive Cruise Control ทำได้เนียนกว่า C-HR และตัดการทำงานที่ 25km/h (C-HR ตัดที่ 40km/h)
-
พอดีวันนี้ได้มีโอกาสไปดูตัวจริงมา แล้วบังเอิญว่ามีรถ Test Drive พอดีด้วย เลยจัดแจงขอ Test Drive แล้วลองต่อสาย USB กับ Huawei P30 ที่มี Android Auto Build-in อยู่แล้ว สรุปว่าเสียบปุ๊บ ใช้งานได้ปั๊บไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยากเลย แต่พอถอดสายออกมันก็หลุดเลย (ไม่สนับสนุนแบบ Wireless นั่นเอง)
มีเรื่องเล่าเท่านี้ล่ะครับ
ปล. ขับง่ายกว่า C-HR ที่ผมใช้อยู่อีกง่า :'(
ปล.2 เอาน่ะ ไม่มี Auto Brake Hold กับคานกันกระแทกหลัง
ปล.3 Adaptive Cruise Control ทำได้เนียนกว่า C-HR และตัดการทำงานที่ 25km/h (C-HR ตัดที่ 40km/h)
ช่วงล่าง ความมั่นใจต่างกันเยอะมั้ยครับ
-
เซลล์แถวบ้านผมยังไม่รู้เลย, ก็ไม่ว่ากัน option มันเยอะ
-
พอดีวันนี้ได้มีโอกาสไปดูตัวจริงมา แล้วบังเอิญว่ามีรถ Test Drive พอดีด้วย เลยจัดแจงขอ Test Drive แล้วลองต่อสาย USB กับ Huawei P30 ที่มี Android Auto Build-in อยู่แล้ว สรุปว่าเสียบปุ๊บ ใช้งานได้ปั๊บไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยากเลย แต่พอถอดสายออกมันก็หลุดเลย (ไม่สนับสนุนแบบ Wireless นั่นเอง)
มีเรื่องเล่าเท่านี้ล่ะครับ
ปล. ขับง่ายกว่า C-HR ที่ผมใช้อยู่อีกง่า :'(
ปล.2 เอาน่ะ ไม่มี Auto Brake Hold กับคานกันกระแทกหลัง
ปล.3 Adaptive Cruise Control ทำได้เนียนกว่า C-HR และตัดการทำงานที่ 25km/h (C-HR ตัดที่ 40km/h)
ช่วงล่าง ความมั่นใจต่างกันเยอะมั้ยครับ
รู้สึกเบา แต่มั่นคงแบบ Altis ที่จับยกสูงครับ อาจจะเพราะพวงมาลัยเซ็ดมาเบากว่า C-HR นิดนึง
เรื่องทัศนะวิสัยนี่รู้สึกกว้างสบายกว่า C-HR อย่างชัดเจนเลย
-
Android Auto รถบ้านเรานี่ ต้องไปลองเสียบเองจริงๆ ครับถึงจะทราบว่าคันไหนมีไม่มี เพราะไม่มีระบุใน spec
ของ Corolla Cross นี่ก็เหมือนกัน ถ้าผมหรือ จขกท. ไม่ไปลองก็ไม่รู้เลยว่ามี
(และขณะเดียวกัน Almera , Kicks ถ้าผมไม่ลองก็ไม่รู้เลยว่าไม่มี มีแค่ Apple CarPlay อย่างเดียว)
จริงๆ การที่มือถือรุ่นใหม่ๆ ถูกฝังมาใน Android 10 เลยก็น่าจะเรียกว่าเปิดใช้งานทางการได้แล้วนะครับ
น่าจะระบุลง spec รถไทยกันได้แล้วถ้ามีมาให้
ปล. เหมือน Wireless Android Auto ตัวมือถือน่าจะมีแค่ Google Pixel มั้งครับที่รองรับ ต้องเช็คดูอีกที
