ผู้เขียน หัวข้อ: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?  (อ่าน 5035 ครั้ง)

ออฟไลน์ Akrachai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 350
    • อีเมล์
eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« เมื่อ: มีนาคม 05, 2022, 23:17:52 »


แบบนี้สิเป็นรถไฟฟ้าที่ทุกคนต้องการขับแบบชาร์จน้อยๆแต่ถึงที่หมายชัวร์ๆ
เอาเป็นว่าขับรถอะไรก็ต้องมีพัก เพราะฉะนั้นยังไงก็มีการชาร์จแน่ๆ 1 - 2 ครั้งถ้าขับ กรุงเทพเชียงใหม่ อย่างน้อย 30-60 นาที ยังไงก็ถึงตัวเมืองเชียงใหม่ 100% ครับ  :D :D

คอนเท้นโครตดี

ออฟไลน์ ABUSEz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 612
    • อีเมล์
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 06, 2022, 00:04:04 »
รถไฟฟ้าที่ทุกคนต้องการขับแบบชาร์จน้อยๆแต่ถึงที่หมายชัวร์ๆ

ประเด็นคือต้องจ่าย 7.x ล้านน่ะสิครับ ถึงจะวิ่งได้ขนาดนี้  :'(

Edit: content ดีจริงครับ คลิปชั่วโมงกว่าแต่นั่งดูเพลินๆเลย

ออฟไลน์ ThisIsYuTh

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 291
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มีนาคม 06, 2022, 00:27:36 »
ผ่านขุนตาลมาได้ก็น่าประทับใจแล้วครับสำหรับรถไฟฟ้า รถ ICE บางคันถังเดียวไปไม่ถึงตรงนั้นแน่ๆ จากตรงนั้นก็อีกแค่ 20 กว่ากิโลก็ถึงตัวเมืองแล้ว แต่ก็ต้องบอกว่า ระยะทาง 670 กิโลใช้เวลา 10 ชั่วโมง 20 นาที สมมุติว่าหักเวลาแวะพักสัก 20-40 นาที (เห็นบอกว่าพักเบรคเร็วๆ) ก็คือขับที่ความเร็วประมาณ  65-70 กม./ชม. ซึ่งก็ช้าพอสมควร ไม่น่าจะมีใครขับจริงเท่านี้แน่ๆ

ถ้าขับจริงๆ ใช้ความเร็วมากขึ้นหน่อย แวะชาร์จสักทีตอนแบต 20-30% ให้ได้สัก 80% ก็ถึงสบายๆ ได้ขนาดนี้ก็สมราคาแล้วครับ



2020 - Mazda CX-5 2.5T (KF)
2016 - Subaru XV (GP)
2013 - Mitsubishi Pajero Sport (KG)
2010 - Honda Civic (FD)
2006 - BMW 3 Series (E36)

ออฟไลน์ U9WS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,176
  • slower is better
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มีนาคม 06, 2022, 00:42:19 »
เอาเป็นว่าสมัยยังไม่มีซุปเปอร์​ไฮเวย์​ เผลอๆหาปั้มน้ำมันยากกว่า ปั้มEV สมัยนี้อีกครับ และรถสมัยนั้นก็กินน้ำมันมาก กทม.-เชียงใหม่ต้องเติมกันหลายถัง คิดซะว่า​ย้อนอดีตต้องวางแผนก่อนการเดินทาง

และในอนาคตแท่นชาร์จ​มันเกิดใหม่ง่ายกว่าปั้มน้ำมันปั้มแก็สเยอะครับ ไม่ต้องมีการกักเก็บ ไม่ต้องมีการขนส่ง ไม่มีช่วงที่หมดปั้ม และไม่ได้จำกัดเฉพาะปั้ม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ จุดพักรถ โชว์รูม ศูนย์​เซอร์วิส​ สถานที่ท่องเที่ยว ห้าง โรงแรมที่พัก ก็สร้างแท่นชาร์จได้หมด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 06, 2022, 00:50:13 โดย U9WS »

ออฟไลน์ Carrera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,339
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มีนาคม 06, 2022, 00:45:28 »
ถ้าเทียบกับรถน้ำมันปกติ ถือว่าไกลกว่าบางคันด้วยซ้ำครับ ถือว่าทำได้ดีเลย น่าใช้ แต่ราคาผมคงรอ eqe eqc ละกันครับ  ไม่ไหว 555

แต่ถ้าเทียบกับรถไฮบริดปกติ เรนจ์นี้  ขับกันปกติเลยครับ  Camry , Accord Hybrid เรนจ์ 700-900 แล้วแต่การขับ  ยิ่งยุโรปดีเซล ถังเดียวยิงยาว เหยียบกัน 120-140 ยังไปถึงได้ครับ  แต่ก็จะแวะเติมทุกครึ่งถัง เน้นสบายใจ ไม่กดดัน

ถือว่า ทำได้ดีมากๆ  ถ้าเป็นผม คงขับ 120+ แล้วชาร์จเอาทุก 400 โล หรือเหลือแบตแถวๆ 30% ก็ได้

พีคสุดคือ ที่ชาร์ต AC PTT ชาร์จหนึ่งทุ่ม เต็ม 10 โมงของวันถัดไป

นอนค้างในรถเถอะ5555555

ผมรอดู Toyota Honda นี่ละ ได้เปรียบสุดละ ถ้าเอาเข้ามาขายเอง แล้วทำสถานีชาร์จ+จุดพักรถที่ศูนย์ตัวเองด้วย เท่ากับสถานีชาร์จครอบคลุมทุกจังหวัดเลย (ศูนย์พี่แกเยอะเหลือเกิน เจอถี่ๆ เรียงอำเภอ ไม่ต่างจากปั้มเลย)

รถไฟฟ้านี่ infrastructure นี่ปัจจัยสำคัญเรื่องนึงในการตัดสินใจเลย

เรื่องน่าคิดว่า ถ้าเอาค่ายอื่นมาจะชาร์จได้ไหมยังไง ในอนาคต
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 06, 2022, 00:47:47 โดย Carrera »

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,430
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มีนาคม 06, 2022, 06:37:05 »
รถไฟฟ้าที่ขับได้ระยะทางเกิน 700 km. แบบนี้ในไทยราคายังสูงอยู่

คนทั่วไปอยากได้ระยะ 600-700 km  แบบนี้ ในราคาล้านกลางๆคงเป็นได้ยาก

ตอนนี้ก็มีแค่ 400-500 km. ก็ต้องไปหวังพึ่งระบบชาร์จไว เป็นหลัก อนาคตอาจได้รอคิวกันชาร์จกันนาน

