Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Narak-Man ที่ มิถุนายน 18, 2014, 22:22:53
-
พี่ๆน้องๆในที่นี้คิดว่า ฐานะระดับไหน มีเงินเก็บเท่าไหร่ ถึงตัดสินใจซื้อรถเบนซ์คันแรกครับ(คุณแม่อยากนั่งเบนซ์ครับ) และวันที่พี่ๆซื้อรถเบนซ์คันแรกสำเร็จมีความรู้สึกอย่างไรบ้างครับ ผมทำธุรกิจเล็กๆ ถ้าจะซื้อเบนซ์New C-class 250รุ่นควรมีเงินเย็นๆสักเท่าไหร่ดีครับ
-
ขั้นต่ำต้องมีเงินผ่อนเดือนล่ะ 50,000 บาท อย่างน้อยควรจะมีรายได้เดือนล่ะ 1 แสนนะ
พี่สาวผมเคยคิดแบบนี้เลยอยากเป็นเจ้าของรถยี่ฮ้อนี้เพราะแบรนด์ล้วนๆ จัด C 250 มาลอง 1 คัน
รายได้เดือนล่ะ 4 แสนบาท ผมลองยืมขับแล้วก็นุ่มนวลดี แต่ไปไหนผมชอบขับ CRV มากกว่า สบายใจดี
-
รายได่เท่าไร มีเงินเย็นเท่าไร มีทรัพย์สินเท่าไร
ไม่สำคัญเท่า เมื่อซื้อมาแล้วไม่ทำให้ใครลำบากทั้งตัวเราและคนอื่นครับ
-
สำหรับผมถ้าจะซื้อรถประมาณ3ล้านบาทน่าจะมีเงินเก็บเย็นๆที่ไม่ได้จะเอาไว้ลงทุนหรือใช้อะไรจำเป็นประมาญ10ล้านขึ้นไปครับ
-
รายได่เท่าไร มีเงินเย็นเท่าไร มีทรัพย์สินเท่าไร
ไม่สำคัญเท่า เมื่อซื้อมาแล้วไม่ทำให้ใครลำบากทั้งตัวเราและคนอื่นครับ
ตามท่านนี้เลยครับ บางทีมีเงินเก็บ 10-20 ล้าน ซื้อรถราคา 3 ล้านไป นั่งทุกข์ไปทั้งปีก็มี
แต่ส่วนตัว 10 ล้านขึ้นครับ สำหรับรถราคา 3 ล้าน เงินเดือน 3-4 เท่าของราคาผ่อนครับ
-
สำหรับผมให้ส่วนของรถส่วนตัวล้วนๆไม่เกี่ยวกับเงินบริษัท=10% ของเงินเย็นครับไม่รวมทรัพย์อื่น อย่าง10ล้านก็ขับพวกล้านนิดๆสบายๆไม่เคอะเขิน 3ล้านมันเสียดายตังค์จริงๆนะ
-
ถ้าเป็นผมควรมีไม่ต่ำกว่าสองเท่าของราคารถครับ เท่าที่ทราบมารถพวกนี้คนซื้อส่วนมากนิยมซื้อสดกันครับไม่ค่อยนิยมผ่อนกันสักเท่าไร เพื่อนผมที่ขับ A250 บอกมาแบบนี้ครับว่ารถแบบนี้เค้าซื้อสดกัน เพื่อนผมคนนี้พ่อแม่เปิดธุรกิจบริษัททัวร์ครับ
-
มี 90000000000 ก็คงยังไม่ซื้ออ่ะครับ ยังนึกตัวเลขไม่ออก
-
ขอแชร์ของตัวเองบ้างนะครับ
ซื้อ Benz C200 standard เพราะคิดว่าเป็นเบนซ์คันแรก เลยเลือก entry level ก่อน
ซื้อเพราะ Brand imaging ครับ เพราะทำธุรกิจด้วย เวลาติดต่อธุรกิจดูน่าเชื่อถือดีครับ เพราะอายุยังน้อย (30)