-
พอดีวันนี้ได้มีโอกาสไปดูตัวจริงมา แล้วบังเอิญว่ามีรถ Test Drive พอดีด้วย เลยจัดแจงขอ Test Drive แล้วลองต่อสาย USB กับ Huawei P30 ที่มี Android Auto Build-in อยู่แล้ว สรุปว่าเสียบปุ๊บ ใช้งานได้ปั๊บไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยากเลย แต่พอถอดสายออกมันก็หลุดเลย (ไม่สนับสนุนแบบ Wireless นั่นเอง)
มีเรื่องเล่าเท่านี้ล่ะครับ
ปล. ขับง่ายกว่า C-HR ที่ผมใช้อยู่อีกง่า :'(
ปล.2 เอาน่ะ ไม่มี Auto Brake Hold กับคานกันกระแทกหลัง
ปล.3 Adaptive Cruise Control ทำได้เนียนกว่า C-HR และตัดการทำงานที่ 25km/h (C-HR ตัดที่ 40km/h)
ช่วงล่าง พวงมาลัย โอเคมั้ยครับ เทียบกับ C-HR แล้ว
และที่บอกว่าขับง่ายกว่า คือ ทัศนะวิสัย มุมมองข้างหลังด้านซ้ายป่ะครับ
-
เห็นสาย usb เสียบด้านหน้าแล้วขัดตาขัดใจมากครับ
toyota น่าจะทำ port ตรงที่วางแขน ที่ต่อสาย data ไว้เลยนะครับ
-
เห็นสาย usb เสียบด้านหน้าแล้วขัดตาขัดใจมากครับ
toyota น่าจะทำ port ตรงที่วางแขน ที่ต่อสาย data ไว้เลยนะครับ
มันติดเพิ่มได้นะครับ ของ Toyota (แต่ราคา 1700 แหนะ)
-
เห็นสาย usb เสียบด้านหน้าแล้วขัดตาขัดใจมากครับ
toyota น่าจะทำ port ตรงที่วางแขน ที่ต่อสาย data ไว้เลยนะครับ
จริงครับ อยู่ซ่อนๆใต้คอนโซลหรือที่วางแขนแบบมาสด้านี่ดีมากเลย คนออกแบบของ Toyota นี่ไม่เคยลองใช้งานรถตัวเองเหรอไง 555
-
เหตุผลที่ไม่ระบุ น่าจะเพราะแอนดรอยมีหลายยี่ห้อ หลายรุ่น เลยทำให้ระบุว่ารองรับยากนิดหนึ่ง
แต่แอปเปิ้ลมีแค่ไม่กี่รุ่น เลยง่ายที่จะระบุ ว่ารองรับ
-
เห็นรถหลายๆรุ่นที่รองรับ Apple Car มักจะรองรับ Android Auto ด้วยครับ
แต่ที่ไม่ระบุว่ารองรับ Android Auto เพราะ Google ยังไม่เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในไทย จะเข้าไปโหลดใน Play store ยังไม่มีเลย
ต้องหาโหลดไฟล์ apk จากพวก apkmirror แล้วติดตั้งเอาเอง
-
เห็นว่าโทรศัพท์ที่จะเอามาเสียบแล้วใช้ได้เลย ต้องเป็น Android 10 ครับ ก็คือรุ่นที่เปิดตัวปี 2018 เป็นต้นไปถึงจะได้ครับ หรือ เริ่มจาก Android 8 ถึงได้ ถ้าไม่ใช่ ต้องโหลด APK มาครับ
-
เนื่องจาก android auto ยังไม่ได้เข้าไทยอย่างเป็นทางการโดย google
สังเกตุง่ายๆคือเข้าไป playstore แล้วหา android auto จะโหลดมาลงไม่ได้ ต้องโหลด apk มาลงอย่างเดียว
