ผู้เขียน หัวข้อ: สอบถามเรื่องประเภทของหลอดไฟ หน้ารถครับ  (อ่าน 7390 ครั้ง)

ออฟไลน์ hs5zzz

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 52
สวัสดีครับ..
รบกวนขอความรู้ เกี่ยวกับ หลอดไฟหน้ารถหน่อยครับ ว่า
- ทำไมมี หลายแบบจังครับ h1 h2 h4......
- แต่ละแบบ แตกต่างกันอย่างไร.. ข้อดี ข้อเสีย และลักษณะเฉพาะ..
เมื่อวานไปลองหาไฟหน้ารถที่ สว่างมากกว่าเดิม ..แล้วไปเจอมาครับ..

ขอบคุณครับ

 :D

ออฟไลน์ pladaek

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,023
  • FF1.5SMG
Re: สอบถามเรื่องประเภทของหลอดไฟ หน้ารถครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 20, 2016, 15:16:48 »
h1 h2 h4 h7 h11 มันต่างกันที่ขั้วหลอดครับ..

แต่ละยี่ห้อไฟหน้าใช้หลอดไฟขั้วไม่เหมือนกัน
วิออสขั้วไฟหน้า H4
เฟียสต้าขั้วไฟหน้า H7
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..

ออฟไลน์ mirthhahaha

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 506
Re: สอบถามเรื่องประเภทของหลอดไฟ หน้ารถครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 20, 2016, 15:42:40 »
ต่างกันที่ขั้วหลอดครับ แล้วก็ H4 จะเป็นไฟต่ำ/สูงอยู่ในหลอดเดียวกัน นอกนั้นรู้สึกจะเป็นหลอดแยกนะครับ
ถ้าจะเปลี่ยนหลอดไฟก็ต้องดูชนิดหลอดของโคมเดิมด้วยนะครับ

ออฟไลน์ hs5zzz

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 52
Re: สอบถามเรื่องประเภทของหลอดไฟ หน้ารถครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 20, 2016, 15:52:27 »
ขอบคุณครับ... ว่าแต่ ทำไมต้องให้ต่างครับ...  :)

ออฟไลน์ nutvas

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 171
Re: สอบถามเรื่องประเภทของหลอดไฟ หน้ารถครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 20, 2016, 18:06:53 »
จุดกำเนิดแสง ขั้วล๊อค ไม่เหมือนกันครับ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,450
Re: สอบถามเรื่องประเภทของหลอดไฟ หน้ารถครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 20, 2016, 19:08:52 »
ไม่รู้เลย มีเรื่องแบบนี้ด้วย 8) 8) 8)  :-[ :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ Darkart

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,190
    • อีเมล์
Re: สอบถามเรื่องประเภทของหลอดไฟ หน้ารถครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 20, 2016, 19:58:33 »
หลอดไฟทั่วไปที่มีใช้อยู่ในปัจจุบันนี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ตามลักษณะการทำงาน ได้แก่

1.หลอดความร้อน (Incandescent Bulb)
ซึ่งหลอดไฟชนิดนี้ เมื่อจ่ายกระแสไฟให้ไส้หลอด (Filament) ซึ่งทำจากลวดทังสเตน
จะเกิดความร้อนขึ้น เมื่อไส้หลอดเกิดความร้อนก็จะทำให้เกิดแสงสว่างขึ้นมา (เช่นเดียวกับที่เราเห็นจากเตาไฟฟ้าแบบขดลวดนั่นแหละครับ)
และโดยปกติแล้วภายในหลอดชนิดนี้จะเป็นสุญญากาศ (เพื่อป้องกันการเผาไหม้จนเกิดความร้อนสูงเกินควบคุม) หรืออาจจะบรรจุก๊าซเฉื่อย เช่น
ก๊าซอาร์กอนไว้ภายในเพื่อช่วยลดคราบเขม่าที่เกิดจากโลหะทังสเตนมาจับผิวด้านใน

2.หลอดฮาโลเจน (Halogen Bulb)
คือหลอดที่ไฟถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้มีความสามารถในการรักาความสว่างเอาไว้ได้จนหมดอายุการใช้งานของหลอดไฟ
หลอดแบบนี้จะบรรจุด้วยก๊าซฮาโลเจนเพื่อให้เกิดวงจรฮาโลเจน (Halogen Cycle) กล่าวคือ อนุภาคของทังสเตน (W)
ที่เกิดขึ้นและเคลื่อนตัวไปใกล้หลอดแก้วจะไปรวมตัวกับก๊าซฮาโลเจน (X) และเคลื่อนตัวโดยความร้อนภายในหลอดไฟไปยังไส้หลอด
เมื่ออนุภาคที่รวมตัวกันเคลื่อนตัวเข้าใกล้ใส้หลอดไฟอนุภาคของทังสเตนก็จะไปจับกับไส้หลอดหรือขาหลอดไฟ (Stem)
ส่วนอนุภาคของก๊าซฮาโลเจนก็จะเคลื่อนตัวไปยังผิวของหลอดแก้วเพื่อรวมตัวกับอนุภาคของทังสเตนต่อไป เป็นวงจรอย่างนี้เรื่อยๆ 
การทำงานแบบนี้จะทำให้อนุภาคที่รวมตัวกันเกาะที่ผิวหลอดบ้าง แต่อนุภาคที่รวมตัวกันนี้เป็นสารกึ่งโปร่งแสงจึงส่งผลกระทบต่อความสว่างน้อยมาก
การทำให้เกิดวงจรฮาโลเจนนี้จะต้องรักษาอุณหภูมิของหลอดแก้วให้คงที่ประมาณ 250 องศาเซลเซียสจึงจำเป็นต้องใช้แก้วชนิดพิเศษในการผลิตหลอดแบบนี้
นอกจากนั้น ความดันของก๊าซเฉื่อยภายในหลอดแก้วและไส้หลอดก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดวงจรได้สมบูรณ์