ตอนนี้พื้นที่ตามต่างจังหวัดเริ่มเป็นทำเลทองในการตั้งสถานีชาร์จไฟ

ออฟไลน์ คุณ นมๆ

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 716
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มีนาคม 06, 2022, 08:40:27 »
มันต้องแบต 100kwแบบนี้แหละ ใช้จริงๆจะไม่ต้องพะวงขับไปมองจอไป

ออฟไลน์ TeslaX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,765
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มีนาคม 06, 2022, 10:17:28 »
ชีวิตจริงยังไงก็ต้องพัก ก็ต้องชาร์จอยู่ดี

ออฟไลน์ Arnan_td

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 329
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มีนาคม 06, 2022, 10:33:11 »
นี่ก็รออยู่ครับ สนใจ bz4x มากๆ ปกติผมขับขึ้นลงเชียงใหม่ด้วย prius ถังเดียวจาก กทม ถึง บ้าน สันกำแพง น้ำมัน 10 ช่องจะเหลือถึงหน้าบ้าน 2 ช่องขับ 110-120 ตลอดทาง อยากได้รถไฟฟ้าล้วนๆที่ชาร์ตเร็วๆเวลาแวะกินข้าว เข้าห้องน้ำแล้วไปต่อได้สัก 100 km จะเทพมากๆครับ เพราะหลังจากมาใช้ Hv ก็ไม่คิดจะไปใช้รถน้ำมันแท้ๆอีกเลย ตอนนี้พุ่งเป้าไป ev จริงๆเลยแต่อยากได้รถที่ ux ui ดีๆไม่ใช่ต้องมาเปลี่ยนหรือตั้งค่าใหม่ทุกครั้งที่ขึ้นรถ

ออฟไลน์ bahamu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 685
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มีนาคม 06, 2022, 10:46:01 »
ปั้มลูกไฟ ชานสารภี มีตู้อัดไฟac 7.6kw อีกนานกว่าจะมีตู้dc150kwขึ้น
ส่วนตู้250-370kwคงอีกนาน ดีไม่ดีถ่านไส้แข็งใส่รถขายแล้วถึงเห็น

ถ้ารุ่นประกอบใน มีแต่ขับสี่ ไม่ทำขับสอง ไม่ค่อยน่าเล่น เก็บแปดล้านไว้ดีกว่า

ขับสองถ่านอึด รังถ่านหนัก1ตัน
รถตั้งโช้คย้วยแต่ไม่โยน
ล้อ18,19 แก้ม 60,55 ดีกว่าล้อ20 แก้ม45
ถุงลมตั้งให้หนึบหน่อย พอใส่ล้อ20 จะลักลั่นไป เพราะแก้มยางแข็ง ให้ตัวน้อย

พวกหลังเหล็ก ตูดทองแดง ไม่ได้ขับเอสคลาสทุกวัน ไม่เข้าใจว่ารถทัวร์ริ่งขนาดใหญ่5-6.5ม. ช่วงล่างเป็นยังไง นั่งขับ8ชม.ขึ้น ต่างกันแค่ไหน



450+ หนักใกล้นางฟ้า แฟนทอมหก นางฟ้าแท้รุ่นสุดท้าย
ยุคเจ้าอาณานิคม ที่คนขาวเผ่าแองโกเชื่อว่า พวกเขาคือผู้ครองโลก สัดส่วนเป็นรถเจ้าจักรวรรดิ์ที่ตะวันไม่เคยตกน้ำ
จึงมีความเจ้ายศเจ้าอย่างเต็มคัน

มือสองตั้งขายสิบห้าล้าน แต่450+ตัวเล็กกว่า นุ่มไม่ห่างกัน ซ่อมง่ายกว่า หรูกว่าเยอะ
เน้นผลทางวิศวกรรมสูงสุด

จะเอาขับมัน มุดเก่ง นิ่งห้ามขยับแบบนางฟ้า ปีกบิน คนขับยังสับสนหลายอย่าง น่าจะเบลอแล้ว ควรพากย์ทับที่หลังเรียบเรียงให้เรียบร้อย อันนี้อัดสดตัดเสร็จปล่อย คงงานเยอะ

หน้าจอปิดได้ หรือหรี่แสงได้จะดีมาก แยงตาสุดๆเวลาขับกลางคืน

ระบบจำหน้าได้ ถ้าคิดมีเด็กหลายคน ไม่น่าซื้อ เมียจับได้แหง



รูปทรงรถ คล้าย opel kadett สามประตู ยุคเสี่ยทิ้งขาย ยุคนั้นเรียก ทรงส้มโอผ่าครึ่ง แต่ในใบเรียกทรงหยดน้ำ รุ่นแรงสุดวิ่ง200กม. ใบพัด งูกินเด็กมีค้อน ราคาถูกกว่า ซ่อมง่ายกว่า ขับดีพอกัน คุ้มตังค์กว่าคาลิบร้าวี6

ช่วงล่างนุ่นแนวพรมวิเศษแบบซีตรองcx ย้วยไม่โยน เก็บรอยต่อถนนเนียน ขับนานไม่เหนื่อย แต่ขับเร็วไม่มันและช่วงล่างไปไว
ต้องใส่ล้อเล็ก แก้มแคบ205,215 ยางมิชลินตัวนุ่ม จะดีมาก
ยิ่งใช้กับเลี้ยวสี่ล้อ กลับรถไม่ต้องตีวงกว้าง

มอเตอร์ อินเวอร์เตอร์ รุ่นใหม่กินไฟน้อย เขาควายโม้มากไป
ถ่านลิเธี่ยม อึด แรงไฟคงที่ ถ่านเต็มวิ่งได้ราว 650โล ที่90-110 ถือว่าดีมากสำหรับรถหนักและหรูขนาดนี้

สะดวกสบายแบบเอสคราส แต่กินไฟน้อยใกล้ดีเซลวีแปดหอยคู่ของใบพัด

ถ้าประกอบในรุ่นขับสอง ขายเจ็ดล้านลงมาได้ คงมีคนสนใจไม่น้อย
โดยเฉพาะรถโรงแรม ลีมูซีน ที่ตัดของเล่นอออกหมด รถคงเบาขึ้นเป็นร้อยโล

7ถ่าน ถ้าออกปีนี้คงเป็นต้นแบบนางฟ้า คงไม่เอามอเตอร์ต่อเพลากลางแบบex103แน่ ย้อนยุคพาเจ๊งแบบนั้น ถึงไม่มีคนรวยจอง

รถหรูคนรวยนั่ง ขับ ทุกวัน
ถ่านวิ่ง700-1200กม. ทนทาน บึกบึน
กันกระสุนได้ ถ้าเพิ่มเงิน ไว้ใจได้ ดูแลง่าย ไม่ต้องจุดธูปก่อนติดเครื่อง