ด้วยเหตุนี้ marketing ค่ายรถไม่สามารถบอกว่ารถตัวเองมีได้ครับ ถึงแม้จริงๆรถมันจะมีมาให้ก็ตาม
-
เนื่องจาก android auto ยังไม่ได้เข้าไทยอย่างเป็นทางการโดย google
สังเกตุง่ายๆคือเข้าไป playstore แล้วหา android auto จะโหลดมาลงไม่ได้ ต้องโหลด apk มาลงอย่างเดียว
ด้วยเหตุนี้ marketing ค่ายรถไม่สามารถบอกว่ารถตัวเองมีได้ครับ ถึงแม้จริงๆรถมันจะมีมาให้ก็ตาม
เอาจริงๆandroidรุ่นใหม่ๆ ที่ใช้android10ขึ้นไปมันฝังandroid autoมาในosไม่ต้องไปหาโหลดเลยครับ
แต่ก็อย่างว่า รุ่นเก่ามันก็ต้องไปหาโหลดapkกันเอาเอง
-
เนื่องจาก android auto ยังไม่ได้เข้าไทยอย่างเป็นทางการโดย google
สังเกตุง่ายๆคือเข้าไป playstore แล้วหา android auto จะโหลดมาลงไม่ได้ ต้องโหลด apk มาลงอย่างเดียว
ด้วยเหตุนี้ marketing ค่ายรถไม่สามารถบอกว่ารถตัวเองมีได้ครับ ถึงแม้จริงๆรถมันจะมีมาให้ก็ตาม
เอาจริงๆandroidรุ่นใหม่ๆ ที่ใช้android10ขึ้นไปมันฝังandroid autoมาในosไม่ต้องไปหาโหลดเลยครับ
แต่ก็อย่างว่า รุ่นเก่ามันก็ต้องไปหาโหลดapkกันเอาเอง
ผมใช้ Android 10 ครับ เสียบแล้วต้องกดอะไรไหมครับ ทำไมมันไม่รัน android auto
-
เนื่องจาก android auto ยังไม่ได้เข้าไทยอย่างเป็นทางการโดย google
สังเกตุง่ายๆคือเข้าไป playstore แล้วหา android auto จะโหลดมาลงไม่ได้ ต้องโหลด apk มาลงอย่างเดียว
ด้วยเหตุนี้ marketing ค่ายรถไม่สามารถบอกว่ารถตัวเองมีได้ครับ ถึงแม้จริงๆรถมันจะมีมาให้ก็ตาม
เอาจริงๆandroidรุ่นใหม่ๆ ที่ใช้android10ขึ้นไปมันฝังandroid autoมาในosไม่ต้องไปหาโหลดเลยครับ
แต่ก็อย่างว่า รุ่นเก่ามันก็ต้องไปหาโหลดapkกันเอาเอง
ผมใช้ Android 10 ครับ เสียบแล้วต้องกดอะไรไหมครับ ทำไมมันไม่รัน android auto
ถ้าจำไม่ผิด C-Class รองรับแค่ Apple Carplay ครับ
-
พอดีวันนี้ได้มีโอกาสไปดูตัวจริงมา แล้วบังเอิญว่ามีรถ Test Drive พอดีด้วย เลยจัดแจงขอ Test Drive แล้วลองต่อสาย USB กับ Huawei P30 ที่มี Android Auto Build-in อยู่แล้ว สรุปว่าเสียบปุ๊บ ใช้งานได้ปั๊บไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยากเลย แต่พอถอดสายออกมันก็หลุดเลย (ไม่สนับสนุนแบบ Wireless นั่นเอง)
มีเรื่องเล่าเท่านี้ล่ะครับ
ปล. ขับง่ายกว่า C-HR ที่ผมใช้อยู่อีกง่า :'(
ปล.2 เอาน่ะ ไม่มี Auto Brake Hold กับคานกันกระแทกหลัง