ตอนนั้นมีรายได้ประมาณ 300000 ต่อเดือน
มีเงินเก็บ ประมาณ 10 ล้านบาท เลยคิดว่าถ้าซื้อเบนซ์เป็นรางวัลให้ตัวเอง ก็ไม่เดือดร้อนครับ
อยากจะบอก จขกท เหมือนท่านอื่นๆครับ ถ้าซื้อแล้วสบายใจ ไม่เดือดร้อน ซื้อเถอะครับ
การเก็บเงินล้านแรกจะยากที่สุด ล้านต่อๆไปจะง่ายขึ้นครับ ไม่ต้องกังวลครับ
มีหลากหลายวิธีที่จะทำให้เงินเก็บเรางอกเงย ขึ้นอยู่กับแต่ละคนครับ
สำหรับผมแล้ว การซื้อรถที่เราไฝ่ฝัน ถือเป็นการให้รางวัลกับตนเอง และเป็นแรงผลักดันให้เราพยายามต่อไป
เพื่ออะไรเหรอครับ ก็จะได้ up level เป็น E or S class ต่อไปไงล่ะคร้าบ
ก็เรามันสาวกดวงดาวนินา อิอิ ^^
-
หลักๆ คงต้อง 6-7 หมื่นขึ้นครับ เพราะเบนซ์รุ่นต่ำๆต้องมี ผ่อนเดือนละ 2หมื่นปลายๆ
และ คนที่ซื้อเบนซ์ส่วนใหญ่ก็คงไม่ใช่ใช้แบนด์นี้คันแรก คันเดียว และ ขับไปทำงานโดยเบนซ์โดดคันเดียว
คงต้องมีรถที่ใช้ทำงานอยู่อีก 1 คันที่บ้าน แล้ว เบนซ์เอาไว้ประดับบารมี .....
-
คนทำธุรกิจย่อมรู้ดีครับ ว่าไหวหรือไม่ไหว ถ้าเงินพร้อม ใจพร้อมก้อจัดไป
-
รถเบนซ์นี่มันขนาดนั้นเลยเหรอ??
-
พนักงานบริษัทธรรมดา มีเงินพอซื้อได้(สด) ไม่เดือดร้อนมากนัก ก็ซื้อครับ ตอนนั้น 1.2 ล้านได้มั้ง C 220 มือสอง เงินเก็บก็ไม่ได้มีเยอะมากแต่มีรายได้ประจำทุกเดือน คิดดูแล้วคงไม่ลำบากก็เลยซื้อมาใช้ จุดประสงค์ คือ ซื้อมาใช้งาน ไม่ได้มาอวดใคร ดังนั้น ผมใช้เต็มที่ เวลาไปงานหลายๆที่ ผมเอาไปจอดไกลๆ เสียด้วยซ้ำ ไม่อยากให้ใครเห็นว่าขับรถอะไรมา
ถ้ามีเงินพอซื้อได้ก็ซื้อไปเหอะครับ ต่อไป มีเงินแต่ไม่มีแรงขับ สายตาฝ้าฟาง จะมาเสียดายเปล่าๆ ว่าทำงานเก็บเงินไป ทำไมไม่ซื้อของที่ตัวเองชอบ อันนี้ความคิดผมนะ อาจจะไม่เหมือนกับหลายๆคนก็ได้
-
ในความคิดผม ถ้าซื้อแบบผ่อน ค่างวดแต่ละเดือนควรจะไม่เกิน 15% ของเงินเดือนน่ะครับ
น่าจะคล่องตัวทั้งจ่ายค่างวด และเผื่อไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉินอื่นๆครับ ;)
-
ขอแชร์ของตัวเองบ้างนะครับ
ซื้อ Benz C200 standard เพราะคิดว่าเป็นเบนซ์คันแรก เลยเลือก entry level ก่อน
ซื้อเพราะ Brand imaging ครับ เพราะทำธุรกิจด้วย เวลาติดต่อธุรกิจดูน่าเชื่อถือดีครับ เพราะอายุยังน้อย (30)
