Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: 7777777 ที่ ตุลาคม 09, 2017, 10:07:12
-
เจอหลายครั้งแล้วเส้นพหลฯ / มิตรภาพ เปิดไฟฉุกเฉิน แต่ไม่เปิดไซเรน แล้วขับเรื่อยๆ
พอตามหลังผม ผมก็หลบให้ แต่เค้าดูขับไม่ได้รีบอะไรเลย (เข้าใจว่าคงส่งผู้ป่วยข้ามรพ. หรือจังหวัดเฉยๆ)
ผมก็หาทางแซงไปตามภาษาถนน3เลน สุดท้ายมาป้ะเจออยู่ข้างหลังอีกแล้ว ก็หลบให้อีก
วนลูปหลายครั้งมากจนเหนื่อย แบบนี้เราควรทำไงครับ? :-\
-
หลักปฏิบัติสากลเขากำหนดแบบไหนในเมืองไทยไม่มีใครรู้เพราะไม่เคยมีการกำหนดให้ชัดเจนหรือไม่เคยมีใครทำตามก็ไม่รู้ ยิ่งมีพวกพี่ปอพี่ร่วมยิ่งเปิดกันให้มั่วไปหมด
เคสของคุณผมเข้าใจว่าอยู่ระหว่างการขนส่งผู้ป่วยแต่ไม่ใช่สภาวะฉุกเฉินครับ ถ้าเขารีบและคิดว่าคุณขวางเขาเปิดเสียงเองครับ
-
อาจจะจะนำ ผู้ป่วยที่ไม่ได้ฉุกเฉิน ไปโรงพยาบาล ตามนัด เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ที่ญาติๆ พาไปโรงพยาบาลลำบาก
เลยขอให้รถฉุกเฉินมาช่วยส่ง และคงจะรอรับกลับด้วย (มั้ง)
ซึ่งก็แล้วแต่หน่วยงานเจ้าของรถจะอนุมัติไปส่งไหม
หรืออาจจะเอารถไปเช็คระยะ พาหมอไปเยี่ยมผู้ป่วย ฯลฯ
-
เจอบ่อยมากมากครับ สงสัยเหมือนกัน บางทีเปิดเสียงด้วยซ้ำนะครับ แต่ขับหวานเย็นเหลือเกิน (ไม่ได้เป็นทุกคัน แต่เจอเรื่อยๆ)
มาใกล้ๆผมก็ระแวงเลยหลบให้ บางทีผมเบี่ยงลงไปวิ่งไหล่ทางเพื่อหลบให้ แต่ก็ไม่แซง.....
อยากทราบเหมือนกันครับว่าคืออะไร คือเปิดไซเรนมันต้องรีบไปไม่ใช่เหรอครับ แต่นี่เห็นบางทีคลานเป็นเต่าเชียว
-
ให้เขาได้ไปก่อน อย่าแซงอย่าตามจี้ จะให้รถที่มีคนป่วยขับเร็วมากๆคงไม่ไหว 8)
เพราะเราไม่รู้ว่าคนในรถสภาพเป็นแบบไหน
-
แล้วแต่ประเภทการเปิดไฟสัญญาณ/ใช้ไซเรนครับ
ตามกฎหมายถ้าใช้เปิดไฟสัญญาณแล้ว ก็ต้องหลบให้ทางก่อน
โอเคอาจจะไม่ใช่ผู้ป่วยวิกฤติ แต่ก็เป็นรถพยาบาลแหละน่ะ
เท่าที่ผมจำได้คือ
- ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ สัญญาณชีพต่ำ ต้องช่วยชีวิตเร่งด่วน ไฟ+เสียงตลอดเวลา
- ผู้ป่วยบาดเจ็บ/อุบัติเหตุ/ฉุกเฉินไม่วิกฤติ ไฟ(+เสียงขอทางเป็นระยะ)
- ผู้ป่วยไม่ฉุกเฉิน ใช้เฉพาะไฟ งดใช้เสียง
ถ้าผิดพลาดก็รบกวนแก้ด้วยครับ
-
แล้วแต่ประเภทการเปิดไฟสัญญาณ/ใช้ไซเรนครับ
ตามกฎหมายถ้าใช้เปิดไฟสัญญาณแล้ว ก็ต้องหลบให้ทางก่อน
โอเคอาจจะไม่ใช่ผู้ป่วยวิกฤติ แต่ก็เป็นรถพยาบาลแหละน่ะ
เท่าที่ผมจำได้คือ
- ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ สัญญาณชีพต่ำ ต้องช่วยชีวิตเร่งด่วน ไฟ+เสียงตลอดเวลา
- ผู้ป่วยบาดเจ็บ/อุบัติเหตุ/ฉุกเฉินไม่วิกฤติ ไฟ(+เสียงขอทางเป็นระยะ)
- ผู้ป่วยไม่ฉุกเฉิน ใช้เฉพาะไฟ งดใช้เสียง
ถ้าผิดพลาดก็รบกวนแก้ด้วยครับ
ประเภทการใช้สัญญาณทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมา ถูกต้องแล้วครับ
1. กรณีวิกฤตต้องหลบให้ทันที
2. ไม่วิกฤตหลบได้ก็หลบ ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเขาเปิดเสียงเมื่อไรต้องหลบให้
3. เช่นเดียวกับข้อสอง
ผมยกตัวอย่างคุณยายข้างบ้านผมล้มกระดูกก้นกบหัก รถพยาบาลวิ่งมารับปกติ พอเขาพาคุณยายขึ้นรถเสร็จเขาก็เปิดแค่สัญญาณไฟแล้วค่อยๆ วิ่งไปจนถึงโรงพยาบาลเพราะไม่ใช่เหตุวิกฤตและขนส่งผู้ป่วยให้รู้สึกเจ็บป่วยน้อยที่สุด
-
ผมว่ามันไม่ใช้เรื่องของเราที่จะต้องไปประเมินสภาพผู้บาดเจ็บภายในรถ
ถ้าเจอก็ให้ทางตามที่กฏหมายกำหนด เท่านั้นเองครับ (จะหลบให้แซง หรือเราวิ่งหนีไปไกลๆก็ตามสะดวก)
-
เจอบ่อยมากมากครับ สงสัยเหมือนกัน บางทีเปิดเสียงด้วยซ้ำนะครับ แต่ขับหวานเย็นเหลือเกิน (ไม่ได้เป็นทุกคัน แต่เจอเรื่อยๆ)
มาใกล้ๆผมก็ระแวงเลยหลบให้ บางทีผมเบี่ยงลงไปวิ่งไหล่ทางเพื่อหลบให้ แต่ก็ไม่แซง.....
อยากทราบเหมือนกันครับว่าคืออะไร คือเปิดไซเรนมันต้องรีบไปไม่ใช่เหรอครับ แต่นี่เห็นบางทีคลานเป็นเต่าเชียว
ที่เขาคลานบางทีอาจเป็นผู้ป่วยที่ถ้ารถขับเร็วหรือเเหว่งอาจจะเป็นอันตรายก้ได้นะครับ เเต่เปนผู้ป่วยฉุกเฉิน ยังไงอย่าอารมเสียเพราะรถพยาบาลเลยครับ เขาคงต้องขับให้ชอฟที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายละครับ
-
ที่คลานไปเรื่อยๆส่วนมากคือย้ายโรงพยาบาลครับ อาการผู้ป่วยไม่ได้วิกฤติมากครับ เปิดไฟวิ่งอย่างเดียวไม่เปิดเสียง เท่าที่ผมเคยรับส่งนะครับ แต่ถ้าผู้ป่วยหนักก็จะเปิดทั้งเสียงและแสงไฟครับ บางครั้งเขาก็ติดไฟแดงข้างๆกับผมนะครับ เห็นบ่อยครับ ส่วนถ้ามาแบบทั้งเสียงและไฟหรือไม่มีเสียงมีแต่ไฟ ผมก็หลีกให้ครับ
-
เจอแบบไม่ว่าจะเปิดเสียงหรือไม่ ผมหลบให้เสมอครับ
จะรีบหรือไม่ ถ้ามาจ่อท้ายรถผม ก็แอบให้ครับ
-
แต่ก่อนรถพยาบาลฉุกเฉินขับเร็วกันเกินไป จึงเกิดอุบัติเหตุขึันหลายครั้ง
บางครั้งผู้ป่วยหรือแม้แต่พยาลบาลประจำรถต้องบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเสียเอง กลับเป็นผลเสียมากกว่า
ต่อมาได้มีการกำหนดความเร็วรถพยาบาล (โดยเฉพาะรถพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข)