ปล.3 Adaptive Cruise Control ทำได้เนียนกว่า C-HR และตัดการทำงานที่ 25km/h (C-HR ตัดที่ 40km/h)
ช่วงล่าง พวงมาลัย โอเคมั้ยครับ เทียบกับ C-HR แล้ว
และที่บอกว่าขับง่ายกว่า คือ ทัศนะวิสัย มุมมองข้างหลังด้านซ้ายป่ะครับ
ตอบให้ครับ ไปลองมาแล้วเหมือนกัน ใช้ CHR อยู่
ช่วงล่าง ใกล้เคียงกัน แต่นุ่มกว่า คานหลังเวลาขึ้นระนาด มันจะดีดกว่าแบบรู้สึกได้เลย ภาพรวม CHR ผมชอบช่วงล่างมากกว่า Cross ในการขับขี่ แต่ถ้านั่งโดยสารแถวหลัง cross จะมีช่วงล่างที่ดูน่าจะสบายกว่า (ยังไม่ได้ลองนั่งเอง)
ส่วนขับง่ายกว่า ถ้ามองด้านหน้าครึ่งคันไม่ได้ต่างกัน แต่ถ้าครึ่งหลัง เวลาจะเปลี่ยนเลน Cross จะมองแล้วมั่นใจกว่าเพราะกระจกหลังโปร่งกว่า มองไปแล้วเห็นรอบคันครับ ถ้าถอยออกเวลาจอดเอาหน้าเข้า (เช่นเข้าปั๊ม) CHR ดูเหมือนจะถอยยาก แต่กล้องถอยหลังมันค่อนข้าง wide เลยมองง่าย แต่ถ้าไม่มีกล้องต้องมองเองนี่นรกเลย cross จะขับง่ายกว่าในกรณีนั้น
ส่วนเบาะหลัง ถ้าตัดเรื่องทัศนวิสัยออกไป เบาะ Cross นั่งสบายกว่า และมีการเอนหลัง และมีที่วางแขนที่มันสบายมาก รู้สึกท่านั่งสบายกว่า Camry อีก (ใช้ ACV50 อยู่) ส่วน Leg room และความกว้างห้องโดยสารด้านหลัง ไม่รู้สึกว่าแตกต่างกับ CHR (ย้ำว่าถ้าไม่นับเรื่องพื้นที่กระจก เอาเป็นว่าถ้าหลับตานั่ง ไม่ได้ผิดกันเลย)
ท้ายรถที่เก็บของพับเบาะแล้วไม่เรียบ จะยกเป็น 2 ชั้น จะต่างจาก CHR ที่จะราบลงไป แต่ Cross ใหญ่กว่าจริง คือลึกกว่าประมาณคืบนึง และเนื่องจากใช้คานบิด เลยได้พื้นที่เก็บของด้านกว้างเพิ่มขึ้นกว่า CHR อีกหน่อย และด้านหลังกระจกไม่ได้ลาดลงแบบ CHR มันเลยมีพื้นที่แนวสูงมากกว่าครับ ซึ่งถ้าใครที่ใช้ CHR แล้วถอดที่บังตาออก จะไม่รู้สึกว่าท้าย Cross มันใหญ่กว่ากันมากมายนัก
สรุปคือ ถ้ามีให้เลือก ณ ตอนนี้ ผมเอา Cross นะ เพราะออพชั่นอัพเดทกว่า มีอะไรดีๆหลายอย่างที่ CHR ไม่มี แต่ถ้า CHR มีออพชั่นเท่าๆกัน ผมไป CHR เพราะมันสวยกว่า ขับดีกว่า และไมไ่ด้รู้สึกว่าเล็กจนไม่พอใช้งานครับ
-
เมื่อวันเสาร์ได้มีโอกาศไปลองขับที่ TDEX Park เหมือนกันครับ ทั้ง Cross แล้วก็ CHR ได้ลองเครื่องเสียงนิดหน่อยมาชุดเดียวกับ Altis เลย ข้อดีคือเป็นจอเจนใหม่ที่ใหญ่ขึ้นแล้ว เลิกเป็น 2DIN Toyota ซะที แต่ทำไมต้องเป็นการเสียบสายที่หน้าฟร้อนเครื่องเสียง ขัดใจมากกก เหมือนรถที่ใช้วิทยุปุ่มกดเลย เรื่องการขับขี่พบว่าเขาตั้งใจเซ็ตรถมาคนละบุคลิกจริงๆ