ตอนนั้นมีรายได้ประมาณ 300000 ต่อเดือน
มีเงินเก็บ ประมาณ 10 ล้านบาท เลยคิดว่าถ้าซื้อเบนซ์เป็นรางวัลให้ตัวเอง ก็ไม่เดือดร้อนครับ
อยากจะบอก จขกท เหมือนท่านอื่นๆครับ ถ้าซื้อแล้วสบายใจ ไม่เดือดร้อน ซื้อเถอะครับ
การเก็บเงินล้านแรกจะยากที่สุด ล้านต่อๆไปจะง่ายขึ้นครับ ไม่ต้องกังวลครับ
มีหลากหลายวิธีที่จะทำให้เงินเก็บเรางอกเงย ขึ้นอยู่กับแต่ละคนครับ
สำหรับผมแล้ว การซื้อรถที่เราไฝ่ฝัน ถือเป็นการให้รางวัลกับตนเอง และเป็นแรงผลักดันให้เราพยายามต่อไป
เพื่ออะไรเหรอครับ ก็จะได้ up level เป็น E or S class ต่อไปไงล่ะคร้าบ
ก็เรามันสาวกดวงดาวนินา อิอิ ^^
ผมชอบคอมเม้นนี้
-
ของผมรายได้ราวๆ 100,000 +/-
ยังไปจัด E300AMG มาเลยครับ
ทำไมถึงกล้าซื้อ ทำไมถึงกล้าจ่าย
เชื่อมั้ย ผมว่ามันเป็นแรงผลักดันครับ
ไม่มีหนี้ ก็ไม่ขยัน เพราะหลังจากซื้อ
มันทำให้เราขยันขึ้น มุ่งมั่นขึ้น และสิ่ง
ที่ตามมาคือ รายได้ต่อเดือนเพิ่มขึ้น (จริงๆนะ)
(การซื้อไม่ได้สร้างความลำบากหรือเดือดร้อนให้ตัวเองนะครับ
เพียงแต่จะบอกว่า ถ้าเราตั้งใจมันทำได้ทุกคนครับ สู้ๆ)
-
ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนครับ ผมผ่อน 320i Base ให้บุพการีอยู่
เรื่องรถบางยี่ห้อนี่ ภาระไม่ใช่แค่เงินผ่อนอย่างเดียว มันรวมถึงค่าประกัน ความวุ่นวายในการหาที่จอด ความระแวดระวังในการขับขี่ ที่แน่ๆคือค่าบำรุงรักษาและการกินน้ำมันของรถ :o
ถ้าไม่เดือดร้อนก็จัดเลยครับ ไม่ขับตอนนี้จะรอขับตอนอายุ 60-70 ก็ไม่สนุกเท่าไหร่แล้วครับ ;)
-
ถ้าจะซื้อ Benz กับ BMW จะซื้อในนามบริษัทเท่านั้นเพื่อหักภาษี กับค่าใช้จ่ายครับ
-
ถ้าจะซื้อ Benz กับ BMW จะซื้อในนามบริษัทเท่านั้นเพื่อหักภาษี กับค่าใช้จ่ายครับ
รถไม่เกิน 7 ที่นั่ง ตัดภาษี ได้แค่ 1ล้านบาทแรก ส่วนที่เหลือตัดภาษีไม่ได้นะ
แต่เวลาขาย ต้องบันทึกรายรับ ทั้งจำนวนเต็ม
คิดยังไงก็ไม่คุ้มนะ ส่วนที่ได้ประโยชน์ คือค่าดูแลรักษาและ ประกันภัย รถ ที่ ตัดภาษีได้ตามจริง
-
รายได้ต่อเดือนต้อง 3 แสน up เงินเย็นอีก 10 ล้าน ไม่มีภาระหนักๆอะไรอีก ถึงจะสบายใจครับ
