Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: PaPaMan ที่ มีนาคม 07, 2024, 09:16:10
-
ข่าวนี้เป็นการตบหน้าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ชอบเอาการควบคุมต่างๆไปใส่ไว้ในจอเพียงอย่างเดียวอย่างแรง และเป็นที่ถูกใจผมมากครับ
https://www.headlight (https://www.headlightmag.com/2024-03-06-world-news-euro-ncap-forces-todemolish-screen-buttons/)mag.com/2024-03-06-world-news-euro-ncap-forces-todemolish-screen-buttons/ (https://www.headlightmag.com/2024-03-06-world-news-euro-ncap-forces-todemolish-screen-buttons/)
-
ผมก็เห็นด้วย ทุกวันนี้ผู้ผลิตเอาไปใส่ไว้บนหน้าจอหมด
ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยเลย
-
จริง! จากใจคนชอบปุ่ม
-
ไชนีส NCAP เบะปากมองบน ไม่สนสิ่งนี้
-
เห็นด้วยครับ การใช้จอสัมผัสคือการเล่นมือถือในรถชัดๆ
-
น่าจะเป็นกระแสมาจาก คนในยุคหลัง
ที่มักจะยึดไอทีเป็นสรณะครับ
มันเริ่มลามมาตั้งแต่หน้าจอกลางแล้วครับ
ในรถยนต์ จริงๆ แล้ว ระบบพื้นฐานก็เพียงพอแล้ว
แต่ไม่ถูกใจคนรุ่นนี้ครับ
-
มันทำให้นึกถึงจุดขายของค่ายรถ ต่อระบบในรถสมัยนั้น จะเน้นคำว่า "ไม่ละสายตาจากถนน" เค้าถึงเอาอะไรต่อมิอะไรไปโชว์ที่กระจก เพราะไม่ต้องไปก้มมองที่หน้าปัท
รวมถึงปุ่มต่างๆ ที่ค่ายยุโรปโชว์การควบคุมจอกลางผ่านจอยกลางคอนโซล โดยที่ไม่ต้องเอามือไปจิ้มที่หน้าจอขณะะขับขี่ โดยบอกว่า เป็นการเพิ่มความปลอดภัย เช่นระบบ iDrive ของ BMW
แล้วดูรถสมัยนี้สิ ...อะไรกันวะเนี่ย ค่ายยุโรปที่เคยชูจุดนี้ กลับไปทำหน้าจอแบบสัมผัสกันหมด ทุกการตั้งค่าต้องเอามือไปจิ่มที่หน้าจอ แล้วไหนว่าการทำแบบนี้มันไม่ปลอดภัยไง
เหตุการนี้ทำให้รู้เลยว่า บางอย่างมันคือการตลาด เค้าไม่ได้สนใจความปลอดภัยกันจริงๆหรอก
-
เห็นด้วยครับ
อย่างปุมปรับแอร์ ถ้าลูกบิดคลำๆ หมุนได้เลยไม่มีพลาด
คนใช้จอทัส ต้องก้มมอง แถมต้องแตะค้างแล้วลากอีกกว่าจะได้ปรับผมว่ามันละสายตานานไป
-
เริ่มสะดุ้งกันตอน model 3 highland เข้าเกียร์ที่จอนี่แหละ
-
อยากให้เริ่มมีผลกับการทดสอบปีหน้า มกราคม พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) เลยด้วยซ้ำ
-
ผมใช้รถที่มีส่วนของจอ และ ปุ่ม(จริงๆ)
เห็นด้วยนะครับ ว่า อะไรที่ใช้งานง่าย ควรเป็นปุ่ม ก็ต้องเป็นปุ่ม มันใช้ความรู้สึก ความเคยชิน คลำๆ (แบบไม่ต้องหันมามอง) ได้
ระบบหลักๆ ที่ควรเป็นปุ่ม คือ ระบบแอร์ เพิ่ม-ลดแอร์(รถผมมีปรับได้ที่พวงมาลัยด้วย แต่ก็ใช้ปุ่ม มันสะดวกกว่า) เป็นต้น