ถ้าเป็นคนชอบขับรถ ไม่ซีเรียสเรื่องความโปร่งของแถวนั่งที่ด้านหลัง CHR ยังคงขับสนุกกว่า เวลานั่งแถวหลังเองมีความเหวี่ยงน้อยกว่าถึง CHR จะไม่มีศาสดายึดจับก็ตาม ตอนสลาลอม แล้วก็ด่านพื้นกระเบื้องรู้สึกถึงความจิกเกาะของ CHR มากกว่า Cross นิดหนึ่ง รวมถึง Cross จะมีท้ายออกมากกว่าหน่อย
ภายในการออกแบบอันนี้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลย แต่ผมไม่ชอบสีแดงเอาซะเลยมันดูช้ำๆ ไม่ชมพู ไม่แดง ไม่น้ำตาล งงๆ ไปหมด 555 , แล้วก็เกลียดคอนโซลที่ปูดออกมาตรงหน้าคนนั่ง ,แต่ภาพโดยรวมนี้คือ Cross โปร่งกว่ามาก ตัด Hold+E-Park ออกไปทำไมก็ไม่รู้่ น่าจะเพื่อเป็นจุดที่คนจะได้จัดสินใจไปเลยจะเอาตัวไหน แล้วก็คงเก็บไว้ Minor เหมาะกับกลุ่มตลาดรถครอบครัว ในขณะที่ CHR ยังเป็นรถที่เจาะกลุ่มวัยรุ่นยุคใหม่ หรือคนชอบรถฟิลแบบ Urban cross-over จริงๆ ขับสนุกเข้าโค้ง เปลี่ยนเลนส์ (แต่เครื่อง HV ไม่แรง เฮ้ออ)
-
พอดีวันนี้ได้มีโอกาสไปดูตัวจริงมา แล้วบังเอิญว่ามีรถ Test Drive พอดีด้วย เลยจัดแจงขอ Test Drive แล้วลองต่อสาย USB กับ Huawei P30 ที่มี Android Auto Build-in อยู่แล้ว สรุปว่าเสียบปุ๊บ ใช้งานได้ปั๊บไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยากเลย แต่พอถอดสายออกมันก็หลุดเลย (ไม่สนับสนุนแบบ Wireless นั่นเอง)
มีเรื่องเล่าเท่านี้ล่ะครับ
ปล. ขับง่ายกว่า C-HR ที่ผมใช้อยู่อีกง่า :'(
ปล.2 เอาน่ะ ไม่มี Auto Brake Hold กับคานกันกระแทกหลัง
ปล.3 Adaptive Cruise Control ทำได้เนียนกว่า C-HR และตัดการทำงานที่ 25km/h (C-HR ตัดที่ 40km/h)
ช่วงล่าง พวงมาลัย โอเคมั้ยครับ เทียบกับ C-HR แล้ว
และที่บอกว่าขับง่ายกว่า คือ ทัศนะวิสัย มุมมองข้างหลังด้านซ้ายป่ะครับ
ตอบให้ครับ ไปลองมาแล้วเหมือนกัน ใช้ CHR อยู่
ช่วงล่าง ใกล้เคียงกัน แต่นุ่มกว่า คานหลังเวลาขึ้นระนาด มันจะดีดกว่าแบบรู้สึกได้เลย ภาพรวม CHR ผมชอบช่วงล่างมากกว่า Cross ในการขับขี่ แต่ถ้านั่งโดยสารแถวหลัง cross จะมีช่วงล่างที่ดูน่าจะสบายกว่า (ยังไม่ได้ลองนั่งเอง)
