Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2018, 15:47:15
-
วันนี้เพื่อไม่ให้แป้กแบบคราวก่อน ได้โทรจองเข้าไป Test Drive CHR ที่ Toyota Driving Experience Center ใครจะไปกรุณาโทรจอง อย่า Walk-in ไม่งั้นอาจจะต้องรอนานหรือไม่ได้เทสเลย
พอไปถึงรอแป๊บนึงก็ได้ทดลองขับครับ รุ่นที่ได้ทดลองคือรุ่น Hybrid ตัวท็อป สนามแบ่งออกเป็นตามนี้ครับ
1. ทดสอบความคล่องตัว หักซ้าย ขวา ในความเร็วต่ำ 20 กม./ชม.
ตรงนี้พอได้ลอง CHR จัดว่าดีเลยนะครับ พวงมาลัยเบามากๆ เบากว่า Mazda2 อีก พวงมาลัยคมและคล่องตัวเหมาะกับการขับในเมืองมากๆ
1.5. ทดสอบระบบ Lane Keeper
เมื่อเราออกจากเลนรถจะออกเสียงเตือนและบังคับให้รถกลับเข้ามาในเลน ถ้าเราหลุดออกนอกเลนเกิน 4 ครั้งจะมีรูปแก้วกาแฟขึ้น คือให้ไปพักกินกาแฟเถอะ อย่าขับเลย เดี๋ยวตาย
2. สลาลม ที่ความเร็ว 40-60 กม./ชม.
ครูฝึกบอกให้หักพวงมาลัยเบาๆ แต่ผมอยากรู้ว่าถ้าหักไวๆ เหมือนตอนทดสอบ MG จะมีอาการเป็นอย่างไรบ้าง พบว่าช่วงล่าง CHR จัดว่านุ่มครับ มี Body Roll และระยะยุบมากพอสมควร แต่ไม่ได้หวิวจนน่ากลัว รวมๆ ก็โอเคนะครับ การควบคุมดีมาก มีความแม่นยำสูงไม่ต่างจาก Mazda CX-3 เลย เพียงแต่แอบย้วย ถ้าเทียบแล้วก็คือดีกว่า HRV
3. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.
เท่าที่ลองนับดู นั่ง 2 คนน้ำหนักรวมราวๆ 160 กก. ก็ 12 วิกว่าๆ ครับ รู้สึกว่าแรงกว่า Suzuki Swift ที่ลองขับมาวันก่อนนิดนึง ไม่ได้แรงอะไร เน้นประหยัด พอใช้งาน
4. ทดสอบเบรก ระบบ BA
ครูฝึกบอกว่าให้เอาเท้าแตะเบาๆ เบรกก็จะเริ่มทำงานเลย ซึ่งน้ำหนักเบรกตรงนี้ ผมว่าดีเลยนะ เข้าใจง่ายและหยุดจริง ตอนแรกกังวลว่าเบรคระบบไฮบริดจะไม่ดีแบบน้ำหนักไม่ธรรมชาติ แต่ตัวนี้ผมว่าไม่ต่างจากรถสันดาปธรรมดาเลย ดีกว่าหลายๆ รุ่นด้วยซ้ำ แล้วผมได้มีโอกาสกระทืบเบรก หัวก็ไม่ทิ่ม ตรงนี้ยอมรับว่า TNGA เค้าก็ทำมาดีจริงๆ
5. ขึ้นสะพาน
ก็ไม่มีไรครับ ขึ้นที่ความเร็ว 20 แต่รู้สึกได้ว่ารถไม่โยน ไม่ดีด
6. วิ่งผ่านทางขรุขระ
ตรงนี้แสดงให้เห็นถึงความดีงามของช่วงล่าง CHR เลยครับ Road Feedback น้อยมาก ไม่มีสะเทือนขึ้นมาถึงก้นเลย และพวงมาลัยก็ไม่สั่นตามทางขรุขระ เรื่องซับแรงสะเทือนจากที่ได้ขับรถเซ็กเม้นนี้เกือบทุกคันยกเว้น Juke ความเห็นส่วนตัวผมว่า CHR น่าจะอันดับ 1 เลยด้านการเก็บแรงสะเทือน
เรื่องที่ประทับใจ
1. Handling ดีมากเลย คม น้ำหนักดี ขับสบายในเมืองและคิดว่านอกเมืองก็คงจะยังนิ่งๆ อยู่
2. การซับแรงสะเทือน น่าจะเป็นเรื่องที่ดีงามที่สุดของ CHR คือเป็นจุดเด่นที่ดีกว่าชาวบ้านเขา
เรื่องที่ไม่ประทับใจ
1. โช้คแอบย้วยไปหน่อย ถ้าขับเร็วๆ หมาตัดหน้า หักหลบคงตกใจ