ที่สำคัญรถถ่านอย่าเรื่องมาก ใครขับต้องได้
ไม่งั้นคนขับรถจะกลายเป็นเจ้าของรถแทน เพราะคนงานยุ่ง คิดเยอะ ไม่ชอบเรื่องจุกจิก พอลืมขึ้นมาในวันสำคัญ พาลไม่ซื้อเอา

ตอนนี้เห็นคนรวยออกรถตู้หรูกันเยอะ เพราะเบื่อความจุกจิก อะไหล่แพงของรถยุโรป
ถ้าสามห่วงขายรถตู้ถ่านหรูอะไหล่ล้ำแบบbz มาต่ำกว่าห้าล้าน ประกันรถ8-10ปี ถ่านเต็มวิ่ง700โลได้
น่าจะขายดีกว่าbzจอยสติ๊กสองล้านขึ้น กับคนทำงาน

จะทดสอบรถถ่านอึด ต้องไปโกลก เบตง รับรองไม่กล้าไป เพราะไม่ใข่แค่กินข้าวลิง กลัวเจอของแถม
รถถ่านขับลงใต้คงได้ไม่เกินจะนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 06, 2022, 11:27:26 โดย bahamu »

ออฟไลน์ axister

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,201
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มีนาคม 06, 2022, 10:48:06 »
ผมกลับมองว่า range เยอะๆ ไม่ใช่คำตอบอ่ะ

มันต้องสร้าง ecosystem ให้จุดชาร์จเยอะ และชาร์จไว เพราะคนเราจะเดินทางไกลขนาดนี้กี่ครั้งกันใน 1 เดือน นอกจากเป็นรถขนส่ง ซึ่งก็แก้ได้ด้วยการชาร์จไวหน่ะแหละ เซต stop point ให้ check up อะไรก็ว่าไป ถ้าปั้มไฟ dc 200kwh ชาร์จได้เท่านี้ตลอดไม่ต้องอุ่นแบตนานแค่แวะฉี่ จิบกาแฟก็ได้มาหลายเปอแล้ว

range 4-5 ร้อยโลผมว่าเพียงพอแล้ว ถ้าชาร์จไว สถานีชาร์จพอ ที่ควรพัฒนาจริงๆ นอกจากปั้มไฟ คือบังคับใช้กฎมากกว่า พวกรถสันดาปจอดช่องชาร์จ หรือ รถ ev จอดแช่ไม่ชาร์จ ต้องปรับให้หนัก ต้อง PR เรื่องการลงโทษกว้างๆ ให้หนักๆ ซึ่งยากมากๆ ทำได้อย่างมากก็ในเมืองที่คนเริ่มมีสำนึกกัน พอเจอตลาดล่างหรือไดโนเสาร์ก็จบ เอาแค่บังคับที่จอดคนพิการกับ lady park ให้ได้ก่อนใน ปตท อ่ะ

แบตใหญ่ราคารถก็แรง พอถึง cycle เปลี่ยนแบตก็จะมีวาทะกรรมแบบ toyota hv ว่าเอาส่วนตามไปเติมน้ำมันดีกว่าอีก ราคาก็ตกคนก็ไม่ใช้อีก

ประเทศเราเหมือนหยุดพัฒนาไปแล้ว ต้องใช้วิธีเชิงบังคับ ไม่งั้นเจริญยากครับ เพราะการศึกษาเข้าไม่ถึงทุกคน การสอนก็มีแต่ใน academic เรื่องสามัญสำนึก การใช้ชีวิต ไม่มีเลย

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,003
    • อีเมล์
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มีนาคม 06, 2022, 11:12:21 »
เข้าใจว่าเป็นการทดสอบนะ ... แต่การใช้งานจริงวิ่งไปชาจน์ไปแบบที่คุณตามทำอะดีสุด ..

ในคลิปดูแล้วน่าจะปิดแอร์วิ่งมาตั้งแต่ลำพูนอะ หน้ามันทั้งคู่เลย ....

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,632
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มีนาคม 06, 2022, 11:22:37 »
 ดีครับแต่มันเป็นรถเกินเอื้อมสำหรับผม     เกิดรถติดเทศกาลนี่จบเลย 
   

ออฟไลน์ panjap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,256
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มีนาคม 06, 2022, 11:38:18 »
ผมกลับมองว่า range เยอะๆ ไม่ใช่คำตอบอ่ะ

มันต้องสร้าง ecosystem ให้จุดชาร์จเยอะ และชาร์จไว เพราะคนเราจะเดินทางไกลขนาดนี้กี่ครั้งกันใน 1 เดือน นอกจากเป็นรถขนส่ง ซึ่งก็แก้ได้ด้วยการชาร์จไวหน่ะแหละ เซต stop point ให้ check up อะไรก็ว่าไป ถ้าปั้มไฟ dc 200kwh ชาร์จได้เท่านี้ตลอดไม่ต้องอุ่นแบตนานแค่แวะฉี่ จิบกาแฟก็ได้มาหลายเปอแล้ว

range 4-5 ร้อยโลผมว่าเพียงพอแล้ว ถ้าชาร์จไว สถานีชาร์จพอ ที่ควรพัฒนาจริงๆ นอกจากปั้มไฟ คือบังคับใช้กฎมากกว่า พวกรถสันดาปจอดช่องชาร์จ หรือ รถ ev จอดแช่ไม่ชาร์จ ต้องปรับให้หนัก ต้อง PR เรื่องการลงโทษกว้างๆ ให้หนักๆ ซึ่งยากมากๆ ทำได้อย่างมากก็ในเมืองที่คนเริ่มมีสำนึกกัน พอเจอตลาดล่างหรือไดโนเสาร์ก็จบ เอาแค่บังคับที่จอดคนพิการกับ lady park ให้ได้ก่อนใน ปตท อ่ะ

แบตใหญ่ราคารถก็แรง พอถึง cycle เปลี่ยนแบตก็จะมีวาทะกรรมแบบ toyota hv ว่าเอาส่วนตามไปเติมน้ำมันดีกว่าอีก ราคาก็ตกคนก็ไม่ใช้อีก

ประเทศเราเหมือนหยุดพัฒนาไปแล้ว ต้องใช้วิธีเชิงบังคับ ไม่งั้นเจริญยากครับ เพราะการศึกษาเข้าไม่ถึงทุกคน การสอนก็มีแต่ใน academic เรื่องสามัญสำนึก การใช้ชีวิต ไม่มีเลย

ถูกแล้ว จะใส่แบตเยอะๆ ไป มันไม่ได้ประโยชน์อะไรนอกจากมันหนักเปล่าๆ เอาแบตกะลังดี และ ตู้ชาจ เยอะๆ ชาจได้ไว ดีกว่าเยอะเลย คิดแบบคุณถูกต้องแล้ว

ผมเห็นความเห็น ข้างบน แล้ว รู้เลยว่าบางคนรู้ไม่จริง ตู้ ac ทั่วไป มันก็ 7.2 / 11/22 kw ถูกแล้ว จุดประสงค์เขาให้กับพวก hybrid  แต่ถ้า EV ในส่วนของ ตู้ dc เรามี ตั้งแต่ 50, 100, 150 kw แล้ว  และก็เยอะด้วย ไปอยู่ไหนมา ถึงไม่รู้ว่าเขามีกันแล้ว?