อย่าลืมถ้าคุณขับยี่ห้อนี้แล้ว คนเค้าจะมองคุณเป็นพวกไฮโซ ทุกอย่างจ่ายแพงหมด
นี้สำหรับรถตระกุล C ถ้าเป็น E หรือ S ก็ต้องมีมากกว่านี้ ความเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวกับใครครับ
-
ขอแชร์ของตัวเองบ้างนะครับ
ซื้อ Benz C200 standard เพราะคิดว่าเป็นเบนซ์คันแรก เลยเลือก entry level ก่อน
ซื้อเพราะ Brand imaging ครับ เพราะทำธุรกิจด้วย เวลาติดต่อธุรกิจดูน่าเชื่อถือดีครับ เพราะอายุยังน้อย (30)
ตอนนั้นมีรายได้ประมาณ 300000 ต่อเดือน
มีเงินเก็บ ประมาณ 10 ล้านบาท เลยคิดว่าถ้าซื้อเบนซ์เป็นรางวัลให้ตัวเอง ก็ไม่เดือดร้อนครับ
อยากจะบอก จขกท เหมือนท่านอื่นๆครับ ถ้าซื้อแล้วสบายใจ ไม่เดือดร้อน ซื้อเถอะครับ
การเก็บเงินล้านแรกจะยากที่สุด ล้านต่อๆไปจะง่ายขึ้นครับ ไม่ต้องกังวลครับ
มีหลากหลายวิธีที่จะทำให้เงินเก็บเรางอกเงย ขึ้นอยู่กับแต่ละคนครับ
สำหรับผมแล้ว การซื้อรถที่เราไฝ่ฝัน ถือเป็นการให้รางวัลกับตนเอง และเป็นแรงผลักดันให้เราพยายามต่อไป
เพื่ออะไรเหรอครับ ก็จะได้ up level เป็น E or S class ต่อไปไงล่ะคร้าบ
ก็เรามันสาวกดวงดาวนินา อิอิ ^^
กด 1,000,000 Like เลยครับ จากใจคนชอบเบนซ์เหมือนกัน
ถ้าความคิดผม หากคิดจะซื้อรถเบนซ์คันละ 3 ล้าน ผมต้องมีเงินเก็บไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน เงินเดือนไม่ควรต่ำกว่า 2 แสนบาทต่อเดือน
รถเบนซ์มองมุมหนึ่งมันคือสินค้าฟุ่มเฟือย แต่ถ้ามองอีกมุมมันคือการให้รางวัลกับตัวเอง เพราะความสุขเวลาที่ได้ขับรถที่ตัวเองชอบมันตีเป็นเงินไม่ได้จริงๆ :D :D :D
-
โจทย์คำตอบแต่ละคนคงไม่เท่ากันครับ แต่ที่สำคัญคือซื้อแล้วต้องไม่เดือดร้อน อย่างผมไม่เดือนร้อนคือรายได้หักค่าใช้จ่ายแล้วต้องเหลือพอที่จะผ่อนรถได้สบายๆ เช่น รายได้เดือนละ 150,000 บาท หักค่าใช้จ่ายไม่รวมค่าผ่อนรถเหลือ 1 แสนบาท ผ่อนรถ 5 หมื่นบาทดังนั้นเหลือเงินเก็บอีก 5 หมื่นบาท ถ้าลักษณะนี้ผมเรียกว่าสบายๆ ครับ ที่สำคัญอีกอย่างคือรถแบบนี้ต้องซ่อมถึงนะครับ แต่เพื่อนผมบางคนรายได้ไม่ถึง 1 แสนก็ถอยเบนซ์กันเยอะแยะนะครับแล้วก็ผ่อนได้ไม่มีปัญหาอะไรแถมมีความสุขตอนใช้งานด้วย
-