เพราะระบบนอกนั้น แทบจะไม่ได้ใช้ทั้งปุ่ม หรือ จออยู่แล้ว เช่น วิทยุ เครื่องเสียง อะไรพวกนี้ ควบคุมผ่านพวงมาลัยได้อยู่แล้ว
หรือ navigation แผนที่ หรือ ระบบนำทาง ส่วนมาก ผมก็ใช้งานผ่านมือถืออยู่แล้ว เพราะในขณะขับรถ มันพิมพ์(แป้นพิมพ์) ไม่ได้ พอพูดสั่งงานด้วยเสียง มันก็จะไม่ค่อยรู้จัก นอกซะจากว่าเป็นสถานะหลักๆ หรือ มีชื่อเสีย หรือ เป้นที่รู็จัก(อาจจะมี ads) พอสมควร
เริ่มสะดุ้งกันตอน model 3 highland เข้าเกียร์ที่จอนี่แหละ
มีปุ่มตรงเพดานครับ ตรงตำแหน่งที่เก็บแว่น(ของรถคันอื่น)
-
เห็นด้วยมากๆๆๆ ครับ
อย่าง BMW iDrive 8 จอโค้ง ใช้ยากกว่ารุ่นเดิม iDrive 7 ที่ยังมีปุ่ม hard button ให้กดอยู่มาก
เอาแค่จะปิดรับอากาศข้างนอก จากเดิมกดปุ่มเดียว (1 ขั้นตอน คลำได้) นี่ต้องกดเข้า climate menu ในจอ -> recirculation -> กดเปิดอากาศหมุนวนในรถ (3 ขั้นตอน แบบต้องละสายตา)
ทำเลียนแบบ tesla แล้วสู้ tesla ไม่ได้ แถมถอยหลังลงคลองแบบนี้ก็ไม่รู้จะทำมาทำไม
-
วัยรุ่นเนิร์ดเทคโนโลยี ไม่ถูกใจสิ่งนี้
-
สมควรครับ
เป็นแบบที่ผมเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้เปะ
-
ที่หนักที่สุดคือ ปรับทิศทางลม จากจอ >:(
;D ;D ;D ;D ;D
-
กราบงามๆ3ที
-
ผมชอบเทคโนโลยียังไม่ชอบเลย โดยเฉพาะการย้ายแอร์ไปอยู่บนจอเนี่ย ปรับลำบาก กดลึกๆ หัวร้อนอีก
ทุกวันนี้ผมมีzs evตัวแรก กับatto3 ยังชอบzs evมากกว่าตรงแอร์มือหมุนกับปุ่มกดๆ ถึงจะแสดงระดับความเย็น-แรงลมบนจอก็ดูไม่ยาก
-
เอาแค่ CR-V G6 จะตั้งค่าตัวรถ หลายฟังค์ชั่น ยังต้องเข้าจอตั้ง ซึ่งกว่าจะเข้าได้ เล่นซะหลายชั้นเลย ขอแบบปุ่มโบราณๆดีกว่า
-
ใช้ Camry รุ่นปัจจุบัน จะปิดม่านกระจกหลังที่ต้องละสายตาไปจากถนนนานพอสมควรเพราะไม่มีปุ่มกดนี่ล่ะ
-
"EuroNCAP เตรียมตัดคะแนนรถที่ใช้การสั่งการผ่านจอระบบสัมผัส" นี่ เป็นการกำจัดแบรนด์รถสัญชาติจีนที่ขายในยุโรป ในทางอ้อมเลยหรือเปล่าครับ?
รถจีนส่วนใหญ่ใช้การสั่งการผ่านจอระบบสัมผัส ทั้ง BYD GWM MG Deepal Aion
-
ที่หนักที่สุดคือ ปรับทิศทางลม จากจอ >:(
;D ;D ;D ;D ;D
อันนี้หนักมาก
-
ที่หนักที่สุดคือ ปรับทิศทางลม จากจอ >:(
;D ;D ;D ;D ;D
หนักจริงๆ เวลาขับทางไกลทเลี่ยงไม่ได้เลยที่ต้องปรับทิศทางลม
ขับๆไปมือเหงื่อออก ก็เป่ามันซักพัก แล้วก็ปรับหนี
เจอแดดร้อนๆ ก็ปรับเข้าหาตัว พอเย็นก็ปรับออก
คิดได้ไงก็ไม่รู้
-
ก็จริงนั่นแหละ แต่ผมเชื่อว่าต่อไปน่าจะสะดวกกว่านี้ ในปีสองปีข้างหน้า คงเปลี่ยนเป็นคำสั่งจากปากคนขับแทน...