ส่วนขับง่ายกว่า ถ้ามองด้านหน้าครึ่งคันไม่ได้ต่างกัน แต่ถ้าครึ่งหลัง เวลาจะเปลี่ยนเลน Cross จะมองแล้วมั่นใจกว่าเพราะกระจกหลังโปร่งกว่า มองไปแล้วเห็นรอบคันครับ ถ้าถอยออกเวลาจอดเอาหน้าเข้า (เช่นเข้าปั๊ม) CHR ดูเหมือนจะถอยยาก แต่กล้องถอยหลังมันค่อนข้าง wide เลยมองง่าย แต่ถ้าไม่มีกล้องต้องมองเองนี่นรกเลย cross จะขับง่ายกว่าในกรณีนั้น
ส่วนเบาะหลัง ถ้าตัดเรื่องทัศนวิสัยออกไป เบาะ Cross นั่งสบายกว่า และมีการเอนหลัง และมีที่วางแขนที่มันสบายมาก รู้สึกท่านั่งสบายกว่า Camry อีก (ใช้ ACV50 อยู่) ส่วน Leg room และความกว้างห้องโดยสารด้านหลัง ไม่รู้สึกว่าแตกต่างกับ CHR (ย้ำว่าถ้าไม่นับเรื่องพื้นที่กระจก เอาเป็นว่าถ้าหลับตานั่ง ไม่ได้ผิดกันเลย)
ท้ายรถที่เก็บของพับเบาะแล้วไม่เรียบ จะยกเป็น 2 ชั้น จะต่างจาก CHR ที่จะราบลงไป แต่ Cross ใหญ่กว่าจริง คือลึกกว่าประมาณคืบนึง และเนื่องจากใช้คานบิด เลยได้พื้นที่เก็บของด้านกว้างเพิ่มขึ้นกว่า CHR อีกหน่อย และด้านหลังกระจกไม่ได้ลาดลงแบบ CHR มันเลยมีพื้นที่แนวสูงมากกว่าครับ ซึ่งถ้าใครที่ใช้ CHR แล้วถอดที่บังตาออก จะไม่รู้สึกว่าท้าย Cross มันใหญ่กว่ากันมากมายนัก
สรุปคือ ถ้ามีให้เลือก ณ ตอนนี้ ผมเอา Cross นะ เพราะออพชั่นอัพเดทกว่า มีอะไรดีๆหลายอย่างที่ CHR ไม่มี แต่ถ้า CHR มีออพชั่นเท่าๆกัน ผมไป CHR เพราะมันสวยกว่า ขับดีกว่า และไมไ่ด้รู้สึกว่าเล็กจนไม่พอใช้งานครับ
ขอบคุณมากครับ พอดีมีแพลนจะออกรถใหม่ต้นปีหน้า
เห็น corolla cross ออกมาใหม่ดูกว้างดี เหมาะเป็นรถครอบครัวมา แฟนชอบครับ
แต่ส่วนตัวผมชอบ C-HR มากกว่า ดูวัยรุ่นกว่าเยอะเลยครับ
-
เนื่องจาก android auto ยังไม่ได้เข้าไทยอย่างเป็นทางการโดย google
สังเกตุง่ายๆคือเข้าไป playstore แล้วหา android auto จะโหลดมาลงไม่ได้ ต้องโหลด apk มาลงอย่างเดียว
ด้วยเหตุนี้ marketing ค่ายรถไม่สามารถบอกว่ารถตัวเองมีได้ครับ ถึงแม้จริงๆรถมันจะมีมาให้ก็ตาม
เอาจริงๆandroidรุ่นใหม่ๆ ที่ใช้android10ขึ้นไปมันฝังandroid autoมาในosไม่ต้องไปหาโหลดเลยครับ
แต่ก็อย่างว่า รุ่นเก่ามันก็ต้องไปหาโหลดapkกันเอาเอง
ผมใช้ Android 10 ครับ เสียบแล้วต้องกดอะไรไหมครับ ทำไมมันไม่รัน android auto
ถ้าจำไม่ผิด C-Class รองรับแค่ Apple Carplay ครับ
ขอบคุณครับ แต่เสียบวอลโว่ก็ไม่ติดครับสุดท้ายต้องไปโหลด apk มาลงถึงใช้ได้ ผมนี่ตามเทคโนโลยีไม่ทันจริงๆ
-
ช่วงล่างหลังน่าจะเอาอิสระมา เสียตรงนี้จริงๆ