คนทำธุรกิจย่อมรู้ดีครับ ว่าไหวหรือไม่ไหว ถ้าเงินพร้อม ใจพร้อมก้อจัดไป
เห็นด้วยที่สุด ตามนั้นครับ วิธีการบริหารทรัพย์สินแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทำธุรกิจไม่เหมือนกัน ความเสี่ยงไม่เหมือนกัน
ตนเองจะตอบได้ดีที่สุดครับ ว่าพร้อมหรือยัง
-
ต้องมีเงินสด เท่ากับราคารถครับ
ถ้าผ่อน ไม่แนะนำครับ เสียดอกเบี้ยเยอะครับ
ถ้ามันคือ ความฝันของคุณจริงๆ แล้วมีเงินสดพร้อม .... ซื้อไปเลยครับ
-
เบนซ์คันแรกของคุณพ่อที่ซื้อ เมื่อ 20 ปีก่อน ตอนนั้นมีเงินเย็น ๆ ราว ๆ 9 หลัก
โดยมีรายได้เฉพาะดอกเบี้ยแบงค์ เดือนละ 2 ล้าน (สมัยนั้นดอกเบี้ยเงินฝากสูงมาก)
คุณพ่อผมค่อยตัดสินใจซื้อเบนซ์คันแรก
ปัจจุบัน เอาว่ามีรายได้ 1.5-2 แสน แบบสม่ำเสมอ และรายจ่ายประจำไม่มากนัก
ก็โอเคแล้วครับ ที่สำคัญคือรายได้ต้องแน่นอน มั่นคงนะครับ ไม่งั้นมีเหนื่อย
-
ผมมองว่า ถ้าคุณจะซื้อรถสักคัน อย่างน้อยคุณควรมีเงินเย็นสัก 1 เท่าของราคารถ
และคุณต้องสามารถเก็บเงินเท่ากับราคารถได้ในจำนวนปีที่คุณคิดจะใช้รถคันนั้น
เช่น คุณกะว่าจะใช้รถราคา 2.5 ล้าน เป็นเวลา 5 ปี คุณก็ควรจะหารายได้ ได้ 2.5 ล้าน ในเวลา 5 ปี เช่นกัน
-
สำหรับผมแล้ว ถ้ามีเงินซื้อสดก็ซื้อ แต่ถ้าซื้อผ่อนไม่ซื้อครับ ขับคันเดิมไปก่อนเก็บๆตังซื้อเงินสดดีกว่า
รถญี่ปุ่นคันละล้าน โดนดอกเบี้ยเท่าไร รถคัน2-4ล้าน ดอกเบี้ยจะอ่วมขนาดไหน ไม่รู้สินะ สมัยก่อนผม
ซื้ออะไรก็ดาวน์ ผ่อน-ส่ง มาถึงตอนนี้ปฏิวัตตัวเองซะใหม่ อยากได้อะไรให้เก็บออมซื้อสดเอาเลย สบายใจกว่าเยอะ
เช่นบ้าน บ้านหลัง 5ล้าน ดาวน์ไป1ล้าน ผ่อนส่งธนาคาร4ล้าน คุณคิดว่าดอกเบี้ยมันเท่าไร ดอกเบี้ยมันซื้อบ้าน
หลัง2-3ล้านด้วยเงินจำนวนนั้นได้ สบายๆ เลย
-
บ้านซื้อสดรถซื้อผ่อน. ผมว่าจริงดอกเบี้ยซื้อบ้านโหดที่สุด. ดอกซื้อรถต่ำมากๆบางที0%. หาโปรดีๆสำคัญรายได้ถึงเหลือๆก็ซื้อไปเลย. ผมมีเงินเหลือเดือนละ3-4แสน เงินสดอีกซัก20กว่าล้าน ทรัพย์สินอีกนิดๆ. ผมยังไม่อยากใช้เบนซ์เลย แต่ที่ซื้อEclassเพราะพ่อแม่แนะนำให้ใช้รุ่นท่านยังใช้เลย. พอซื้อมาจอดทิ้งๆขว้างๆใช้แต่รถตู้รถแวน. เสียดายไม่ได้เอาML แต่ถ้าย้อนไปได้ผมไม่ซื้อแล้วนะ. มันไม่ตรงกับชีวิตผมเลย.
