ไหนๆ ก็มี mighty-x อยู่คันนึงออกมาตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรก ณ ปัจจุบันกี่ปีขึ้เกียจนับ
เครื่องยนต์ หมั่นเช็คระดับน้ำหล่อเย็น กับเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะ (มันไม่เป็นอะไรเลยได้ดิ้นตาย)
ช่วงล่่าง เกือบ 20 ปี + 2แสนกว่าโล จำได้คร่าว ๆ ว่ามีเปลี่ยนโช็คไปคู่นึง คู่หน้าหรือหลังไม่รู้
นอกนั้นก็นาน ๆ ๆ ๆ ๆ ทำช่วงล่างนิด ๆ หน่อย ๆ ก็สรุปให้ว่ายังไงค่าบำรุงรักษา และความถี่ในการซ่อม
เทียบกระบะเ่ก่า ๆ แบบนี้ชนิดเทียบไม่ติด (ไม่นับสภาพรถมือสองที่ยากจะคาดเดานะ)
เกือบลืมว่ากระบะรุ่นนี้ เบรคมีปัญหาจริง เบรคมันดีเกินไป ล็อคบ่อยกว่าประตูบ้านตัวเองอีก
แต่ถ้าขับไปเรื่อย ๆ หรือขับจนคล่องแล้วก็งั้น ๆ แหล่ะ มีแค่ตอนเช้าออกรถครั้งแรก เบรคมันจะชอบจึ๊ก ๆ
ถ้าใช้รุ่นนี้ไม่แนะนำให้ใช้ผ้าเบรคศูนย์ ก่อนหน้านี้มีช่วงนึงใช้ผ้าเบรค "อัด" ร้านทำช่วงล่างเจ้าประจำมัน
ถือวิสาสะเปลี่ยนให้ ผ้าเบรคอัดฟังดูมันก็เสียว ๆ อยู่เหมือนกัน แต่เบรคดีกว่า และไม่ค่อยล็อค (ถ้าไม่จงใจ
ให้รถคันหน้าที่เพิ่งตัดหน้าแบบหน้าเกลียดแล้วเบรค เอี๊ยดยาว ๆ ๆ ให้มันเสียวตูดเล่น ๆ) แถมถูกกว่าโคตรเยอะ
ปัจจุบันใช้ผ้าเบรคเบนดิกซ์ รุ่นไม่แน่ใจ อันนี้อู่ประจำของ marino ผม จัดการให้ แกบอกจัดของหนักให้
เพราะกลัวกว่าผมตีนหนัก
แต่ถ้าบรรทุกบ้าง เบรคโอเคเลยนะ และระวังลมยางด้วย คู่หน้าอะคู่มือบอก 29
ก็ตามนั้น เต็มที่ 30-32 ไม่น่าเกลียด คู่หลังถ้าไม่บรรทุก (รถเปล่า) ตามคู่มือ 29 แต่ส่วนใหญ่ผมเติม 36-45
เผื่อแวะซื้อของอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ บ้าง ทุกไม่หนักก็ไม่ต้องเติมเยอะ ไม่ใช่ว่า 65 ตลอดเวลา ล้อหลังจะแซง
ล้อหน้าเอาง่าย ๆ
สรุปสำหรับรถรุ่นนี้เลยนะ เติมน้ำมันแล้วขับอย่างเดียว (เช็คน้ำอย่างเดียวเหมือนกัน) อย่าไปยุ่งกับมันมาก
แล้วชีวิตจะดี เป็นรถคันเดียวในบ้านที่ใช้แล้ว(เงิน)ไม่ค่อยลด ถ้าคล่องแล้วขับสนุกพอตัว เครื่องยนต์อืดไปนิด (แต่ทน)
สำหรับสหสวรรษใหม่ แต่ก็พอที่จะไล่รถรุ่นใหม่ทันเหมือนกัน (ถ้าถนนไม่โล่งมากนะ) ความเร็วปลายสูงสุดตามหน้าปัด
ทำได้ 140 ขาดนิดเดียว (130 ก็เริ่มไม่ค่อยไปแล้ว ทางต้องยาวจริง ๆ) ถ้าเป็นคนขับที่ใช้ความเร็ว 80-100 จะประเสริฐมาก
"แต่ถ้าชีวิตนี้ไม่คิดจะขนของ (ยกเว้นตอนย้ายบ้าน) ก็ซื้อรถเก๋งเถอะ!!!!"
(ถูก ๆ ทน ๆ ซ่อมง่ายหนีไม่พ้น 3 ห่วง...มีติดบ้านไว้เป็นดี)