Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: bungy ที่ สิงหาคม 12, 2010, 19:41:51
-
สงสัยค่าซ่อมบำรุงระยะยาว
ระหว่างเครื่องดีเซลยุคใหม่กับเครื่องเบนซินยุคใหม่ ครับ ยุคใหม่ คือ ที่มีระบบ Direct Injection กับ มี Turbo เหมือนกันครับ
เช่น รถอายุเกิน 5 ปี แต่วิ่งไม่ถึง 100000 km ค่าซ่อมเครื่องไหนมากกว่าครับ
และ ถ้าวิ่งเกิน 100000 km ค่าซ่อมเครื่องไหนมากกว่าครับ
มีคนบอกว่า เครื่อง ดีเซล ทน ประหยัดน้ำมัน แรงบิด เยอะกว่า แต่ถ้า ดีเซล เสียที นี้แพงกว่า เบนซิน นี้เรื่องจริงหรือเปล่าครับ
ขอบคุณครับ
-
คิดว่า น่าจะไม่ห่างกันมากน๊ะครับ
-
เครื่องยนต์ ดีเซลเท่าที่ผมรู้มานะครับ เรื่อง ทน ประหยัดน้ำมัน แรงบิด เยอะกว่า อันนี้ได้ยินบ่อยมากแล้วพ่อผมก็อยากได้เครื่องดีเซลเพราะเหตุผมพวกนี้ด้วย
รวมถึงตัวผม เครื่องดีเซลส่วนมากถ้าเป็นคนรักษารถดีๆ จะทนมากๆครับไม่ค่อยมีปัญหาหรอกครับ อีกอย่างถ้าใช้ นำ้มันเครื่องอย่างดีๆ จะดีมากเลยครับ
-
เครื่องดีเซล ทนกว่าครับ เพราะ ไม่ต้องเปลี่ยนหัวเทียน 555555555555+
ล้อเล่นค้าบบ
-
ดูพวกรถบรรทุก หรือรถกระบะกันครับ เสียยากมาก ทุกหนัก ลุยแหลก
เห็นแบบนี้แล้ว ดีเซล ทนกว่ามากเสียยากกว่า
ผมมี ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นแรก สี่ประตู 4x4 2.5 อายุตอนนี้ 11 ขวบเครื่องไม่เคยมีปัญหา มีแต่แบทหมด แอร์ไม่เย็นแค่นั้น
-
ต้องดูเป็นคัน ๆ ไป ครับ
ถ้าเทียบ รถกระบะ VIGO กับ TOYOTA SUPRA ผมว่า SUPRA ค่าดูแลรักษาแพงกว่าเห็น ๆ
แต่ ถ้าเป็น VW PASSAT 1.9 TDI กับ 2.3(อันนี้ไม่มี turbo) กลายเป็นว่า TDI ซ่อมแพงกว่า
และ Benz CDI กับ เบนซิน Kompressor CDI ก็ซ่อมแพงกว่า
ปัจจัยที่ำทำให้ อะไหล่รถดีเซลยุโรปแพงกว่า เป็นเพราะอะไหล่มันยังน้อยครับ บ้านเรามันยังไ่ม่แพร่หลาย แต่หากขายกันแบบกระบะ อันนี้มันก็อีกเรื่องหนึ่ง
-
ส่วนตัวผมชอบเครื่องดีเซลมากกว่าครับ และคิดว่ามันทนกว่าด้วย..
MU7 ที่บ้านผมใช้มาเกินแสนแล้วครับ.. ก็แค่เข้าเช็กตามระยะที่กำหนดเท่านั้นครับ..
ไม่เคยเปลี่ยนอุปกรณ์หรืออะไหล่เครื่องยนต์อันไหนเนื่องจากความเสียหายจากการใช้งาน..
เคยเปลี่ยนแค่แบตกับโช้คเท่านั้น ซึ่งมันไม่ใช่อุปกรณ์เกี่ยวกับเครื่องยนต์ ;)
-
ต้องดูเป็นคัน ๆ ไป ครับ
ถ้าเทียบ รถกระบะ VIGO กับ TOYOTA SUPRA ผมว่า SUPRA ค่าดูแลรักษาแพงกว่าเห็น ๆ
แต่ ถ้าเป็น VW PASSAT 1.9 TDI กับ 2.3(อันนี้ไม่มี turbo) กลายเป็นว่า TDI ซ่อมแพงกว่า
และ Benz CDI กับ เบนซิน Kompressor CDI ก็ซ่อมแพงกว่า
ปัจจัยที่ำทำให้ อะไหล่รถดีเซลยุโรปแพงกว่า เป็นเพราะอะไหล่มันยังน้อยครับ บ้านเรามันยังไ่ม่แพร่หลาย แต่หากขายกันแบบกระบะ อันนี้มันก็อีกเรื่องหนึ่ง
ชอบๆ ตอนนี้ก็ BMW พวกเครื่องดีเซลทั้งหลายอ่ะครับ มันเครื่องใหญ่ แต่ประหยัดน้ำมัน เลยชอบครับ และคิดว่าน่าจะเสียยากกว่าเครื่องเบนซินเป็นไหนๆ
-
ต้องดูเป็นคัน ๆ ไป ครับ
ถ้าเทียบ รถกระบะ VIGO กับ TOYOTA SUPRA ผมว่า SUPRA ค่าดูแลรักษาแพงกว่าเห็น ๆ
แต่ ถ้าเป็น VW PASSAT 1.9 TDI กับ 2.3(อันนี้ไม่มี turbo) กลายเป็นว่า TDI ซ่อมแพงกว่า
และ Benz CDI กับ เบนซิน Kompressor CDI ก็ซ่อมแพงกว่า
ปัจจัยที่ำทำให้ อะไหล่รถดีเซลยุโรปแพงกว่า เป็นเพราะอะไหล่มันยังน้อยครับ บ้านเรามันยังไ่ม่แพร่หลาย แต่หากขายกันแบบกระบะ อันนี้มันก็อีกเรื่องหนึ่ง
ทำไมรถพี่ผม E200 Kom ไปเช็คทีบิลหลักหมื่น แต่รถผมE220 CDI เช็คทีก็5-6พัน ผมว่าต่างอยู่นะครับ
พี่เลยผมเลยขายE200 Kom ใช้มาสองปี ไปซื้อ Volvo XC-60 D5 ประหยัด แรง ขับมัน สรุป Happy กับดีเซล แล้วยังมีห้อยFocus TDCI มาอีกคัน สรุปตอนนี้หลงรักดีเซลแล้วครับ ^^
-
ดีเซลยุคใหม่บ้านเรา แค่เลือกเติมน้ำมัน เท่านี้ก็แทบไม่มีปัญหากวนใจครับ
พวก CDi ยุคแรกมา คนไทยไม่รู้เรื่องเติมอะไรก็ได้ที่มันคือดีเซล แถม Additive ก็ไม่แตะเลย
เครื่องดีเซลเยอรมัน เจอน้ำมันดีเซลไทยเข้าไปขับสักพักก็เห็นควันดำเป็นกระบะเลย และปัญหาระบบหัวฉีดก็จะตามมา เป็นสเต็ปยอดนิยมเลย
-
ถ้ามีตัง อยากได้ Innova 2.5 ดีเซล มากๆ เพราะประหยัด ค่าซ่อมน้อยครับ