อย่างตู้ 150 kw ของ ea anywhere มีสองหัว ด้วยซ้ำในตู้เดียว ถ้ารถคุณมี ที่ชาจสองอัน แบบในรถบัส มันก็ชาจพร้อมกันได้ 300 kw สบายๆ  ส่วนตู้แรงกว่านี้ 250 kw เขาก็ทำได้ แต่....

ปัญหา คือ.... รถคุณนะ รับได้แค่ไหนมากกว่า  อย่าไปคิดว่า มี ตู้ 100 kw จะชาจได้ 100 นะ มันไม่ใช่รถน้ำมัน ท่อยิ่งใหญ่ยิ่งไปได้เยอะ ไม่ใช่แบบนั้น !
ต้องดูว่า รถคุณรับ ได้เท่าไรด้วย และ ตู้มันจ่ายให้รถคุณได้ไหม? เรื่องแบบนี้ ลุง รู้หรือเปล่า ? ผมยังสงสัย   ดังนั้นไม่แปลกใจว่า egat, pea ทำไมตอนนี้ทำแค่ตู้ 100 kw ก็รถเมืองไทยมันรับได้สูงสุดแค่นั้นเอง เผลอๆ หลายๆคัน รับได้แค่ 50 kw ด้วยซ้ำ  อย่าง jaquar ipace รับได้ 100 kw เอาจริง ไปชาจตู้ pea 100 kw ก็ชาจได้ แค่ 50 kw เหตุผล เพราะ software ตู้ เขาไม่ได้จูนเข้ากับตัว bms ของ รถ jaquar
เรื่องแบบนี้ต้องทำความเข้าใจอีกเยอะ คนไม่รู้ +รู้ไม่จริง ยังมีเยอะ


ออฟไลน์ bahamu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 685
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มีนาคม 06, 2022, 12:32:29 »
ac7.6 แต่รถกล่องรับไฟรับได้11kw แล้วที่โม้กรอกหูคนไทยนี่คืออะไร อย่าคิดแทนคนอื่น

แสดงว่าไม่เคยอ่านอะไรที่เกี่ยวกับรถถ่านเลย ถกกันในนี้เป็นปี โตช้าเพราะอะไรรู้กันหมด เพิ่งรู้เหรอเนี่ยไปอยู่ไหนมา

รถรับ200kw ตู้100,150kw ยังมีน้อย อู๋ขับไปหาดใหญ่ยังเจอน้อยมาก ไม่กี่เดือนเองที่ไป

150kwสองหัว ดูรถถ่านเหมือง กับรถบัสมาเทียบกับเก๋ง ทำไปได้ คนละขนาดเทียบได้ยังไง

ปีนี้มีรถ800vมากขายไม่แพงมาก
ต้องใช้ตู้dc250kwขึ้น
คนไทยไม่ได้กินหญ้าแทนข้าว หรือดูทีวีช่องเดียว จะได้โง่เชื่อพวกถอยหลังลงคลอง รอผูกขาด
อยากเป็นเสือนอนกิน วันๆเพ้อเจ้อจะต้อนคนไทยเข้าคอก

ผลลัพท์เห็นกันอยู่ว่าหลอกไม่ได้ บังคับไม่สำเร็จ รู้อะไรแค่ไหนก็บอกไม่ต้องอมภูมิ

หน่วยงานที่อ้างๆมา คนทำงานยังซื้อรถน้ำมันแทนเลย รถเยอะกว่าตู้ลำบากใช้ อัดช้าไม่ทันกิน เพราะตู้ลงแล้วเปลี่ยนยาก
บางที่บอกจะเอามาลงแต่ต้องราคานี้ รู้จริงน่าจะรู้ลึกกว่านี้นะ นี่แค่เขาบ่นดังๆกัน นึกว่าจะได้ลองใช้ก่อน กลายเป็นหนูลองยาพร้อมกัน รอนานกว่าเติมngvจะผ่อนทำไม เก็บตู้ไว้ปลูกสะระแหน่เหอะ

สเปครถถ่านปีนี้
รถยุโรปต้องการตู้อัด200kwขึ้น
ส่วนรถ800vทั้งถูกและแพงต้องการตู้อัดไฟdc150kwขึ้นไป

แล้ว400v กับ800v ต่างกันยังไงบอกหน่อย บอกให้ชาวบ้านรู้อย่ากั๊ก กี่แอมป์ด้วย ต่อกี่โวลท์ ดูหนุ่มไทยนอร์เวย์ ยังบ่นตลอดที่ตีรถไปอ่างขาง ตู้อัดไฟdcเป็นไง ขับแมวดีไปบ่นไปตลอด หรือมีที่เชื่อถือได้มากกว่านี้บอกมาเลย

ยังไม่มีใครบอกกว่าเก่งสักคน ต่างแสดงความเห็นของตน เป็นไรมากเปล่า อ่านกฎเวบด้วย ไม่ใช่ใช้แต่อคติ เอาแต่อัตวิสัยไม่สนใจภาวะวิสัย

ถ้าต่างชาติไม่บีบให้ออกอัตราภาษีใหม่ ตู้อัดไฟจะห่วยยิ่งกว่านี้
ทำไมต้องดูแคลนคนจนซื้อรถด้วยว่า รถถูกอัดตู้ไฟ แรงๆไม่ได้ แล้วปีหน้าปีโน้นทำได้ขึ้นมา จะรับผิดชอบยังไง กล้าทำกล้ารับด้วย อย่าเที่ยวพูดตีกินให้ตัวเองวิเศษกว่าชาวบ้าน