ที่อ่านมาไม่แน่ใจว่า ..ไม่ให้ขับเกิน 80 กม./ชั่วโมง
เลยเป็นขับช้าแปลกตาไปในสายตาผู้ขับรถทั่วๆไปหลายคน ที่มักขับเร็วกว่า
แต่รถพยาบาลอาสาฯ มูลนิธิฯ ยังค่อนข้างเร็วอยู่เยอะครับ
-
รถประเภทนี้ผมเต็มใจหลบให้ทุกกรณีครับ
แต่ตำหนวดทางหลวงนี่ผมจะหลบให้แบบไม่ค่อยเต็มใจ
เพราะขับได้ทรามเหลือเกิน อาทิเช่น คล่อมเลน จี้ท้าย ตบไฟใส่ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเราไม่มีที่หลบ ไฟเลี้ยวไม่มี ปาดหน้า แซงคิวยูเทิร์น ย้อนศร ฝ่าไฟแดง แทรกเลน บีบแตรไล่ จอดกลางถนนดื้อ ๆ และอีกมากมาย 8)
-
หลบให้ครับ
-
ไม่ว่าจะรถอะไร ถ้ามาจ่อท้ายรถผม ผมก็หลบให้หมดครับ
เพราะมันกำลังแปลว่า ผมกำลังขับช้ากว่าเค้า
ส่วนที่บอกว่า พอถึงไฟแดงแล้วทันกัน ก็เพราะจังหวะที่ผมขับ กับเค้าขับ มันไม่ค่อยสัมพันธ์กัน
ไม่เค้า หรือผม จะขับแบบเดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง อะไรประมาณนี้น่ะครับ
สรุป เค้าก็เรื่อยๆ เราก็เรื่อยๆ
แต่เดี๋ยว 110 เดี๋ยว 100
-
ผมหลบให้ครับ แต่ถ้าขับช้าๆ วิ่งขวา ถ้าข้างหน้าโล่งผมก็แซงนะ แค่ว่าผมไม่เกะกะรถพยาบาลคันนั้นเป็นพอครับ
ถ้าผมแซงแล้วก็ไปจอดหน้าเขาอยู่ดีก็จะไม่แซงครับ
-
หลบให้เขาไปเถอะ ถึงแม้จะเป็นพวกกู้ภัยคึกคะนองก็ตาม เดี่ยวจะมีดราม่าเกิดขึ้น ::)
-
รถฉุกเฉินทุกคัน ในจังหวัดผม ติดตั้งตัวควบคุมความเร็วไว้ครับ ไม่เกิน 90 ขาล่องเนินบางครั้งเลย 90 มาหน่อย มันร้องลั่นรถ จนต้องชะลอ ตอนนี้ถ้าต้องไปยืมยา เยี่ยมผู้ป่วย ไม่ขอนั่งรถ ฉุกเฉิน ไม่มีจริงๆ ไปรถส่วนตัวครับ ทนรำคาญเสียงเตือนไม่ไหว
-
ก็หลบให้ครับ คิดมากทำไม ถึงยังไงก็เป็นรถที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือ แค่หลบเอง
-
หลบให้ตลอดครับ
-
ผมหลบให้ทุกครั้ง ทุกกรณีครับ
เหตผลคือรำคาญครับ ทุกครั้งรถติดๆเวลามีรถแบบนี้เปิดไซเรน เปิดหวอมาจี้ มาแทรก ผมหลบยันฟุตบาท เพราะเค้าแทรก เค้าวิ่งเปิดเลนพิเศษถ้าเราไม่หลบให้เค้า เกิดมาเฉี่ยวมาโดนกระจกข้าง จบเลย ทำอะไรเค้าไมไ่ด้ครับ กว่าจะไปตามหาคนรับผิดชอบ เรียกประกัน ไปหยุดรถเค้าไมไ่ด้อีก
ดังนั้นถ้าเจอรถแบบนี้ ผมหลบให้ไปไกลๆเลย ไม่อยากมีปัญหา
-
ทำแบบรถที่รถพยาบาลคันนี้ขับผ่านครับ
https://www.youtube.com/watch?v=QUEBjvDAz7s (https://www.youtube.com/watch?v=QUEBjvDAz7s)
-
แล้วแต่ประเภทการเปิดไฟสัญญาณ/ใช้ไซเรนครับ