-
ตอบไม่น่าจะยากนะ ที่ใช้แล้วสบายใจของผมคือ 9เท่าของรายได้ประจำเดือน รายได้ผม130,000x9 รถที่ผมใช้ตอนนี้ราคา1,100,000 (Focus2.0Gdi)แผงกว่านี้จะรู้สึกผิด ดังนั้นถ้าจะซื้อMB2,500,000 ต้องมีรายได้ประจำเดือนราวๆ300,000อัฟ รับรองว่าไม่เดือดร้อน และสบายใจในระดับหนึ่ง
-
ถ้าจะซื้อ Benz กับ BMW จะซื้อในนามบริษัทเท่านั้นเพื่อหักภาษี กับค่าใช้จ่ายครับ
รถไม่เกิน 7 ที่นั่ง ตัดภาษี ได้แค่ 1ล้านบาทแรก ส่วนที่เหลือตัดภาษีไม่ได้นะ
แต่เวลาขาย ต้องบันทึกรายรับ ทั้งจำนวนเต็ม
คิดยังไงก็ไม่คุ้มนะ ส่วนที่ได้ประโยชน์ คือค่าดูแลรักษาและ ประกันภัย รถ ที่ ตัดภาษีได้ตามจริง
แสดงว่า พนักงานบัญชียังไม่เก่งครับ
การจะให้รถราคาเกิน 1 ล้านนั้น หักบัญชีได้ตามจริงและเต็มจำนวน ต้องทำในรูปแบบ Leasing ครับ ภาษาไทยเรียก"การเช่าซื้อ"
การเช่าซื้ออยู่ในช่วง 36-60เดือนเท่านั้น และค่าเช่ารถไม่เกิน 36000 บาท ครับ
ลองศึกษาและถามบริษัทบัญชีใหม่นะครับ หรือไม่ก็ ถาม BMW BENZ เลยครับ เขามีหน่วยงานพวกนี้โดยตรง
-
เท่าไหร่ก็ได้ครับที่เราไหว ของแบบนี้มันไม่ตายตัวนะ
บางคนเงินเก็บก็พอดีตัว เงินผ่อนก็พอดีตัว แต่ก็อยากขับเบ้นซ์ มันก็ไม่แปลก สิทธิ์ของเค้า
บางคนเงินเหลือๆ แต่ซื้อรถที่ไม่แพงมาก มันก็ไม่แปลกเช่นกันครับ
-
ใช้รถญี่ปุ่นสบายใจสุดครับ
1.ศูนย์ไกล้บ้าน
2.บำรุงรักษาไม่แพง
3.ขายต่อไม่เจ็บตัวมาก
4.ขับเกิน 5ปี ก็ไม่เครียดเรื่องการซ่อมและราคาอะไหล่
ประสบการณ์ผมใช้ C200 CGI มา 4ปี เข้าศูนย์ทีก็หลักหมื่นครับ
sensor เยอะมากโดยเฉพาะไฟขาดบ่อย ยิ่งผมอยู่ ตจว. เช็คทีก็ต้อง
ขึ้น กทม. เสียงานเสียเวลา เรื่องจุกจิกแบบไม่รุนแรงมากกว่ารถญี่ปุ่น
อย่างแน่นอนครับ
ข้อดีมันก็ได้ brand image เหมือนที่หลายๆท่านพูดไว้ ถ้าไม่เดือดร้อนจัดไปครับ
แต่ถ้าธุรกิจขาขึ้นยังไม่แน่นอนมาก แนะนำไป luxury Japanese ดีกว่าครับ
ผมมีรายได้ประจำ 5 หลักเลยจัดไป MB คันแรกในชีวิต
.... แต่คิดว่าคงไม่เอาอีกแล้ว อนาคตกำลังดูๆ Lexus ไม่รู้จะเจ็บกว่าเดิมมั๊ย...
-
เพื่อนผมมีหนีแบงค์อยู่8หลักมันยังออกx3มาเลยครับ ถามตัวเองดีที่สุดครับ
-
เรื่องแบบนี้ตอบยากครับ เอาเป็นว่า ซื้อมาแล้ว ไม่เดือดร้อน ไม่ต้องประหยัดอย่างอื่น และยังเหลือเงินเก็บ
ระยะยาว สำหรับอนาคต หรือ สำหรับ วิกฤติต่างๆในอนาคต
เรื่องค่าซ่อม... ตอนมันใหม่ๆ ไม่แพงเลยครับ เข้าศุนย์ทีก็ 10,000+- ไม่น่าเกินนี้