เคยถามคนซื้อรถถ่านจริงๆกี่คน
เก็บตัวอย่างเท่าไหร่ มีค่าดัชนีที่ซิกเท่าไหร่
เซลบ่นให้ฟังแค่ไหน
ปัญหาที่ประชุมบอร์ดแต่ละที่ที่ติดขัดมีอะไรบ้าง รู้เยอะ เก่งกว่าชาวบ้านบอกมาเลย จะกร่างก็เอาให้เต็มที่อยากให้คนซูฮกไม่ใช่รึถึงล้อฟรีขนาดนั้น

แต่ก่อนบอกจะถ่ายน้ำมันเกียร์7g ต้องวัดที่เสื้อ บ้านเราร้อนเป็นทุน 45องศา เอาปรอทแตะก็ได้ร้อนแต่มือไม่พอง นั่นไว้ใช้เมืองหนาว
จัดเครื่องเดินเบาไปหน่อยก็ขึ้นเกินแล้ว เกียร์รุ่นนี้ถึงไม่น่าเล่นขนาดประคบประงมยังไม่ทนเท่า5g

ใช้คำยากไปรึเปล่าเนี่ยต้องแปลไทยเป็นด้วยไหม
บาลี สันสกฤษ มีรากเดียวกับลาติน กรีก แค่ต่างสำเนียงกัน
เก่งนักบอกหน่อยภาษาอินโด ยูโรเปี้ยนที่เชื่อว่าเป็นต้นทางอยู่ที่ไหน ปราชญ์ภาษาทั่วโลกหามาร้อยปียังไม่เจอ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 06, 2022, 12:54:04 โดย bahamu »

ออฟไลน์ คุณ นมๆ

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 716
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มีนาคม 06, 2022, 12:43:52 »
ผมกลับมองว่า range เยอะๆ ไม่ใช่คำตอบอ่ะ

มันต้องสร้าง ecosystem ให้จุดชาร์จเยอะ และชาร์จไว เพราะคนเราจะเดินทางไกลขนาดนี้กี่ครั้งกันใน 1 เดือน นอกจากเป็นรถขนส่ง ซึ่งก็แก้ได้ด้วยการชาร์จไวหน่ะแหละ เซต stop point ให้ check up อะไรก็ว่าไป ถ้าปั้มไฟ dc 200kwh ชาร์จได้เท่านี้ตลอดไม่ต้องอุ่นแบตนานแค่แวะฉี่ จิบกาแฟก็ได้มาหลายเปอแล้ว

range 4-5 ร้อยโลผมว่าเพียงพอแล้ว ถ้าชาร์จไว สถานีชาร์จพอ ที่ควรพัฒนาจริงๆ นอกจากปั้มไฟ คือบังคับใช้กฎมากกว่า พวกรถสันดาปจอดช่องชาร์จ หรือ รถ ev จอดแช่ไม่ชาร์จ ต้องปรับให้หนัก ต้อง PR เรื่องการลงโทษกว้างๆ ให้หนักๆ ซึ่งยากมากๆ ทำได้อย่างมากก็ในเมืองที่คนเริ่มมีสำนึกกัน พอเจอตลาดล่างหรือไดโนเสาร์ก็จบ เอาแค่บังคับที่จอดคนพิการกับ lady park ให้ได้ก่อนใน ปตท อ่ะ

แบตใหญ่ราคารถก็แรง พอถึง cycle เปลี่ยนแบตก็จะมีวาทะกรรมแบบ toyota hv ว่าเอาส่วนตามไปเติมน้ำมันดีกว่าอีก ราคาก็ตกคนก็ไม่ใช้อีก

ประเทศเราเหมือนหยุดพัฒนาไปแล้ว ต้องใช้วิธีเชิงบังคับ ไม่งั้นเจริญยากครับ เพราะการศึกษาเข้าไม่ถึงทุกคน การสอนก็มีแต่ใน academic เรื่องสามัญสำนึก การใช้ชีวิต ไม่มีเลย

ถูกแล้ว จะใส่แบตเยอะๆ ไป มันไม่ได้ประโยชน์อะไรนอกจากมันหนักเปล่าๆ เอาแบตกะลังดี และ ตู้ชาจ เยอะๆ ชาจได้ไว ดีกว่าเยอะเลย คิดแบบคุณถูกต้องแล้ว

ผมเห็นความเห็น ข้างบน แล้ว รู้เลยว่าบางคนรู้ไม่จริง ตู้ ac ทั่วไป มันก็ 7.2 / 11/22 kw ถูกแล้ว จุดประสงค์เขาให้กับพวก hybrid  แต่ถ้า EV ในส่วนของ ตู้ dc เรามี ตั้งแต่ 50, 100, 150 kw แล้ว  และก็เยอะด้วย ไปอยู่ไหนมา ถึงไม่รู้ว่าเขามีกันแล้ว?

อย่างตู้ 150 kw ของ ea anywhere มีสองหัว ด้วยซ้ำในตู้เดียว ถ้ารถคุณมี ที่ชาจสองอัน แบบในรถบัส มันก็ชาจพร้อมกันได้ 300 kw สบายๆ  ส่วนตู้แรงกว่านี้ 250 kw เขาก็ทำได้ แต่....

ปัญหา คือ.... รถคุณนะ รับได้แค่ไหนมากกว่า  อย่าไปคิดว่า มี ตู้ 100 kw จะชาจได้ 100 นะ มันไม่ใช่รถน้ำมัน ท่อยิ่งใหญ่ยิ่งไปได้เยอะ ไม่ใช่แบบนั้น !
ต้องดูว่า รถคุณรับ ได้เท่าไรด้วย และ ตู้มันจ่ายให้รถคุณได้ไหม? เรื่องแบบนี้ ลุง รู้หรือเปล่า ? ผมยังสงสัย   ดังนั้นไม่แปลกใจว่า egat, pea ทำไมตอนนี้ทำแค่ตู้ 100 kw ก็รถเมืองไทยมันรับได้สูงสุดแค่นั้นเอง เผลอๆ หลายๆคัน รับได้แค่ 50 kw ด้วยซ้ำ  อย่าง jaquar ipace รับได้ 100 kw เอาจริง ไปชาจตู้ pea 100 kw ก็ชาจได้ แค่ 50 kw เหตุผล เพราะ software ตู้ เขาไม่ได้จูนเข้ากับตัว bms ของ รถ jaquar
เรื่องแบบนี้ต้องทำความเข้าใจอีกเยอะ คนไม่รู้ +รู้ไม่จริง ยังมีเยอะ