ตามกฎหมายถ้าใช้เปิดไฟสัญญาณแล้ว ก็ต้องหลบให้ทางก่อน
โอเคอาจจะไม่ใช่ผู้ป่วยวิกฤติ แต่ก็เป็นรถพยาบาลแหละน่ะ
เท่าที่ผมจำได้คือ
- ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ สัญญาณชีพต่ำ ต้องช่วยชีวิตเร่งด่วน ไฟ+เสียงตลอดเวลา
- ผู้ป่วยบาดเจ็บ/อุบัติเหตุ/ฉุกเฉินไม่วิกฤติ ไฟ(+เสียงขอทางเป็นระยะ)
- ผู้ป่วยไม่ฉุกเฉิน ใช้เฉพาะไฟ งดใช้เสียง
ถ้าผิดพลาดก็รบกวนแก้ด้วยครับ
ประเภทการใช้สัญญาณทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมา ถูกต้องแล้วครับ
1. กรณีวิกฤตต้องหลบให้ทันที
2. ไม่วิกฤตหลบได้ก็หลบ ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเขาเปิดเสียงเมื่อไรต้องหลบให้
3. เช่นเดียวกับข้อสอง
ผมยกตัวอย่างคุณยายข้างบ้านผมล้มกระดูกก้นกบหัก รถพยาบาลวิ่งมารับปกติ พอเขาพาคุณยายขึ้นรถเสร็จเขาก็เปิดแค่สัญญาณไฟแล้วค่อยๆ วิ่งไปจนถึงโรงพยาบาลเพราะไม่ใช่เหตุวิกฤตและขนส่งผู้ป่วยให้รู้สึกเจ็บป่วยน้อยที่สุด
+1 ตามนี้ครับ รถพยาบาลถ้าเปิดไฟคือมีคนแน่ๆ แต่เขาจะขับเร็วหรือช้าต้องประเมินคนไข้กันข้างในอีกที ขับเร็วคนข้างในกลิ้งไปมาก็เจ็งเละเทะ
ผมเคยนั่งครั้งนึงผู้ป่วยวิกฤต สุดติง ของคำว่าเหวี่ยงเลย หมอ พยาบาลทรงตัวได้ ปั้มหัวใจได้ ผมนี่แค่ยืนยังแย่ เสี่ยงมากๆครับ
-
แล้วแต่ประเภทการเปิดไฟสัญญาณ/ใช้ไซเรนครับ
ตามกฎหมายถ้าใช้เปิดไฟสัญญาณแล้ว ก็ต้องหลบให้ทางก่อน
โอเคอาจจะไม่ใช่ผู้ป่วยวิกฤติ แต่ก็เป็นรถพยาบาลแหละน่ะ
เท่าที่ผมจำได้คือ
- ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ สัญญาณชีพต่ำ ต้องช่วยชีวิตเร่งด่วน ไฟ+เสียงตลอดเวลา
- ผู้ป่วยบาดเจ็บ/อุบัติเหตุ/ฉุกเฉินไม่วิกฤติ ไฟ(+เสียงขอทางเป็นระยะ)
- ผู้ป่วยไม่ฉุกเฉิน ใช้เฉพาะไฟ งดใช้เสียง
ถ้าผิดพลาดก็รบกวนแก้ด้วยครับ
ประเภทการใช้สัญญาณทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมา ถูกต้องแล้วครับ
1. กรณีวิกฤตต้องหลบให้ทันที
2. ไม่วิกฤตหลบได้ก็หลบ ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเขาเปิดเสียงเมื่อไรต้องหลบให้
3. เช่นเดียวกับข้อสอง
ผมยกตัวอย่างคุณยายข้างบ้านผมล้มกระดูกก้นกบหัก รถพยาบาลวิ่งมารับปกติ พอเขาพาคุณยายขึ้นรถเสร็จเขาก็เปิดแค่สัญญาณไฟแล้วค่อยๆ วิ่งไปจนถึงโรงพยาบาลเพราะไม่ใช่เหตุวิกฤตและขนส่งผู้ป่วยให้รู้สึกเจ็บป่วยน้อยที่สุด
ขอบคุณข้อมูลครับ :)
ของผมรถเปล่าไม่อะไรเลยก็หลบอยู่ดี