-
ใช่เลย เห็นด้วยมาก อย่างน้อยๆเลยนะขี้หมูขี้หมาแอร์มันต้องกดๆหมุนๆ อันอื่นยังพอหยวนๆได้
-
เห็นด้วยมาก เป็นเหตุผลนึงเลยที่ผมยังไม่ซื้อรถใหม่
อย่างx1ตอนแรกว่าจะซื้อแล้ว แต่พบว่าปุ่มปิดระบบเอาอากาศข้างนอกเข้ามากับปุ่มปิดauto start/stopหายไปแล้ว ต้องไปปรับที่หน้าจอทุกครั้งที่ออกรถ ถ้าลืมปิดก่อนออกรถนี่ลำบากเลย
อีกอันนึงคือการเลือกโหมดการขับขี่ แทนที่จะกดแล้วเปลี่ยนโหมดให้เลย กลายเป็นว่ากดแล้วต้องมาจิ้มเลือกโหมดจากหน้าจออีก จังหวะเร่งแซงแล้วอยากเปลี่ยนโหมดsportนี่จบเลย
-
ที่หนักที่สุดคือ ปรับทิศทางลม จากจอ >:(
;D ;D ;D ;D ;D
อันนี้หนักมาก
ร้อง เหี้ยมมมมม ไม่มี ม.ม้าเลยล่ะครับ ;D
-
ที่หนักที่สุดคือ ปรับทิศทางลม จากจอ >:(
;D ;D ;D ;D ;D
หนักจริงๆ เวลาขับทางไกลทเลี่ยงไม่ได้เลยที่ต้องปรับทิศทางลม
ขับๆไปมือเหงื่อออก ก็เป่ามันซักพัก แล้วก็ปรับหนี
เจอแดดร้อนๆ ก็ปรับเข้าหาตัว พอเย็นก็ปรับออก
คิดได้ไงก็ไม่รู้
ทำเรื่องง่ายๆ ให้โคตรยาก ;D
-
เกลียดการปรับบนหน้าจอมาก ชอบปุ่มๆๆๆ
-
รู้สึกถึงความสบายของรถที่ใช้อยู่ตอนนี้เลยครับ
มีจอเดียว 🤣🤣
(https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSo0coldMP5tzckDRj6F_2Z8bpDToR2P6SV8VnJKyLehTwQ-Nl1y7tPMLQ&s=10)
-
ตอนไป Aus เคยเช่า Tesla model 3 มาขับ
ก่อนไปก็ศึกษาวิธีการใช้ ชาร์จไฟ ตำแหน่งปุ่มไฟฉุกเฉิน วิธีการเปิดประตูฉุกเฉิน tow mode
ฝนตกก็คิดว่าคงมีเซ็นเซอร์อัตโนมัติ
ปรากฏยังเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด
ขับบนทางด่วน นกขี้มาใส่ หาที่ปัดกระจกไม่เจอ เป็นปุ่มบนพวงมาลัย
-
ชอบปุ่มๆครับ ไม่ต้องเอาแอร์ เอาอะไรทุกอย่างไปรวมในจอก็ได้ครับ ใช้ยาก น่ารำคาน
-
เข้าใจว่าเอาทุกอย่างไปรวมในจอ สามารถลดต้นทุนลงได้ (เนื่องจากยังไงก็ต้องมีจออยู่ละ)
แต่บาง function ที่ต้องปรับขณะขับขี่ เช่น ปรับแอร์/เพิ่มลดเสียงหรือเปลี่ยนเพลง น่าจะบังคับให้เป็นปุ่มนะครับ
จะได้ป้องกันเรื่องการลดสายตาจากท้องถนนขณะขับขี่
-
Brake Hold เป็นอีก 1 อย่างที่ไม่อยากให้ไปอยู่ในจอนะครับ
บางจังหวะอยากให้รถไหลๆ ตามคันหน้าไป อาจจะต้องปิดไปชั่วคราว