2. ภายในให้ฟีลลิ่งที่แย่มาก แดชบอร์ดสวยโอเค แต่ระยะหัวแคบมาก ผิวสัมผัสเป็นเหมือนผ้า ไม่มีฟองน้ำบุนุ่ม ซึ่งหัวผมใกล้จะแตะแล้วอีกแค่ 4 ซม. ได้ ถ้าคน 190 นั่งรถคันนี้คงรำคาญ ที่นั่งหลังรู้สึกอึดอัด Leg room ก็เหลือไม่มาก ขอบประตูพลาสติกแข็ง ต่อให้กัดลายมาให้ดูสวย แต่เวลาแขนไปโดนรู้สึกแย่เหมือนรถ Eco car หนักสุดคือไม่มีเบาะไฟฟ้าสำหรับรถ 1.2 ล้าน
สรุป (ความเห็นส่วนตัว)
เป็นรถที่ขับดีครับ สำหรับคนที่ชอบขับขี่ เดินทางไกล ผมว่าตอบโจทย์เลย แต่ถ้าตั้งใจจะซื้อมาใช้เป็นรถครอบครัวอาจจะลำบากนิดนึงครับ ส่วนตัวผมโดยภาพรวมยังไม่ถูกใจพอที่จะควักเงินซื้อรุ่นนี้ คงต้องรอ Model Year ใหม่ๆ ที่ใส่อ็อปชั่นเพิ่มเข้ามาครับ
-
ขอบคุณที่มาแบ่งปันครับ
ผมเองมองภายในดูจากรูปเหมือนจะดี แต่ก็พอสังเกตได้ว่าวัสดุที่ใช้นั้นยังธรรมดา
การขับขี่ดีผิดวิสัยรถโตโยต้าบ้านๆทั่วไปตามรีวิวต่างประเทศจริงๆหรือนี่
เรื่องซับแรงสะเทือนเซอไพรส์มากครับ น่าสนใจๆ
เรื่องพื้นที่ภายใน(ด้านหลัง)ไม่แน่ใจว่ามันจะหลอกตามั้ย ถ้ามีโอกาสจะลองหลับตานั่งดูด้วยคนครับว่ามันแคบจริงๆแค่ไหน
ผมก็รอดูตัวไมเนอร์ครับ :D ไม่แน่ว่าตอนนั้นอาจได้เปรียบเทียบกับ all new HR-V เลยก็เป็นได้
ปล. จะใช้ในเมืองเป็นรถเดินทางใกล้ๆจ่ายตลาดคับ (รถติดมากกก)
-
ไม่ชอบตรงไม่มีเบาะไฟฟ้าคู่หน้าเหมือนกันครับ
และวัสดุภายใน look cheap มาก
ภายนอกสวย จบ เสียตรงวัสดุนี่แหละ
-
ขอบคุณที่มาแบ่งปันครับ
ผมเองมองภายในดูจากรูปเหมือนจะดี แต่ก็พอสังเกตได้ว่าวัสดุที่ใช้นั้นยังธรรมดา
การขับขี่ดีผิดวิสัยรถโตโยต้าบ้านๆทั่วไปตามรีวิวต่างประเทศจริงๆหรือนี่
เรื่องซับแรงสะเทือนเซอไพรส์มากครับ น่าสนใจๆ
เรื่องพื้นที่ภายใน(ด้านหลัง)ไม่แน่ใจว่ามันจะหลอกตามั้ย ถ้ามีโอกาสจะลองหลับตานั่งดูด้วยคนครับว่ามันแคบจริงๆแค่ไหน
ผมก็รอดูตัวไมเนอร์ครับ :D ไม่แน่ว่าตอนนั้นอาจได้เปรียบเทียบกับ all new HR-V เลยก็เป็นได้
ปล. จะใช้ในเมืองเป็นรถเดินทางใกล้ๆจ่ายตลาดคับ (รถติดมากกก)
ผมว่าถ้าใส่โช้คหนึบๆ หน่อยก็น่าจะสเป็คยุโรปเลยครับ
ส่วนพื้นที่ด้านหลัง ผมลองพิเคราะห์แล้ว จัดว่านั่ง 5 คนได้ครับ แต่มันจะมืดทึบ สำหรับผม
Leg room เหลือไม่มากถ้าเป็นทั้งคนนั่งและคนขับ เหลือแค่ราวๆ นิ้วกว่าๆ และหัวไม่ติด โดยที่ผมสูง 180
เทียบแล้วก็ยังดีกว่า CX-3 ครับ แต่ที่เก็บของก็ยังน้อยกว่า HRV หรือ MG ZS มากเพราะกระจกลู่ลง
ผมว่าเอาตัวไฮบริดไว้จ่ายตลาดก็น่าจะประหยัดดี
-
ไปลองมาแล้วครับ
ส่วนตัวผมว่า เล่นทั้งทีเอาตัว Hybrid ไปเลยดีกว่า
ดูเหมือนไม่แรงแต่ผมชอบ คือ ความเงียบนิ่มครับ
ฟิวต่างจากเครื่อง 1.8 ชัดเจน
-
ขอบคุณมากครับที่มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์