ผมว่ายุคบุกเบิกแบตใหญ่ไว้ก่อนดีแล้วถ้าคิดจะใช้เดินทางแทนรถน้ำมันจริง ในตอนนี้ตู้dc ตามถนนหลัก มิตรภาพ พหลโยธิน เพชรเกษม บลาๆ มีตู้เยอะจริงแต่ถ้าคุณออกนอกทางหลวงพวกนี้คุณไปได้ไม่เกิน100กม.จาก dcใกล้สุดนอกจากจะไม่เผื่อแบตไว้วิ่งทำธุระที่จุดหมายปลายทางของคุณ อย่าอีสานเลี้ยวออกไปทำธุระบางอำเภอไม่ได้เลยนะไปแช้วไฟไม่พอกลับ

และอีกข้อ ชาร์จเต็ม100% สมมุติวิ่งได้500 wltp ลบไปเลย70-100กม. ชาร์จแรกคุณอาจจะวิ่งไปได้ถึง350 เพราต้องเหลือ20%ฉุกเฉิน ชาร์จที่2ในนี่แหละคุณจะวิ่งได้แค่300กม.ต้องหาที่ชาร์จแล้ว เพราะชาร์จเต็มที่อย่างมากได้แค่ 80-90% หักลบกับที่ต้องเหลือฉุกเฉินไว้20% สรุปชาร์จ2ใช้ได้แค่60-70%ของความจุก็ประมาณ300กม. เพราะฉนั้นแบต60-70kw ยังไม่พอครับ

range 500 กม. แบบใช้ในชีวิตจริงๆไม่กรอคันเร่ง กดเป็นกด แซงเป็นแซงแบตต้องใหญ่เท่าeqsนี่แหละครับถึงจะพอ


ออฟไลน์ Sympho

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 999
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: มีนาคม 06, 2022, 12:54:15 »
ผ่านขุนตาลมาได้ก็น่าประทับใจแล้วครับสำหรับรถไฟฟ้า รถ ICE บางคันถังเดียวไปไม่ถึงตรงนั้นแน่ๆ จากตรงนั้นก็อีกแค่ 20 กว่ากิโลก็ถึงตัวเมืองแล้ว แต่ก็ต้องบอกว่า ระยะทาง 670 กิโลใช้เวลา 10 ชั่วโมง 20 นาที สมมุติว่าหักเวลาแวะพักสัก 20-40 นาที (เห็นบอกว่าพักเบรคเร็วๆ) ก็คือขับที่ความเร็วประมาณ  65-70 กม./ชม. ซึ่งก็ช้าพอสมควร ไม่น่าจะมีใครขับจริงเท่านี้แน่ๆ

ถ้าขับจริงๆ ใช้ความเร็วมากขึ้นหน่อย แวะชาร์จสักทีตอนแบต 20-30% ให้ได้สัก 80% ก็ถึงสบายๆ ได้ขนาดนี้ก็สมราคาแล้วครับ

ผมขับไปกลับเชียงใหม่บ่อยๆ ถ้าขับ 100-120 มันจะได้ความเร็วเฉลี่ยทั้งทริป (รวมพัก) ประมาณนั้นครับ

เห็นในคลิปขับประมาณ 100

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,949
    • อีเมล์
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: มีนาคม 06, 2022, 16:15:25 »
ผ่านขุนตาลมาได้ก็น่าประทับใจแล้วครับสำหรับรถไฟฟ้า รถ ICE บางคันถังเดียวไปไม่ถึงตรงนั้นแน่ๆ จากตรงนั้นก็อีกแค่ 20 กว่ากิโลก็ถึงตัวเมืองแล้ว แต่ก็ต้องบอกว่า ระยะทาง 670 กิโลใช้เวลา 10 ชั่วโมง 20 นาที สมมุติว่าหักเวลาแวะพักสัก 20-40 นาที (เห็นบอกว่าพักเบรคเร็วๆ) ก็คือขับที่ความเร็วประมาณ  65-70 กม./ชม. ซึ่งก็ช้าพอสมควร ไม่น่าจะมีใครขับจริงเท่านี้แน่ๆ

ถ้าขับจริงๆ ใช้ความเร็วมากขึ้นหน่อย แวะชาร์จสักทีตอนแบต 20-30% ให้ได้สัก 80% ก็ถึงสบายๆ ได้ขนาดนี้ก็สมราคาแล้วครับ

ผมขับไปกลับเชียงใหม่บ่อยๆ ถ้าขับ 100-120 มันจะได้ความเร็วเฉลี่ยทั้งทริป (รวมพัก) ประมาณนั้นครับ

เห็นในคลิปขับประมาณ 100
 

           ใช่ครับ  ทางยาวๆแบบนั้ต้องพักประมาณ 2-3 ครั้ง พักกินข้าวก็ต้อง 30 นาที  พักเข้าห้องน้ำประมาณ 10-15 นาที  มีจุดที่ต้องติดไฟแดงเกิน 10 จุด  แต่เราอาจจะโชคดีติดไฟแดงแค่ 4-5 ครั้ง ถ้าความเร็วเดินทางสูงสุด 120 เราต้องใช้เวลาเกือบ 10 ชั่วโมง

ออฟไลน์ axister

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,201
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: มีนาคม 06, 2022, 20:19:18 »
ผมกลับมองว่า range เยอะๆ ไม่ใช่คำตอบอ่ะ

มันต้องสร้าง ecosystem ให้จุดชาร์จเยอะ และชาร์จไว เพราะคนเราจะเดินทางไกลขนาดนี้กี่ครั้งกันใน 1 เดือน นอกจากเป็นรถขนส่ง ซึ่งก็แก้ได้ด้วยการชาร์จไวหน่ะแหละ เซต stop point ให้ check up อะไรก็ว่าไป ถ้าปั้มไฟ dc 200kwh ชาร์จได้เท่านี้ตลอดไม่ต้องอุ่นแบตนานแค่แวะฉี่ จิบกาแฟก็ได้มาหลายเปอแล้ว

range 4-5 ร้อยโลผมว่าเพียงพอแล้ว ถ้าชาร์จไว สถานีชาร์จพอ ที่ควรพัฒนาจริงๆ นอกจากปั้มไฟ คือบังคับใช้กฎมากกว่า พวกรถสันดาปจอดช่องชาร์จ หรือ รถ ev จอดแช่ไม่ชาร์จ ต้องปรับให้หนัก ต้อง PR เรื่องการลงโทษกว้างๆ ให้หนักๆ ซึ่งยากมากๆ ทำได้อย่างมากก็ในเมืองที่คนเริ่มมีสำนึกกัน พอเจอตลาดล่างหรือไดโนเสาร์ก็จบ เอาแค่บังคับที่จอดคนพิการกับ lady park ให้ได้ก่อนใน ปตท อ่ะ