3.หลอด HID
โดยรู้จักกันในนามของหลอด “ซีนอน” (Xenon) เนื่องจากภายในบรรจุเอาไว้ด้วยก๊าซซีนอน
หลอดไฟชนิดนี้ถูกนำมาใช้ในรถยนต์ครั้งแรกในปี 1992 ในยุโรป หลอดชนิดนี้จะแตกต่างไปจากชนิดอื่นๆ
ที่ใช้ใส้หลอดทำจากโลหะทังสเตนในการทำให้เกิดแสงสว่าง โดยหลอด HID จะทำให้เกิดแสงสว่างด้วยการผ่านกระแสไฟแรงสูง
(หลอด HID จะต้องมีอุปกรณ์ช่วยในการเพิ่มกระแสไฟ 12 โวลท์ ให้สูงขึ้นไปถึง 20,000-25,000 โวลท์)
ไปยังขั้วของตัวนำที่ทำจากโลหะทังสเตนซึ่งจะทำให้เกิดการกระโดดของอิเลคตรอนระหว่างขั้วของตัวนำ
อาจจะเปรียบได้กับการกระโดดของไฟที่เขี้ยวหัวเทียนหรือการสปาร์คที่เกิดจากการเชื่อมไฟฟ้านั่นเอง
อิเล็คตรอนนี้จะทำปฏิกิริยากับก๊าซซีนอนที่ถูกบรรจุอยู่ภายในหลอดแก้วทำให้เกิดแสงสว่างขึ้น โดยหลอด HID นี้
จะให้แสงสว่างมากกว่าหลอดฮาโลเจนธรรมดา 2-2.5 เท่า แต่ในขณะเดียวกันสามารถประหยัดพลังงานมากกว่าถึง 25%
และยังให้สีของแสงที่เกิดขึ้นใกล้เคียงกับแสงอาทิตย์จึงช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น และการที่ไม่ใช้ไส้หลอดจึงทำให้อายุการใช้งานของหลอดยาวขึ้นด้วยเช่นกัน

มาตรฐานหลอดไฟรถยนต์

หลอดไฟฮาโลเจน (HALOGEN)
1.H1 หลอดชนิดนี้จะใช้อยู่กับรถยุโรปเช่นพวกรถ BMW และพวกรถญี่ปุ่นรุ่นใหญ่ ๆ
2.H3 โดยมากใช้ในไฟสปอร์ตไลท์ที่ติดเพิ่มเข้าไป
3.H4 เป็นหลอดไฟหน้าที่รถส่วนใหญ่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้  ชั้นบนของไส้หลอดจะมีฝาครอบกันไว้ด้านหนึ่ง (เจ้าฝาครอบตัวนี้
        มีไว้สำหรับบังแสงไฟไม่ให้กระจายเต็มพื้นที่ในโคมไฟจึงทำให้แสงที่ผ่านโคมไฟออกมามีเพียงครึ่งเดียวกลายเป็นไฟต่ำนั่นเอง)
        ส่วนชั้นล่างมีเฉพาะขดลวดเท่านั้น(ไฟสูง) ไม่มีฝาครอบ ด้านนอกมีสามขาสำหรับไฟ สูง/ต่ำ และขั้วดิน (-)
4.H7 จะมีใช้ในรถ MERCEDES-BENZ ตากลมหรือรถ BMW

กฎหมายกำหนดเอาไว้ใน พรบ.รถยนต์ พศ.2522 ได้กล่าวถึงเรื่องของโคมไฟส่องสว่างหน้ารถจะต้อง

- มีจำนวน 2 ดวงติด อยู่ข้างซ้ายขวาข้างละดวง
- เป็นชนิดแสงพุ่งไกลใช้ไฟแสงขาว เท่านั้น
- และต้องติดตั้งในระดับสูงวัดจากพื้นถึงจุดกึ่งกลางของโคมไฟไม่น้อยกว่า 60 ซม. และไม่เกิน 1.35 เมตร
  ส่วนโคมไฟต่ำจะใช้ข้อบังคับเดียวกันและอนุญาตให้รวมอยู่ในดวงเดียวกันก็ได้ (สำหรับโคมไฟแสงพุ่งไกลและพุ่งต่ำ
- การเปลี่ยนหลอดไฟให้มีสีผิดไปจากที่กำหนดถือว่ามีความผิด หลอดไฟจะเป็นหลอดที่มีกำลังไฟ 60/55 W
  โดยจะแบ่งเป็นสองไส้ ไฟสูงจะใช้ 60 W และไฟต่ำจะอยู่ที่ 55 W


หลอดไฟหน้าจะมีอยู่หลายลักษณะ ตามมาตรฐานต่างๆ เช่น  H1,H2,H3,H4,HB3,HB4 ซึ่งจะแตกต่างกันตามลักษณะของขั้วหลอดและรูปทรง

ที่มา http://www.techniccar.com/%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8Clight-bulbs/ ครับ

ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์

ออฟไลน์ hs5zzz

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 52
Re: สอบถามเรื่องประเภทของหลอดไฟ หน้ารถครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กันยายน 20, 2016, 22:42:01 »
ขอบคุณทุกท่านสำหรับทุกๆคำตอบครับ....