แล้วฟีลช่วงล่าง การขับขี่ พวงมาลัย พอจะเอาชนะ cx3 ได้ไหมครับ แล้วถ้าเทียบกับ พวก crv xtrail cx5 เป็นอย่างไรบ้างครับ พอดีสนใจ b-suv อยู่ครับ
-
ขอบคุณมากครับที่มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์
แล้วฟีลช่วงล่าง การขับขี่ พวงมาลัย พอจะเอาชนะ cx3 ได้ไหมครับ แล้วถ้าเทียบกับ พวก crv xtrail cx5 เป็นอย่างไรบ้างครับ พอดีสนใจ b-suv อยู่ครับ
พวงมาลัยแทบไม่ต่างกันเลยครับ CHR เบากว่านิดนึง แต่คมและควบคุมง่ายทั้งคู่ อยู่ที่คนชอบละ อัตราเร่งคงสู้ไม่ได้ครับ รถหนักกว่าเยอะ ต้องรอดูตัว 1.8 NA ครับ ส่วนช่วงล่าง ถ้ารถเดิมๆ CHR ดีกว่าในด้านซับแรงสะเทือนครับ หักไวๆ มันย้วย แต่ถ้าเปลี่ยนใส่โช้คหนืดหน่อยเอาขับสนุก ผมว่าน่าจะเหนือกว่า CX-3 ครับ
CRV กับ Xtrail ไม่เคยขับครับ แต่ CX5 เคยขับตัวเก่า ผมว่า CHR ขับสบายกว่าพอควรนะครับ น่าจะเพราะคันมันเล็กกว่าและไม่สูงเท่าครับ รถยิ่งสูง ยิ่งย้วย
-
ขอบคุณมากครับ
เห็นด้วยครับที่ว่ารถคันนี้อาจจะไม่เหมาะกับการเป็นรถครอบครัว ซึ่งคิดว่า Toyota ก็ไม่ได้คิดให้รุ่นนี้เป็นรถครอบครัวนะครับ
-
อ่านดูแล้ว รู้สึกคิดถูกที่เลือก ซีวิค เทอร์โบ มา
หลังจากรอเปรียบเทียบกับ CHR อยู่นาน
-
เรามารอดูยอดขาย ครอสโอเวอร์ขนาดเล้ก ในปีนี้ของไทยแลนด์กัน
-
อ่านดูแล้ว รู้สึกคิดถูกที่เลือก ซีวิค เทอร์โบ มา
หลังจากรอเปรียบเทียบกับ CHR อยู่นาน
ไม่อยากจะพูด แต่ Civic Turbo คุ้มกว่ามากจริงๆ ครับ 5555
CHR จัดว่าเป็นรถที่ Practicality ค่อนข้างแย่ในเซ็กเมนท์นี้นะ เป็นรถที่ใช้อารมณ์ซื้อซะส่วนมาก ถ้าคนซื้อเพราะต้องการอรรถประโยชน์จากรถ ผมว่าซื้อไม่ลงกันหลายคนเลยล่ะ
-
จุดที่ไม่อยากจะติ แต่ก็ได้ติ คือ
ศาสดาเบาะหลังไม่มี แล้วจะแขวนเสื้อกันยังไง
พอกันกับ CX-3 ไม่มีที่วางแขนนั่นแหละ
-
ตัว hybrid ดูไม่มีอะไรเด่นจริงๆครับ นอกจากความรักษ์โลก อันนี้ยอม Toyota เครมไว้ 24 โลลิตร แหนะ
ผมเสียดายมากที่ toyota ไม่มีแผนจะเอา 1.8 mid (ตัวไม่ hybrid) มาเป้นรถทดลองขับ ถ้าดูสเปคจะเ็นเฟืองท้ายมันทด 5xxx นะครับ จัดกว่า CX5 อีกให้ตายเถอะ แล้วได้เครื่องดีๆแบบ Altis ด้วยมันน่าจะเป็นระดับใกล้ๆกับ Hot Hatch เลยก็เป็นได้ ใครได้ทดลองขับแล้วมาเล่าให้ฟัง้วยนะ
ถ้าจะซื้อต้องทำใจเรื่อง interia มากๆ แย่ทั้งหน้าทั้งหลัง ราคาค่าตัวผมถือว่าแพงกว่าชาวบ้านนะ แล้วเบาะปรับมือกับรถราคาล้าน+นี่มันอะไร ตัวรถไม่ได้มีความเป็นรถยกสูงเลย ยิงกว่า CX3 อีก
ถ้าเทียบจะเทียบกับ Focus, Civic turbo น่าจะเหมาะกว่า
แต่ก็ต้องชมเรื่องการพัฒนาของ toyota นะ ผมว่า Altis TNGA มีลุ้นเป็นรถที่แจ่มแมวคันนึงเลย
-
พอจะมีข้อมูลมั้ยว่า C-HR นี่ ค่า Cd สัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ เท่าไหร่ ?