แบตใหญ่ราคารถก็แรง พอถึง cycle เปลี่ยนแบตก็จะมีวาทะกรรมแบบ toyota hv ว่าเอาส่วนตามไปเติมน้ำมันดีกว่าอีก ราคาก็ตกคนก็ไม่ใช้อีก

ประเทศเราเหมือนหยุดพัฒนาไปแล้ว ต้องใช้วิธีเชิงบังคับ ไม่งั้นเจริญยากครับ เพราะการศึกษาเข้าไม่ถึงทุกคน การสอนก็มีแต่ใน academic เรื่องสามัญสำนึก การใช้ชีวิต ไม่มีเลย

ถูกแล้ว จะใส่แบตเยอะๆ ไป มันไม่ได้ประโยชน์อะไรนอกจากมันหนักเปล่าๆ เอาแบตกะลังดี และ ตู้ชาจ เยอะๆ ชาจได้ไว ดีกว่าเยอะเลย คิดแบบคุณถูกต้องแล้ว

ผมเห็นความเห็น ข้างบน แล้ว รู้เลยว่าบางคนรู้ไม่จริง ตู้ ac ทั่วไป มันก็ 7.2 / 11/22 kw ถูกแล้ว จุดประสงค์เขาให้กับพวก hybrid  แต่ถ้า EV ในส่วนของ ตู้ dc เรามี ตั้งแต่ 50, 100, 150 kw แล้ว  และก็เยอะด้วย ไปอยู่ไหนมา ถึงไม่รู้ว่าเขามีกันแล้ว?

อย่างตู้ 150 kw ของ ea anywhere มีสองหัว ด้วยซ้ำในตู้เดียว ถ้ารถคุณมี ที่ชาจสองอัน แบบในรถบัส มันก็ชาจพร้อมกันได้ 300 kw สบายๆ  ส่วนตู้แรงกว่านี้ 250 kw เขาก็ทำได้ แต่....

ปัญหา คือ.... รถคุณนะ รับได้แค่ไหนมากกว่า  อย่าไปคิดว่า มี ตู้ 100 kw จะชาจได้ 100 นะ มันไม่ใช่รถน้ำมัน ท่อยิ่งใหญ่ยิ่งไปได้เยอะ ไม่ใช่แบบนั้น !
ต้องดูว่า รถคุณรับ ได้เท่าไรด้วย และ ตู้มันจ่ายให้รถคุณได้ไหม? เรื่องแบบนี้ ลุง รู้หรือเปล่า ? ผมยังสงสัย   ดังนั้นไม่แปลกใจว่า egat, pea ทำไมตอนนี้ทำแค่ตู้ 100 kw ก็รถเมืองไทยมันรับได้สูงสุดแค่นั้นเอง เผลอๆ หลายๆคัน รับได้แค่ 50 kw ด้วยซ้ำ  อย่าง jaquar ipace รับได้ 100 kw เอาจริง ไปชาจตู้ pea 100 kw ก็ชาจได้ แค่ 50 kw เหตุผล เพราะ software ตู้ เขาไม่ได้จูนเข้ากับตัว bms ของ รถ jaquar
เรื่องแบบนี้ต้องทำความเข้าใจอีกเยอะ คนไม่รู้ +รู้ไม่จริง ยังมีเยอะ

ผมว่ายุคบุกเบิกแบตใหญ่ไว้ก่อนดีแล้วถ้าคิดจะใช้เดินทางแทนรถน้ำมันจริง ในตอนนี้ตู้dc ตามถนนหลัก มิตรภาพ พหลโยธิน เพชรเกษม บลาๆ มีตู้เยอะจริงแต่ถ้าคุณออกนอกทางหลวงพวกนี้คุณไปได้ไม่เกิน100กม.จาก dcใกล้สุดนอกจากจะไม่เผื่อแบตไว้วิ่งทำธุระที่จุดหมายปลายทางของคุณ อย่าอีสานเลี้ยวออกไปทำธุระบางอำเภอไม่ได้เลยนะไปแช้วไฟไม่พอกลับ

และอีกข้อ ชาร์จเต็ม100% สมมุติวิ่งได้500 wltp ลบไปเลย70-100กม. ชาร์จแรกคุณอาจจะวิ่งไปได้ถึง350 เพราต้องเหลือ20%ฉุกเฉิน ชาร์จที่2ในนี่แหละคุณจะวิ่งได้แค่300กม.ต้องหาที่ชาร์จแล้ว เพราะชาร์จเต็มที่อย่างมากได้แค่ 80-90% หักลบกับที่ต้องเหลือฉุกเฉินไว้20% สรุปชาร์จ2ใช้ได้แค่60-70%ของความจุก็ประมาณ300กม. เพราะฉนั้นแบต60-70kw ยังไม่พอครับ

range 500 กม. แบบใช้ในชีวิตจริงๆไม่กรอคันเร่ง กดเป็นกด แซงเป็นแซงแบตต้องใหญ่เท่าeqsนี่แหละครับถึงจะพอ

ถ้าทุกค่ายไปทำแบตใหญ่หมด มันจะกลายเป็นรถในฝันให้คนมาด่าแซะเรื่องราคาครับ เพราะตัวแพงของรถไฟฟ้าคือราคาแบตส่วนใหญ่

อันนี้มาเทียบกับ eqs เราเลยมองข้ามเรื่องราคา แถมจุดเด่นอีกอันมันคือ aerodynamic ที่ทรงมันลู่ลมมากๆ (แต่ส่วนตัวมองว่าไม่สวย) ซึ่งรถแต่ละค่ายก็ต้องไป adapt ตาม design ตัวเองอีก ไม่รู้ว่าจะลู่ลมขนาดไหน อีกอย่างแบตยิ่งใหญ่ นน. ยิ่งเยอะ ถ้าไม่นับพวกเป็น ev เพราะความจำต้องแชร์ตัวถังกับ ice เป็นเหมือน ix3 i4 ที่หนักมากก

ผมมองว่าลดน้ำหนักแบต ได้ efficiency เพิ่มก็จะได้ระยะทางแบบไม่ต้องแบกของหนัก อนาคตแบตอาจถูกพัฒนาให้เบากว่านี้ แต่จุไฟมากขึ้นแต่น้ำหนักไม่ควรเกิน 2 ตัน แล้วก็จูนซอฟต์แวร์เข้ากับแมพอุ่นแบตรอไรงี้ เพราะต่อให้รับได้ 200kw ชาร์จจริงก็เข้าไม่ถึงเสมอไป