ทางทีมงานที่นั่งแจกแจงตัวรถไปด้วย ได้แจ้งมั้ยครับ ?
-
อ่านดูแล้ว รู้สึกคิดถูกที่เลือก ซีวิค เทอร์โบ มา
หลังจากรอเปรียบเทียบกับ CHR อยู่นาน
เหมือนกัน ถ้าราคานี้ ผมก็ไป ซีวิค
-
พอจะมีข้อมูลมั้ยว่า C-HR นี่ ค่า Cd สัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ เท่าไหร่ ?
ทางทีมงานที่นั่งแจกแจงตัวรถไปด้วย ได้แจ้งมั้ยครับ ?
โห ต้องรู้ละเอียดขนาดนั้นเลยเหรอครับ
-
พอจะมีข้อมูลมั้ยว่า C-HR นี่ ค่า Cd สัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ เท่าไหร่ ?
ทางทีมงานที่นั่งแจกแจงตัวรถไปด้วย ได้แจ้งมั้ยครับ ?
0.32 ครับ
-
ไปลองมาแล้ว ช่วงสลาลมหักหลบกลวยที่ 3 รถมีเสียอาการนะครับ แต่ผมขับเร็วกว่า 60 กม/ชม
และที่แน่ๆ อาการนี้ Yaris Ativ ไม่เป็นครับ
อัตราเร่ง ผมว่าอืดกว่า Altis Es sport เยอะเหมือนกันนะครับ (ทดสอบตัว HB) และแรงกว่า yaris Ativ ประมาณนึงครับ
ผมว่าแรงน้อยกว่าที่คาดไว้่ครับ เพราะเป็นเครื่อง 1.8 + Hybrid น่าจะแรงกว่านี้
-
เพิ่งไปเทสมาเมื่อวันศุกร์ ตัวท้อปไฮบริด
ชอบความเงียบ แน่น ของรถ ช่วงล่างสำหรับผมคือดีงามมาก
ชอบมากกว่าอัลติส เอสปอร์ท 2017 ที่ใช้งานทุกวันนี้มาก
นุ่ม หนึบ แน่น เก็บเสียงรอยต่อถนนดีมากจริงๆ
หน้าจอกลาง กับเรือนไมล์แพรวราวมาก
แต่เฮดรูมน้อย หัวผมเกือบชน(สูง 195) อัลติสเฮดรูมดีกว่า
ตำแหน่งคนขับไม่รู้สึกอัดอัด แต่ข้างหลังอึดอัด แต่ไม่ได้คับแคบนะ
ระบบช่วยเตือนสิ่งกีดขวางด้านหน้า ใช้งานได้ดีนะ เวลาติดไฟแดง
รถมอไซด์ขับผ่าน มีสัญญานเตือนขึ้นมาที่เรือนไมล์
แต่อัตราเร่งไม่ค่อยแรง แต่ไม่อืด ช้ากว่าอัลติสแบบรู้สึกได้ ผมถ่ายคลิปมา ดูเวลาประมาณ 12 วินาที จาก 0-100 กม/ชม
สรุปคือถ้าจะเล่น ควรจัดตัวท้อปไฮบริด เพราะยังพอหาจุดเด่นได้ เช่นอัตราสิ้นเปลือง กับความปลอดภัย
ถ้าเล่นรุ่นอื่น ส่วนตัวมองว่าไม่คุ้มเท่าไร จัดอัลติสดีกว่า
เมื่อปี ปลายปี 2016 ผมตั้งตารอรถรุ่นนี้มาก อยากได้จริงๆ แต่รถไม่มา เลยเอาอัลติส 2017 ตัว esport option มา
มาถึงวันนี้ ผมจะรู้สึกเสียใจมาก ถ้าผมยังรอ เพราะรู้สึกผิดหวังกับราคา และภาพรวมรถรุ่นนี้ แต่รู้สึกดีใจ ที่เลือกเอาอัลติสมาใช้งานครับ