ปัจจุบันเฉลี่ย 2.2-2.4 ตันกันหมด มีแต่รถ ev ground up ที่หนักต่ำ 2 กัน แต่ eqs เป็น platform ev จ๋า นน. น่าจะ 2.4 ถือว่าตุ้ยนุ้ยพอสมควร ตอนนี้ tesla เป็น role model ที่ดีที่สุด เพียงแต่เค้าไม่มาทำตลาดในไทย รถไฟฟ้าเลยดูเป็นเรื่องลำบากในประเทศเรา เพราะไม่มีใครมาช่วยปั้น super charger

หรือในอังกฤษที่ผมอยู่ยังปั้มไฟฟ้าน้อย เพราะแอบชนบทเล็กน้อย แล้วบ้านส่วนใหญ่ถ้าไม่รวยก็จอด outdoor ต้องโยงสายกันมาวุ่นวาย แต่มีปั้มไฟฟ้ามากกว่าไทย สำนึกคนมากกว่านิดนึง ใช้ polestar2 เหยียบไม่ประหยัด ไปเที่ยวเหนือลงใต้ range ทะลุพันตลอด ยังไม่มีปัญหาเลยครับ ขนาดว่า polestar กลายร่างมาจาก platform รถน้ำมันนะ ไฟวิ่งก็ได้ไม่มาก ถ้าใช้ model3 ยิ่งชิวเลย

ออฟไลน์ Superpong

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 315
    • อีเมล์
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: มีนาคม 07, 2022, 09:01:46 »
เยี่ยม แต่ประเด็นคือมันต้องจ่าย 6-7 ล้าน เนี่ยแหละ  ;D ;D ;D จบข่าวเลย ถถถ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,243
    • อีเมล์
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: มีนาคม 07, 2022, 09:19:51 »
สำหรับผมนะครับ

ผมขับรถออกต่างจังหวัด เดือนละ 1-2 ครั้ง ออกเย็นวันศุกร์ กลับวันอาทิตย์ ระยะ 550km (ไปกลับ 1 พันกว่าโล)

ผมเติมน้ำมันเต็มถังออกจากกรุงเทพฯ วิ่งแทบจะรวดเดียว 550km

ถ้าต้องจอดชาร์จ เกิน 1 ชั่วโมง ต่อการชาร์จ ผมก็ไม่โอเคแล้ว ถ้าพวก DC ชาร์จไว 30 นาที ได้สัก 50-80% ยังพอทำใจได้

เป็น 1 เหตุผลที่ผมยังตัดสินใจซื้อรถยนต์ EV ไม่ได้

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,462
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: มีนาคม 07, 2022, 10:12:13 »
ดูเพลินดีครับ ได้ความรู้เรื่องรถ EV จากช่องนี้เยอะเลย

ออฟไลน์ ThisIsYuTh

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 291
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: มีนาคม 07, 2022, 10:32:22 »
ผ่านขุนตาลมาได้ก็น่าประทับใจแล้วครับสำหรับรถไฟฟ้า รถ ICE บางคันถังเดียวไปไม่ถึงตรงนั้นแน่ๆ จากตรงนั้นก็อีกแค่ 20 กว่ากิโลก็ถึงตัวเมืองแล้ว แต่ก็ต้องบอกว่า ระยะทาง 670 กิโลใช้เวลา 10 ชั่วโมง 20 นาที สมมุติว่าหักเวลาแวะพักสัก 20-40 นาที (เห็นบอกว่าพักเบรคเร็วๆ) ก็คือขับที่ความเร็วประมาณ  65-70 กม./ชม. ซึ่งก็ช้าพอสมควร ไม่น่าจะมีใครขับจริงเท่านี้แน่ๆ

ถ้าขับจริงๆ ใช้ความเร็วมากขึ้นหน่อย แวะชาร์จสักทีตอนแบต 20-30% ให้ได้สัก 80% ก็ถึงสบายๆ ได้ขนาดนี้ก็สมราคาแล้วครับ

ผมขับไปกลับเชียงใหม่บ่อยๆ ถ้าขับ 100-120 มันจะได้ความเร็วเฉลี่ยทั้งทริป (รวมพัก) ประมาณนั้นครับ

เห็นในคลิปขับประมาณ 100
 

           ใช่ครับ  ทางยาวๆแบบนั้ต้องพักประมาณ 2-3 ครั้ง พักกินข้าวก็ต้อง 30 นาที  พักเข้าห้องน้ำประมาณ 10-15 นาที  มีจุดที่ต้องติดไฟแดงเกิน 10 จุด  แต่เราอาจจะโชคดีติดไฟแดงแค่ 4-5 ครั้ง ถ้าความเร็วเดินทางสูงสุด 120 เราต้องใช้เวลาเกือบ 10 ชั่วโมง

คงแล้วแต่การขับของแต่ละคนแหล่ะครับ

ปกติผมขับไปเชียงใหม่ก็ยิงยาวรวดเดียวเลยครับ จอดพักรวมไม่เกินครึ่งชมใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมงไม่เกินนี้
2020 - Mazda CX-5 2.5T (KF)
2016 - Subaru XV (GP)
2013 - Mitsubishi Pajero Sport (KG)
2010 - Honda Civic (FD)
2006 - BMW 3 Series (E36)

ออฟไลน์ cdap

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 154
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: มีนาคม 07, 2022, 10:43:25 »
ถ้าระยะขนาดนี้คิดว่าใช้ในการเดินทางไกลชีวิตประจำวันได้สบายเลย
แต่ปัจจัยหนึ่งที่อยากรู้คือว่ารถคันนี้ ถ้าชาร์จเร็ว 80% ตู้ที่เร็วสุดที่มีตอนนี้ ใช้เวลาประมาณเท่าไร เพราะแบตใหญ่มากเลย
มองว่าถ้าการใช้งานจริง คนเดินทางไกลน่าจะมองหาตู้ชาร์จเร็ว เพื่อเดินทางต่อถ้าการชาร์จเร็วสะดวก ต่อไปรถไฟฟ้าก็น่าจะได้รับความนิยมได้ไม่ยาก (หมายถึงรถตลาดราคาเอื้อมถึงนะ)
**เห็นช่อง teslabjorn เทส icoinc 5 ที่เมืองนอก พอเดินทางไกลแล้วชาร์จเพื่อเดินทางต่อแบตร้อนรับไฟได้ช้า คันอื่นจะเป็นเหมือนกันมั้ย บ้านเราอากาศร้อนด้วย

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,633
Re: eqs 450+ กทม-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จ ?
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: มีนาคม 07, 2022, 18:55:35 »
โอเคเลยนะระยะแบบนี้ แต่ๆๆๆ ที่ชาร์จเร็วต่างจังหวัดตามปั๊มนี่ 50 กิโลวัต ทั้งนั้นมันน่าจะต้อง 200 - 250 เป็นอย่างต่ำ
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย